บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 53
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 53
เสียงต่ำและทุ้มของเขาดังก้องอยู่ในหูของเธอและหัวใจเธอตอนนี้กำลังเต้นเร็วขึ้น ถึงอย่างไร เธอจะไม่มีคาดหวังอะไรที่ไร้สาระอย่างที่เคยมีอีกต่อไป ตอนนี้ ความรักที่มีต่อเจเรมี่ถูกครอบงำโดยความเกลียดชังที่เธอมีต่อเขา
มาเดลีนไม่คาดคิดว่าท่านปู่วิทแมนจะไม่รังเกียจที่เธอต้องเข้าคุกเป็นเวลาสามปี แต่เขา บอกให้ มาเดลีนเริ่มต้นชีวิตใหม่และใช้ชีวิตที่ดีที่เหลือกับเจเรมี่
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสท่านนี้มีความคิดดั้งเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า เขาควรโกรธและรังเกียจหลานสะใภ้ของเขาที่ได้ทำอาชญากรรมเช่นนี้ แต่ในขณะนี้ มาเดลีนยังคงตกตะลึงเธอรู้สึกซาบซึ้งและอบอุ่นอย่างไร้คำพูด
การกระทำของคุณปู่ท่านนี้ทำให้เธอนึกถึงปู่ของเธอที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นชายชราที่ใจดีและอบอุ่น
มาเดลีนร่วมรับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของวิทแมน เธอรับรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งว่าทุกคนที่นี่กำลังเยาะเย้ยเธอโดยเฉพาะแม่ของเจเรมี่
หลังจากที่ท่านขอตัวกลับไปก่อน แม่ของเจเรมี่เริ่มแสดงกริยาท่าทางดูถูกเธอทันที “ถ้าเธอฉลาดมากพอ เธอควรเป็นคนเสนอเรื่องการหย่าร้างที่ไม่ต้องมีการต่อรองและที่สำคัญต้องไม่ขัดขวางงานแต่งงานของเจเรมี่กับเมเรดิธ”
เธอวางมาดอย่างมากขณะที่กำลังดูถูกมาเดลีน
“เธอฆ่าลูกของเมเรดิธไปครั้งหนึ่ง ถ้าเธอมีจิตสำนึก เธอควรหย่ากับเจเรมี่ทันที”
นั้นทำให้ มาเดลีนเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ เธอมองไปที่เจเรมี่ เขานั่งอีกด้านหนึ่งและไม่พูดอะไรสักคำ มันชัดเจนมากว่านี่คือความตั้งใจของเขาเอง
เธออยากจะหัวเราะออกมา หลังจากที่พวกเขาพยายามพูดจาโน้มน้าวเธออย่างนี้มานาน ในที่สุดเธอก็รู้ว่าพวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของคุณปู่ พวกเขาจึงต้องการให้เธอเป็นคนพูดเรื่องการหย่าร้างออกมาเอง
จากนั้น เมเรดิธเดินเข้ามาพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยที่แก้มเป็นสีชมพูแดง
หัวใจของมาเดลีนเต้นแรง เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เป็นสีชมพูและอ่อนโยนของเด็กชาย เธอก็นึกถึงลูกสาวแสนรักของเธอที่เสียชีวิตไปอย่างน่าอนาถ
เธอมองไปที่เด็กที่ยืนอยู่ข้างๆเมเรดิธและหัวใจของเธอรู้สึกราวกับว่ามันถูกแทงด้วยมีด
ถ้าลูกของเธอยังไม่ตายตอนนี้เธอก็อายุเท่าเขา
ทันใดนั้น เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหัวใจของเธอ
เมื่อเห็นใบหน้าแห่งชัยชนะของเมเรดิธที่เริ่มชูคอขึ้น มาเดลีนกรีดยิ้มลึก “เหตุใด ฉันจะต้องเป็นคนฟ้องหย่า?”
เมื่อเธอถามคำถามนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเมเรดิธสลายหายไปอย่างปลิดทิ้ง
ปฏิกิริยาของเจเรมี่สงบลงอย่างน่าประหลาดใจ เขาเหลือบมองมาเดลีนด้วยความสนใจและไม่พูดอะไร
มาเดลีนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่เขามองเธอแบบนั้น “เจเรมี่ จำไว้นะฉันจะไม่หย่าเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น มันจะไปคุ้มค่าอะไรกับทุกสิ่งที่เคยทำเพียงเพื่อต้องการได้หลับนอนกับคุณ?”
เธอพูดแบบนี้โดยเจตนาเพียงเพื่อส่งต่อความน่ารังเกียจนี้ให้กับเมเรดิธและผู้คนที่แทบรอไม่ไหวที่จะเห็นเจเรมี่ทิ้งเธอ
“มาเดลีน! กลายเป็นคนชั้นต่ำขนาดนี้ได้ยังไง? อย่ามาหน้าด้าน!” แม่ของเจเรมี่พูดด้วยความโกรธ
มาเดลีนไม่สนใจ เธอเฝ้าดูดวงตาของเมเรดิธที่เริ่มเข้มขึ้น
เมเรดิธกำลังถูกปั่นหัวอย่างอารมณ์เสียมาก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอพูดกับมาเดลีน ด้วยน้ำเสียงอันบริสุทธิ์ใจและนุ่มนวลว่า“เเมดดี้ ฉันขอโทษ มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด เจเรมี่และเธอได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฉันเป็นคนโลภมากเกินไป ”
“ถ้าเธอรู้ตัวว่าโลภมาก ทำไมเธอไม่หายไปสักที? เธอภูมิใจไหมที่หลอกล่อผู้ชายที่แต่งงานแล้วสำเร็จ?” มาเดลีน ยังไม่จบง่ายๆกับเมเรดิธ
เมเรดิธตกตะลึงและมีการแสดงออกที่น่าอึดอัดบนใบหน้าของเธอ ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็วิ่งออกไป ในขณะที่เอามือคลุมใบหน้าของเธอด้วยความเสียใจ
“มัมมี่” เมื่อเห็นการเดินจากไปของเมเรดิธ เด็กคนนั้นก็เดินเตาะแตะตามเธอไปอย่างน่ารัก
มาเดลีนเบื่อที่จะดูเมเรดิธแสดง แต่น่าเสียดายที่มันยังใช้ได้กับคนเหล่านี้
เจเรมี่มองไปที่มาเดลีนด้วยสีหน้าเข้มก่อนจะหันหลังเดินตามเมริดิธไป แม่ของเจเรมี่ก็เดินจากไปในขณะที่บ่นพึมพรำ
มาเดลีนเดินจากไป แต่เธอคิดไม่ถึงว่าลูกของเมเรดิธและเจเรมี่ตามเธอออกมาด้วย
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่บอบบางและเหมือนเทวดาของเขา มาเดลีนก็ใจสลาย
ทำไมลูกน้อยของเธอต้องถูกเผาเป็นเถ้าถ่านอย่างโหดร้ายในขณะที่ลูกชายของเมเรดิธเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน?
ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน!
มาเดลีนกำหมัดแน่นและไม่สามารถควบคุมเปลวไฟแห่งความเกลียดชังในใจได้
เธอเดินตรงไปข้างหน้าเด็กน้อยอย่างเชื่องช้า….