บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 672
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 672
เจเรมี่ตกใจ เขาไม่รับรู้เลยว่ามีบางคนเดินเข้ามาใกล้เขา ยิ่งไปกว่านั้น คนนั้นยังเป็นคนที่เขารักหมดใจอีกด้วย
“เจเรมี่ ฉันถามคุณอยู่นะ ทำไมถึงไม่รับสายฉัน?” เมเดลีนเอ่ยถามด้วน้ำเสียงเรียบเฉย
ผ่านไปหลายวินาทีก่อนที่เจเรมี่จะตอบ “ผมไม่รู้ว่าคุณโทรหาครับ คุณมอนต์โกเมอรี และดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราไม่มีเรื่องอะไรต้องพูดกันอีกแล้วด้วยนะครับ”
เมื่อได้ยินความคิดอันเย็นชาและเฉยเมยของเขาที่ราวกับว่าเขาต้องการตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเขากับเธอ ในหัวของเมเดลีนก็มีแต่คำพูดพวกนั้นวนเวียนไม่จบไม่สิ้น
แม้จะชัดเจนแล้วว่าเธอเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถเอ่ยถึงมันได้อีก
เมเดลีนหัวเราะ แต่ดวงตาของเธอร้อนผ่าวขณะที่เอ่ยขึ้น “เจเรมี่ คุณแน่ใจแล้วเหรอ ว่าไม่มีอะไรจะพูดกับฉันแล้วจริง ๆ?”
เจเรมี่ส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่มีสักคำเดียว”
“ก็ดี เจเรมี่ ถ้าคุณพูดแบบนั้น…” เมเดลีนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะเจอหน้ากัน ตั้งแต่นี้ต่อไป คุณกับฉันจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก พวกเราจะได้ไม่ต้องคิดถึงกันอีก”
เจเรมี่นั่งฟังราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มือทั้งสองข้างกำหมัดไว้แน่นอยู่ตลอดเวลา
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเมเดลีนไกลออกไป เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้จนแน่ใจแล้วว่าเมเดลีนกลับไปแล้วจริง ๆ จากนั้น เขารีบลุกขึ้น ค่อย ๆ คลำทางไปยังหน้าประตู เขามองไปยังทิศทางที่เธอเดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน น้ำตาของลูกผู้ชายคนหนึ่งได้ไหลรินออกมา
“ลินนี่ ทำไมพระเจ้าถึงเล่นตลก ทำให้คนสองคนที่ไม่สามารถรักกันได้ในเวลาที่ถูกที่ควร ต้องมาพบเจอกันด้วย?” เขาตั้งคำถามกับตนเอง โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีน้ำตาไหลรินออกมามากมายเท่าใด
“ลินนี่ ผมหวังว่าจะเฟลิเป้จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำให้คุณไม่ได้”
“จำไว้เสมอนะว่าคุณต้องลืมผมให้ได้ แต่คุณจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของผมตลอดไป”
เขาสารภาพความในใจที่อัดแน่นอยู่และไม่สามารถพูดออกไปได้ ในทิศทางที่เมเดลีนหายลับไป
หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง เขาเดินหันหลังกลับไปด้วยความสิ้นหวัง
ถึงกระนั้น เขาไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าเมเดลีนไม่ได้หายไปไหน เธอยังยืนฟังเขาพรรณนาความจริงที่ออกมาจากใจอย่างนิ่งเงียบห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่นิ้ว พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น
ในตอนนี้เมเดลีนเชื่อไปทั้งหัวใจแล้วว่าเจเรมี่จริงใจกับเธอมากขนาดไหน
ไม่เหมือนกับสิ่งที่เฟลิเป้และเอวาพูดว่าเจเรมี่จงใจเข้าใกล้เธอเพื่อที่จะได้ล้างแค้นให้เมเรดิธและโกหกว่ารักเธอ
เขาไม่ได้โกหกเลย
เขารักเธอสุดหัวใจ
ครั้งหนึ่งความรักของเขาช่างดื้อดึงและครอบงำทุกความรู้สึก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเสียงอันเงียบงันที่เขาตั้งใจปิดผนึกมันเอาไว้ในใจ
เมเดลีนเดินกลับมาขึ้นรถเพื่อที่จะควบคุมอารมณ์
‘บนเกาะวันนั้น นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันส่งเมเดลีนให้กับมือนาย ฉันก็ตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่มีวันหาทางที่จะไปเจอหน้าเธออีกทั้งชีวิต’
ประโยคนั้นของเจเรมี่ดังก้องอยู่ในหูเธออีกครั้ง
เธอคิดมาเสมอว่าหลังจากที่เธอตกน้ำวันนั้น เจเรมี่เดินกลับไปโดยที่ไม่ได้หันหลังกลับมามองเธอเลย
ตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริงมากนัก ในทางกลับกันตัวตนอีกด้านหนึ่งของเฟลิเป้ก็ทำให้เธอตกตะลึงไปเช่นกัน
เธอเอาแต่เชื่อเฟลิเป้มาโดยตลอด ไม่เคยนึกสงสัยหรือเคลือบแคลงใจเขาเลยสักครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เธอคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะเป็นแบบนี้
เมเดลีนตัดสินใจที่จะสืบหาความจริงของเรื่องนี้ ในขณะที่เธอกำลังจะออกไป เธอก็เห็นรถที่คุ้นตาขับเข้าไปที่ประตูวิลล่า
หลังจากที่รถจอดสนิท เฟลิซิตี้ วอล์คเกอร์ก็เดินลงมาจากรถคันนั้น
เมื่อเห็นผู้หญิงที่ดูเหมือนเธอมากเดินลงมา สัญชาตญาณของเมเดลีนบอกว่าจะต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
เธอแอบถ่ายรูปภาพป้ายทะเบียนรถคันนั้นและกดโทรออกไปหาใครคนหนึ่ง “แดน คุณช่วยตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
แดเนียลตอบตกลงและรีบโทรกลับมาหาเธอโดยไว เมเดลีนตกตะลึงอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