บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 36
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 36
เมื่อเจเรมี่ถามคำถามเช่นนั้น มาเดลีนสามารถคาดเดาคำตอบได้อย่างไม่ต้องสงสัย
พยาบาลที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ปฏิเสธ “คุณพูดเรื่องอะไร? โรคมะเร็งปอด? นอกเหนือจากสุขภาพจิตแล้ว ร่างกายของเขายังแข็งแรงมาก เขาจะเป็นมะเร็งปอดได้อย่างไร? คุณกำลังเข้าใจอะไรผิด”
หลังจากจบประโยคที่เธอพูดอย่างนั้น มาเดลีนมีความรู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอลดลงอย่างวูบวาบ
ก่อนที่เจเรมี่จะวางสาย พยาบาลพูดสวนขึ้นมาว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าเขาหายไปงั้นเหรอ? ก่อนหน้านี้เขาหายตัวไป แต่เขาบอกว่าหลานสาวบอกให้เขาซ่อนตัวเพราะเธอเล่นซ่อนหากับเขา”
สิ่งที่เธอได้ยินเป็นฉากๆต่อมานั้น ทำให้มาเดลีนเข้าใจทุกอย่าง
ปู่ของเธอไม่ได้ป่วยและเขาไม่ได้ถูกลักพาตัวหรืออะไรทั้งนั้น เมเรดิธเป็นคนวางแผนก่อเรื่องปั่นประสาทเธอทั้งหมดนี้!
“แมดดี้ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เธอจงใจขอให้ปู่ของเธอซ่อนตัวเพื่อที่เธอจะได้จัดฉากให้ฉันลักพาตัวเขา” เมเรดิธได้เริ่มการโจมตีนี่ก่อนหลังจากที่ทุกอย่างเงียบมาสักพัก เธอเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย “แมดดี้ ทำไมเธอทำอย่างนั้นล่ะ? ฉันมักจะเห็นเธอเป็นน้องสาวของฉัน ทำเรื่องแบบนี้มาใส่ร้ายฉันได้ยังไง? แม้ว่าเธอจะเกลียดฉัน แต่เธอก็ไม่ควรล้อเล่นกับชีวิตของเธอปู่เธอได้!”
“ทำไมแกยังถามมันอยู่ได้? ผู้หญิงสารเลวคนนี้ต้องการใช้โอกาสนี้ทำให้เจเรมี่เกลียดเเกไง!” โรสมีส่วนร่วมที่จะว่าเธอกับการกระทำเสเเสร้งนี้ “มาเดลีน เธอมันต่ำทราม! ตระกูลครอว์ฟอร์ด ระดมทุนและให้ทุนกับค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของเธอทั้งหมด เธอกล้าแว้งกัดมือที่เคยชุบเลี้ยงเธอได้อย่างไร? ไม่เพียงขโมยแฟนของเมอร์ แต่เธอยังใช้กลอุบายที่น่ารังเกียจแบบนี้อีก เธอมันไร้มนุษยธรรมมาก!”
ทั้งแม่และลูกสาวกล่าวพร้อมเพียงกัน โดยวางอาชญากรรมที่ไร้มูลความจริงทั้งหมดไว้ที่มาเดลีน
มาเดลีนรู้สึกไร้ชีวิตชีวาในทันใด เธอรู้ดีว่าเธอไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกต่อไป เมเรดิธวางกับดักนี้ไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะ
แม้ว่าเธอจะอธิบายจนปากจะฉีก แต่ผู้ชายตรงหน้าเธอก็ยังไม่เชื่อเธออยู่ดี
เช่นทุกครั้ง เธอยังคงมีความหวังต่อเจเรมี่เสมอ “เจเรมี่ ฉันไม่สนใจว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่ แต่ฉันไม่เคยทำสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านั้น”
เพี้ยยยยะ!
คำตอบที่เธอได้รับ มีเพียงรอยแดงบนหน้าที่ถูกตบอย่างแรงจากน้ำมือของชายคนที่เธอเคยมอบหัวใจให้อย่างไม่มีข้อแม้เลือดซึมไหลออกมาที่มุมริมฝีปากของเธอ
อาการปวดแสบปวดร้อนทำให้ใบหน้าของมาเดลีนเริ่มพอง แต่นั่น ยังเทียบไม่ได้เพียงเสี้ยวของความเจ็บปวดเท่าท่าทีที่เจเรมี่มองเธอ
“มาเดลีน เธอไม่ใช่เเค่ปีศาจ แต่เธอยังไร้จิตสำนึกอีกด้วย สิ่งที่เธอทำคือการเเช่งปู่ของเธอเพียงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉัน เธอยังวางกับดักเพื่อจัดฉากให้กับเมอร์ ผมคิดว่าคุณคงเบื่อกับชีวิตของคุณแล้วจริงๆ”
มาเดลีนหันหน้าไปด้านหนึ่งและเยาะเย้ยเบาๆ
งี่เง่า
ผู้ชายที่เธอรักช่างงี่เง่าเสียจริง
ไม่เพียงแต่เขาเป็นคนงี่เง่าเท่านั้นแต่เขายังตาบอดสนิทอีกด้วย
“อ๊ะ เจเรมี่! ท้องของฉัน…ท้องของฉันเจ็บแบบกระทันหัน…” เมเรดิธเริ่มกรีดร้องอย่างแสร้งทำ “เจเรมี่ ลูกของเรามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? ฉันกลัว…”
“ทารกต้องถูกกระทบกระเทือนแน่ๆ เมื่อนยัยสารเลวนั่นตบเธอไปหลายที! เจเรมี่ รีบส่งเมอร์ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ เธออาจไม่ได้รับโอกาสเป็นพ่อหลังจากนี้!” โรสจงใจทำเอะอะใหญ่โตและทำให้สถานการณ์เกินจริง
การแสดงออกของเจเรมี่เปลี่ยนไปเมื่อเขาอุ้มเมเรดิธไปที่โรงรถอย่างเป็นห่วง “ไม่ต้องกลัว ลูกชายของเราจะสบายดี”
ลูกชายงั้นหรอ เขาได้ตรวจสอบเพศของทารกด้วยกันกับเธอ
หัวใจของมาเดลีนแตกเป็นเสี่ยงๆ “เมเรดิธโชว์ศิลปะการเเสดงขั้นสูง เจเรมี่ คุณตาบอดหรือไง?”
ตุ้บ! !
มาเดลีนตะโกน แต่เธอไม่ทันคิดว่าจอห์นจะยกขาขึ้นและเตะเธออย่างแรงที่หน้าอก มาเดลีนไม่ได้เตรียมตัวและถูกเตะตกไปที่พุ่มไม้ใกล้ๆ ฝ่ามือของเธอถูกกิ่งไม้ขรุขระบาดเป็นแผลเปิดออก ฝ่ามือเปื้อนเลือดของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลเก่าและบาดแผลใหม่
เธอยืนขึ้นอย่างท้าทาย อย่างไรก็ตาม เธอสามารถลิ้มรสของเลือดที่มาจากลำคอของเธอได้ จากนั้นเธอก็เริ่มอาเจียนออกมาเป็นเลือด