บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 882
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 882
เขายกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นเพื่อหาผ้าคาดผมสีเขียวมิ้นต์ที่เขาเก็บไว้อย่างทะนุถนอมซึ่งตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดง
เขายกผ้าคาดผมมาที่ปากของเขาด้วยมือที่กำลังสั่นเทา “อย่าตายนะ ได้โปรด คุณจะตายไม่ได้นะ”
เขาบ่นพึมพำภายใต้ลมหายใจขณะที่ดวงตาของเขาก็ยิ่งแดงก่ำ
“คุณสัญญาแล้วว่าจะตามรังควานผมตลอดไป คุณจะคืนคำตอนนี้ไม่ได้นะ”
เฟลิเป้เสียงสั่นขณะที่เขาพูดซ้ำ ๆ กับตัวเอง อย่างไม่สามารถระงับความตื่นตระหนกภายในตัวเขาเองได้
ทันใดนั้น ประตูห้องของห้องผ่าตัดก็เปิดออกเผยให้เห็นถึงหมอคนหนึ่งในเสื้อโค้ทสีขาว เฟลิเป้รีบวิ่งเข้าไปหาเขา “ศาสตราจารย์ควินนี่ย์ เคธี่เป็นไงบ้าง?”
ศาสตราจารย์คนนั้นส่ายหน้า “ผมเอากระสุนออกแล้ว แต่เนื่องจากมันโดนหัวใจของเธอ ผมก็ไม่สามารถพาเธอกลับมาชีวิตได้ ผมต้องขอโทษด้วย แต่คุณเคธี่ได้จากไปแล้ว”
เฟลิเป้รู้สึกว่าโลกของเขาได้แตกสลายขณะที่เขายืนนิ่งแช่แข็งอยู่กับที่
“จู่ ๆ เธอถูกยิงได้ยังไง? อาจจะเป็นพวกสเตเจี่ยน จอห์นสัน รึเปล่า?” หมอคนนั้นถอนหายใจ หัวใจของเขาบีบคั้นกับการสูญเสียคนอายุน้อยเช่นนี้ไป
เฟลิเป้ตอบเขาไม่ได้ เพราะเขารู้คำตอบอยู่แล้ว
เขาคือคนที่ฆ่าเคธี่
เขาเป็นคนที่สั่งให้พวกเขายิง
เขาคิดว่าเธออยากที่จะทรยศเขา เธออยากจะทำลายทุก ๆ อย่างที่เขาสร้าง แต่ความจริงก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอไม่เคยหักหลังเขาเลย และเธอก็ไม่เคยทิ้งความรู้สึกที่มีต่อเขาไป
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงหันหลังกลับ
มันเป็นเขาที่หันหลังกลับช้าเกินไป
มันเป็นแค่เสี้ยววินาทีที่เขารู้ตัวว่าเขาห่วงเคธี่มากแค่ไหน
เขาไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ แต่เคธี่ดูเหมือนจะหาทางเข้ามาในใจของเขาเงียบ ๆ …
เฟลิเป้รู้สึกปวดใจเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่าขณะที่เขาค่อยเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดที่วางเปล่า
เขาอยากที่จะเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความกล้าที่จะเจอหน้าเธอ
ในความคิดของเขาเต็มไปด้วยภาพของเสียงหัวเราะที่กระปรี้กระเปร่าของเธอ ความทรงจำที่ซีดเซียวและเงียบงันคือทั้งหมดของเธอที่เขาเหลือไว้
เขาเดินเข้าไปหาเคธี่และโน้มตัวลงโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ เพื่อที่จะผนึกรอยจูบอันเยือกเย็นของเธอไว้กับเขา
‘ในชาติหน้า เคธี่ ขอให้ผมได้เป็นคนที่ไล่ตามคุณแทน’
…
แม้ว่าเมเดลีนอาจจะตัดสินใจกลับไปที่เกลนเดล แต่การที่เธอไม่สามารถติดต่อกับเคธี่ได้ทำให้เธอไม่สามารถปล่อยวางและจากไปได้
เธอได้ยินจากเจเรมี่ว่าในตอนที่เคธี่พยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงแม่น้ำ เธอได้กลับมาสอดแนมเฟลิเป้เพราะว่าเธอปล่อยเขาไปไม่ได้
ตอนนั้นเองที่พวกสเตเจี่ยน จอห์นสันเจอเธอและทำให้หน้าตาของเธอเสียโฉมเมื่อพวกมันจับเธอได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอจึงต้องทำศัลยกรรมตกแต่ง
เธอท่องไปทั่วประเมืองเอฟเป็นเวลาสามเดือนในตอนที่เธอเจอเจเรมี่หนีจากบอดี้การ์ดของเฟลิเป้ที่พยายามที่จะฆ่าเขา ก่อนที่รถจะระเบิด เธอได้ลากเจเรมี่ออกมาอย่างปลอดภัย
คนอกหักสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เนื่องจากความเข้าใจและการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้
สิ่งที่เรียกว่างานหมั้นไม่มีพยานรู้เห็นเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น อย่าลืมว่า เจเรมี่มีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแค่คนเดียวเท่านั้นคือเมเดลีน
เคธี่มีส่วนสำคัญในการซ่อมแซมความสัมพันธ์ของเมเดลีนและเจเรมี่ ดังนั้นจึงแน่นอนว่า
เมเดลีนห่วงเธอ เมื่อเธอขาดการติดต่อไป
แม้ว่ามันจะอันตราย เธอก็ตัดสินใจว่าเธอจะเดินทางไปที่คฤหาสน์ของแฟลิเป้
เฟลิเป้ใช้เวลาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาด้วยความสิ้นหวัง
เขาขังตัวเองไว้ในห้องที่ครั้งหนึ่งเคธี่เคยอยู่
เมื่อเปิดดูรูปสมัยเรียน เขาจ้องไปที่หญิงสาวซึ่งสดใสและมีความสุข เธอบานสะพรั่งราวกับดอกกุหลาบสีแดง มีเสน่ห์ และเร่าร้อน
แต่ตอนนี้กุหลาบนั้นก็ร่วงโรยไปแล้ว
เขาดื้อด้านมาก โดยคิดว่าผู้หญิงที่เขารักมาตลอดคือเมเดลีน เพราะเธอคือแสงสว่างดวงเดียวที่เขามีในตอนที่เขาเป็นเด็ก เธอเป็นเหมือนลำแสงที่ทะลุผ่านก้อนเมฆที่มืดมนของเขาและพาเขากลับสู่ความเป็นจริง
เมื่อรู้ความจริงแล้ว เขาก็พบว่าเขาอยากจะอยู่ในความมืดตลอดไปตราบใดที่เขามีกุหลาบของเขา ถ้านรกคือปลายทาง เขาจะเดินไปตามเส้นทางนั้นตราบใดที่เธอเดินไปกับเขา
เฟลิเป้เปิดลิ้นชักแม้ว่าจะปวดใจอย่างสุดจะทน เพื่อจัดข้าวของชิ้นสุดท้ายของเธอให้เรียบร้อย
เมื่อมองทะลุเข้าไปท่ามกลางข้าวของพวกนั้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปยังของที่คาดไม่ถึงภายในกล่องผ้าไหมสีฟ้าอ่อน!