บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 734
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 734
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้นเหรอ? ทำไมเฟลิเป้ถึงไม่ยอมให้คุณทั้งสองคนอยู่ด้วยกันล่ะ?”
เคธี่หลบสายตาของเมเดลีนที่หรี่มองเธอด้วยความสงสัย “คนที่ฉันชอบเขามีคนที่รักอยู่แล้ว เฟลิเป้กังวลว่าฉันจะถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น เขาเลยขอให้ฉันเลิกชอบเขา”
เมเดลีนมองเคธี่ราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ “แต่ดูเหมือนว่าคุณกำลังอุ้มลูกของเขาอยู่ไม่ใช่หรือไง?”
“…” สีหน้าของเคธี่เปลี่ยนไปเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีบอดี้การ์ดและสาวใช้อยู่ใกล้ ๆ เธอจึงจับมือเมเดลีนและเดินไปประชิดตัว เธอขอร้องว่า “อีวี่ ขอร้องหละ อย่าบอกเฟลิเป้นะ เขาฆ่าฉันแน่ อย่าให้เขารู้เรื่องนี้นะอีวี่ ถือว่าฉันขอร้องคุณแล้วกันนะ!”
เมเดลีนไม่คิดว่าเคธี่จะตอบสนองแบบนี้
เธอไม่ได้คาดคิดว่าเคธี่จะกลัวจนขนาดคิดว่าเฟลิเป้จะฆ่าเธอ
เฟลิเป้เป็นสุภาพบุรุษที่สง่างามและสงบเสงี่ยมสำหรับเธอเสมอ ดูจากตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเขามีหลายด้านที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อเคธี่เห็นว่าเมเดลีนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เธอก็ถามอย่างประหม่าว่า “อีวี่ อีวี่? คุณจะไม่บอกเขาใช่ไหม?”
เมเดลีนส่ายหัว “ไม่บอก แต่ในไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรู้อยู่ดี”
เคธี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่า เมเดลีนเหมือนเห็นตนเองในอดีตเมื่อเธอมองไปยังเคธี่ เธอเคยโง่งมขนาดนั้นมาก่อน
เคธี่ยิ้มและสัมผัสท้องของเธอ “เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันจะหาข้ออ้างที่จะไปจากที่นี่เอง ฉันจะไม่ให้เขารู้”
“แม้รู้ว่าเฟลิเป้จะโกรธกับสิ่งที่ฉันทำลงไป แต่ฉันก็อยากจะเป็นแม่ของเด็กคนนี้จริง ๆ แม้ว่าคนที่ฉันรักจะรักฉันไม่ได้ แต่นี่จะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดระหว่างฉันกับเขา”
เมเดลีนนึกถึงลิเลียนขึ้นมาทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของเคธี่ เธอรู้สึกปวดใจขณะที่น้ำตาเริ่มเอ่อล้นในดวงตาของเธอ
สำหรับผู้หญิงแล้วลูกไม่เพียงแต่จะเป็นโซ่ทองคล้องใจของเธอกับผู้ชายของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป
อันที่จริง เฟลิเป้รู้ว่าเมเดลีนเข้าไปในห้องทำงานของเขาทันทีที่เธอเข้าไป
เขายังกะไว้แล้วว่าเคธี่ต้องปรากฏตัวขึ้น
เมื่อคืนนี้เขารีบร้อนไปจัดการอะไรบางอย่าง จึงทำให้มีบางอย่างในห้องทำงานนี้ที่เขาไม่อยากให้เมเดลีนเห็น นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องหยุดไม่ให้เธอขุดคุ้ยเอกสารของเขา
แต่แล้ว เขาก็ยังคงเห็นเมเดลีนหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา และพลิกดูไปมาอยู่หลายหน้า
เขารีบจัดการเรื่องของตัวเองให้เสร็จและกลับมาที่เกลนเดลด้วยเที่ยวบินในวันรุ่งขึ้น
เคธี่ไม่รู้ว่าเฟลิเป้จะกลับมาเร็วขนาดนี้ เธอรีบซ่อนเสื้อผ้าเด็กที่เธอซื้อมาอย่างรวดเร็วและเก็บผลการตรวจครรภ์ไว้ใต้หมอนของเธอ
เธอรีบเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาเธอ เธอไม่เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขามีความอบอุ่นแม้แต่น้อย ออร่าของเขาแพร่กระจาย ทำให้เขาดูยากที่จะเข้าถึง
เฟลิเป้เดินเข้าไปในห้องทำงานอย่างรวดเร็วและเปิดดูสมุดของเขา เมื่อเขามองดูบันทึกที่เขาเขียนลงไป ดวงตาสีเข้มของเขามีประกายแวววาว
“เฟลิเป้ ทำไมคุณถึงกลับมาเร็วจัง?” เคธี่เข้ามาหาเขาและถามอย่างระมัดระวัง
เฟลิเป้มองเคธี่อย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็โยนสมุดบันทึกไปด้านหนึ่ง “เธอจำได้ไหมว่าฉันขอให้เธอทำอะไรก่อนที่ฉันจะไป? ฉันบอกแล้วว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในห้องทำงานของฉัน แต่เธอได้ทำแบบนั้นไหม?”
หัวใจของเคธี่เต้นเร็วขึ้น เธอไม่กล้าที่จะสบตาของเฟลิเป้
เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาที่เดินเข้ามา เคธี่ก็กำนิ้วอย่างผิดปกติและถอยหนีด้วยความกลัว
เฟลิเป้จับคางของเคธี่ด้วยนิ้วอันเย็นเฉียบของเขา และบังคับให้เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขา
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาดูเย้ายวนและมีเสน่ห์เกินไป มันเหมือนกับว่ามันมีพลังให้เธอคอยคล้อยตามอยู่ตลอด
“รู้ไหม ถ้าทำพลาดจะโดนอะไร?” ดวงตาของเขามืดลง
เคธี่รู้สึกหวาดกลัว เธอรู้สึกหนาวสั่นมาจากปลายเท้าของเธอ “เฟลิเป้…”
“เธอไม่มีสิทธิ์เรียกชื่อฉันแบบนั้น มีเพียงเอวลีนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงนั่น”
น้ำเสียงของเขาไร้ซึ่งความอบอุ่นใด ๆ และรู้สึกเหมือนกับว่าภูเขาน้ำแข็งกำลังพุ่งเข้าชนกับเคธี่ ในขณะนั้นเธอกำลังหายใจลำบาก
เธอรู้ว่าหัวใจของเฟลิเป้ไม่มีที่ว่างให้เธอ เธอรู้ด้วยว่าเธอจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงหากเธอไม่ทำตามที่เขาบอก แต่…
ทันใดนั้นเฟลิเป้ก็ปล่อยมือ นัยน์ตาสีเข้มของเขากวาดมองใบหน้าที่สั่นเทาของเคธี่ราวกับสายลมที่เย็นยะเยือก จากนั้นเขาก็สั่งบอดี้การ์ดนอกประตูอย่างไร้ความรู้สึก “สั่งสอนเธอให้จำขึ้นใจ”