บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 625
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 625
ชุดนอนด้านนอกเปิดออก ความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุม
แม้ว่าเฟลิเป้จะน่าหลงใหลเพียงใด แต่ความรู้สึกของเมเดลีนชัดเจนอย่างมาก
เธอจับมือของเฟลิเป้และปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ฉันขอโทษด้วย เฟลิเป้ แต่ฉันคิดว่ายังไม่พร้อม”
เมเดลีนลุกหนีออกจากอ้อมแขนของเฟลิเป้
เมเดลีนรู้สึกหายใจหายคอได้คล่องขึ้นมา ตอนที่พวกเขารักษาระยะห่างซึ่งกันและกัน
เฟลิเป้ที่รู้สึกขุ่นเคืองอยู่ภายในลุกขึ้นและกล่าวคำขอโทษ “ผมขอโทษด้วยเอวลีน ผมทำอะไรเกิดเลยไปหน่อย”
เมเดลีนส่ายหัว “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษด้วย ฉันจำเรื่องราวและความรู้สึกที่มีให้คุณไม่ได้ ฉันก็เลย…”
“ไม่เป็นไรครับ” เฟลิเป้ปลอบประโลมเธอด้วยรอยยิ้ม “อย่าฝืนใจตัวเองเลยครับ เดี๋ยวสักวันหนึ่งคุณต้องจำได้แน่”
“ขอบคุณนะคะ เฟลิเป้”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมเลย เด็กโง่ แม้ว่าจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ว่าพวกเราแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว และตราบใดที่หัวใจผมเชื่อมโยงกับคุณ คุณยังเป็นภรรยาของผมแน่นอน”
เฟลิเป้เดินเข้าไปกอดเมเดลีนและลูบไล้ปอยผมที่นุ่มสลวยดังปุยนุ่นของเธอ “อย่าคิดมาก และพักผ่อนเสียนะครับ”
“คุณก็เหมือนกันนะคะ”
เฟลิเป้พยักหน้านิดหน่อย “ฝันดีครับ”
เขายิ้มและหันหลังเดินออกไป แต่ในตอนที่เดินออกจากห้องของเมเดลีน ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาก็เลือนหายไปอย่างสิ้นเชิง
การที่เมเดลีนปฏิเสธเขา ไม่ได้หมายความว่าเธอยังหลงเหลือเยื่อใยกับเจเรมี่อยู่ แต่มันกลับชัดเจนมากพอที่จะบอกได้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย
ดวงตาของเขาฉายแววของความมุ่งร้ายอยู่ภายใน ก่อนที่จะกลับมาอบอุ่นและอ่อนโยนดังเดิม
‘เอวลีน
‘เธอจะต้องตกหลุมรักฉัน ฉันแน่ใจ
‘ฉันตัดสินใจเรื่องนี้ นับตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกแล้ว’
…
ค่ำคืนผ่านพ้นไป
เจเรมี่นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเรื่องที่เฟลิเป้จูบเมเดลีนตอนที่ออกไปตลอดทั้งคืน
เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้จนกระทั่งเมเดลีนกลับมาในตอนเช้าของวันถัดไป
เขาซ่อนความทุกข์และความวิตกกังวลไว้ภายใต้รอยยิ้มที่มีให้กับเมเดลีน ราวกับว่าไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น “มาแล้วเหรอ ลินนี่ คุณปู่เพิ่งจะเรียกหาคุณน่ะ”
เมเดลีนมองไปทางเตียงนอน “คุณปู่พูดอะไรอีกไหม?”
เจเรมี่ส่ายหัว “เปล่านะ คุณปู่พูดแค่นั้น”
หัวใจของเมเดลีนสั่นไหว เมื่อคิดว่าผู้อาวุโสเอ็นดูเธอมากมายแค่ไหนถึงเอาแต่เรียกหาแต่ชื่อเธอในเวลาแบบนี้
อีวอนอยู่ที่วิลล่าเช่นกัน ด้วยข้ออ้างที่ว่าเธอต้องดูแลคาเลน
ในขณะที่รับประทานอาหารเช้าอยู่กับคาเลนในห้องอาหาร เธอบังเอิญได้ยินบทสนทนาระหว่างเมเดลีนกับเจเรมี่
เธอรูสึกโล่งอกเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่านายท่านอาวุโสวิทแมนพูดได้เพียง ‘เมเดลีน’ เท่านั้น
เธอได้กล่องเครื่องเพชรและกระเป๋าสตางค์ไปอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่ายังไม่ได้ทำอะไรกันเครื่องเพชรในตอนนี้ แต่เธอใช้เงินที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ไปกับความบันเทิงที่บาร์เมื่อคืนแล้ว สิ่งเดียวที่น่าสนใจเมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนคือ เธอเจอชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้น…
ปัง!
ทันใดนั้นคาเลนทุบตะเกียบลงกับโต๊ะรับประทานอาหารอย่างแรง กระชากอีวอนออกจากความเพ้อฝันอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอหันมองและรู้ว่าคาเลนกำลังจ้องมองเมเดลีน
“ฮึ ทำไมแกถึงน่าไม่อายแบบนี้นะ?! ทำหัวฉันแตกกับขโมยเงินฉันไป แล้วยังเสนอหน้ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้ ราวกับตัวเองเป็นเจ้าของบ้านอยู่อีกเหรอ?”
“อย่าพูดเสียงดังไปสิคะ คุณป้าคาเลน ถ้าเจเรมี่ได้ยินขึ้น รังแต่จะกวนใจเขาเปล่า ๆ นะคะ” อีวอนกล่าวเตือนอย่างคนที่แสร้งทำว่าเป็นคนดี
แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของเธอราวกับน้ำมันที่สาดลงในกองเพลิงแห่งความเดือดดาลของคาเลนเสียมากกว่า
“ถ้าได้ยินแล้วมันจะทำไม? ครั้งนี้ฉันเป็นผู้เคราะห์ร้ายนะ เธอกำลังจะบอกให้ฉันเงียบปากทั้ง ๆ ที่ไอ้คนที่ทำความผิดมันยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้นนะเหรอ?” คาเลนขว้างตะเกียบในมือลงพื้นและกระทืบเท้าตรงเข้ามาหาเมเดลีน
“เจเรมี่ไม่ใช่สามีของแกแล้ว เมเดลีน แกไม่มีธุระอะไรกับบ้านวิทแมนอีก แล้วทำไมแกถึงยังเสนอหน้ามาที่นี่ได้ทุกวันล่ะ? มาเป็นสิ่งอุจาดลูกตาที่ทำให้ชีวิตฉันลำบากขึ้นรึไง?”
เมเดลีนหันหลังไปหาเธอและยิ้มตอบโต้ “คุณก็แค่มองไปทางอื่นสิ ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นของอุจาดลูกตาน่ะ”