บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 414
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 414
รอยยิ้มของเธอสดใส หมือนดอกไม้ที่เบ่งบานกลางฤดูร้อนโดยที่ไม่มีวันร่วงโรย ดวงตาของเธอดูเปล่งประกายเหมือนแสงแห่งดวงดาวที่สดใสในดวงตาของเขา
เจเรมี่กดวางสาย เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปทางที่มาเดลีนยืนอยู่ “วีล่า ผมมีเรื่องจะบอกคุณ นายท่านและคุณนายของมอนต์โกเมอรีเชิญเราไปบ้านพวกเขาในคืนนี้”
มาเดลีนที่กำลังจัดแจงอาหารกลางวันให้เขาอยู่ได้หยุดชะงักลงเล็กน้อย “น่าแปลกที่ทำไมจู่ ๆพวกเขาถึงชวนพวกเราไปเป็นแขกได้?”
“ผมคิดว่าพวกเขามีบางอย่างที่จะขอร้องและคิดว่าคุณจะสามารถช่วยพวกเขาได้”
เจเรมี่มองไปที่มาเดลีน ก่อนจะเอ่ยบอกถึงเนื้อเรื่องสำคัญให้เธอทราบถึงจุดประสงค์ที่ดูไม่สมเหตุสมผลนี้
มาเดลีนหันหน้าไปทางเขาและดึงเนคไทเจเรมี่ด้วยนิ้วเรียวยาว เธอในตอนนี้กำลังเผยรอยยิ้มของผู้หญิงที่มีเสน่ห์และคงไว้ซึ่งความมีชีวิตชีวา
“แค่เพียงเห็นหน้าคุณ ฉันก็ยอมทำทุกอย่างแล้วล่ะ”
สายตาของเขาในขณะนี้กำลังชื่นชมใบหน้าที่สวยสดใสที่อยู่ตรงหน้า เขามองเธอด้วยแววตาอ่อนโยนพร้อมกับหัวใจที่กำลังเต้นผิดจังหวะขึ้นเล็กน้อย…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในช่วงค่ำของวันนี้ แสงของพระอาทิตย์กำลังส่องกระทบตกลงบนกิ่งไม้ที่ถูกหักออกเป็นสองท่อนร่วงลงสู่ผืน
มาเดลีนยืนจับมือเจเรมี่ในขณะที่พวกเขาเดินก้าวเข้าไปในประตูบ้านมอนต์โกเมอรีอย่างสุภาพเรียบร้อย
เอโลอิสและฌอนเฝ้ารอให้ถึงเวลานี้อย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่เห็นใบหน้าอันงดงามของมาเดลีนได้ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา ดวงตาของทั้งคู่ได้เผยให้เห็นถึงความโหยหาและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
นั่นคงเป็นเพราะว่าใบหน้าที่เธอมีอยู่ในตอนนี้เหมือนกันกับลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาทุกประการ
พวกเขาไม่สามารถมีรอยยิ้มที่มีความสุขแบบนั้นได้นานนัก เพราะจิตสำนึกที่พวกเขาเคยได้ทำผิดกำลังหลอกหลอนจิตใจพวกเขา การที่มองไปที่ใบหน้าเธอเป็นเหมือนการปลอบประโลมพวกเขาให้บรรเทาจากความเจ็บปวดเล็กน้อย แม้ว่าทั้งคู่จะรู้ดีว่านี่เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวไปหน่อยก็ตาม
จากสถานการณ์ในตอนนี้ เอโลอิสและฌอนต้องการที่จะเข้าใกล้มาเดลีนมากขึ้นด้วยใจจริง
“คุณวีล่า คุณวิทแมน เชิญนั่ง” เอโลอิสให้การต้อนรับพวกเขาในฐานะเจ้าบ้านอย่างอบอุ่น ดวงตาของเธอไม่สามารถละออกจากใบหน้ามาเดลีนได้เลย “ยิ่งฉันมองเธอมากเท่าไหร่นะวีล่า เธอก็ยิ่งสวยงามขึ้นทุกครั้ง ต้องขออภัยด้วยหากว่าฉันกำลังทำให้เธอลำบากใจในคืนนี้”
“คุณนายมอนต์โกเมอรี ไม่ต้องพูดเป็นทางการเลยนะ แค่เรียกฉันว่าวีล่าก็พอ” มาเดลีนยิ้มแต่ยังคงรู้สึกประชดอยู่ในใจ
เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยใบหน้านี้ แต่สิ่งที่จะได้รับเป็นเพียงการปฏิบัติที่แสนเลวร้ายเท่านั้น
หัวใจของมนุษย์นั้นอยากรู้อยากเห็นในสิ่งนั้นเสมอโดยขณะที่ธรรมชาติของมนุษย์แล้วไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
ไดอาน่ายืนอยู่ในครัว ได้ยินเสียงดังมาจากห้องโถงทำให้เธอรู้ว่าแขกเดินทางมาถึงแล้ว เธอใช้สายตาอันดุดันจ้องมาเดลีนทันที
“เธอคนนี้เนี่ยนะเป็นแขกคนพิเศษที่คุณผู้หญิงกล่าวถึง?” อารมณ์บรรดาลโทสะ ความเกลียดได้โผล่ขึ้นมากในดวงตาไดอาน่าทันที “ผู้หญิงคนนี้เป็นแขกพิเศษประเภทไหนกัน?! เธอมันก็แค่ผู้หญิงสารเลวคนหนึ่งก็เท่านั้น เธอจะมีเกียรติได้ถึง 1 ใน 10 ของลูกสาวของฉันได้ยังไง?!” ไดอน่าสาปแช่ง และต้องการที่จะอยากทำร้ายมาเดลีนให้แหลกออกเป็นชิ้น ๆ แต่ในเวลานี้เธอทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธที่คิดเอาไว้เท่านั้น
เธอถือซุปในมือที่เพิ่งทำเสร็จเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อเธอเดินไปถึงมาเดลีน เธอเอ่ยคำขอโทษขึ้น “คุณวีล่า ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่คราวก่อนฉันจำคนผิดไปจนเกือบทำร้ายคุณ ฉันหวังว่าคุณคงไม่ถือสาในสิ่งที่ฉันทำ ฉันรู้ว่ามันยากที่จะให้อภัยแต่ถือว่ายกโทษให้ฉันด้วยเถอะนะ”
มาเดลีนได้ยินแบบนี้ เธอเปลี่ยนท่าทีที่เหมือนนางฟ้าที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของเธอที่เคยมีหายไป เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาหยิ่ง “เธออีกแล้วงั้นเหรอ? ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่อยู่อีก? คุณนายมอนต์โกเมอรี ทำไมถึงยังให้คนใช้แบบนี้ทำงานอยู่ที่นี่ต่อได้อีก? นี่คุณลืมเหตุการณ์ในตอนนั้นที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณเสียเลือดมากจนเกือบจะทำให้คุณถึงขั้นวิกฤตไปแล้วงั้นเหรอ?”
