บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 355
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 355
หลังจากที่มาเดลีนกลับมามีสติอีกครั้ง เจเรมี่ได้พาเธอออกพ้นประตูไปแล้ว
มาเดลีนรู้สึกสงสัยเมื่อปะทะเข้ากับสายตาที่เขามองเธออย่างลึกซึ้ง
เขาจะพาเธอไปไหนกัน?
เมเรดิธแอบอยู่ในห้องรับแขกเป็นเวลาสักพักหนึ่งแล้วก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงรถที่เพิ่งขับออกไป
เธอชะเง้อหน้ามองออกไปนอกระเบียงก่อนจะเห็นเจเรมี่ขับรถพามาเดลีนออกไป
เธอคว้ากระเป๋าของเธอขณะที่พึมพำสาปแช่งอยู่ด้วย จากนั้น เธอตัดสินใจโทรหาคนขับรถเพื่อกลับไปยังบ้านครอว์ฟอร์ด เธอต้องการกลับไปปรึกษาเกี่ยวกับแผนการเดินหน้าครั้งใหญ่ของเธอ
หลังจากที่บ้านได้รู้เรื่องราวเพิ่มเติมจากเมเรดิธ โรสและจอห์นก็เริ่มโวยวายถึงวีล่า จากนั้น ทั้งคู่เริ่มมีสีหน้ากังวล
“ยัยผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นมาตบแกได้ยังไงกัน?! แล้วผู้หญิงคนนั้นถึงขั้นบุกเข้าไปในบ้านขโมยเจเรมี่ไปจากแกอีก! ผู้หญิงคนนั้นน่ารังเกียจยิ่งกว่ามาเดลีนเสียอีก! เชื่อเถอะว่าฉันจะฉีกยัยนั่นเป็นชิ้น ๆ ด้วยมือเปล่า!” โรสจ้องเขม็งแล้วกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ “เมอร์ ผู้หญิงคนนั้นกำลังอุ้มลูกของเจเรมี่อยู่หรือเปล่า? ถ้าเป็นเรื่องจริง แกต้องรีบจัดการฆ่าเด็กคนนั้นซะ!”
“แน่นอน ฉันรู้แล้ว!” เมเรดิธมีแผนสำหรับเรื่องนี้อยู่ในหัวตั้งแต่วันแรกที่รู้เรื่องแล้ว “แต่มันเหมือนกับว่าเจเรมี่กำลังถูกครอบงำอยู่ เขาเชื่อฟังทุกคำทุกอย่างที่ยัยสารเลวนั่นพูด!”
“ทำไมกัน?” จอห์นอยากรู้
เมเรดิธกัดฟันพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ยัยมาเดลีนแพศยาคนนั้นตายดูไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงแทนที่ทั้งหมดด้วยการมอบความรักและความปรารถนาที่เขาเคยมีให้กับวีล่าแทน!
“เจเรมี่จะต้องห่วงใยและใส่ใจหนูคนเดียวเท่านั้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด แต่ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยัยน่าสมเพชตายไป เขากลับบอกฉันว่าเขาไม่เคยรักหนู เขามีเพียงแค่ความชื่นชอบแบบไร้เดียงสาเมื่อครั้งที่เขาคบกับหนูครั้งแรกตอนที่เรายังเป็นเด็กเท่านั้น หืม ความชื่นชอบงั้นเหรอ? ความชื่นชอบพวกนั้นมีให้มาเดลีนเท่านั้นและมันไม่เคยเป็นของหนูตั้งแต่แรก!”
