ปกรณัมรักข้ามภพ - ตอนที่ 14 คำอธิบาย
แน่นอนว่าเซียวป๋อเจี้ยนย่อมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขามองเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างตกตะลึงโดยไม่ปิดบัง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าฉู่เหลียนจะกระทำเช่นนี้ นางให้สัญญากับเขาอย่างลับ ๆ ก่อนแต่งงานว่า ชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นของเขาเพียงผู้เดียว ทว่าบัดนี้นางกลับสวมกอดแขนชายอื่นพร้อมทั้งแสดงกิริยาราวกับเด็กที่ถูกตามใจจนเสียคน นางอิงแอบแนบชิดบุรุษที่เพิ่งจะเป็นสามีได้ไม่กี่วันอย่างไม่ขัดเขิน ความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงนี้ส่งผลให้จิตใจของชายหนุ่มยิ่งย่ำแย่
เฮ่อฉางตี้รู้สึกตัวในที่สุด เขารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยที่ร่างกายนุ่มนวลของฉู่เหลียนแนบชิดกับแขนของตน เขาต้องการให้นางปล่อยเสียที แม้ว่าจะต้องผลักนางผู้หญิงเลวคนนี้ออกไปเต็มกำลัง เขาก็จะทำเต็มที่ ทว่าฉู่เหลียนกลับเกาะติดแน่นราวกับปลิง จนไม่สามารถเคลื่อนตัวนางออกไปได้เลยแม้แต่น้อย
ด้วยระยะห่างราวสิบก้าวเดิน ชายหนุ่มทั้งสองจ้องมองกันคล้ายมีประจุไฟที่มองไม่เห็นแล่นแปลบปลาบในอากาศ ท้ายที่สุดก็เป็นเฮ่อซานหลางที่หลบสายตาเสียก่อน
เขาหมดสิ้นซึ่งความตกใจจากการที่ฉู่เหลียนเกาะติดตนแน่นราวกับปลิง และกลับมาแสดงสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม ชายหนุ่มหันหน้าไปยังฉู่เหลียน ก้มลงเพ่งมองนางคล้ายกับกำลังถามว่า ‘มีสิ่งใดจะอธิบายหรือไม่?’
ณ ขณะนั้นฉู่เหลียนเพิ่งสังเกตว่าการปรากฏตัวของเฮ่อซานหลางนั้น ช่างถูกเวลาอย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งรอยดูถูกในแววตาคู่นั้นที่จ้องมองมา ชี้ชัดว่าเขาดูเหตุการณ์นั้นอยู่ตั้งแต่เซียวป๋อเจี้ยนปรากฏกายกะทันหันและเริ่มก่อกวนนางแล้ว
ทว่าฉู่เหลียนหาได้รู้ในข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ กระนั้นนางจึงไม่มีสิ่งใดที่ต้องรู้สึกผิด นางเงยหน้าขึ้นมองโต้กลับอย่างมั่นใจ
ฉู่เหลียนจ้องตอบสายตาเขา ไม่มีส่วนเสี้ยวของความรู้สึกผิดหรือความหวาดกลัวในดวงตากระจ่างใสแม้แต่น้อย ทว่ากลับเป็นร่องรอยของการตำหนิและยั่วยวนเสียแทน
เฮ่อซานหลางที่น่าสงสารเริ่มรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อถูกดวงตากลมโตไร้เดียงสาจ้องมอง เขาควรปรากฏตัวให้เร็วกว่านี้เพื่อช่วยเหลือนางจากการระรานของเซียวป๋อเจี้ยน…
ชั่วขณะที่ทุกคนหยุดนิ่ง ฉีเยี่ยนก็วิ่งกลับไปหานายหญิงของตน
แม้จะสับสนเมื่อถูกฉู่เหลียนจ้องมอง สีหน้าของเฮ่อฉางตี้ก็ย่ำแย่ลงอีกครั้งเมื่อรู้ตัวว่าความคิดของตนกำลังเปลี่ยนไปอีกแล้ว
นี่… นังแพศยาคนนี้พลิกดำเป็นขาวไปเสียหมด!
นางสามารถพลิกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
เฮ่อซานหลางอยากระเบิดอารมณ์ที่กราดเกรี้ยวออกมา เขาต้องการเผยความลับของหญิงเลวผู้นี้ ทว่านางกลับเกาะติดแขนของเขาและแสดงทีท่าราวกับพวกเขากำลังอยู่ในห้วงรักอันบ้าคลั่ง หากใครเห็นเหตุการณ์นี้ล้วนต้องไม่เชื่อแน่ว่านางลอบมีชู้
ฉินเอ๋อร์ หญิงรับใช้ของหรงฮูหยินผู้ไปยังเรือนส่วนตะวันออกเพื่อหายารักษาแผลให้แก่ฉู่เหลียน บัดนี้ก็ได้กลับมาในที่สุด
เมื่อฉินเอ๋อร์เห็นเซียวป๋อเจี้ยนยืนอยู่ที่ศาลาเรือนใน นางก็แทบจะเป็นลมด้วยความตกใจ นางรีบมองหาฉู่เหลียนทันที และเมื่อเห็นคุณหนูหกยืนเคียงข้างเฮ่อฉางตี้ห่างออกไป ฉินเอ๋อร์ก็ถอนใจอย่างโล่งอก ตราบใดที่คุณชายหก สามีของคุณหนูหกอยู่ด้วยก็ย่อมไม่เป็นไร
พวกนางจะทำอย่างไร หากมีข่าวลือของคุณหนูหกที่เพิ่งแต่งงานและคุณชายเซียวออกมา!
ฉินเอ๋อร์มิกล้าล่าช้า นางเร่งฝีเท้าไปหาฉู่เหลียน “ทักทายคุณหนูหกและคุณชายหกเจ้าค่ะ สิ่งนี้คือยาหิมะทาผิวของนายหญิงใหญ่ คุณหนูหกโปรดรีบทาแผลโดยเร็ว”
ฉีเยี่ยนรับยาหิมะทาผิวจากฉินเอ๋อร์ และเลิกแขนเสื้อของฉู่เหลียนขึ้นเล็กน้อย นางทายาสีน้ำนมโปร่งใสลงบนรอยลวกที่หลังมือฉู่เหลียนอย่างเบามือ
เมื่อฉีเยี่ยนสัมผัส นางก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นเล็กน้อย หัวคิ้วของนางขมวดเข้าหากันทีละนิด
เห็นนายหญิงเป็นเช่นนี้ ใจของฉีเยี่ยนก็เจ็บยิ่ง “คุณหนูหกอดทนหน่อยเถิดนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
เฮ่อซานหลางยืนอยู่ใกล้ฉู่เหลียนจึงเหลือบเห็นรอยลวกบนหลังมือ หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เมื่อฉีเยี่ยนทายาหิมะบาง ๆ บนรอยลวกแล้ว ฉู่เหลียนก็ใช้แขนเสื้อปิดบังไว้อย่างไม่ใส่ใจ เฮ่อซานหลางรีบหันหน้าหนีไปอีกทางคล้ายถูกจับได้ว่าแอบมองสิ่งที่ไม่ควรมอง
เซียวป๋อเจี้ยนยังคงยืนอยู่ในศาลาไม่จากไป เฮ่อฉางตี้รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นคุณชายผู้สุภาพเปิดเผยในทันใด “คุณชายเซียว ได้พบท่านที่นี่ ช่างบังเอิญยิ่ง!”
ที่แห่งนี้คือเรือนในแห่งจวนอิ้ง โดยทั่วไปแล้วบุรุษผู้มิข้องเกี่ยวกับตระกูลจะมิได้รับอนุญาตให้เหยียบย่าง ดังนั้นน้ำเสียงของเฮ่อฉางตี้จึงเป็นการเสียดสีโดยมิได้ปิดบัง
เซียวป๋อเจี้ยนมิตอบ ทว่าจ้องมองฉู่เหลียนอยู่ชั่วครู่ ความดำมืดหมุนวนในส่วนลึกสะท้อนผ่านสายตากดดันของฉู่เหลียน เซียวป๋อเจี้ยนประสานมือทักทายแก่เฮ่อฉางตี้ มุมปากหยักยกเป็นทรงพิลึก คล้ายกับจะโต้ตอบการเสียดสีของชายรักใหม่ของคนรักพร้อมกับตัดสินใจเรื่องจุดมุ่งหมายที่ตนปรารถนา เขาหมุนกายและเดินหายไปในสวนจวนอิ้ง
ฉินเอ๋อร์จ้องมองจากด้านข้าง แม้ใจนางต้องการจะรายงานเหตุการณ์เบื้องหน้าให้หรงฮูหยินทราบ ทว่านางกลับรู้สึกถึงสายตาเย็นเยียบที่เซียวป๋อเจี้ยนจ้องมองนางก่อนจากไป จึงตัดสินใจเก็บสิ่งที่เห็นในวันนี้ไว้กับตัว
ฉีเยี่ยนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันไม่ถูกต้องระหว่างคุณหนูหกและคุณชายหก นางจึงพยายามแทรกขึ้น “ยามนี้ใกล้เวลาอาหารกลางวันที่เรือนนอกแล้วนะเจ้าคะ”
เซียวป๋อเจี้ยนจากไปจนได้ แม้สายตาที่จ้องมองนางก่อนจากนั้นจะทำให้ไม่สบายใจอย่างรุนแรง ทว่านับแต่บัดนี้นางก็จำต้องย้ายไปอาศัยที่จวนจิ่งอันแล้ว ดังนั้นพวกนางก็คงไม่ได้พบกันอีก จึงไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใด
แขนที่กอดเฮ่อซานหลางคลายลง เขารู้สึกได้จึงสะบัดมือฉู่เหลียนออกโดยแรง แล้วจึงก้มลงกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินเพียงสองคน “ภรรยาที่รัก ข้ายินดีรอฟังคำอธิบายอันยิ่งใหญ่ของเจ้าวันนี้เมื่อเรากลับถึงบ้าน!”
