บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 546
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 546
เมเดลีนประหลาดใจมากขึ้น เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านั้น
เธอค่อย ๆ จ้องไปที่ใบหน้าของเจเรมี่ ราวกับกำลังสงสัยว่าคนตรงหน้าเธอคือเขาจริง ๆ หรือเปล่า
ทว่า จากการตอบสนองของเมเดลีน ทำให้เจเรมี่รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
เขารู้ดีว่าบาดแผลและเรื่องร้าย ๆ ที่เขาทำกับเธอนั้นมากเกินไป
เขาอยากรู้ว่าเขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อชดใช้กับความผิดนี้
เจเรมี่รีบนำตัวเมเดลีนไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ห้างสรรพสินค้าที่สุด หลังจากที่ได้เจอหมอ เขาก็จำได้ว่าหมอคนนี้ คือ อดัม บราวน์
แม้ว่าก่อนหน้านี้อดัมจะเคยไปโรงเรียนพร้อมกับเจเรมี่ แต่เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับแดเนียล ดังนั้นเจเรมี่จึงระแวงเขาเล็กน้อย
“นายเป็นจิตแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เจเรมี่ถาม
อดัมยิ้มออกมาเล็กน้อยและหยิบนามบัตรจากลิ้นชักของเขาออกมา นามบัตรแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นจิตแพทย์ ดร.อดัม บราวน์
“ฉันไม่มีอะไรทำได้ดีไปกว่านี้แล้ว ฉันได้ทำการวิจัยและศึกษาเรื่องนี้มา นั่นดูไม่น่าจะเป็นปัญหาแล้ว ใช่ไหม?”
เจเรมี่พูดไม่ออกไปสักพัก เขากำลังเริ่มอธิบายอาการของเมเดลีน ในขณะที่จู่ ๆ เมเดลีนก็พูดว่า “เจเรมี่ คุณออกไปข้างนอกก่อนได้ไหม?”
คำขอของเธอทำให้เจเรมี่สับสนเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรเธอ และยอมออกไปข้างนอกในทันที
ทันทีที่เจเรมี่ออกไป เมเดลีนก็ขอร้องอย่างตรงไปตรงมา “ดร. บราวน์ ฉันคิดว่าเจเรมี่คงรู้เรื่องอาการป่วยของฉัน ถ้าเขามาถามเรื่องนี้ในภายหลังอีก คุณช่วยเก็บเป็นความลับให้ฉันด้วยได้ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้อดัมถึงกับตกใจมาก เมื่อเขามองเข้าไปในดวงตาที่จริงใจและชัดเจนของเมเดลีน เขารู้สึกเจ็บปวดข้างในใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูห้องให้คำปรึกษาก็เปิดออก และเมเดลีนก็มองเจเรมี่ด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย เธอบอกเขาว่าเธอต้องการไปเข้าห้องน้ำ และขอให้เจเรมี่ไปรอเธอที่ลานจอดรถ
เมื่อเขาเห็นว่าเมเดลีนยังคงมองมาที่เขาอยู่ เขาก็แสร้งทำเป็นหันหลังเดินออกไป เมื่อเมเดลีนเลิกมองมาที่เขาแล้ว เจเรมี่จึงเดินกลับไปที่ห้องทำงานของอดัม
เจเรมี่บอกเขาเกี่ยวกับอาการของเมเดลีนที่ได้เจอมา หลังจากอดัมได้ฟังสิ่งที่เขาพูด เขาก็ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน “หลังจากการปรึกษาเบื้องต้นแล้ว มีแนวโน้มเป็นอย่างมากว่าเธอกำลังมีอาการผิดปกติของตัวตนที่แตกแยกจากบาดแผลในใจ ซึ่งหมายความว่าเธอมีความบกพร่องทางความคิดในแง่ของตัวตนของเธอ จากที่คุณบอกผม ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นคนสองบุคลิก”
“คนสองบุคลิก?” เจเรมี่ประหลาดใจและหัวใจของเขาก็เจ็บปวดมากขึ้น
อดัมหรี่ตาลงอย่างเคร่งขรึม “เรายังคงต้องจับตาดูสถานการณ์ของเธอต่อไป เท่าที่ผมบอกได้ก็คือ ความทรงจำปัจจุบันของเมเดลีนยังคงติดอยู่ในวันที่เธอป่วยเมื่อหกปีที่แล้ว ที่เธอขอให้คุณออกไปเมื่อกี้นี้ เธอต้องการให้แน่ใจว่า ผมจะไม่บอกคุณเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ”
หลังจากที่เขาพูดออกมาอย่างนั้น อากาศในห้องก็คงที่และสงบลง
เจเรมี่รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นทันที
จู่ ๆ น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตาของเขา
ตอนที่เมเดลีนพบว่าตัวเองป่วยเมื่อหกปีก่อน เธอเลือกที่จะอยู่คนเดียว
ในตอนนั้น ตัวเขาเองที่กำลังตามใจเมเรดิธ ยัยปีศาจที่ตั้งใจทำลายตัวเธอจนร่างกายค่อย ๆ อ่อนแรงลง
ในขณะนั้น เศษเสี้ยวของอดีตดูเหมือนจะเป็นเศษแก้วที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วถูกทิ้งอยู่ในหัวใจของเขา ความเจ็บปวดจากหัวใจที่แตกสลายของเขารุนแรงมาก จนทำให้เขารู้สึกหายใจลำบากขึ้นมาในทันที
เขายืนรอเมเดลีนอยู่ที่ลานจอดรถด้วยความสับสนในใจ และเขาต้องแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้กลับไปคุยกับอดัม
เมเดลีนเดินกลับไปที่รถหลังจากนั้นไม่นาน และเห็นเจเรมี่ยืนรอเธออยู่ เธอรู้สึกว่าเขาแสร้งทำมัน และเธอก็เริ่มหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
เจเรมี่ยังคงเก็บความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในใจ จากนั้นเขาก็เปิดประตูรถให้เมเดลีนก่อนจะไปส่งเธอกลับไปยังคฤหาสน์
เมเดลีนที่ว่านอนสอนง่ายและดูอ่อนหวาน ผู้ซึ่งเชื่อฟังทุก ๆ คำพูดของเขา ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างขมขื่น
หลังจากที่มาถึงคฤหาสน์ เจเรมี่ก็ได้รับสายจากเอโลอิส
เจเรมี่ไม่ได้คิดจะกดตัดสายในเวลานั้น เขาตัดสินใจรับสายและยอมรับว่าเขาได้พาเมเดลีนมา
หลังจากนั้นเขาก็ได้วางสายไปโดยไม่พูดอะไรมาก แล้วเขาก็เก็บเสื้อผ้าและขับรถออกไป เพื่อที่จะพาเมเดลีนไปยังชายหาดของเอพริล ฮิลล์
เขาเช็คอินในโรงแรมเล็ก ๆ ริมชายหาด และพาเมเดลีนเข้ามาในโรงแรม
เมเดลีนรู้สึกสับสนและเดินตามเจเรมี่เข้าไปในห้อง เมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือของเจเรมี่ที่จับเธอไว้ หัวใจของเธอก็พองโตด้วยความดีใจ “เจเรมี่ ทำไมจู่ ๆ ถึงพาฉันมาที่นี่ล่ะ?”