บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 251
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 251
หลังจากผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายออกแบบเอ่ยขึ้นมาอย่างนั้น บรรยากาศในห้องโถงกลับคึกคักขึ้นกว่าเดิม
คุณนายลองฟอร์ดที่เป็นคนกล่าวหามาเดลีน ตกตะลึงอย่างสุดขีด ในทางกลับกัน เมเรดิธกำลัง จ้องมองมาเดลีนด้วยความไม่เชื่อกับหูตัวเอง พวกเขาทุกคนมีอาการตกใจอ้าปากค้าง
“อะ – อะไรนะ” เมเรดิธขมวดคิ้วขณะชี้ไปที่มาเดลีน “นี่คุณจะบอกว่าเธอคือ วีล่า ควินน์ เป็นหัวหน้านักออกแบบของมิสเลดี้งั้นหรอ?”
เมเรดิธรู้สึกไม่เต็มใจที่จะถามคำถามนี้ออกไป
เธอได้รับคำตอบยืนยันทันทีในวินาทีต่อมา
“ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้คือผู้ก่อตั้งมิสเลดี้และเป็นหัวหน้านักออกแบบของแบรนด์คือ วีล่า ควินน์”
“… ”
“… ”
เมเรดิธตกใจสุดขีดทันที ปากของเธออ้าค้างออกขณะมองมาเดลีนที่ยืนเงียบและสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น เธอรู้สึกโง่เขลาเป็นที่สุด
เอโออิสและแม่ของเจเรมี่มองหน้ากันแบบกระอักกระอวน พวกเขาไม่สามารถเชื่อในหูที่ได้ยินและตาที่ได้เห็นตอนนี้
ผู้หญิงคนนี้อยู่เหนือความคาดหมายมาก!
ยิ่งกว่านั้น เครื่องประดับที่กำลังป็นที่นิยมมากที่สุดในแวดวงของพวกเขาในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้รับการออกแบบโดยผู้หญิงคนนี้ทั้งหมด
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อมันเลย
มันเป็นไปได้ไง?
“เอาล่ะ คุณนาย ทำไมคุณวีล่าถึงอยากขโมยสร้อยข้อมือของคุณไป? อีกทั้งเรายังเชื่อว่าคุณอาจถูกหลอกให้ซื้อสินค้าลอกเลียนแบบไปแน่ ๆ” หัวหน้าฝ่ายออกแบบถามออกไปอย่างมั่นใจ
“นี่จะเป็นของปลอมได้ไง? ฉันใช้เงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ไปกับสร้อยข้อมือนี้!” ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องเสียงหลงก่อนจะเบนสายตาไปที่มาเดลีนในขณะเริ่มรู้สึกถึงความไม่มั่นใจ “มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ขโมยสร้อยข้อมือของฉันไป! พวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกัน!”
“ฉันเดาว่าคุณยังคงยืนยันว่าฉันขโมยสร้อยข้อมือของคุณใช่ไหม หื้อ?” มาเดลีนเลิกคิ้วเอ่ยถามเธออย่างเรียบเฉย
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่มาเดลีนด้วยความโกรธ “มันเป็นเธอที่เอาไป!”
“เอาล่ะ” มาเดลีนพูดอย่างใจเย็นก่อนจะมองไปที่หัวหน้าฝ่ายออกแบบ “ซาซ่า ติดต่อคุณมัวร์ให้ฉันตอนนี้และขอให้เขาเขียนแบบร่างจดหมายให้ฉัน ฉันต้องการฟ้องบุคคลนี้ในข้อหาใส่ร้ายทำให้เสื่อมเสีย”
“ได้เลยค่ะ จะดำเนินการในทันที” หัวหน้าฝ่ายออกแบบดำเนินการตามคำสั่งที่ได้รับ ตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้น
พวกเขาจำเป็นต้องสอนบทเรียนให้ผู้หญิงคนนี้!
“…” ท่าทีของผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไป เธอไม่คิดว่ามาเดลีนจะตอกกลับแบบนี้ ตอนนี้ เธอโกรธขึ้นกว่าเดิม “นี่เธอกล้าฟ้องฉันงั้นหรอ? เธอขโมยสร้อยข้อมือของฉันไปและเธอยังมาหยิ่งผยองพองขนอีก เธอ—”
“ที่รัก! ที่รัก คุณทำอะไรอยู่? คุณไม่ได้บอกว่า ต้องให้เพื่อนดูสร้อยข้อมือของคุณหรือไงกัน?” ทันใดนั้น ชายในชุดสูทได้เดินมาหาผู้หญิงคนนั้น มีสร้อยข้อมือพลอยม่วงแวววับอยู่ในมือของเขาซึ่งดูคล้ายคลึงกับของมาเดลีน
แต่ทว่า หากเทียบกันแล้วกับของมาเดลีนแล้ว หนึ่งเม็ดในมือของเขามีสีเข้มกว่าและไม่มีความมันวาว มันเห็นได้ชัดว่าอันไหนเป็นของปลอม
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นสร้อยข้อมือในมือของผู้ชายที่พึ่งมาหา สีหน้าของเธอได้ปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้ “ท – ทำไมสร้อยข้อมือของฉันถึงอยู่กับคุณได้?”
“ก็คุณไม่ใช่หรอที่ขอให้ผมเป็นคนถือให้? ตอนที่ผมไปห้องน้ำเมื่อกี้และผมก็ไม่เห็นคุณหลังจากที่ออกมา” ชายคนนั้นอธิบายออกมาอย่างสลดใจ
“…” ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที น้ำตาของเธอเอ่อคลอในดวงตาขณะที่เธอพูดตะกุกตะกัก เธอไม่สามารถสร้างประโยคใด ๆ ได้แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
นี่คงเป็นแผนที่ถูกพลิกอย่างกะทันหัน ทุกคนที่เคยมองมาเดลีนด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้ เปลี่ยนกลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้นแทน พวกเขาทั้งสามคนที่เข้าข้างกับเมเรดิธก่อนหน้านี้รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากในตอนนี้
มาเดลีนยิ้มอย่างนุ่มนวล “ตามวิจารณญาณของฉัน สินค้าปลอมของคุณน่าจะมีราคาไม่เกินสี่หลัก”
“อะไรนะ?” หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตื่นตกใจ ใบหน้าถูกเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าสิ่งที่อยากอวดจะเป็นของปลอมราคาถูก!
ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องการอยู่ในงานนี้ตอไปอีกแล้วหลังจากเห็นคนจำนวนมากในแวดวงของเธอเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เธอ เธอหันหลังเดินกลับไปด้วยความโกรธ
“คุณกล่าวหาใครบางคนอย่างไม่มีเหตุผลและนี่คุณต้องการกลับโดยไม่ขอโทษอะไรเลยงั้นหรอ?”
ทันใดนั้น เสียงที่เยือกเย็นราวกับความมืดได้ตัดผ่านฝูงชนดังขึ้นอย่างชัดเจน
ผู้หญิงคนนั้นหยุดการกระทำของเธอที่จะเดินหนีไป ไม่กี่วินาทีถัดมา เธอเห็นชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลาปรากฏขึ้นตรงหน้า