บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 291
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 291
ฤทธิ์ของยาสลบทำให้มาเดลีนรู้สึกมึนงง เธอมีความคิดแวบหนึ่งเข้ามาในหัวแบบเลือนลาง มีใครบางคนเรียกเธอว่ามาเดลีนและเขายังบอกอีกว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้วนะ
มาเดลีนพยายามลืมตาขึ้นเพื่อจะดูว่าคนคนนั้นเป็นใคร แต่ว่าเปลือกตาเธอกลับหนักขึ้นในวินาทีนั้น ด้วยสัญชาตญาณ เธอโน้มตัวไปหาผู้ชายคนที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอันตราย บางทีอาจเป็นเพราะเขาให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอ
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่มาเดลีนรู้สึกได้ถึงความหมายของการโดนปกป้อง
สิ่งที่เธอต้องเผชิญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่มีครั้งไหนเลยที่ได้รับความเจ็บเล็กน้อย และทุกครั้งที่เธอปรารถนาให้ใครสักคนมาช่วย ทุกครั้งสิ่งที่เธอได้กลับเป็นเพียงความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น
มันมาถึงจุดที่เธอยอมแพ้และสิ้นหวังกับทุกสิ่งเพราะหัวใจของเธอเหนื่อยล้าจากการผิดหวังจากเรื่องทั้งหมดนั้น
ตอนนี้ เธอเข้าใจแล้วว่าความหมายของการมีใครสักคนคอยหนุนหลังมันอุ่นแค่ไหน…
เจเรมี่รู้สึกได้ว่าคนในอ้อมแขนของเขาโน้มตัวเข้าในอ้อมกอดของเขามากขึ้น มือของเธอค่อย ๆโอบขึ้นรอบคอเขาไว้เหมือนเป็นการทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้น
เจเรมี่มีสติกลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง เจเรมี่อดไม่ได้ที่จะนึกถึง มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด ที่เขาได้สูญเสียไปเมื่อนานมาแล้ว
“คุณรู้สึกยังไงบ้าง วีล่า?” เขาถาม แม้จะรู้ดีว่าเธอไม่ใช่มาเดลีน แต่การปรากฏตัวของเธอในตอนนี้ทำให้เจเรมี่รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนี้
คิ้วของมาเดลีนขมวด “มึน…”
“ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!“ เจเรมี่อุ้มเธอไปที่รถทันที
“เจเรมี่!”
เขารู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงเมเรดิธดังมาจากหลังโกดัง
เจเรมี่หยุดชะงักและหันกลับไปมองทางต้นทางสิ่งที่เขาเห็นมีเพียงเมเรดิธที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกับน้ำตาไหลอาบบนใบหน้าของเธอ เสื้อผ้าของเธอเละเทะขณะชี้นิ้วไปที่อันธพาลที่เขาจัดการ “เจเรมี่! ผู้ชายพวกนี้บังคับฉัน! คุณต้องเอาเรื่องพวกมันให้ถึงที่สุด เจเรมี่! มันเจ็บมาก ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!”
หุบปาก
เจเรมี่รู้สึกถึงเส้นด้ายที่อยู่ส่วนลึกของจิตใจฉายวับขึ้นมาขณะที่เขาขมวดคิ้ว
ความทรงจำที่มีของเขาทำให้เห็นภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ลินนี่ ที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาตั้งแต่วัยเยาว์
ไม่ว่าเจเรมี่จะมั่นใจแค่ไหนว่าเขาไม่เคยรักเมเรดิธมาก่อนตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกัน หัวใจของเขายังคงปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเธอที่อยู่ในความทรงจำนั้น เป็นอะไรที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา—ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด
แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
หลังจากที่ได้รับเบาะแส เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงไม่กี่นาทีถัดมา
อันธพาลทั้งสี่ถูกจับกุมในขณะที่ทั้งมาเดลีนและเมเรดิธทั้งคู่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ทั้งฌอนและเอโลอิสรีบไปโรงพยาบาลเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเมเรดิธ เอโลอิสร้องไห้สะอึกสะอื้นในอ้อมแขนของฌอนเมื่อเธอได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมเรดิธ ถูกชายสี่คนรุมข่มขืน
“ทำไมเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้? เมเรดิธนอนอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือไง? ทำไมจู่ ๆ เธอได้…ฌอน! ทำไมลูกสาวของเราต้องเจอแต่เรื่องโหดร้ายเช่นนี้ด้วยมันเป็นชะตากรรมอะไรของเธอ?”
“มันเป็นความผิดของฉันเอง เป็นฉันที่ควรดูแลเธอให้ดีกว่านี้” โรสตำหนิตัวเองในขณะที่เธอรำพึงรำพันว่า ‘นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?
‘เมเรดิธไม่ได้ไปอัดวิดีโอที่วีล่าโดนรุมข่มขืนงั้นเหรอ? แล้วนี่เธอกลายเป็นเหยื่อได้ไง?’
“เจเรมี่อยู่ที่ไหนกัน ทำไมเขาไม่มาดูแลเมเรดิธ?”เอโลอิสรู้สึกหดหู่ขณะที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องพยาบาล
“ฉันได้ยินมาว่า วีล่า ควินน์ เองก็เข้าโรงพยาบาลเช่นกัน เจเรมี่ต้องไปหาเธอแน่ ๆ” โรสถอนหายใจอย่างเศร้าและแสร้งเช็ดน้ำตาราวกับว่าเธอเสียใจมาก เธอเพิ่มน้ำมันใสเชื้อเพลิงโดยพูดว่า “เมเรดิธอยู่ที่นี่แบบทรมานแต่เจเรมี่ก็ยังไปดูแลยัยแม่มดคนนั้น!”
“นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!” เอโลอิสอุทานขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปถามพยาบาลว่ มาเดลีนพักอยู่ห้องไหน …
ภายในห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เงียบสงบเจเรมี่ยืนอย่างใจเย็นอยู่ขณะที่เขาเฝ้าดูมาเดลีนที่นอนหลับสนิท
เขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองบีบแน่นเพราะภาพจำในหัวที่เห็นเธอเกือบจะถูกรุมข่มขืนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
เขาค่อย ๆ เอื้อมมือสัมผัสมาเดลีนอย่างช้า ๆ
ปลายนิ้วอุ่นของเขาสัมผัสลงบนคิ้วของเธอ เธอดูเหมือนมาเดลีนทุกตารางนิ้วตั้งแต่ส่วนโค้งของดวงตาไปจนถึงดั้งจมูกที่บอบบางลากยาวไปจนถึงริมฝีปากสีชมพูสีเชอร์รี่ เธอสวยงามอย่างน่าทึ่ง
ถึงกระนั้น เธอก็ยังไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยอยู่ในทะเบียนสมรสร่วมกับเขา