ปกรณัมรักข้ามภพ - ตอนที่ 33 สหายเก่า
แม้เฮ่อเหล่าไท่จวินจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังแข็งแรงดี ถึงกระนั้น ในจวนก็ยังไม่มีผู้ใดที่จะสามารถเข้ามาทำหน้าที่แทนนางได้ ดังนั้นเฮ่อเหล่าไท่จวินจึงยังต้องคอยจัดการดูแลทุกเรือน และทุก ๆ วันจะต้องมีคนมารายงานความเคลื่อนไหวของแต่ละเรือนเสมอ
หลายวันก่อนเฮ่อเหล่าไท่จวินได้ลองทานส้มกิมจ้อเชื่อมของฉู่เหลียน นางชื่นชอบยิ่งนักจึงเอ่ยปากชมเป็นพิเศษ
ก่อนหน้านี้เมื่อมีผู้มาเยือนจวนจิ่งอัน โดยปกติแล้วพวกเขาล้วนได้ลองทานของว่างพิเศษจากฝีมือแม่ครัวโจว ทว่าของว่างพิเศษนั้นได้จากไปพร้อมแม่ครัวโจวเสียแล้ว ผู้มาเยี่ยมเยือนจวนในยามนี้ต่างรู้สึกเสียดายและผิดหวังยิ่งนัก
ในหนนี้ผู้มาเยือนคือฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลเจิ้ง นางเป็นเพื่อนเก่าแก่ตั้งแต่เฮ่อเหล่าไท่จวินยังมิได้ออกเรือน มิตรภาพของพวกนางยืนยงมาว่าทศวรรษ ตั้งแต่เด็กจนบัดนี้ที่ทั้งคู่ต่างกลายเป็นเหล่าไท่จวินของตระกูลที่น่านับถือ ย่อมเป็นธรรมดาที่พวกนางจะไม่แข่งขันเปรียบเทียบกันเหมือนความสัมพันธ์ของเหล่าฮูหยินในจวนขุนนางตระกูลอื่น
เจิ้งฮูหยินผู้เฒ่าสงสัยนัก นางยังไม่เคยพบฉู่เหลียนมาก่อน
นางจึงใช้เรื่องนี้มาหยอกล้อสหายตน “นี่ ๆ พี่สาวที่รัก เหตุใดท่านถึงไม่เคยบอกข้าว่าหลานสะใภ้ท่านรู้วิธีทำขนมเสียด้วย? ยามนี้แม่ครัวของหวานท่านก็ไม่อยู่เสียแล้ว ตอนนี้การทานของว่างที่นี่ไม่เป็นไปเฉกเช่นเมื่อก่อนเลย!”
ทั้งคู่ต่างเป็นสหายเก่าแก่ พวกนางจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างไม่ต้องถือตัว ดังนั้นเฮ่อเหล่าไท่จวินจึงสั่งเหลียวหมัวมัวให้นำของว่างที่ฉู่เหลียนทำมาจัดวาง
เมื่อเหลียวหมัวมัวเปิดฝากล่อง นางก็อ้าปากค้างตกตะลึง
เฮ่อเหล่าไท่จวินมองนางอย่างหงุดหงิด
“เหล่าไท่จวินทั้งสองอภัยให้บ่าวด้วย ของว่างนี้ดูงดงามเกินไปจนบ่าวเสียกิริยา”
“โอ ของว่างแบบใดกันที่ทำให้เซี่ยงหยุนถึงกับเสียกิริยาได้? เร็วเข้า เอามาให้ข้าดู” เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินสั่ง
เซี่ยงหยุนเป็นชื่อของเหลียวหมัวมัวตั้งแต่ครั้งที่นางยังเป็นเพียงสาวใช้รุ่นเล็กอยู่
