บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 877
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 877
ฟาเบียนและคนของเขาที่เหลือต่างก็ออกไป
ก่อนที่จะเดินออกไป ฟาเบียนหันไปหาเมเดลีน “ตะโกนถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือนะครับ ที่รัก ผมจะอยู่ข้างนอก”
เมเดลีนรับข้อเสนอ “งั้น ฉันรบกวนคุณเฝ้าเจเรมี่ให้ฉันที”
“อื้ม” ฟาเบียนยักไหล่และออกไป
ห้องขนาดใหญ่นั่นตกอยู่ในความเงียบสงัด
เมเดลีนเดินอย่างมั่นคงไปยังเมเรดิธ เมื่อเธอมายืนอยู่ต่อหน้าของเมเรดิธ เธอก้มหน้ามองไปที่ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นจากด้านบนเหมือนกับตนเองเป็นราชินี
“เธอมีแผนชั่วร้ายอะไรอีก เมเรดิธ? เข้ามาหาฉันพร้อมกับแผนพวกนั้นตอนนี้เลยสิ อย่าเสียเวลามากไปกว่านี้เลย”
“ฮื่ม แน่นอนว่า แกคงอยากจะจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด แต่แย่หน่อยนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้แกทำแน่”
เมเรดิธยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากของเธอขณะที่จ้องไปที่เมเดลีนอย่างมุ่งร้าย “ฉันรู้ว่าฉันจะไม่มีโอกาสทำให้เจเรมี่รักฉันได้อีก แต่ฉันจะบอกกับแกไว้เลยว่าฉันจะไม่ปล่อยให้พวกแกสองคนอยู่อย่างมีความสุขตลอดไปเหมือนกัน”
เมเรดิธเย้ยหยันอย่างชั่วร้าย “ฉันได้ซ่อนลูกสาวของแกไว้ในที่ที่จะไม่มีใครหาเจอ ไม่ต้องห่วง ฉันวางอาหารไว้ที่นั่นแล้ว แต่บางทีฉันก็ควรจะบอกเธอว่าหนึ่งในอาหารพวกนั้นถูกเจือด้วยยาเบื่อหนู”
“ถ้ายัยเด็กนั่นโชคดี เธอจะอยู่ได้มากที่สุดอีกสองวัน แต่ถ้าไม่ ฉันคิดว่าแกจะต้องเจอเธอบนสวรรค์แทน”
เมเรดิธหัวเราะก๊าก เธออยากจะเห็นเมเดลีนดิ้น กลายเป็นคนที่คลุ้มคลั่งและหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่สงบของเมเดลีนไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย
รอยยิ้มของเมเรดิธแข็งทื่อ หมดความอดทนในตอนนี้ทันทีที่เมเดลีนไม่ตอบสนองในแบบที่เธอคิดไว้ “แกบ้าไปแล้วเหรอ เอวลีน? หรือแกบ้าเพราะความกลัวไปแล้ว? แกไม่อยากรู้ว่าลูกสาวของแกอยู่ที่ไหนแล้วเหรอ?”
“แน่นอนว่าฉันอยากรู้ แต่ เธอจะบอกฉันไหมล่ะ?” เมเดลีนสวนกลับ รอยยิ้มที่มั่นใจกำลังทำให้ใบหน้าที่เย็นชาของเธอสง่างาม “เธอร่วมมือกับเฟลิเป้มาสักพักแล้วหนิ ใช่ไหม เมเรดิธ? งั้นฉันก็มั่นใจว่าเธอคงรู้ถึงอิทธพลของสเตเจี่ยน จอห์นสัน ในเมืองเอฟด้วยใช่ไหม ฮื้ม?”
“แล้วไงล่ะ?” เมเรดิธจ้องและโวยวายใส่เมเดลีน
“เพราะงั้น ฉันจะสามารถหาลูกสาวของฉันเจอในเร็ว ๆ นี้ไงล่ะ”
“เป็นไม่ได้!” เมเรดิธปฏิเสธ ท่าทีของเธอดูชั่วร้าย “ไม่ว่าอิทธิพลของพวกมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะเจอที่ที่ฉันซ่อนยัยเด็กนั่นไว้หรอก!”
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้นะ” เมเดลีนเลิกคิ้วขึ้นอย่างเย่อหยิ่งขณะที่เธอจับที่คางของเมเรดิธ พลางเยาะเย้ยเข้าที่หน้าปลอม ๆ ของหล่อน “เธอก็เคยพูดด้วยหนิ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เจเรมี่จะชอบผู้หญิงอย่างฉัน และไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะเธอได้ไปตลอดชีวิต… แต่ดูเราสองคนตอนนี้สิ”
สายตาของเมเรดิธเดือดดาลขณะที่เธอกัดฟัน “เอวลีน มอนต์โกเมอรี!” เธอตะโกน กระโจนขึ้นเพื่อจะเอาชนะเมเดลีน
เมเดลีนยกขาและแทงเข่าใส่เมเรดิธในทันที
เมเรดิธคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเมเดลีน เธอปากสั่นด้วยความเจ็บปวด
เมเดลีนเผยรอยยิ้มงดงามออกมา
“เจ็บไหมล่ะ? เมื่อก่อนฉันก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแบบนี้ไปถึงกระดูกเหมือนกัน แกจำสีหน้าที่แกทำต่อหน้าเจเรมี่ได้ไหม แล้วจำได้ไหมว่าแกร่วมมือกับพ่อแม่ของแกกดฉันลงกับพื้น ทำให้ฉันขายหน้าและทำร้ายฉันยังไง? หรือเรื่องที่แกพยายามจะหักมือของฉันเพื่อที่ฉันจะได้หมดโอกาสที่จะออกแบบได้อีกยังไง? เพราะว่าฉันจำได้ และฉันตั้งใจที่จะไม่ลืมมันด้วย!”
“แต่ก็นะ เมเรดิธ ฉันกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง แล้วแกล่ะ? แกจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นแน่!”
“ฟาเบียนจะหาลิเลียนจนเจอ จากนั้นเจเรมี่กับฉันจะกลับไปที่เกลนเดล พวกเราทั้งสี่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไปเป็นครอบครัว ในขณะที่แกจะได้ไปลงนรกและชดใช้ในสิ่งที่แกทำกับคุณปู่ของฉัน!”
สิ่งที่เมเรดิธอิจฉามากที่สุดคือความรู้สึกของเจเรมี่ที่มีต่อเมเดลีน เธอไม่ยอมรับกับการที่เจเรมี่และเมเดลีนได้รับโอกาสที่จะได้กลับไปอยู่ด้วยกัน
เมเรดิธโวยวายด้วยความโกรธที่เกรี้ยวกราด “แกก็ได้แค่ฝันถึงการรวมตัวกันอีกครั้งของครอบครัวของแก เอวลีน! แกจะไม่มีวันเจอลิเลียน วิทแมน ไม่มีวัน!”
“ทำไมจะไม่ล่ะ? ไม่มีคนไหนในเมืองเอฟที่เสเตเจี่ยน จอห์นสัน หาไม่เจอหรอกนะ!”
“แหงสิ พวกมันจะไม่สามารถหาตัวเธอเจอแน่! แก๊งเสเตเจี่ยน จอห์นสัน อาจจะมีอิทธิพลมากกว่านั้น และพวกมันก็คงไม่กล้าเข้าไปเหยียบในคฤหาสน์ของเฟลิเป้อยู่ดี!”
อ่า ดูเหมือนจะกลับกลายเป็นว่าลิเลียนได้ตกไปอยู่ในมือของเฟลิเป้อีกครั้ง