จากนั้นเขายืดตัวขึ้น ทิ้งไว้เพียงคำข่มขู่แก่นาง
ฉู่เหลียนคร่ำครวญในใจอย่างรวดร้าว เซียวป๋อเจี้ยนเป็นผู้มาหานางด้วยตนเอง แล้วนางจะอธิบายเรื่องนั้นได้อย่างไรเล่า…?
นางพยายามหลบเลี่ยงเขาแล้วนะ!
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาอาหารกลางวันร่วมกับสมาชิกอาวุโสครอบครัวที่อาศัยในจวนอิ้ง บุรุษสตรีนั่งคนละฝั่ง อิ้งกั๋วกงยังร่วมดื่มกับเฮ่อซานหลางเป็นการส่วนตัวอยู่ที่ฝั่งบุรุษ ขณะที่ฝั่งของฉู่เหลียนนั้นสบายกว่ามาก
ในตอนแรก หรงฮูหยินเป็นผู้ยกดื่มให้แก่ฉู่เหลียน จากนั้นพวกนางก็นั่งรับประทานกันอย่างเงียบเชียบ
ฉู่เหลียนมิได้คุ้นเคยกับเหล่าฮูหยินและคุณหนูในจวนอิ้งแม้แต่น้อย นางจึงไม่มีสิ่งใดให้เอ่ยปาก
กระทั่งยามอาทิตย์ใกล้ตกดิน บรรดาผู้คนในจวนอิ้งก็นำทางเฮ่อซานหลางและฉู่เหลียนไปส่งยังประตูจวน
เฮ่อซานหลางคงดื่มมากไป เนื่องจากความเกรี้ยวกราดที่มีต่อเซียวป๋อเจี้ยนเมื่อช่วงสาย กระทั่งตอนนี้กลิ่นสุราแรงจึงยังคละคลุ้งรอบกาย
ฉู่เหลียนเกรงว่าเขาจะตกจากหลังม้าหากขึ้นขี่ม้าในตอนนี้ จึงให้ไหลเยว่ประคองเฮ่อซานหลางขึ้นรถม้าแทน เมื่อเห็นว่าไหลเยว่จัดท่าทางให้สามีนางเรียบร้อยแล้ว จึงเดินตามขึ้นไป
จากนั้นขบวนรถม้าของคู่รักก็ค่อย ๆ เคลื่อนไปตามถนนหินกว้าง
ฉู่เหลียนจ้องมองเฮ่อฉางตี้ที่บัดนี้ยังนอนพักอยู่อีกมุมหนึ่ง รอบกายชายหนุ่มอบอวลด้วยกลิ่นสุราเสียจนฉู่เหลียนน้ำตาคลอ นางอดมิได้ให้ต้องบีบจมูกและพัดกลิ่นออกไปอีกทาง ใครจะทราบว่าเฮ่อซานหลางจะลืมตาสีดำสนิทขึ้นในตอนนี้เล่า? ทว่าเขาดูมั่นคงและมิได้เมาแม้แต่น้อย
ริมฝีปากงดงามของชายหนุ่มเผยอออก ทว่าถ้อยคำที่ออกมานั้นบาดหูยิ่ง “อะไร? หรือเจ้ารังเกียจข้าเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้น? เจ้าต้องการโยนข้าออกจากรถม้าแล้วให้เซียวป๋อเจี้ยนขึ้นมาแทนหรือไม่เล่า?”
ฉู่เหลียนนิ่วหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาทว่าเย็นชาของเฮ่อฉางตี้อยู่นาน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพราะไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป และยืดมือออกไปตบใบหน้าหล่อเหลาที่ยับย่นของเฮ่อซานหลางเบา ๆ “สามีที่รักของข้า ท่านกังวลมากเกินไปแล้ว! เช่นนี้การแกล้งท่านจึงน่าสนุกนัก”
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^
https://www.kawebook.com/story/6816