เมื่อเหลียวหมัวมัวนำของว่างทั้งหมดมาจัดเรียงบนโต๊ะ กระทั่งเหล่าไท่จวินทั้งสองที่เคยพานพบของว่างมามากในชีวิตก็ยังตาค้างอย่างตกตะลึง
น้ำแข็งไสไม่เพียงส่งกลิ่นหอม ทว่ารูปลักษณ์ยังน่าประทับใจนัก ของว่างที่ถูกรังสรรค์มาอย่างประณีตนั้นถูกยกมาในถ้วยกระเบื้องเคลือบ ในนั้นประกอบด้วยผลไม้หลากสีสันตัดกับถ้วยและน้ำแข็งสีขาว อีกทั้งยังมีดอกกล้วยไม้ที่ถูกประดับวางอยู่ข้างถ้วย ยิ่งทำให้ดูคล้ายงานศิลปะมากกว่าจะเป็นเพียงของว่างในยามเที่ยง พวกนางแทบจะอดรนทนไม่ไหว
อีกทางหนึ่งยังมีหยดน้ำใสสะอาดที่ดูน่าสนใจนัก ยกมาในถ้วยทรงยาวสีเขียวเข้ม ด้านล่างหยดน้ำมีใบบัววางรองไว้อย่างงดงาม ยกมาคู่กับน้ำเชื่อมสีน้ำตาลและแป้งถั่วเหลือง ที่ดู ๆ ไปก็คล้ายหยดน้ำค้างยามเช้าที่กลิ้งอยู่บนใบบัว พวกนางไม่เคยเห็นของเช่นนี้มาก่อน
ขณะที่ผู้เฒ่าทั้งสองกำลังชื่นชมของว่างอยู่นั้น เหลียวหมัวมัวก็พูดขึ้น
“เฮ่อเหล่าไท่จวิน นายหญิงสามกล่าวว่าหากมิได้น้ำแข็งที่ท่านมอบให้ในวันนี้ ก็คงมิอาจทำขนมเช่นนี้ได้ ดังนั้นจึงส่งของหวานที่ทำจากน้ำแข็งนี้และโมจิหยดน้ำมาเป็นของตอบแทนเจ้าค่ะ ทว่าของว่างทั้งสองล้วนเป็นของเย็น โปรดระมัดระวังอย่าทานมากเกินไป เกรงว่าร่างกายของท่านจะรับไม่ไหวเจ้าค่ะ”
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย “เจ้าส่งน้ำแข็งไป?”
เฮ่อเหล่าไท่จวินอธิบายเรื่องที่เฮ่อฉางตี้เร่งไปชายแดนเหนือ เด็กคนนั้นคงต้องเตรียมการไว้ก่อนแล้ว ทว่ากลับทิ้งไว้เพียงจดหมายที่บอกว่าจะไป ณ ที่แห่งใด นอกจากนี้นางยังได้ส่งต้าหลางให้ติดตามไปดู แต่ผ่านไปเกือบวันหนึ่งแล้วยังไม่มีข่าวคืบหน้าใดส่งกลับมา เช่นนี้เฮ่อฉางตี้คงตัดสินใจและวางแผนล่วงหน้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นแน่ สงสารก็แต่หลานสะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้าของนาง
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินขมวดคิ้ว “พี่สาว ท่านต้องจัดการทุกสิ่งให้รอบคอบนะ ให้แน่ใจว่าบ่าวในจวนของท่านจะปิดปากเงียบ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของหลานสะใภ้ท่านคงป่นปี้เป็นแน่”
“แน่นอน ข้าทราบแล้ว เจ้าหลานชายข้าคราวนี้สร้างปัญหามากเกินไปแล้วจริง ๆ!”
