บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 664
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 664
“ว่าไงจ๊ะ คนสวย มาเล่นกับพวกพี่สามคนดีกว่าไหมจ๊ะ? พวกพี่ไม่ทำอะไรรุนแรงหรอกนะ”
พวกอันธพาลทำเป็นหมาหยอกไก่ในขณะที่สายตาอันหื่นกระหายของพวกมันจับจ้องไปที่ใบหน้าและเรือนร่างของเมเดลีน
เมเดลีนหันไปมองผู้ชายสามคนตรงนั้นด้วยท่าทีขยะแขยง สายตาของเธอคมกริบและเย็นยะเยือก “ออกไปให้พ้น”
ชายหาดกว้างใหญ่และปราศจากผู้คน เจเรมี่ซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงเมเดลีนแว่วเข้าหู
เขาหันหน้าไปทางต้นเสียงเพื่อตั้งใจฟัง แต่เขาได้ยินเสียงอันหยาบคายของชายฉกรรจ์หลายคนแทน
“ช่างเป็นท่าทีที่อาจหาญอะไรขนาดนี้!”
“พอดีว่าพวกเราชอบคนสวยที่ปากกล้าแบบนี้ด้วยสิ!”
“มามะ พวกเราจะทำให้คนสวยไปถึงสวรรค์เองนะ!”
เมเดลีนจ้องมองไปยังพวกนั้นด้วยสายตาอันเย็นชา “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ไปไกล ๆ”
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเมเดลีนต่อต้านมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้อันธพาลขี้เมาสามคนนั้นคึกคักขึ้นเท่านั้น
“ลินนี่?” ตอนนี้เจเรมี่มั่นใจได้แล้วว่านั่นคือเสียงของเมเดลีนจริง ๆ
เขาไม่คิดว่าเมเดลีนจะอยู่แถวนี้ และไม่รู้ว่ามีพวกอันธพาลสามคนคุกคามเธออยู่
สายตาของเขาดำมืดลงขณะที่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารีบก้าวเท้าไปในทิศทางที่เสียงดังมา
ตอนนี้ชายฉกรรจ์สามคนนั้นเริ่มลูบมือและเรียวขาของเมเดลีน เมเดลีนใช้ศิลปะป้องกันตัวที่ตนเรียนมาทำให้หนึ่งในชายฉกรรจ์ล้มหน้าคว่ำ
เมื่อเห็นว่าเมดลีนมีทักษะการป้องกันตัว ที่เหลืออีกสองคนก็ยิ่งแสดงท่าทีโอ้อวดมากขึ้น
“พี่ชาย ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริง ๆ พวกเราคงไม่ใช่ชายผู้องอาจเป็นแน่ ถ้าคืนนี้เราไม่จัดการกับสาวสวยคนนี้ซะ มา! ไปจับตัวเธอมา!”
อันธพาลทั้งสามพุ่งตัวเข้าไปรวบเมเดลีนพร้อมกัน ทันใดนั้นเธอปล่อยหมัดออกไปกัน แต่ถูกชายคนหนึ่งจับแขนเอาไว้ได้
“ไปกันเถอะ!” เธอขัดขืนโดยการยกข้อศอกขึ้นฟาดไปที่อกของชายคนหนึ่ง เมเดลีนผู้ปราศจากความอ่อนแอยกขาขึ้นถีบอันธพาลอีกคนที่เข้ามาใกล้เธอ
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ามีความแตกต่างกันด้านความแข็งแรงระหว่างผู้ชายและผู้หญิงอยู่ แขนทั้งสองของเมเดลีนถูกจับไว้แน่น
ชายสองคนจับแขนของเธอคนละข้างในขณะที่อีกคนยิ้มอย่างสะใจพลางเดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีที่หวังจะทำอะไรมิดีมิร้าย
“อ้าว คนสวย ขยับตัวไม่ได้แล้วสินะ? ในที่สุดก็รู้สักทีว่าพวกเราสามคนแข็งแรงแค่ไหน!”
แคว่ก!
ชายคนนั้นฉีกเสื้อโค้ทของเมเดลีนออกอย่างแรง เมื่อเห็นเนื้อหนังของเมเดลีนใต้แสงจากหลอดไฟข้างถนน พวกมันทั้งสามคนตาลุกวาวและเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา
เมื่อได้ยินว่าชายคนนั้นจะข่มขืนเมเดลีน เจเรมี่เตะเข้าไปยังชายที่ต้องการจะลวนลามเมเดลีนอย่างกับลมสลาตัน
“โอ้ย!” อันธพาลคนนั้นล้มกลิ้งไปกับพื้นและร้องโอดครวญออกมา
“ลินนี่?” เขามองหาเมเดลีนอย่างเป็นกังวล
ดวงตาของเมเดลีนกลับมามีประกายอีกครั้ง “เจเรมี่ ฉันอยู่ตรงนี้!” เธอตะโกนให้เขาได้ยิน เมื่อเห็นว่าอันธพาลจับแขนเธออยู่เสียสมาธิ เธอพลันรีบสะบัดแขนออกมาและวิ่งไปหาเจเรมี่
เมื่อสัมผัสได้ว่าเมเดลีนวิ่งใกล้เข้ามา เจเรมี่อ้าแขนรับเธอเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณ เขาโอบกอดเธออย่างเป็นกังวล “ลินนี่ ลินนี่ นั่นคุณจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” เมเดลีนตอบกลับ จากนั้นไม่นาน เธอรู้ได้ว่าเจเรมี่กอดเธอแน่นมากเสียจนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นดังออกมา จมูกของเธอได้กลิ่นร่างกายของเขากระจายไปทั่ว
ทันทีที่โอบกอดเมเดลีน เขารู้ได้ว่าเสื้อผ้าของเธอขาด
ดวงตาของเขายิ่งเย็นชามากขึ้น เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตเอาไปใส่ให้กับเมเดลีน “ลินนี่ คุณมาที่นี่ทำไม?”
“ฉันบอกคุณแล้วไง ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ” เมเดลีนตอบกลับอย่างใจเย็น
“เนท เป็นไรไหม?”
“แม่งเอ้ย! ไอ้หนุ่มหน้ามนที่มาขโมยผู้หญิงของเรามันโพล่มาจากไหนวะ?”
“เนท ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นแฟนกันวะ!”
อันธพาทั้งสองคนมองไปยังเจเรมี่ผู้ที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาเกินจะบรรยายแต่กลับเย็นยะเยือก พวกเขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ในหัวของเนทกลับยิ่งโอหังมากยิ่งขึ้น
“ฉันไม่สนหรอกนะ ว่ามันจะเป็นผัวเมียกันหรือเปล่า ฉันจะเอานังผู้หญิงคนนั้นวันนี้! ฉันจะเอาเธอแม้ว่าไอ้หน้าละอ่อนนั่นมันจะเป็นผัวเธอก็ตาม!”