บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 765
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 765
มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
เจเรมี่จะกอดเมเดลีนได้อย่างไร?
เขาหลุดพ้นจากการสะกดจิตแล้วเหรอ? นั่นเป็นไปไม่ได้!
เมเรดิธตะโกนอย่างกระวนกระวายใจ “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ เจเรมี่? ทำไมคุณถึงกอดผู้หญิงคนนี้? คุณเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฉันอีกแล้วเหรอ?”
เจเรมี่กลับออกมาความเป็นจริงและหันไปมองเมเดลีน สองวินาทีต่อมา เขาก็ปล่อยเธอ
เมเรดิธรีบวิ่งไปดึงเจเรมี่ออกมาทันที ขณะที่เธอจ้องมองเมเดลีนด้วยความเกลียดชัง “โปรดระวังพฤติกรรมของคุณด้วย คุณมอนต์โกเมอรีหยุดพยายามเกลี้ยกล่อมคู่หมั้นของฉัน คุณเป็นตัวปลอม แม้ว่าคุณจะทำศัลยกรรมให้ดูเหมือนฉัน แต่เจเรมี่จะไม่ตกหลุมรักคุณหรอก!”
เมื่อเธอได้สติขึ้นมา เมเดลีนก็ยิ้มให้เธออย่างสง่างาม “คุณกำลังกล่าวหาว่าฉันทำศัลยกรรม? ว่าฉันเปลี่ยนลุคเพื่อเลียนแบบคุณ เพื่อจะได้เกลี้ยกล่อมเจเรมี่ใช่ไหม?”
“ในที่สุดคุณก็ยอมรับมันแล้ว คุณมอนต์โกเมอรี” เมเรดิธโต้กลับ
เมเดลีนยังคงไม่สะทกสะท้าน “ถ้าคุณมั่นใจมาก คุณวอล์คเกอร์ แล้วเราจะทำแบบนี้ได้ยังไง เราดูคล้ายกันเกินไป พวกเราคนหนึ่งเคยทำศัลยกรรมมาอย่างแน่นอน มาสาบานกันไหมล่ะ ขอให้ยัยตัวแสบที่ทำตัวเหมือนคนรักและพยายามเกลี้ยกล่อมเจเรมี่ จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกทำให้เสียโฉมและอวัยวะของเธอล้มเหลว ก่อนที่จะเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองและน่าสมเพชเอาไหมล่ะ”
“…”
เมเรดิธไม่คิดว่าแมเดลีนจะตอบกลับเธอแบบนั้น ถึงกระนั้น ไม่มีทางที่เธอจะเต็มใจสาบานและสาปแช่งตัวเอง
“นี่อะไร? คุณกลัวเหรอ คุณวอล์คเกอร์?”
“ฮึ ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันจึงไม่มีอะไรต้องกลัว เฉพาะของปลอมอย่างคุณ ถึงได้คิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณ”
ด้วยข้อแก้ตัวดังกล่าว เฟลิซิตี้จึงหันไปมองเจเรมี่ รัศมีของเธอเปลี่ยนไปเป็นลูกแกะตัวน้อยที่ไร้พิษสงทันที “กลับไปที่ที่นั่งของเรากันเถอะเจเรมี่ ฉันกลัวมากเมื่อไม่มีคุณอยู่ที่นั่น”
เจเรมี่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเมเดลีน
“อย่าลืมคำที่ฉันบอกคุณ เจเรมี่” เมเดลีนเตือนเขาอีกครั้ง
เมเรดิธขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจขณะที่เธอหันไปพูดกับเจเรมี่อย่างเยือกเย็น “อย่าไปฟังผู้หญิงคนนั้น เจเรมี่ เธอโกหก”
เจเรมี่หันกลับมาและตามเฟลิซิตี้กลับไปที่นั่งหลังจากพยักหน้าตอบเธอ
เมเดลีนไม่ได้ขยับตัวเพื่อรั้งพวกเขาไว้ เพราะเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงโง่ ๆ คนนั้นที่คร่ำครวญและขอร้องให้ชายคนนั้นเชื่อเธออีกต่อไป
เธอไม่ใช่คนที่เธอเคยเป็น
เมื่อพวกเขามาถึงเกลนเดล สิ่งแรกที่เมเดลีนทำคือตามหาอดัม หลังจากที่เธอเล่าสถานการณ์ของเจเรมี่ อดัมกล่าวว่าเขาต้องสังเกตพฤติกรรมของเจเรมี่ก่อนจึงจะสามารถสรุปผลได้อย่างเป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม อดัมได้ประเมินสถานการณ์อยู่บ้างแล้ว “คุณบอกว่าเจเรมี่จำคุณไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอ้างว่าผู้หญิงอีกคนเป็นคนที่เขารักมากที่สุด สำหรับฉันมันดูไม่เหมือนความจำเสื่อมเลย มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีใครบางคนฝังความทรงจำเท็จลงในหัวเขา และลบความทรงจำเดิมออกไปด้วย”
“สามารถทำอะไรที่อุกอาจขนาดนั้นได้ด้วยเหรอ?” เมเดลีนถามอย่างไม่เชื่อ
“มีการทำเรื่องอุกอาจมากขึ้นตลอดในหน้าประวัติศาสตร์ แต่อยางไรก็ตาม ฉันไม่อยากเชื่อว่า เจเรมี่จะได้รับการผ่าตัดทางประสาท” อดัมกล่าวทิ้งท้าย “พยายามทำให้เขามาหาฉัน ถ้าทำได้ ฉันอยากตรวจร่างกายให้เขาเอง”
เมเดลีนรู้สึกว่าการนำเจเรมี่มาที่นี้นั้นดูยากเกินไป
เห็นได้ชัดว่าตอนที่เครื่องบินตกหลุมอากาศเจเรมี่ดูแลเธอเหมือนปกติ นั้นเป็นการกระทำตามสัญชาตญาณ เขาอาจจะจำเธอไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าที่ใดที่หนึ่งในส่วนลึกของเจเรมี่ยังคงรักเธอ และรู้สึกว่าจำเป็นต้องปกป้องเธอ
เฉกเช่นแม้เขาจะพูดจาเย็นชา แต่เขายังคงนอนร่วมเตียงกับเธอและสนิทสนมกับเธอในตอนนั้น
…
คาเลนไม่สามารถติดต่อกับเจเรมี่ได้เลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เมื่อเธอเห็นเขากลับมาพร้อมกับเฟลิซิตี้ เธอก็รู้สึกโล่งใจ
คาเลนรู้สึกเบิกบานใจเมื่อได้รับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและดูแลสุขภาพราคาแพงจากเฟลิซิตี้ และเริ่มโวยวายว่าเมเดลีนน่ากลัวแค่ไหน
“แกไม่รู้หรอกว่าเมเดลีนนั่นชั่วร้ายแค่ไหน เจเรมี่ เธอจงใจทำให้ฉันตกใจเมื่อวันก่อนโดยบอกว่าแกตายไปแล้ว!”
“อะไร? คุณมอนต์โกเมอรีพูดอย่างนั้นจริงเหรอคะ?” เฟลิซิตี้พูดโดยแสดงความไร้เดียงสาที่สุดออกมา