บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 356
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 356
ในจังหวะที่เธอก้าวพ้นประตูห้องครัวออกไปนั้น ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นเจเรมี่ที่กลับมาพร้อมกับมาเดลีน รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าเธอค้างอยู่แบบนั้น ก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าเศร้าออกมา
“เจเรมี่…”
“ผมกับวีล่าทานข้าวมาจากข้างนอกแล้ว อาหารพวกนั้นคุณเก็บเอาไว้ทานเถอะ” เจเรมี่พูดออกมาอย่างไร้เยื่อใย เขามองมาเดลีน แล้วพูดขึ้นว่า “ไปที่ห้องของเรากันเถอะ”
“เจเรมี่!” เมเรดิธไล่ตามทั้งคู่ไปและหยุดเขา “เจเรมี่ ฉันรู้ดีว่าคุณมีความเข้าใจผิดมากมายในตัวฉัน คุณคงสงสัยว่าฉันจะทำบางอย่างหลายสิ่งที่ทำร้ายแมดดี้ในตอนนั้น แต่คุณก็ควรที่จะรู้ดีกว่าใครว่าฉันมีจิตใจที่เที่ยงตรงและเมตตาแค่ไหน”
“คุณครอว์ฟอร์ด จิตสำนึกของเธอถูกสุนัขแทะกินไปตั้งนานแล้ว เธอจะมีจิตใจเมตตาและเที่ยงตรงได้ยังไงกัน?” มาเดลีนถามขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เมเรดิธหน้าคิ้วขมวดขณะที่ไฟแห่งความเดือดเริ่มลุกในใจตัวเองอีกครั้ง เธอทำได้เพียงแค่อดทนเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
“เจเรมี่ วันเสาร์นี้ในฐานะพ่อกับแม่ของแจ็คสันเราควรไปร่วมงานเดินเขาที่ทางโรงเรียนอนุบาลของแจ็คจัดขึ้นนะ วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้คือต้องการให้ผู้ปกครองทั้งสองและเด็กมีส่วนร่วมกัน ไม่ว่าคุณกับฉันจะเข้าใจผิดอะไรกันในตอนนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแจ็คเป็นลูกของเรา ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจและให้ความร่วมมือในกิจกรรมนั้นกับฉันนะแจ็ค”
“คุณก็ไปเองได้นี่” เจเรมี่ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
สีหน้าของเมเรดิธนิ่งค้าง ในขณะที่เธอกำลังต้องการขอร้องให้เจเรมี่ไปร่วมงานกับเธอในจังหวะนั้น เธอได้ยินมาเดลีนพูดว่า “เจเรมี่ คุณควรไป ฉันก็จะไปร่วมงานเป็นส่วนหนึ่งของลิลลี่ด้วย เมื่อเวลานั้นมาถึง เราสามารถเป็นครอบครัวอย่างที่เราต้องการได้ แค่คิดว่ามันมาพร้อมกับฉัน โอเคไหม?”
หลังจากที่มาเดลีนพูดออกไป เจเรมี่รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ผมจะทำตามทุกอย่างที่คุณต้องการหากมันทำให้คุณมีความสุข”
“เจเรมี่ คุณช่างดีกับฉันเหลือเกิน”
มาเดลีนส่งยิ้มหวานให้เขาขณะที่เธอคว้าแขนของเขาเอาไว้
เมเรดิธตัวสั่นด้วยความโกรธกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า
เธอเห็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความพอใจในดวงตามาเดลีน รัศมีอาฆาตในดวงตาของเมเรดิธได้เข้มข้นทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ
…
เวลาผ่านไปจนถึงวันเสาร์ มาเดลีนใส่ชุดวอร์มแบบสบาย ๆ เธอขับรถพาลิเลียนไปโรงเรียนอนุบาล
ในตอนแรก เฟลิเป้ต้องการที่จะไปกับพวกเขา แต่เมื่อคืนนี้ เขาได้รับโทรศัพท์ต่อสายตรงกับเรื่องบางอย่างที่สำคัญทำให้เขาต้องบินไปที่เมืองเอฟในคืนวันนั้นเลย
เป็นเวลาช่วงเช้าตรู่ แต่ทางเข้าของโรงเรียนอนุบาลกำลังคึกคักและเต็มไปด้วยเสียงคุยกันของผู้ปกครองที่มาถึงในเวลานี้
โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้มีชั้นเรียนทั้งหมดสี่ชั้น มีผู้คนประมาณ 200-300 คนรวมถึงผู้ปกครองที่กำลังยืนอยู่ที่นั่น
