บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 243
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 243
หลังจากที่เขาได้ยินอีกด้านของโทรศัพท์เปิดบทสนทนาขึ้น เจเรมี่ก็กำมันแน่น
เมื่อวางสายลง เขาเปิดกล่องอีเมลในโทรศัพท์เข้าไปดูยังอีเมลล่าสุดที่ได้รับ สายตาของเขาตีบลงเมื่อนิ้วของเขาอยู่เหนือหน้าจอ แต่เขาไม่ได้แตะที่หน้าจอเพื่อปิดมัน
แปร๋นนน!
รถคันข้างหลังเริ่มบีบแตรเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวมาสักพักในขณะที่เขายังอยู่กับที่
“ไม่เป็นไรใช่ไหม คุณวิทแมน?” มาเดลีนมองเขาด้วยความสงสัย
เจเรมี่กดล็อคหน้าจอแล้วโยนโทรศัพท์ไปอีกด้านหนึ่ง “ผมไม่เป็นไร”
เขาเหยียบคันเร่งลงไป ดวงตาที่ลึกล้ำของเขามองมาเดลีนอย่างเเน่วแน่พักนึงก่อนที่เขาจะหันกลับมามองที่ถนนด้านหน้า
มาเดลีนอยากรู้เกี่ยวกับเเจ็คสันเพิ่ม นั่นคือสาเหตุที่เธอยอมมากับเขา ทว่า หลังจากที่โทรศัพท์ดังขึ้น อากาศภายในรถเริ่มตึงเครียดและเงียบตัวลงอย่างน่ากลัว
หลังจากรถจอดที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเรียบร้อย มาเดลีนได้อุ้มลิเลียนขึ้นมาแต่เธอไม่ได้เดินเข้าไปหาแจ็คสัน ครูบอกเธอว่ามีคนพาแจ็คสันไปแล้ว
มาเดลีนรู้สึกเศร้าเมื่อเธอไม่ได้เจอแจ็คสัน
กระนั้น เธอเองกังวลเช่นกันหากแจ็คสันถูกเมเรดิธพาตัวไป เมเรดิธอาจทำอะไรที่เลวร้ายกับเด็กคนนั้นอีกครั้งไหมนะ?
เจเรมี่ยืนอยู่อีกฝากของกำแพงขณะที่เขามองดูคู่แม่ลูกที่พากันเดินผ่านช่วงเวลาพลบค่ำ เขากดริมฝีปากเข้าหากันแน่น
มีความคาดหวังเป็นล้าน ๆ เกิดขึ้นในหัวของเขาและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาปฏิเสธที่จะดูอีเมล เขากลัวว่าจะเห็นสิ่งที่เขาไม่อยากเห็น
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนเขาจะยอมรับมันได้ ในตอนนี้ เขาปรารถนาให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือเธอคนนั้น
เจเรมี่คิดถึงเรื่องนี้ขณะที่เขามองมาเดลีนไปด้วย ทันใดนั้น รถคันหนึ่งได้หยุกจอดตรงหน้าเขา
เฟลิเป้เดินลงจากรถและตรงเข้าไปหามาเดลีน เขาอุ้มลิเลียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอขึ้นมา หลังจากที่พวกเขาสนทนากันสักพัก เฟลิเป้เดินเข้าไปตรงหน้าเจเรมี่และยิ้มให้เขา
“เจเรมี่ ขอบคุณที่ขับรถพาวีล่ามารับลิเลียนนะ”
เจเรมี่มองเขาด้วยสายตาแหลมคม “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอกนะ ผมก็แค่ทำเพื่อให้ได้เข้าใกล้เธอมากขึ้นเท่านั้นแหละ”
คำตอบตรงไปตรงมาของเขาซ่อนคำใบ้ของความตั้งใจและความหน้าด้านอยู่ในนั้น
เฟลิเป้ยิ้มเล็กน้อยหลังจากได้ยิน “นี่ นายยังคงสงสัยว่าวีล่าคือแมดดี้อยู่อีกหรือไง?”
“แล้วเธอไม่ใช่เหรอ?” เจเรมี่มองเข้าไปในดวงตาของเฟลิเป้เพื่อตรวจสอบมัน
เขาหวังว่าจะพบข้อบกพร่องบางอย่างที่ผิดปกติจากดวงตาของเฟลิเป้ แต่ว่ามันก็ไม่มีเลย
เฟลิเป้ยิ้มอย่างใจเย็น “วีล่าไม่ใช่แมดดี้ แน่นอน แมดดี้จากโลกนี้ไปตั้งนานแล้ว นายควรรู้เรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ทำไมเธอถึงอยู่กับฉันถ้าเธอรักนายมากขนาดนั้นล่ะห่ะ? แล้วก็วีล่ายังมีลูกสาวให้ฉันด้วยเพราะงั้นหยุดคิดเรื่องนั้นไปได้เเล้ว”
เจเรมี่ปวดใจเมื่อได้ฟังที่เฟลิเป้พูด
เฟลิเป้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ แต่เจเรมี่รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังโอ้อวด เขาโอ้อวดกับเจเรมี่ว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้าของเธอ
เขายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวีล่าเป็นมาเดลีนจริง ๆ
“วีล่ากับฉันจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ ฉันจะไปที่คฤหาสน์เพื่อแจ้งเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในไม่กี่วัน”
เฟลิเป้หมุนตัวกลับเดินไปหามาเดลีนที่รอเขาอยู่ข้างรถหลังจากที่เขาพูดจบ
“วีล่ากลับบ้านเรากันเถอะ”
“ไปค่ะ” มาเดลีนพยักหน้า เธอเอาตัวพิงร่างของเฟลิเป้อย่างใกล้ชิด
เธอหันกลับไปทางเจเรมี่เพื่อบอกลาเขาแบบผ่าน ๆ ก่อนจะขึ้นรถไป
ในพริบตา ร่างกายและรอยยิ้มของเธอก็หายไปจากสายตาเขา
มาเดลีนถอนหายใจอย่างโล่งอกในรถ “เขาสงสัยฉันอีกแล้วล่ะ”
“คุณสองคนมีใบหน้าที่เหมือนกันขนาดนั้น มันยากที่จะไม่ทำให้ใครสงสัยโดยเฉพาะเจเรมี่ เขาเป็นคนช่างสังเกตมากกว่าคนทั่วไปนะอย่าลืมสิ” เฟลิเปจับมือมาเดลีนหลังจากที่เขาพูด รอยยิ้มที่อบอุ่นและสายตาของเขา เขาลูบไล้ใบหน้าที่ดูกังวลของเธอราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ “ไม่ต้องกังวลไปเลยนะ ฉันจัดเตรียมไว้ให้ทุกอย่างแล้ว เขาจะไม่สงสัยอะไรอีกหลังจากผ่านไปสักสองสามวัน”
มาเดลีนรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เธอได้ยินคำพูดเชิงให้สัญญาของเฟลิเป้
เขาเป็นเหมือนแสงสว่างและปลอดภัยในยามที่เธอสิ้นหวังและพบเจอกับปัญหาใด ๆ
มาเดลีนรู้ดีว่าเธอไม่สามารถตอบแทนเขาได้เลย เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับเขาก่อนหน้านี้เช่นกัน ถ้าเฟลิเป้ต้องการแต่งงานกับเธอ เธอจะไม่ปฏิเสธอะไรเขาทั้งสิ้น