บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 364
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 364
“…” ชายคนดังกล่าวถึงกับเงียบ
มาเดลีนค่อย ๆ รูดซิปหยิบเอาทิชชูจากกระเป๋าเสื้อวอร์มกันน้ำของเธอออกมา จากนั้น เธอก้มลงใช้นิ้วมือเพียงสองนิ้วคีบซองเงินนั้นขึ้นมา
“นี่สรุปแล้วคุณได้โทรแจ้งตำรวจหรือเปล่า คุณนายมอนต์โกเมอรี?” เธอยิ้มออกมาเหมือนกำลังคุมเกมนี้อยู่ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวที่ส่องสว่างเชิดฉายในคืนนี้
เอโลอิสจ้องเธอตาเขม็ง “รอก่อนเถอะวีล่า ตำรวจจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้แน่นอน อย่าคิดแม้แต่จะมาเล่นลิ้นกับเรื่องนี้”
“คุณควรปล่อยให้โอกาสลูกสาวสุดที่รักของตัวเองได้พูดเอาตัวรอดบ้างนะ” มาเดลีนเขย่าซองในมือของเธอ “ถ้ายังไงก็ต้องขอบคุณที่ให้หลักฐานกับฉัน และถ้าฉันเดาไม่ผิดฉันคิดว่าลายนิ้วมือของคนบงการเรื่องนี้คงจะยังอยู่บนซองจดหมายนี้อย่างแน่นอน”
“…”
“…”
สีหน้าของชายคนนั้นหยุดนิ่งไปในขณะที่เขามองเมเรดิธโดยไม่รู้ตัว
ในทางกลับกัน เวลาเดียวกันนั้นเองริมฝีปากเมเรดิธกำลังกระตุก คล้ายกับว่าตอนนี้เธอกำลังพ่ายแพ้
มาเดลีนยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าของคนพวกนั้น “คุณนายมอนต์โกเมอรี ณตอนนี้ สิ่งที่คุณจะทำได้ดีที่สุดก็คือจ้างทนายมาสู้คดีให้ลูกสาวของคุณได้แล้ว ฉันอยากจะรู้ว่าคุณจะบอกอะไรกับพวกเขาในตอนที่เขาถามคุณว่าทำไมมีลายนิ้วมือของลูกสาวคุณอยู่บนซองจดหมายนี้?”
“นี่เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? เป็นไปได้ยังไงที่ลายนิ้วมือของเมอร์จะไปอยู่บนซองบ้า ๆ นั่น?” เอโลอิสปฏิเสธอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นเดี๋ยวคุณก็คงจะได้รู้” มาเดลีนหยุดการโต้เถียงเพราะเธอรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดมากไปกว่านี้ยิ่งเห็นคนเป็นแม่แท้ ๆ ของตัวเองปกป้องปีศาจคนนั้นมากเท่าไหร่เธอยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเธอยื่นซองให้เจเรมี่ “เจเรมี่ ฉันรู้สึกไว้วางใจคุณที่สุด ถ้าคุณเป็นคนเก็บหลักฐานนี้ไว้”
เธอมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนมาก “รู้ไหมตอนที่ฉันตกลงมาจากบนเนินนั่น ฉันกลัวมากที่จะไม่ได้เจอคุณอีกต่อไป”
เจเรมี่มองเธอกลับด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลกับเรื่องนี้ ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณหายออกไปจากชีวิตผมแน่นอน”
ดวงตาของเมเรดิธแทบจะหลุดออกจากเบ้าในขณะที่เธอเห็นฉากพลอดรักระหว่างเเจเรมี่และมาเดลีน
เวลาผ่านไปสักพัก ตำรวจได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ
หลังจากที่พวกเขาสอบถามสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว ตำรวจแจ้งว่าทุกคนในที่เกิดเหตุจะต้องไปยังสถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำ
มาเดลีนขึ้นรถตำรวจไปโดยไม่รีรอ ในทางกลับกันนั้น แสดงให้เห็นว่าเธอเองไม่มีความผิดใดให้ปิดบัง เมเรดิธเองก็รีบขึ้นรถตำรวจอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในขณะมาถึงยังสถานที่ที่เคยทำให้เธอฝันร้ายที่สุดในชีวิต มาเดลีนรู้สึกสงบขึ้นอย่างผิดปกติ
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนอ่อนแอและทำอะไรไม่ถูกแบบ มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด อีกต่อไป
และต่อให้มีใครเลือกที่จะทำร้ายเธอในวันนี้และต่อให้เธอตกลงจากหน้าผา เธอก็สามารถปีนขึ้นมาจากขุมนรกนั้นได้เพื่อจะล่าคนเลวตัวจริงลงนรกไป
หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้ว ขณะที่มาเดลีนออกจากห้องสอบสวน เจเรมี่เอาเสื้อสะอาดสีขาวในรถของเขาพาดเอาไว้ที่ตัวเธอ ในขณะนี้ เอโลอิสและเมเรดิธก็ออกมาจากอีกห้องสอบสวนเช่นกัน
เธอเริ่มแสดงละครเมื่อเมเรดิธเห็นว่าเจเรมี่กำลังจะออกจากสถานีไปพร้อมกับจับมือมาเดลีน แต่เพราะเธอต้องการให้เอโลอิสออกหน้าแทนเธอ เธอแสร้งทำเป็นเศร้าและก้มหน้าลง
เอโลอิสดึงเมเรดิธออกไปหาพวกเขาเมื่อเธอเห็นทั้งคู่จูงมือกัน “เจเรมี่ เมอร์เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายนายและนายกลับมาแสดงตัวกับผู้หญิงคนนี้อย่างโจ่งแจ้ง นายคิดว่าเมอร์เป็นตัวอะไรกันแน่?”
มาเดลีนยืนนิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แล้วถ้าเจเรมี่ไม่พาฉันกลับไป เขาควรพาลูกสาวสุดที่รักของคุณกลับไปงั้นเหรอ?” เธอยิ้มกว้างและถามแบบนั้นไป จากนั้นเธอเชิดหน้าขึ้นมองไปอีกทางหนึ่ง “เมเรดิธ นี่เธอคิดว่าคืนนี้เธอจะได้ออกไปจากที่นี่ไหม?”
“วีล่า ที่พูดหมายความว่ายังไง?”
หลังจากที่เอโลอิสพูดจบ เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนได้เดินมาตรงหน้าเมเรดิธ
“เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีพยายามฆ่า โปรดให้ความร่วมมือในการสอบสวนของเราครั้งนี้ด้วย”
เมเรดิธมีสีหน้าประหลาดใจอย่างโจ่งแจ้ง “คุณตำรวจคะ การตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานของคุณผิดพลาดไปหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน!”
“ไม่มีทาง ลูกสาวของฉันไม่มีทางทำแบบนั้น! นี่คุณตำรวจตรวจสอบเรื่องนี้ดีแล้วงั้นเหรอ? จะมาเชื่อใครง่าย ๆ เพราะฟังความข้างเดียวแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”
“คุณผู้หญิงครับ คุณกำลังใส่ร้ายเราและตั้งข้อสงสัยถึงความสามารถในการสืบสวนของเราด้วยการพูดแบบนั้นคุณกำลังดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นะ แน่นอนว่าการที่เราจะจับกุมใครสักคนได้ก็ต่อเมื่อเรามีหลักฐานเพียงพอเท่านั้น” เจ้าหน้าที่กล่าวอย่างจริงจัง
“หลักฐาน? หลักฐานอะไร? ซองจดหมายนั่นเหรอ?”
“แน่นอน มันไม่ใช่แค่ลายนิ้วมือบนซองจดหมาย” มาเดลีนกล่าวช้า ๆ เธอควักเอาโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าและเปิดวีดีโอ จากนั้นเสียงของมาเดลีนและเมเรดิธก็ดังออกมาในช่วงสถานการณ์ที่ทั้งสองคนปะทะกันในป่านั่น
เมเรดิธดวงตาเบิกกว้างและค้างอยู่แบบนั้นในนาทีแรกที่เธอได้ยินบทสนทนา ขณะที่ร่างกายของเธอหยุดแน่นิ่ง สีหน้าของเอโลอิสเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
มาเดลีนเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม “เมเรดิธ นี่เธอคงไม่ได้คาดคิดกับเรื่องนี้ไว้ ใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่ฉันบันทึกทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว!”
“…”
“ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ฉันเลยต้องเตรียมตัวมาอย่างดี ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเป็นห่วงแจ็คเธอคิดว่าตัวเธอจะมีโอกาสที่จะผลักฉันลงไปได้ไหม? ทำไมเธอช่างใจร้ายขนาดนี้ มันเป็นที่เข้าใจได้ง่ายที่เธอต้องการฆ่าฉันเพราะเจเรมี่ แต่ทำไมถึงต้องการที่จะฆ่าลูกชายของตัวเองด้วย เหตุผลอะไรกัน!”