บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 917
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 917
นายท่านอาวุโสวิทแมนสั่งเฟลิเป้ให้หยุดอย่างฉะฉาน
เขามองเมเดลีนด้วยความโล่งใจและดึงเธอไปข้างหลังเขา
“ปู่คะ ไม่นะ”
“ไม่ต้องห่วง” นายท่านอาวุโสวิทแมนปลอบเมเดลีน แต่เขากลับมองชายที่ตาบอดด้วยความเคียดแค้นไปแล้วอย่างเฉยเมย
“ตอนนี้ ในเมื่อทุกอย่างมาถึงจุดนี้แล้ว ดูเหมือนว่าฉันต้องบอกว่าจริงเรื่องเมื่อก่อนกับแก ไม่อย่างนั้น แกก็คงมีแต่จะถลำลึกลงไปในความเคียดแค้นเรื่อย ๆ เท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา นิ้วของเฟลิเป้ที่อยู่บนไกปืนก็ผ่อนลงเล็กน้อย
‘ความจริงเมื่อก่อนงั้นเหรอ?’
เมเดลีนประหลาดใจ ‘มีความจริงอื่นเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนนั้นจริง ๆ เหรอ? มันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดางั้นเหรอ?’
คาเลนก็ตกใจมากด้วยเช่นกัน “ความจริงงั้นเหรอ? ใช่นายท่านอาวุโสวิทแมนจริง ๆ เหรอที่…”
“เลิกพล่ามไร้สาระได้แล้ว!” วินส์ตันแทรกคาลนอย่างรวดเร็วขณะที่เธอกำลังพูดและมองไปที่นายท่านอาวุโสวิทแมนอย่างสงสัยด้วยเช่นกัน
“แกกำลังพูดถึงความจริงอะไร? อย่าหาข้ออ้างที่จะโกหกฉันดีกว่า”
แม้ว่าเฟลิเป้กระตือรือร้นอยากที่จะรู้เรื่องนั้น แต่เขาก็ยังมีความสงสัย
นายท่านอาวุโสวิทแมนสบสายตาที่สงสัยของเฟลิเป้อย่างสงบ จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าใจ
“แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ แต่เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีคนเป็นสาเหตุ”
คำตอบของนายท่านอาวุโสวิทแมนสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในที่นี้
กลายเป็นว่ามันมีบุคคลหนึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุนั้นจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม เมเดลีนก็ยังคงเชื่อว่าคนที่วางแผนอุบัติเหตุนั้นไม่ใช่นายท่านอาวุโสวิทแมน
แน่นอนว่า เธอได้ยินชายแก่คนนั้นเริ่มนึกย้อนความทรงจำของเขา “ในตอนนั้นแกยังเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งพร้อมกับพ่อแม่ที่น่ารักในครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวและมีความสุข แต่ที่จริงแล้วนี่คือสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ผิวเผิน”
“พ่อของฉันมีลูกชายในตอนที่เขาแก่และเขาตามใจพ่อของแกมาก เขายังประกาศด้วยว่าเขาจะยกทั้งบริษัท วิทแมนให้พ่อของแกบริหาร แต่เป็นเพราะการรับตำแหน่งนี้ที่เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมที่หวนคืนไม่ได้”
“ที่จริงแล้ว พ่อของแกไม่ชอบที่จะจัดการเรื่องธุรกิจต่าง ๆ เขาหลงใหลในศิลปะ พ่อแม่ของแกรู้จักกันในงานแสดงผลงานศิลปะ ยังไงก็ตาม ขณะที่เขาต้องสืบทอดบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ พ่อของแกก็ทำดีที่สุดที่เขาทำได้ เขาเริ่มทรมานจากความกังวลของการได้กำไรและขาดทุน และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า”
โรคซึมเศร้า
เมื่อได้ยินคำนี้ ท่าทีของเฟลิเป้ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
“แกกำลังบอกว่าพ่อแม่ของฉันตายเพราะว่าโรคซึมเศร้างั้นเหรอ?”
“ถูกต้องแล้ว” นายท่านอาวุโสวิทแมนพยักหน้า “พ่อของแกมักจะดูสูงส่ง สุภาพ และปฏิบัติกับคนอื่นอย่างใจกว้าง แต่ที่จริงแล้ว เขาทุกทรมานกับความซึมเศร้าตลอดช่วงเวลานั้น แม้แต่การกินยาก็ไม่ช่วยอาการของเขา แม่ของแกรู้เรื่องนั้นมาโดยตลอด ยังไงก็ตาม ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับอาการของเขากับพ่อของฉันเพื่อไม่ให้เขาผิดหวัง จนกระทั่งวันนั้น พ่อของแกปลอบตัวเองต่อไปไม่ไหว เขาพาแม่ของแกไปด้วยและเอารถชนเข้ากับตึกระหว่างทางไปบริษัท นำไปสู่อุบัติเหตุรถชนและความตายของพวกเขา”
มันกลายเป็นว่าเรื่องจริงเป็นแบบนี้
หลังจากที่เมเดลีนฟังคำพูดของเขาจบ เธอก็รู้สึกปวดใจมากยิ่งขึ้น เธอรู้สึกเสียใจกับความตาย แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งไปกว่านั้นสำหรับเธอ คือ ตอนที่เธอคิดถึงเจเรมี่ซึ่งมักจะถูกเฟลิเป้หมายหัว
‘เจเรมี่’
เมเดลีนเรียกชื่อของเขาเงียบ ๆ ในหัวใจ ลูบแหวนแต่งงานบนนิ้วของเธออย่างอ่อนโยนในขณะที่การมองเห็นของเธอเริ่มพร่าเลือนไปด้วยน้ำตา
“ซึมเศร้างั้นเหรอ? หึ แกคิดว่าฉันจะเชื่อเรื่องโกหกที่น่าตลกแบบนี้เหรอ?” เห็นได้ชัดว่าเฟลิเป้ไม่เชื่อ ในตอนนี้ มีประกายของความเคียดแค้นบนใบหน้าของเขาที่ครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยนและสง่างาม “แอรอน วิทแมน เป็นแกอย่างแน่นอนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉันเพื่อสิทธิในมรดก! หลังจากที่พวกเขาตาย แกในฐานะลุงเคยห่วงฉันไหม? แกโยนฉันทิ้งไว้ที่เมืองเอฟ เมินฉัน และพยามเลี้ยงดูเจเรมี่อย่างดีที่สุด แกอยากที่จะทำลายฉันอย่างลับ ๆ!”
นายท่านอาวุโสไม่แปลกใจที่ยังคงเผชิญกับความสงสัยของเฟลิเป้ “ฉันรู้ว่ามันยากที่แกจะเชื่อเรื่องนั้น เหตุผลที่ทำไมฉันไม่อยากบอกความจริงกับแกในหลายปีก็เพราะฉันไม่อยากให้แกติดอยู่ในความเจ็บปวดจากเรื่องนั้น แต่ดูเหมือนว่าแกจะค่อย ๆ เริ่มอคติเพราะความเคียดแค้นที่แกอดทนไว้”
นายท่านอาวุโสวิทแมนถอนหายใจและมองไปที่ที่ป้ายอนุสรณ์ต่อหน้าเขา “ความจริงถูกใส่ไว้ข้างหลังป้ายอนุสรณ์ของพ่อแก แกก็ดูมันได้ด้วยตัวเอง”