บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 402
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 402
แม้ว่าพิธีแต่งงานที่เกิดขึ้นจะขัดต่อความปรารถนาส่วนลึกในใจของเธอ แต่อย่างน้อยภายในพิธีแจ็คสันได้ทำหน้าที่เป็นผู้ถือดอกไม้ให้กับเธอ
ท่ามกลางผู้มาเข้าร่วมงาม เธอเห็นเอโลอิสและฌอนมาร่วมอวยพรงานนี้เช่นกัน
ถ้าจะพูดให้ถูก มันคงจะพูดได้ว่าเธอได้รับการยินยอมจากฝั่งพ่อแม่แล้ว
แล้วยังเป็นเวลาเดียวกันกับที่คุณนายวิทแมนกำลังรู้สึกหงุดหงิดกับสถานการณ์ในตอนนี้
เหล่าคุณนายของเมืองได้จับกลุ่มคุยกันซึ่งหนึ่งในนั้นที่เป็นเพื่อนของคุณนายวิทแมนที่เป็นถึงภรรยาของมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเธอ “ช่างเป็นลูกสะใภ้ที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ ขอแสดงความยินดีด้วยคุณนายวิทแมน เธอทั้งสวย รวย ทำงานเก่ง คราวนี้เธอคงพอใจกับลูกสะใภ้ของตัวเองแล้ว ใช่ไหม?”
“รวยแล้วยังไงล่ะ? ใช่ว่าตระกูลของฉันจะจน! สามารถหาหญิงสาวสวยงามได้จากทั่วโลก รูปร่างหน้าตาของเธอก็เป็นแค่เหมือนกับมาตรฐานทั่วไปนั่นแหละไม่ได้เลิศเลอ!”
คุณนายวิทแมนกลอกตาอย่างดูถูกส่งไปยังมาเดลีนที่กำลังดื่มกับแขกคนอื่น ๆ หลังจากที่เธอหันหลังกลับก็เห็นว่าเอโลอิสและฌอนยืนอยู่ เธอไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปคุยกับพวกเขา
“คุณนายมอนต์โกเมอรี ฉันเองไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมเรดิธจะเป็นตัวปลอม ฉันได้ยินข่าวมาหมดแล้ว โอ้ ที่ฉันเคยเชื่อใจเธอ ในที่สุด ฉันได้ติดกับดักอยู่ในคำโกหกของเธอ” คุณนายวิทแมนโวยวาย แสดงถึงการตัดสายสัมพันธ์ในคำพูดพวกนั้น
เอโลอิสถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย “มาวันนี้ฉันคิดว่าในที่สุดก็ได้หาลูกสาวของตัวเองเจอแล้ว และเธอคนนั้นกำลังจะเป็นสะใภ้ครอบครัวเดียวกันกับคุณเช่นกัน คุณนายวิทแมน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกอย่างมันจะลงเอยแบบนี้”
คุณนายวิทแมนก็เห็นด้วยเช่นกัน “จะมีใครคาดคิดว่าครอบครัวของเมเรดิธจะเลวร้ายอย่างแท้จริง? ฉันจงใจจะฟ้องข้อหาล่อลวงสินสมรสถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเด็กที่เธอมีให้เจเรมี่ ฉันทำไปแล้ว!”
สายตาของเธอแสดงถึงความโกรธเคืองเป็นอย่างมากก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นความเห็นอกเห็นใจ
“ครอบครัวมอนต์โกเมอรีถือเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพล 1 ใน 4 ของเมืองเกลนเดล มันช่างน่าเสียดายนักที่เธอยังหาลูกสาวของตัวเองไม่พบ ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เกี่ยวดองกับเธอ หากว่าเธอพบลูกสาวของตัวเองเร็วกว่านี้แล้วก็บางทีเธอกับเจเรมี่เองคงจะทำความรู้จักกันและสนิทสนมกันมากขึ้น และที่สำคัญเราทั้งคู่คงไม่ต้องมายอมรับกับผู้หญิงคนนี้ที่นี่!” คุณนายวิทแมนพูดขณะที่ใช้สายตาปลายมองไปยังมาเดลีน
เอโลอิสมองตามสายตานั่นไปก่อนจะเห็นมมาเดลีนที่ดูสง่างามในชุดเจ้าสาวคล้ายกับนางฟ้า
หัวใจของเธอบีบแน่นอย่างลึกลับ
“วีล่า ควินน์ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
“เธอไม่รู้อะไรหรอก คุณนายมอนต์โกเมอรี ผู้หญิงคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่า มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด ภรรยาเก่าของเจเรมี่เสียอีก! ยิ่งเห็นหน้าเธอก็ยิ่งจะอ้วก!”
