บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 80
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 80
เมื่อเมเรดิธได้ยินแบบนั้น เธอก็ไม่สามารถอดทนให้สถาณการณ์เช่นนี้ได้อีกต่อไป “เจเรมี่ ฉันมาตามหาคุณตอนที่ฉันตื่น ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า ฉันควรทำอย่างไรถ้าคุณออกไป?”
เจเรมี่ ไม่ได้หันกลับมามองหล่อนแต่อย่างไร “เธอสามารถใช้เวลานี้เพื่อรับประทานอาหารเช้าได้นิ”
“… ” เมเรดิธยืนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยท่าทางงุนงง เธอเฝ้ามองดูขณะที่ เจเรมี่แสดงท่าทีไม่สนใจเธอและเดินไปหามาเดลีนแทน เธอกำกระเป๋าไว้แน่น รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะระเบิด
มาเดลีนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเกี่ยวกับปฎิกิริยาของเจเรมี่เช่นกัน ดูเหมือนว่า เขาพูดจริง เมื่อเขาเดินผ่านเธอ เขาจงใจชะลอความเร็วและมองไปที่เธออย่างลึกซึ้ง “มากับผม”
มาเดลีนไม่เข้าใจว่าทำไมเจเรมี่ถึงทำแบบนี้ แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ขึ้นสีของเมเรดิธ เธอยิ้มออกมาและให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ เธอเข้าไปในรถของเจเรมี่
เพื่อป้องกันการโต้เถียงที่ไม่จำเป็น มาเดลีนไม่ได้พูดอะไรเลย เจเรมี่ก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
มาเดลีนจ้องมองไปที่เจเรมี่ใบหน้าด้านข้างที่งดงามของเขาเป็นน้ำแข็งอย่างผิดปกติ
เธอนึกถึงครั้งที่เธอจ้องมองเขาสมัยที่พวกเขาอยู่มหาวิทยาลัย เธอไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอทำแบบนั้นกี่ครั้ง ถึงแม้ความรู้สึกตอนที่เธอแอบรักเขาไม่ได้ดีที่สุด แต่อย่างน้อยมันก็สวยงามและบริสุทธิ์
แต่เธอไม่สามารถย้อนกลับไปยังช่วงเวลาเหล่านั้นได้อีกต่อไป
หัวใจของเธอจะไม่ข้ามไปหาความหอมหวานใดๆแบบนั้นได้อีกต่อไป มันมีเพียงจังหวะที่น่าเศร้าที่ยังคงเหลืออยู่
หลังจากมาเดลีนนั่งรถออกไปสักพัก เธอก็รู้ตัวว่ารถหยุดแล้ว พวกเขาอยู่ที่บริษัทวิทแมน
เธอมองเจเรมี่ด้วยความสับสน แต่แล้ว เขาลงจากรถก่อนเธอและเดินไปวนกลับมายังที่นั่งผู้โดยสาร จากนั้น เขาก็เปิดประตูให้เธอ
เธอคิดว่าชายคนนี้เสนอที่จะขับมาส่งเธอเพราะความจิตใจดี แต่กลับกลายเป็นเพราะความบังเอิญพอเหมาะ อย่างนั้น มันก็โอเค สำนักงานของเฟลิเป้อยู่ด้านหน้า เธอแค่ต้องข้ามถนนแค่นั้น
มาเดลีนหยิบกระเป๋าของเธอออกมา “ขอบคุณ คุณวิทแมน” เธอพูดขอบคุณเขาและหมุนตัวกลับ
“เธอกำลังจะไปไหน?” เสียงทุ้มของเจเรมี่ดังขึ้นข้างหลังเธออีกครั้ง “จากนี้ไป เธอจะทำงานที่นี่”
มาเดลีนคิดว่าหูของเธอกำลังฝาดอีกแล้ว เธอมองไปที่ชายผู้เยือกเย็น “คุณวิทแมน หากขาดกำลังคนฉันขอแนะนำให้วางโฆษณาจัดหางานทางออนไลน์”
“มาเดลีน อย่าทำให้ผมพูดซ้ำ”เจเรมี่ขมวดคิ้ว เต็มไปด้วยความเยือกเย็นบนใบหน้าของเขา “เธอไม่ชอบการออกแบบเครื่องประดับเหรอ? บริษัทวิทแมนมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยดีที่สุดสำหรับในการปลดปล่อยศักยภาพของเธอ”
มันฟังดูน่าดึงดูดมาก แต่มันช่างฟังดูเหมือนฝันไปเช่นกัน
“จู่ๆคุณก็มีจิตสำนึกของตัวเองใช่ไหม คุณวิทแมน?” มาเดลีนหัวเราะและมองเขาด้วยสายตาถากถาง “ฉันชอบการออกแบบเครื่องประดับ แต่ฉันชอบความรู้สึกที่ได้รับความไว้วางใจมากกว่า”
หลังจากที่เจเรมี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถึงกับผงะ
ตอนนี้มาเดลีนยิ้มกว้างขึ้นกว่าเก่า “คุณวิทแมน คุณเคยเชื่อใจฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? คุณเชื่อฉันไหมเมื่อตอนที่ฉันถูกกล่าวหาว่าขโมยไอเดียงานของคนอื่นมาเมื่อสามปีก่อน? ไม่สิ คุณไม่ได้เชื่อฉันเลยสักนิด”
เธอตอบคำถามแทนเขา จากนั้น เธอก็หัวเราะเยาะเย้ยดูถูกตัวเอง
“ดังนั้น โปรดอย่ารับสมัครคนที่มีประวัติลอกเลียนแบบผลงานใครในกรณีนั้นบริษัทของุคุณอาจจะประสบปัญหาได้หากฉันลอกงานของคนอื่นอีกครั้ง”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นใบหน้าของเจเรมี่เปลี่ยนเป็นสีเข้มมาก ดูเหมือนว่าพายุกำลังจะมา
หัวใจของมาเดลีนเต้นผิดจังหวะขณะที่เธอหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอกลัวว่ารอยยิ้มจอมปลอมของเธอจะถูกเปิดเผยหากช้าเกินไป
เมื่อมีสัญญาณไฟเป็นสีแดง มาเดลีนอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปดูเจเรมี่ด้วยมุมหางตา
เขายังคงยืนอยู่ที่นั่นในขณะที่มองไปที่เธอ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาดูเศร้าโศกเล็กน้อยในขณะนี้
มาเดลีนหลบสายตาและเดินข้ามทางม้าลาย อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางการเดินเธอรู้สึกได้ว่าเจเรมี่จ้องมองมาที่เธอ
ในที่สุดเขาก็พบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและรู้สึกสำนึกผิดเกี่ยวกับเด็กที่ตายไปแล้วใช่ไหม?
ฮิฮิ