บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 421
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 421
“ดูไปตรงนั้นสิ” เอโลอิสชี้ไปที่สตูดิโอถ่ายรูปแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก นัยน์ตาของเธอดูเศร้าเหลือเกิน “ลูกสาวของฉันจากไปแล้ว ฉันรู้ดีว่าไม่สามารถชดเชยความเสียใจที่มีอยู่ในชีวิตนี้ได้อีกแล้ว สิ่งนี้เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องเยียวยาความเสียใจของพวกเราได้”
“เรารู้ว่าคำขอของเราจะดูเห็นแก่ตัวและล้ำเส้นมากไปเล็กน้อย แต่ถ้าเธอไม่เต็มใจ วีล่า พวกเราก็จะไม่บังคับ” ฌอนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการอ้อนวอน
มาเดลีนมองไปที่สตูดิโอถ่ายภาพที่อยู่ไม่ไกลและยิ้มบาง ๆ
สรุปว่าพวกเขาต้องการจะใช้ประโยชน์จากใบหน้านี้ของเธอเพื่อถ่ายรูปครอบครัว
เฟลิเป้พูดถูก บางทีการขอโทษอาจจะไม่ได้มาจากความจริงใจ พวกเขาก็แค่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
พวกเขาจะรู้สึกดีหลังจากที่ได้ถ่ายรูปครอบครัวกัน แต่ความรู้สึกเธอล่ะจะดีขึ้นด้วยหรือเปล่า?
มาเดลีนหัวเราะคิกคัก เธอหลับตาลงและนึกย้อนไปในวันที่เอโลอิสและฌอนแสดงปฏิกิริยาอย่างเย็นชากับเธออย่างชัดเจนในตอนนั้น
นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอในช่วงเวลานี้
“ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ไม่สามารถตอบตกลงตามคำขอที่ว่านี้ได้” มาเดลีนปฏิเสธ “ได้โปรดเข้าใจว่าฉันไม่อยากถูกมองว่าเป็นตัวแทนของมาเดลีน เธอมีชีวิตที่น่าเศร้ามากและฉันไม่ต้องการที่จะไปสวมรอยความเป็นเธอ และที่สำคัญฉันไม่อยากมีอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกับเธออีก”
หัวใจของเอโลอิสและฌอนดิ่งลงไปในเหวพวกเขารู้สึกถึงความว่างเปล่ากำลังครอบงำทุกส่วนของร่างกายและหัวใจ
“วีล่า ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด เราไม่ได้ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นตัวแทนมาเดลีน ไม่เป็นไรเลยถ้าเธอไม่เห็นด้วย บางทีพวกเราอาจจะขอมากเกินไปจริง ๆ อย่าถือสาเลยนะ” เอโลอิสรีบขอโทษ แม้ว่าดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยความเหงาและความเศร้า แต่เธอก็พยายามเต็มที่เพื่อที่จะทำให้มาเดลีนยิ้มออกมา
“วีล่า เธอเองให้ความช่วยเหลือพวกเรามากมายหลายครั้งในช่วงเวลานี้ ฌอนกับฉันเป็นคนที่ลืมคำนึงถึงจุดนี้ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
“ฉันเองก็ต้องขอโทษด้วย” ฌอนเองก็เอ่ยขอโทษออกมาเช่นกัน
“วีล่า เธอทั้งสวยและโดดเด่นกว่าใครและคุณวิทแมนเองก็ให้ความสำคัญกับเธอมาก ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่เป็นแบบลูกสาวของฉัน ฉันขออวยพรให้เธอพบเจอแต่สิ่งดี ๆ จากนี้ไป”
เอโลอิสมองมาเดลีนด้วยดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และหลังจากที่เธอเอ่ยคำอวยพรเช่นนี้ ภายในตาของเธอคลอด้วยน้ำตาอยู่ที่มุมตาอีกครั้ง เธอพยายามข่มตัวเองให้ยิ้มออกมา “อย่าทำให้วีล่าเสียเวลาอยู่เลย ฌอน ทำไมคุณไม่ไปส่งวีล่าล่ะ?”
“ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้” มาเดลีนยิ้มและหันหลังจากไปด้วยความมั่นใจ
‘สรุปแล้วฉันยังไม่สามารถที่จะทำให้ใจของตัวเองแข็งพอที่จะไม่รู้สึกอะไร แค่เห็นท่าทางที่ดูเศร้าของพวกเขาแค่นั้นก็ทำให้ใจของฉันเจ็บมากมายขนาดนี้แล้ว’
“ฌอน เราไปกันเถอะ เราไปที่สถานกักกัน พวกเราต้องไปถามเมเรดิธเรื่องขี้เถ้าของมาเดลีน”
มาเดลีนเดินไปได้ไม่ไกลนัก เธอได้ยินคำพูดของเอโลอิสดังขึ้นจากข้างหลังอย่างชัดเจน
‘ขี้เถ้าของฉันหายไป?’
“เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด! ผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจมาก เธอกล้าที่จะทำลายหลุมศพมาเดลีนและขโมยขี้เถ้าของเธอไป ทำไมบนโลกใบนี้ถึงมีคนที่จิตใจสกปรกเช่นนี้?!”
จังหวะก้าวขาของมาเดลีนช้าลงโดยไม่ตั้งใจ ในสมองประมวลผลของเธอสับสนลงเล็กน้อยในทันที
‘ว่าไงนะ เมเรดิธทำลายหลุมศพของฉันงั้นเหรอ? ‘ขี้เถ้า’ ของฉันเองก็ถูกขโมยไป?’
ช่วงเวลาที่เธอใช้ความคิดอยู่นั้น ภาพในวันที่เจเรมี่พาเธอไปที่สุสานก็ได้ออกมาเล่นงานเธอ
เขาพาเธอไปที่หลุมศพแห่งหนึ่ง และในตอนนั้นเองพวกเขาพบว่าหลุมศพนั้นถูกทำลาย ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ายกับมีน้ำตาอยู่ข้างใน ในขณะที่เขากำลังมองหาอะไรบางอย่างท่ามกลางซากปรักหักพัง
‘เป็นไปได้ไหมในตอนนั้น เขาจะตามหาขี้เถ้าของฉัน?
‘แล้วมันเป็นไปได้ไหมว่าที่ตรงนั้นเป็นหลุมฝังศพของฉันจริง ๆ’
เมื่อเธอพยายามจับต้นชนปลายเรื่องพวกนี้ แล้วหัวใจของมาเดลีนถูกฉีกขาดอย่างรุนแรง
เอี้ยดดดดดดด!
เสียงเบรคของรถดังก้องกังวานไปทั่ว
หลังจากที่เธอดึงสติตัวเองกลับมาและเห็นว่าตัวเองกำลังยืนอยู่กลางถนนด้วยความงุนงงและไม่รู้ตัว
ในช่วงเวลาความเป็นความตายที่อยู่เพียงแค่ครึ่ง อ้อมแขนหนึ่งกำลังกอดเธอไว้แน่นแล้วพาเธอไปอยู่ในที่ปลอดภัย
“วีล่า เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” น้ำเสียงที่ดูกังวลของฌอนดังขึ้นข้างบนหัวเธอ