บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 651
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 651
เมเดลีนตามฟิลิปเป้ออกไปซื้อของด้านนอก หลังจากช้อปปิ้งไปได้หนึ่งรอบ เฟลิเป้จึงชวนเมเดลีนมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านคาเฟ่ชื่อดังแห่งนี้
ทันทีที่เดินขึ้นมาบนระเบียงร้านด้านนอก เมเดลีนเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเอนกายพิงแขนของชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก
เธอมองพวกเขาอย่างไม่แยแสมากนัก แต่เมื่อจ้องมองดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอก็รู้ตัวว่าชายหนุ่มคนนั้นคือเจเรมี่
เจเรมี่กำลังกอดกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่
“เอวลีน เป็นอะไรไปเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเมเดลีนกำลังมองไปในทิศทางนั้นอย่างว่างเปล่า เฟลิเป้จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
เมเดลีนรีบหันหน้ากลับมา “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่คิดว่าร้านนี้ดูแปลกตาจัง”
เธอนั่งลงที่มุมหนึ่งของร้านโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อเหลือบมองดูอีกครั้ง เธอเห็นหญิงสาวที่เมื่อสักครู่อยู่ในอ้อมแขนเจเรมี่ ตอนนี้กำลังไปเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
เฟลิซิตี้นั่งหันหลังให้เมเดลีน ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวคนนี้ได้อย่างชัดเจน แต่แค่มองมาจากด้านหลัง เมเดลีนบอกได้เลยว่าเธอคงได้รับการอบรมเรื่องมารยาทมาค่อนข้างดี คิดว่ารูปร่างภายนอกคงไม่ต่างกัน
เมื่อพนักงานนับเมนูมาให้ เมเดลีนละสายตาออกมาจากเธอ
อีกด้านหนึ่ง เฟลิซิตี้นั่งลงและเอ่ยคำขอโทษเจเรมี่พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “ฉันต้องขอโทษคุณจริง ๆ นะคะ คุณวิทแมน ฉันเพิ่งจะใส่รองเท้าคู่นี้ได้ไม่กี่ครั้งเลยยังไม่ค่อยชินน่ะค่ะ และขอบคุณมากนะคะที่คุณรับฉันไว้ทัน”
ใบหน้าที่เบื่อหน่ายของเจเรมี่เพิ่มความรู้ด้านลบด้วยความเย็นชาขึ้นไปอีก “ผมหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองอีกนะครับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟลิซิตี้หายไปในทันตา และหลังจากนั้นสองวินาที เธอให้คำตอบที่ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความดีงามกับเขา “ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ คุณวิทแมน จะไม่มีครั้งต่อไปแน่นอนค่ะ”
เมเดลีนสั่งกาแฟเย็นมาดื่มและสายตาเธอเลี่ยงไม่ได้ที่จะมองไปยังทางที่เจเรมี่นั่งอยู่
แน่นอนว่าเฟลิเป้รับรู้ได้ แต่แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไรเลย จากนั้นเขาหาข้ออ้างไปห้องน้ำ แล้วเขาก็ลุกออกไป
เมเดลีนและเจเรมี่นั่งหันหน้าหากันซึ่งห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร แต่เมเดลีนกลับรู้สึกว่าเจเรมี่ไม่รู้สึกตัวว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้เลย
ขณะที่เขากำลังพูดคุยบางอย่างกับหญิงสาวตรงหน้า เมเดลีนสังเกตเห็นทันทีว่ามือข้างซ้ายของเจเรมี่ที่กำลังยกกาแฟขึ้นมาดื่มไม่มีแหวนแต่งงานอยู่
เท่านี้ก็ชัดมากพอแล้วว่าเขาถอดแหวนแต่งงานออกไป