มาเดลีนพาลิเลียนขึ้นรถบัส หลังจากนั้นไม่นาน เจเรมี่ได้ส่งข้อความมาหาเธอ
เธอหันหลังไปดูและเห็นเมเรดิธกับแจ็คสัน พวกเขาทั้งคู่กำลังยืนอยู่ข้างเจเรมี่อย่างพึงพอใจขณะเข้าแถวขึ้นรถบัส
ในเวลาเดียวกัน แจ็คสันมีท่าทีดูสิ้นหวัง มือของเขาถูกเมเรดิธจับไว้แน่น เขาดูแย่ลงเรื่อย ๆ
เด็กตัวน้อยคนนี้ไม่ชอบเสียงดังและมักจะขังตัวเองไว้ในมุมมืดที่ไหนสักแห่งเพื่อที่จะรักษาหัวใจที่มีบาดแผลของเขา
มาเดลีนรู้สึกเจ็บปวดในใจ ในตอนนั้น เธอรู้สึกอยากวิ่งลงรถบัสไปกอดแจ็คสันทันที แต่ในเวลาเดียวกันรถบัสคันดังกล่าวได้เริ่มเคลื่อนตัวออกจากจุดที่หยุดนิ่งไปแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถบัสต่างพากันจอดอยู่ที่ชานเมืองซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพและทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในเกลนเดล
สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรมของครอบครัวเช่นการปีนเขาและปิกนิกหรือการเดินป่า
ช่วงนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง และอากาศในตอนนี้มีลมอ่อน ๆ และค่อนข้างสดชื่นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมนอกสถานที่
ในขณะที่ลิเลียนกำลังยิ้มอย่างมีความสุข เป็นเวลาเดียวกันกับที่มาเดลีนรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดีที่ละเลยลูกสาวตัวเองและมุ่งประเด็นไปที่การแก้แค้นเพียงอย่างเดียว
แม้ว่าเธอจะเกลียดพ่อของลูกสาว แต่เธอปฏิเสธความจริงที่ว่าลิเลียนเป็นความหวังเดียวที่ทำให้เธอยังดำรงชีวิตอยู่ต่อ ยิ่งไปกว่านั้น การที่เธอเป็นแบบนี้นั่นเป็นเพราะเจเรมี่
“อ๊ะ ลิเลียน ไม่มีพ่อจริง ๆ ด้วย!” เด็กชายตัวเล็ก ๆ ชี้ไปที่ลิเลียนแล้วหัวเราะชอบใจ เด็กเกเรคนนั้นวางมือบนสะโพกขณะที่ล้อเลียนลิเลียนด้วยคำพูดของเขา “ลิเลียน ยัยเด็กโกหก เธอบอกว่าพ่อตัวเองหล่อมาก เธอไม่มีพ่อด้วยซ้ำ!” เด็กน้อยแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เธอด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก “นี่ดูสิพ่อของฉัน เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด!” เด็กคนนั้นชี้นิ้วไปที่พ่อของเขา
ลิเลียนขมวดคิ้วพร้อมกับเบิกดวงตากว้าง “ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อย ฉันมีพ่อ พ่อฉันหล่อมาก!”
“ไม่! เธอไม่มีพ่อ ถ้าเธอมี เขาอยู่ที่ไหนกัน? เธอโกหก! คราวก่อนนี้ฉันก็แค่ดึงเปียเธอเองแล้วเธอก็ขู่ว่าพ่อของเธอแข็งแรงมาก เธอบอกให้ฉันหยุดรังแกเธอ แต่ในความเป็นจริงเธอมันเด็กไม่มีพ่อ!” เด็กน้อยแลบลิ้นใส่เธออีกครั้ง
เด็กเกเรคนนี้พูดจาเย่อหยิ่งหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปจับเปียของลิเลียนเล่นอีกครั้ง มาเดลีนรีบวิ่งเข้าไปหยุดเขา แต่แล้ว เธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อบอุ่นอยู่ข้างหลังเธอ ในพริบตา มีมือใหญ่มือหนึ่งได้หยุดมือของเด็กน้อยกำลังจะจับผมเปียของลิเลียนเอาไว้ได้ทันเวลาก่อนที่มาเดลีนจะไปถึง
“โอ๊ย เจ็บ!” เด็กเกเรตะโกนขึ้นอย่างจริงจัง เขาเงยหน้าขึ้นมองและดูตกใจกับคนที่อยู่ข้างหน้า
“ไอ้บ้าเอ้ย! นายเป็นใคร? กล้าดียังไงมาแตะตัวลูกชายของฉัน!” พ่อของเด็กนิสัยไม่ดีคนนั้นเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุพร้อมกับด่าทอ
เจเรมี่เชิดหน้าของตัวเองขึ้นและอุ้มลิเลียนไว้ในอ้อมแขน “ฉันเป็นพ่อของลิเลียน เจเรมี่ วิทแมน”