บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 799
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 799
ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นจากบาดแผลเริ่มแพร่กระจาย
เจเรมี่เหลือบมองแผลที่มีเลือดไหล และไม่เคลื่อนไหว หัวเขาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาทั้งทางแววตา คำพูด และความเด็ดเดี่ยวของเมเดลีน สายตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไป
‘ลินนี่ คุณไม่รักผมแล้วจริง ๆ’
‘คุณไม่รักผมอีกแล้ว’
‘ตอนนี้คุณเกลียดผมแล้ว’
‘คุณเกลียดผมมากจนคุณไม่อยากเห็นผมบนโลกนี้อีกแล้ว’
เจเรมี่จับพวงมาลัยแน่น เส้นเลือดสีฟ้าโผล่ออกมาจากหลังมือสวยของเขา
เมื่อเห็นว่าชายกลุ่มนั้นรีบเขามาหาเขา เจเรมี่ส่งสายตาอาฆาตและมุ่งร้ายก่อนที่จะกระทืบเท้าลงบนคันเร่ง
บอดี้การ์ดที่อยู่เบื้องหน้าเขาถูกชนปลิวไปในอากาศ หลังจากที่ลุกขึ้นอย่างกระท่อนกระแท่น พวกเขาจึงรีบขับรถไล่ตามเจเรมี่ไป
เจเรมี่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางของเมืองเอฟและขับรถออกไปในเขตชานเมืองอันเงียบสงบอย่างไม่รู้ตัว
การเสียเลือดทำให้หน้าของเขาค่อย ๆ ซีด ร่างกายของเขาก็เริ่มหนาวขึ้นและการมองเห็นของเขาก็เริ่มพร่ามัวด้วยเช่นกัน
“ลินนี่…” เขาพึมพำชื่อของเมเดลีนราวกับว่าเขาได้เห็นเมเดลีนกำลังยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา
รอยยิ้มของเธอเป็นเหมือนกับดอกไม้ ขณะที่ลักยิ้มของเธอยังอ่อนหวานเหลือเกิน เธอตะโกนอย่างอ่อนโยนให้กับเขา
“เจเรมี่ ฉันโกหกคุณ ฉันรักคุณค่ะ! ฉันจะไม่รักคุณได้ยังไง?’
“ลินนี่…”
เจเรมี่ยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดแตะที่ภาพจินตนาการซึ่งลวงตาของเขา ทันใดนั้น รถก็ชนกับต้นไม้ ทำให้เกิดเสียงกระแทกอย่างรุนแรง
บอดี้การ์ดของเฟลิเป้คลาดกับเขา แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงพุ่งชน พวกเขาจึงรีบหันพวงมาลัยรถมาทันที
พวกเขาค้นหาต้นตอของเสียง และเมื่อพวกเขาเกือบจะถึงที่นั่น พวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดอย่างรุนแรง
เปลวไฟที่พุ่งพล่านปรากฏต่อหน้าพวกเขา และเมื่อพวกเขาดูใกล้ ๆ พวกเขาก็พบว่าการระเบิดนั่นมาจากรถที่เจเรมี่ขับ
เจเรมี่บาดเจ็บสาหัสและได้ชนเข้ากับต้นไม้โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้น รถก็ระเบิด
จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะรอดไปจากเหตุการณ์นี้ได้?
บอดี้การ์ดรีบรายงานข่าวดีกับเฟลิเป้และบันทึกวิดีโอสั้น ๆ ของจุดที่รถเกิดอุบัติเหตุและการระเบิด
เฟลิเป้มาถึงยังจุดหมายพร้อมกับเมเดลีนในตอนที่เขาเห็นข่าวจากบอดี้การ์ด
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าเจเรมี่จะตายไปง่าย ๆ เขาจึงขอให้บอดี้การ์ดของเขายืนยันสถานการณ์และพาเมเดลีนเข้าไปยังลานด้านหน้าซึ่งตกแต่งอย่างทันสมัยในทันที
เมเดลีนรู้สึกกระวนกระวายใจและซับซ้อนมากมาตลอดทาง
เธออยากจะเจอกับลิเลียน แต่ก็ห่วงเจเรมี่มากด้วยเช่นกัน
เขาต้องทรมานกับแผลถูกยิงและมือของเขาก็มีเลือดไหลมาก เธอไม่รู้ว่าเขาจะไปรักษาทันเวลาไหม
เธอไม่รู้ว่าเขายังคงคิดเรื่องการตามเธออย่างดื้อด้านอีกไหม
เธอกำลังกังวลเรื่องเจเรมี่ เมื่อจู่ ดังขึ้น เธอได้สติและเฝ้าดูด้วยความตกใจเล็กน้อย
ประตูของลานแห่งนี้ถูกปลดล็อคโดยการแสกนรูม่านตาก่อนที่จะเข้าไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดของเฟลิเป้
ดูเหมือนว่าการจะพาลิเลียนออกมาไม่ได้ง่ายเช่นนั้น
เฟลิเป้มองออกว่าเมเดลีนกำลังคิดอะไร “ตราบใดที่คุณไม่ทิ้งผม คุณก็จะได้เจอลิเลียนทุกวัน ครอบครัวของเราสามคนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้”
“ครอบครัวสามคนงั้นเหรอ? ลิเลียนกับฉันไม่ใช่ครอบครัวของคุณ” เมเดลีนกล่าวอย่างเยือกเย็น เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อเดินเขาไป แต่ก็พบว่ามีอีกประตูด้านในที่ต้องการรอยนิ้วมือเพื่อปลดล็อค
ดูเหมือนว่าเฟลิเป้ถือว่าลิเลียนเป็นหมากอันล้ำค่า ดังนั้นเขาจึงเฝ้าระวังเธออย่างเข้มงวด
“เอวลีน อย่าพยายามพาลิเลียนออกไปเลย มีคนเฝ้าดูทุก ๆ ฝีก้าวของลิเลียนตลอดเวลา ไม่มีทางที่คุณจะพาเธอออกไปได้”
“เฟลิเป้ คุณฉลาดกว่าที่ฉันคิดไว้มาก”
“ความฉลาดไม่ได้วัดด้วยเรื่องนี้ เอวลีน คุณกับผมไม่ใช่เด็กนะ ในโลกของผู้ใหญ่ ไม่มีความบริสุทธิ์และไร้เดียงสา” เฟลิเป้ยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน รอยยิ้มของเขาที่ขัดแย้งนั้นไม่มีความอบอุ่นของสุภาพบุรุษอีกต่อไปแล้ว
เมเดลีนกำลังจะลบล้างคำพูดของเฟลิเป้เมื่อจู่ ๆ เธอได้ยินเสียงที่อ่อนหวานและชัดเจนดังขึ้น
“คุณแม่คะ!”
เมเดลีนหันขวับและเห็นลิเลียนกำลังกระโจนเข้าหาเธอ ดวงตาของเธอหดเกร็ง เธอรีบย่อตัวลงและอุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนของเธอ
“ลิเลียน!”
เมเดลีนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เมื่อเธอรู้สึกถึงสัมผัสอันอบอุ่นของลูก รอยร้าวในใจของเธอก็ถูกเยียวยาในที่สุด
“คุณแม่ ในที่สุดคุณแม่ก็มาเจอหนู ลิลลี่คิดถึงคุณแม่ค่ะ!”
“มัแม่ก็คิดถึงหนูเหมือนกัน แม่คิดถึงหนูมาก มาก ๆ …” เมเดลีนโอบกอดเธอแน่นและค่อย ๆ ปาดน้ำตา
เธอปล่อยแขนของเธอออกและมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ อย่างละเอียด
เจ้าตัวเล็กดูเหมือนว่าจะโตขึ้นมาก หลังจากที่เธอไม่เห็นหล่อนมาสักพักหนึ่ง