ทันใดนั้น เมเดลีนเผยรอยยิ้มออกมา และหัวเราะให้กับความมั่นใจและความคิดอันใสซื่อของตนเอง
ตรงหน้าประตูสถานีตำรวจก่อนหน้านี้ สายตาของเขาเผยให้เห็นถึงความสิ้นหวังขณะที่นั่งมองแหวนแต่งงานในนิ้วมือราวกับว่าเขาไม่อยากจะถอดมันออกไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขาทำทั้งหมดก็แค่การแสดงตบตา
เท่านี้ก็ชัดเจนมากพอแล้วว่าเขาไม่ได้รักเธอแล้ว
คำว่ารักที่ออกจากปากเขาไม่มีความหมายอะไรมากมายไปกว่าความต้องการชดใช้ความผิดมากมายที่เขาเคยทำกับเธอ
เขาไม่แม้แต่หันกลับมามองตอนที่เธอกำลังจะจมน้ำ นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่รักเธออีกแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่มาให้เธอเห็นเลยตอนที่ออกจากโรงพยาบาลวันนั้น
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่ปรากฏตัวในวันที่เธอจะขึ้นเครื่องและออกไปจากเกลนเดล
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ลังเลแม้สักวิเดียวที่จะไปหย่ากับเธอ
‘เพราะว่าเขาไม่รักฉันแล้วยังไงละ ความรู้สึกรักใคร่ที่เขาเคยมีหายไปสิ้น และแหวนแต่งงานที่เคยอยู่ตรงนิ้วนางข้างซ้ายตอนนี้หายไปแล้ว ต่อจากนี้เขาจะไม่มีพันธะหรือเยื่อใยใด ๆ กับฉันอีกแล้ว
‘แต่นี่ก็เป็นฉากจบสำหรับเรื่องราวของเราที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ
‘ฉันจะต้องใส่ใจมันอีกทำไมล่ะ’
เมเดลีนที่สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวตั้งคำถามกับตนเองพลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
กาแฟเย็นไหลผ่านลงไปในคอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงกลิ่นหอมหวานและนุ่มละมุนของกาแฟเลย มีเพียงแค่ความขมขื่นเพียงเท่านั้น…
เมื่อเฟลิเป้กลับมา เขาเห็นเมเดลีนกำลังนั่งหมุนแก้วกาแฟอย่างใจลอย เขาหันไปมองทางเจเรมี่ที่นั่งอยู่ และกลับมานั่งลงข้าง ๆ เมเดลีน “เอวลีน ความจริงแล้วเราก็หาซื้อของพวกนี้ที่เมืองเอฟก็ได้นิ ไม่เห็นจะต้องซื้อของกลับบ้านเยอะแยะแบบนี้เลย”
“ค่ะ” เมเดลีนตอบกลับเขาอย่างนุ่มนวล “ถ้างั้น เราไปกันเถอะค่ะ ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”
เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมาและมองไปยังเจเรมี่ที่ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย จากนั้นเธอจึงหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง
เฟลิเป้เดินตามลงไป และในเวลาเดียวกัน เขาส่งข้อความหาเฟลิซิตี้
หลังจากที่ได้รับข้อความจากเฟลิเป้ เฟลิซิตี้จิบกาแฟเป็นครั้งสุดท้ายอย่างไม่เต็มใจ เมื่อมองไปยังหน้าตาอันหล่อเหลาที่เธอหลงใหลได้ปลื้มมาเป็นเวลาหลายปี เธอก็กระตุกรอยยิ้มกว้างที่ริมฝีปากสีแดงสดของเธอ
“คุณวิทแมนค่ะ ฉันว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าค่ะ พวกเราค่อยมาคุยเรื่องประเด็นสำคัญในการรักษาอาการของคุณต่อในวันพรุ่งนี้ดีกว่าค่ะ ตาบใดที่คุณให้ความร่วมมือตลอดการรักษานี้ ฉันเชื่อค่ะ ว่าดวงตาของคุณจะต้องกลับมามองเห็นอีกแน่นอน”
เจเรมี่เอ่ยขึ้นอย่างสงบนิ่ง “ขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากด้วยนะครับ”
เฟลิซิตี้มองด้วยสายตาที่แทบจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินจากไป