บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 308
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 308
ภาพวิดีโอจบลง
“วีล่า”
เจเรมี่กดดูวิดีโอสองครั้งขณะที่หัวใจเต้นรัว เขาสวมเสื้อคลุมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะโทรหามาเดลีน
เขาโทรติดแต่ว่าไม่มีคนรับ
เขารีบขับรถไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที เจเรมี่ได้รับสายก่อนที่จะมาถึงไม่นาน
เจเรมี่รู้สึกว่าหัวใจของเขาสงบลงอย่างมากเมื่อเห็นเธอโทรเข้ามาหา
เขาเชื่อมต่อบลูทูธ ก่อนที่จะรับสายอย่างกังวลใจ “วีล่า?”
“ฉันเอง”
เสียงไพเราะนุ่มนวลที่คุ้นเคยดังก้องออกมา ผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกาะอยู่เหนือเส้นประสาทของเจเรมี่
เขาได้ทำการนัดพบกับมาเดลีนในอีกสิบนาทีต่อมา ก่อนที่เขาจะใช้สายตาของตัวเองตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดของร่างกายเธอได้รับอันตราย แล้วถามขึ้นมาว่า “คุณไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?”
มาเดลีนจ้องไปที่รอยขีดข่วนบนขาของเธออย่างใจเย็น “มันก็แค่เล็กน้อย แทนที่จะเป็นห่วงฉันนะ คุณวิทแมน ฉันอยากให้คุณกังวลเกี่ยวกับลูกชายของคุณแทน”
คิ้วของเจเรมี่ขมวดมุ่น “แจ็คสัน?”
“ใช่ ฉันต้องถามคุณจริงจังว่า แจ็คสันเป็นลูกของเมเรดิธจริง ๆ ใช่ไหม?” มาเดลีนเอ่ยถามด้วยความสับสนปนสงสัย
“ฉันตกใจมากเลยเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นทิ้งลูกตัวเองให้โดนรถชนแต่เธอกลับหนีไปในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนั้น”
คิ้วคมของเจเรมี่ขมวดแน่น เมื่อจำวิดีโอที่เขาดูได้ มันทำให้เขารู้ว่าแจ็คสันคือเด็กชายที่มาเดลีน ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้อง
เขาจำไม่ได้ว่าเห็นเมเรดิธในวิดีโอ
“ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านนะ” เจเรมี่เดินเข้าไปช่วยมาเดลีน โดยเอื้อมมือไปโอบไหล่เธออย่างเป็นธรรมชาติ
“จะเป็นไรไหมถ้าฉันขอให้คุณพาฉันไปด้วย? เมเรดิธเพิ่งพาแจ็คสันไป ฉันอยากรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก”
เจเรมี่จ้องไปที่ใบหน้าด้านข้างของผู้หญิงที่มีเสน่ห์ตรงหน้าเขาก่อนที่เขาจะพยักหน้าตอบรับ “ ก็ได้ งั้นผมจะพาคุณไปที่บ้านผม”
เจเรมี่เหลือบมองกระจกตลอดระยะทางในการขับรถกลับบ้าน ทันใดนั้นเขาก็สนใจในสิ่งที่เธอกระทำ
ในทางเดียวกัน เธอมีความหมายที่แตกต่างกับคนอื่นสำหรับเขา
มาเดลีนกลับมายังคฤหาสน์นี้อีกครั้ง เมื่อเดินผ่านเข้าปนะตู เธออดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงสิ่งที่เมเรดิธสร้างสถานการณ์ขึ้นมาผลักเธอลงบันไดและวิธีที่เจเรมี่บังคับให้เธอคุกเข่ากลางสายฝนตลอดทั้งคืนหลังถูกตีอย่างรุนแรงในคุก
เขาเคยเย็นชากับเด็กที่เธอเคยตั้งท้องให้กับเขา โดยการปล่อยให้ผู้หญิงที่ชั่วร้ายคนนี้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบโดยไม่มีขอบเขตจำกัดและเขายังคอยปกป้องเธอเสมอ
ในตอนนั้นเขายืนมองเธออยู่ข้างสนามแล้วเขาเห็นว่าเธอต้องทนทุกข์ภายใต้ฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงยังไง
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” เสียงทุ้มนุ่มลึกของเจเรมี่ดังขึ้นข้างหู
มาเดลีนสะท้อนความคิดตัวเองกลับเข้าไปก่อนจะยิ้มออกมา “ฉันก็แค่คิดว่าจะบอกบางอย่างเกี่ยวกับข่าวดีกับคุณดีไหม”
“ข่าวดี?” ดวงตาของเจเรมี่เหล่มองเล็กน้อยก่อนที่จะสบเข้ากับดวงตาที่สดใสของมาเดลีน
รถคันหนึ่งหยุดอยู่ข้างหน้าประตู เมเรดิธและเอโลอิสลงมาพร้อมกับแจ็คสันที่ดูเย็นชา
เมื่อเข้ามาถึงลานบ้าน เมเรดิธตะลึงเมื่อเห็นเจเรมี่และมาเดลีนยืนอยู่ด้วยกัน เธอรีบวิ่งเข้าไปคั่นกลางพวกเขาทันที
“เธอมาทำอะไรที่บ้านของฉัน วีล่า ควินน์?” เธอถาม ด้วยน้ำเสียงของเธอฟังดูรุนแรง
เจเรมี่หันไปมองเมเรดิธด้วยความไม่พอใจ “ระวังน้ำเสียงของคุณด้วย วีล่าเป็นแขกของผม”
“วีล่า?” เมเรดิธรับรู้ได้ถึงชนวนที่ถูกจุดขึ้นในตัวเธอ “ทำไมถึงพาผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้านของเรากัน เจเรมี่? แล้วทำไมคุณยังเรียกเธอแค่ชื่อแบบเสน่หาอย่างนั้น?”
“นี่คุณกำลังสอบปากคำผมงั้นเหรอ?” เจเรมี่เม้มริมฝีปากถามออกมาอย่างเรียบ ๆ สายตาของเขาดุดัน “งั้นคุณควรตอบคำถามผมก่อนเลย? คุณกำลังทำอะไรอยู่ตอนที่แจ็คกำลังจะถูกรถชน? คุณเป็นแม่ของเขานะ”
“ฉัน…ฉันกำลังจะช่วยแจ็ค แต่ว่าฉันกลับล้มลงข้อเท้าพลิกไปก่อน!” เมเรดิธเปิดปากหาข้ออ้างให้ตัวเอง
“ข้อเท้าของเธอพลิกงั้นเหรอ?” มาเดลีนยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับความไม่สมเหตุสมผลของข้ออ้างที่ถูกยกขึ้นมาพูดขึ้นในสถานการณ์ตอนนี้ “อย่างน้อยก็ควรจะทำให้ข้ออ้างของเธอมีน้ำหนักมากกว่านี้หน่อยจะดีกว่านะ คุณครอว์ฟอร์ด”
“เธออีกแล้ว วีล่า ควินน์ เธอเป็นคนปล่อยข่าวลือเสียหายนั้นต่อหน้าเจเรมี่!” เมเรดิธพูดเหมือนถูกกระทำ “ฉันไม่มีทางข้อเท้าพลิกได้เลยถ้าเธอไม่มาผลักฉันกระเด็นออกไป! ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้รถชนแจ็คเด็ดขาด! คุณต้องเชื่อฉัน เจเรมี่! อย่าปล่อยให้ตัวเองหลงกลเพราะคำโกหกของผู้หญิงคนนี้อีกต่อไปเลยนะ!”