เมื่อโรสเห็นเมเรดิธตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอจึงเริ่มคิดแผนการใหม่ “เมอร์ อย่าโกรธเลย แกไม่มีไพ่อะไรในมือต่อรองแล้วหรือไง?” เธอเลิกคิ้ว “เด็กเหลือขอแจ็คสันเป็นเครื่องมือต่อรองที่ดีที่สุดของแกในตอนนี้ไง”
“ไอ้เด็กบ้านั่นเหรอ?” เมเรดิธถามด้วยความรังเกียจ “ฉันน่าจะบีบคอเด็กบ้านั่นให้ตายตั้งแต่ในตอนนั้น! ตอนนี้เด็กนั่นเป็นเพียงหนามคอยทิ่มแทงดวงตาหนู”
“ถ้าเด็กนั่นเป็นหนามคอยทิ่มให้แกคอยเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ แกก็ควรทำให้เด็กนั้นหายไปซะสิ! แต่ว่าอย่าลืมโยนความผิดพวกนั้นไปให้คนที่ทำให้แกเจ็บปวดอีกคนล่ะ นี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”
ในขณะที่เมเรดิธรับฟัง ดวงตาของเธอมีแววชั่วร้ายอย่างสุดขั่ววิ่งผ่านไปมาอยู่ข้างใน
“คุณแม่ คุณฉลาดที่สุด ในบ่ายของวันเสาร์นี้มีกิจกรรมนัดพบผู้ปกครองของลูก นังวีล่าผู้หญิงนั่นจะต้องไปร่วมงานนั้นอีกแน่นอน ช่างเป็นโอกาสที่ดี!”
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นอยู่ทั่วใบหน้าเธอ
เธอภูมิใจในความเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการโยนความผิดหลังจากฆ่าใครสักคนได้ดีอยู่แล้ว!
…
มาเดลีนไม่มีความคิดนั้นอยู่ในหัวว่าเจเรมี่จะพาเธอไปยังสุสานที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในตอนที่เขาบอกว่าเขาต้องการพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง
เขาซื้อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่มาช่อหนึ่ง ทว่า คราวนี้ เขากลับมอบมันให้มาเดลีน
มาเดลีนไม่ได้สนใจที่จะนับว่าดอกไม้ช่อนี้จะมีกี่ดอก เธอเหลือบมองและเดาว่ามีดอกกุหลาบประมาณ 99 ดอกเหมือนครั้งที่แล้วเลย
เธอถือดอกกุหลาบขณะที่พิงข้างรถ เธอยิ้มออกมาบางเบาและพูดว่า “เจเรมี่ คุณพาฉันมาออกเดทที่นี่งั้นเหรอ?”
เจเรมี่มองเธอและพูดว่าขึ้นมาว่า “ผมไม่เคยคิดว่าที่นี่มีความน่ากลัว จนถึงวันนั้นเมื่อสามปีที่แล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งมายืนประจันตรงหน้ากับผมและบอกว่าเธอจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมพร้อมกับขี้เถ้าของเธอด้วย ในตอนนั้นผมได้รู้ซึ้งเกี่ยวกับการตายของคนเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้”
มาเดลีนหัวใจเริ่มเต้นแรงหลังจากที่ฟังจนจบ
‘นั่นเขาพูดถึงฉันเหรอ?’
‘เขารู้ซึ้งถึงความน่าสะพรึงกลัวของ ‘ความตาย’ จากการตายของฉันเหรอ?
‘ฮึ่ม’
‘เจเรมี่ นายกำลังกลัวความตาย?
‘แล้วเคยคิดบ้างไหมว่าลูกของฉันจะกลัวก่อนที่นายกำลังฆ่าเธอ?’
เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการดูถูก
ภายใต้แสงตะวัน ดวงตาของชายผู้นั้นดูงุนงงสลับลึกลับซับซ้อน
“วีล่า นี่คุณรักผมจริง ๆ ใช่ไหม?”
มาเดลีนยิ้มอย่างเขินอายและตอบโดยไม่คิด “แน่นอน แน่นอนที่สุดค่ะ ฉัน ‘รักคุณ’”
เจเรมี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เขามองดูความงามอันน่าทึ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา ทันใดนั้น ในสายตาของเขามีแสงแวววับปรากฏขึ้น “สำหรับผมนั้นเพียงพอแล้ว”
หมอกในยามเย็นเริ่มปกคลุมในตอนที่เจเรมี่พามาเดลีนกลับมาที่บ้านของเขา
ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป กลิ่นอาหารตลบอบอวนออกมาจากห้องครัว
“เจเรมี่ คุณกลับมาแล้ว ฉันทำอาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ” เมเรดิธยิ้มแล้วเดินออกมาต้อนรับ