“คุณแม่ สามารถพักผ่อนได้นะคะ ถ้ารู้สึกไม่สบาย”
น้ำเสียงนุ่มของมาเดลีนดังแว่วมาจากด้านหลัง คุณนายวิทแมนซึ่งก่อนจะหันหน้ากลับพร้อมกับเม้นริมฝีปากของเธอเอาไว้อย่างไม่พอใจเมื่อเห็นเธอเข้ามา “บาดตาอะไรเพียงนี้!”
น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่พอใจก่อนจะเดินหันหลังเข้าไปในงาน
และเมื่อคุณนายวิทแมนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว มาเดลีนรู้สึกว่าอากาศถ่ายเทมากขึ้นทำให้เธอหายใจได้สะดวก
รอยยิ้มบางเบาแสดงขึ้นบริเวณริมฝีปากของเธอในขณะที่หันไปหาเอโลอิสและฌอน “ขอบคุณที่มางานนะคะ นี่สำหรับการดื่มอวยพร”
มาเดลีนยกไวน์แดงแก้วเล็กขึ้นมาดื่ม
“ขอแสดงความยินดีด้วยวีล่า” เอโลอิสแสดงออกจากภายในดวงตาของเธอไม่มีความแข็งกร้าวอีกต่อไป
ขอแสดงความยินดี?
มาเดลีนยิ้มออกมาจาง ๆ สิ่งเดียวที่เธอจะเรียกมันว่าการแสดงความยินดีนั่นก็คือการที่เธอได้แก้แค้นสำเร็จเท่านั้น
และในเวลาเดียวกันนี้ เจเรมี่ได้เดินเข้ามาหาเธอ
ด้วยชุดสูทสีดำที่ถูกสั่งตัดทำโดยเฉพาะ ทำให้เสน่ห์ของผู้ชายคนนี้ก็ซึมซับราวกับคลื่นในทะเล
“วีล่าเหมาะกับนายมาก ฉันต้องขอโทษที่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจเพื่อปกป้องเมเรดิธในตอนนั้นด้วย” เอโลอิสเอ่ยขอโทษ
บริเวณริมฝีปากของเจเรมี่กระตุกเป็นรอยยิ้มสบาย ๆ “ผมไม่ใส่ใจในเรื่องที่คนอื่นคิดยังไงกับผม”
กับสิ่งนั้น เขาเอามือโอบกอดที่ไหล่ของมาเดลีนเล็กน้อย “คุณคงจะเหนื่อยมากวันนี้อยากกลับบ้านไหม หืม?”
“ก็ดีค่ะ” มาเดลีนพยักหน้าอย่างมีเลศนัย
“วีล่า!” ในจังหวะที่เธอกำลังจะจากงานเลี้ยงไปนั้น เอโลอิสก็รีบลุกขึ้นเพื่อห้ามมาเดลีนไม่ให้เดินออกไป
ทั้งมาเดลีนและเจเรมี่ก็หยุดชะงัก “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า คุณนายมอนต์โกเมอรี?”
“มันก็แค่…”
เอโลอิสพูดอย่างติดขัด
“เราเองพยายามหาเบาะแสเกี่ยวกับลูกสาวของเราแต่ก็ยังไม่พบ ดังนั้น เราสงสัยว่าเธอพอจะจำได้ไหมว่าโรสและเมเรดิธพูดอะไรเกี่ยวกับลูกสาวของฉันบ้าง?”
อ่าห์ ตอนนี้พวกเขาเข้าหาเธอเพราะลูกสาวของพวกเขา
มาเดลีนดูเศร้าและเบือนหน้าไปทางเจเรมี่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “บางทีฉันอาจช่วยได้ ลูกสาวของคุณมีลักษณะพิเศษอะไรไหม?”
ดวงตาของเอโลอิสและฌอนมีประกายแห่งความหวัง “โอ้! ลูกสาวของพวกเรามีปานที่ไม่เหมือนใคร!”