ไม่ว่าอย่างไรเฮ่อฉางตี้ก็ยังคงเป็นหลานชายคนโปรดของเฮ่อเหล่าไท่จวิน นางไม่อาจตัดใจกล่าวโทษสิ่งเขากระทำได้ นอกจากนั้นเขายังอายุเท่านี้แล้ว เป็นวัยที่ควรจะริเริ่มกระทำอะไรสักอย่างด้วยตนเอง จวนจิ่งอันย่อมไม่อาจปล่อยให้มีนายที่ขี้เกียจลอยชายไปมาได้
ทว่านางก็ยังอดมิได้ให้ว่าหลานชายตัวดีที่ด่วนออกเดินทางไปโดยไม่บอกกล่าวเสียก่อน
ส่วนชื่อเสียงของฉู่เหลียนนั้น เฮ่อฉางตี้ดูมิได้ใส่ใจภรรยาของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะคิดถึงนางได้อย่างไร
“เฮ้อ…อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเลย มาลองทานของว่างที่หลานสะใภ้ข้าทำดีกว่า”
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินยิ้มอย่างยินดีขณะรับส้อมเงินที่สาวใช้ส่งมาให้ จากนั้นนางจึงตักน้ำแข็งไสขึ้นมาคำเล็ก ๆ เพื่อลองชิมดู
รสชาติของผลไม้ชุบน้ำผึ้ง บัวหวาน น้ำลี่สื่อสดใหม่ และกลิ่นของนมผสมอยู่ในปาก สิ่งนี้ทั้งเย็นสดชื่นและยังได้รสชาติอร่อยของผลไม้ นับเป็นของหวานที่ดีที่สุดในหน้าร้อนทีเดียว
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินพยักหน้าอย่างชื่นชมทันทีที่ทานเข้าไปเพียงคำเดียว “อยู่มาตั้งหลายปี ข้ายังไม่เคยทานของหวานที่อร่อยเพียงนี้มาก่อน! พี่สาว ท่านช่างโชคดีนัก”
เฮ่อเหล่าไท่จวินมิได้คาดหวังอะไรกับฉู่เหลียน ทว่าฝีมือทำครัวของหลานสะใภ้กลับทำให้สหายเก่าของนางชื่นชมได้ นางจึงยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก จนลืมเรื่องเศร้าและความกังวลที่มีต่อเฮ่อฉางตี้ไปได้ชั่วขณะ
เหล่าไท่จวินทั้งสองล้วนอายุมากแล้ว ดังนั้นจึงมิกล้าทานของหวานที่เย็นมากจนเกินไป แม้ว่ารสชาติของมันจะยั่วยวนใจถึงเพียงใดก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วพวกนางก็ต้องห้ามปรามตนเองให้ทานเพียงครึ่งถ้วย บ่าวไพร่รอบด้านเห็นดังนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายลง
“ข้าคงรับของขวัญจากเด็ก ๆ โดยไม่ตอบแทนไม่ได้ นี่ ช่วยข้านำกำไลนี้ไปมอบให้หลานสะใภ้ของท่านทีเถิด ในสักวันข้าคงได้ไปพบนางด้วยตัวเองเป็นแน่” เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินถอดกำไลข้อมือมรกตขณะกล่าว
กำไลนี้นับเป็นของคุณภาพดีชิ้นหนึ่ง เพียงมองสีเขียวมรกตนั้นก็ทราบได้
เฮ่อเหล่าไท่จวินเข้าใจเพื่อนของนางดี จึงมิได้ปฏิเสธ ทั้งยังให้เหลียวหมัวมัวรับไปเก็บไว้
“ได้ยินว่าคุณชายเฉิง หลานชายเจ้าก็ชอบของหวาน เช่นนั้นแล้วเจ้าก็นำมันกลับไปที่จวนด้วยเถิด”
“เช่นนั้นข้าไม่มากพิธีแล้ว เฉิงเอ๋อร์ชอบของหวานแปลกใหม่นัก”