ทั้งสีหน้าและแววตาไดอาน่าเศร้าลงอย่างมากที่ได้ฟัง
“ไดอาน่าทำงานกับบ้านเรามามากกว่า 30 ปี ฉันจะไม่ให้อภัยเธอเลยหากเธอไม่ทุ่มเทในการดูแลพวกเรามาเสมอ ฉันตัดสินใจไม่ถือความเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อน”
“คนที่จิตใจดีมักจะถูกหลอก คุณนายมอนต์โกเมอรี สำหรับบางคนแล้วต่อให้คุณปฏิบัติดีกับพวกพวกเขาแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีวันคิดปรองดองกับคุณได้” มาเดลีนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่มองไปยังถ้วยซุปที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง “เธอเป็นคนทำซุปนี่งั้นเหรอ? ฉันขอโทษนะที่จะต้องบอกว่าฉันไม่อยากจะชิมมัน จะมีใครรับประกันได้ว่าเธอจะไม่ใส่อะไรมาทำร้ายฉันอีก?”
“…” ไดอาน่าก้มหน้าและกัดฟัน “คุณผู้หญิงคะ ฉันจะกลับไปทำงานต่อในครัว!”
เธอกัดฟันพูด น้ำเสียงของเธอฟังดูขุ่นเคืองในขณะที่หันหลังให้กับโต๊ะอาหาร แล้วเดินเข้าไปในครัว
มาเดลีนมองเห็นความโกรธที่อยู่ในตัวไดอาน่า เธอลุกขึ้นแล้วเดินตามไปที่ห้องครัว
เจเรมี่มองแผ่นหลังของมาเดลีนอย่างกังวลใจอยู่ในสายตาของเขาก่อนที่เขาจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินตามเธอไป
แทบจะในทันทีที่ไดอาน่าเข้าไปในครัว เธอใช้มีดทำครัวสับชิ้นเนื้อวัวที่อยู่บนเขียงเต็มแรงพร้อมกับสบบถ้อยคำร้ายแรงออกมา “มาเดลีน ยัยคนชั้นต่ำ!
“มาดูกันว่าเธอจะยังพึงพอใจกับตัวเองไปได้สักกี่น้ำ”
“ฉันจะฆ่าเธอเพื่อล้างแค้นบริทนีย์!”
“ฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงเกลียดฉันมากมายขนาดนี้” เสียงของมาเดลีนลอยเข้ามาในหัวของเธอ
ไดอน่าหยุดสับเนื้อทันทีเมื่อเห็นมาเดลีนเดินเข้ามาในครัว เธอเหวี่ยงมีดทำครัวแล้วตวัดชี้ไปที่มาเดลีน ความอาฆาตพุ่งออกมาจากดวงตาของเธอ
“มาเดลีน ยัยผู้หญิงชั่ว! วีล่า ควินน์ งั้นเหรอ? อย่างกับว่าฉันเชื่ออย่างนั้นแหละ! เธอคือ
มาเดลีน! เธอฆ่าบริทนีย์ไปจากโลกนี้ไป แต่เธอยังคงลอยนวลอยู่ งั้นก็ไปลงนรกซะ! ไปลงนรกเดี๋ยวนี้!”
หลังจากที่ได้ฟังคำดูถูกและเหยียดหยามอันโหดร้ายที่ไดอาน่าพูดออกมาแล้วนั้น มาเดลีนยิ้มออกมาอย่างอวดดี นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอแปลกใจเลย เธอกอดอกแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า และด้วยท่าทางที่เธอทำอยู่ตอนนี้ทำให้เธอดูเย็นชาและเย่อหยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
“ตาถึงดีนี่ ใช่แล้ว ฉันไม่ใช่วีล่าบ้าบออะไรนั่นอย่างที่เธอพูดจริง ๆ นั่นแหละ ฉันคือมาเดลีน!”