ชื่อเต็มของคุณชายเฉิงคือ เจิ้งเทียนเฉิง เป็นทายาทของเจิ้งกงเจว๋ เขาอายุเท่ากับเฮ่อฉางตี้ ทั้งยังเป็นคุณชายที่เกิดจากบ้านใหญ่ของตระกูล เรียกได้ว่าเป็นบุตรชายสายตรงเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในจวนตระกูลเจิ้ง เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินจึงโปรดปรานเขานัก
เจิ้งซื่อจื่อ หรือเจิ้งเทียนเฉิงนั้นชอบทานอาหารดี ๆ โดยเฉพาะของว่างจากจวนจิ่งอัน เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินจึงมักจะนำขนมกลับไปให้หลานชายทุกคราที่มาเยี่ยมเยียนเฮ่อเหล่าไท่จวิน
แท้จริงแล้วในใจนางยังคงเสียใจกับการสูญเสียแม่ครัวโจวไป ทว่ายามนี้เฮ่อเหล่าไท่จวินมอบขนมที่หลานสะใภ้ทำให้ นางก็กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง
เหลียวหมัวมัวจำที่ฉีเยี่ยนแนะนำยามนำของว่างมาให้ได้ จึงเอยเตือน “นายหญิงสามกล่าวว่าของว่างนี้เก็บไว้ได้ไม่เกินครึ่งวัน ไม่เช่นนั้นจะเสียเจ้าค่ะ”
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินหัวเราะลั่น “เอาล่ะ เข้าใจแล้ว นี่ก็เย็นมากแล้ว ข้าคงต้องกลับก่อน พี่สาวไม่ต้องห่วงซานหลางมากไปหรอก ข้าจะให้สามีช่วยฟังข่าวในช่วงหลายวันนี้ให้ท่านเอง”
เมื่อแลกเปลี่ยนกันเสร็จ เฮ่อเหล่าไท่จวินก็ส่งสหายเก่ากลับไป
เมื่อเจิ้งกงเจว๋ฮูหยินกลับถึงจวน นางก็บังเอิญพบกับหลานชายที่กลับมาพร้อมกันพอดี
เขาสวมเสื้อคอกลมสีน้ำเงินไพลินเข้ากับเครื่องประดับศีรษะหยกสีเขียวบนหัว แม้รูปร่างหน้าตาจะธรรมดา ทว่าหางตาของเขามีรอยขีดบาง ๆ เล็กน้อยยามเมื่อเผยรอยยิ้ม ทำให้ผู้พบเจอคงอดไม่ได้ให้รู้สึกถึงความอบอุ่นเป็นมิตร
“ท่านย่าไปไหนมาขอรับ”
เจิ้งกงเจว๋ฮูหยินหัวเราะสัพยอก “เจ้าลิงตัวน้อยนี่ เดี๋ยวนี้กล้ายุ่งเรื่องของย่าแล้วหรือ? ย่าไปพบสหายเก่าที่จวนจิ่งอันมา นี่ของเจ้า”
สาวใช้ที่ยืนเบื้องหลังกงเจว๋ฮูหยินส่งกล่องเล็ก ๆ ที่มีไอเย็นลอยออกมาให้แก่เขา
“ของว่างลือชื่อของจวนจิ่งอันหรือขอรับ?”
“ไม่ ไม่ใช่เลย นายหญิงสามคนใหม่แห่งจวนจิ่งอันเป็นผู้ทำสิ่งนี้ รีบไปลองทานเถอะ มันเก็บไว้ได้ไม่นานนัก ตอนนี้ย่าก็เหนื่อยแล้ว ว่าจะไปนอนพักเอาแรงเสียหน่อย อย่ารบกวนล่ะ”
เจิ้งซื่อจื่อรับของว่างมา แต่พลันนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายจากสถานศึกษาหลวง พี่เซียวเพิ่งจะมาเยี่ยมเยียน จึงได้เร่งรุดออกไปยังเรือนนอก
————————
อ่านเร็วก่อนใคร ไม่พลาดทุกการอัปเดตนิยายได้ที่เว็บ Kawebook ค่ะ^^
https://www.kawebook.com/story/6816