ปกรณัมรักข้ามภพ - ตอนที่ 62 ปลอดภัย
ทว่า ความเจ็บปวดที่นางคาดว่าจะได้รับจากใบมีดอันคมกริบนั้นกลับไม่มาถึง พร้อมทั้งได้ยิน… เสียงหวีดหวิว?
ฉู่เหลียนหอบหายใจแรงนั่งอยู่บนพื้น เมื่อลืมตาขึ้นช้า ๆ ก็เห็นนักฆ่าคนนั้นล้มกองอยู่ด้านข้าง และมีลูกธนูปักอยู่ที่ลำคอ ดวงตานางพลันเบิกกว้าง ค่อย ๆ ยันตัวขึ้นก่อนจะมองไปรอบกาย และพลันเห็นชายตาฟ้าดั่งท้องฟ้าผู้นั้นอยู่บนชั้นสอง ในมือยังถือคันธนู
ลูกธนูดอกนั้นย่อมเป็นของเขา
ฉู่เหลียนผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก ทั่วร่างแทบจะอ่อนระทวย
ไม่ทันไร เสียงวี้ดก็ดังขึ้นอีกครั้ง นางหันไปทันทีทั้งที่ตัวยังแข็งทื่อ เป็นนักฆ่าคนที่สองที่ถูกยิงตายด้วยลูกธนูเพียงดอกเดียว…
ยามนี้ฉู่เหลียนจึงรู้สึกตัว มีคนตายต่อหน้าต่อตานาง นัยน์ตาดำขยายกว้าง ใบหน้าซีดขาว นางกระถดถอยหลัง พยายามอยู่ให้ห่างจากร่างคนตาย
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก กองกำลังจำนวนหนึ่งบุกเข้ามาในร้านน้ำชาเต๋อเฟิง ชายตาฟ้าเป็นผู้นำคนเหล่านั้นมาหาฉู่เหลียน
ฉู่เหลียนสังเกตเห็นทหารเหล่านั้นสวมชุดเกราะพกดาบไว้ที่เอว ย่อมเป็นกองกำลังป้องกันเมืองที่เวิ่นหลานไปตามมาแน่
ชายตาฟ้ายื่นมือเข้าช่วยฉู่เหลียนให้ลุกขึ้น “คุณหนูหกตระกูลฉู่ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
ยามนี้ฉู่เหลียนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเยลลี่ไปแล้ว ทว่านางก็ยังไม่ยอมลุกขึ้น ทั้งยังจ้องมองเขาชั่วขณะก่อนลดสายตาลง ฉู่เหลียนเม้มปาก ส่ายหน้า “เรียนจิ่นอ๋อง หม่อมฉันสบายดี เพียงตกใจเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บเพคะ”
เมื่อได้ยินฉู่เหลียนเรียกตนว่าจิ่นอ๋อง ดวงตาคู่นั้นก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาโบกมือให้สาวใช้สองคนก้าวออกมาด้านหน้า เพื่อช่วยช่วยประคองฉู่เหลียนลุกขึ้น
คราวนี้เป็นเวิ่นหลานที่พุ่งตัวออกมาจากฝูงชน เห็นฉู่เหลียนยังปลอดภัยดี น้ำตาก็หลั่งริน “นายหญิงสาม ดีเหลือเกินที่ท่านไม่เป็นอะไร”
ฉู่เหลียนพยายามส่งยิ้มให้แม้จะรู้สึกอ่อนแรงยิ่งนัก แต่ไม่ทันรอให้นายหญิงเอ่ยคำใด เวิ่นหลานก็รู้ทันทีว่านางอยากถามสิ่งใด “นายหญิงสามไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ ฉีเยี่ยนปลอดภัยดี! นางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทว่าท่านหมอกำลังดูแลนางอยู่ที่เรือนหน้าของร้านน้ำชาเจ้าค่ะ”
บทสนทนาของคนทั้งคู่ยังไม่จบดี สาวใช้ผู้หนึ่งก็เร่งฝ่าฝูงชนเข้ามา
ฉู่เหลียนหันไปมองก็เห็นว่าเป็นจิ่นซิ่ว สาวใช้ส่วนตัวขององค์หญิงต้วนเจี่ย
เมื่อจิ่นซิ่วมาถึง นางก็รุดเข้าจับที่ข้อมือฉู่เหลียนแน่น ร้องไห้ด้วยความกังวล “นายหญิงสาม องค์หญิงของบ่าวล่ะเจ้าคะ! องค์หญิงของบ่าวหายไปไหนแล้ว?!”
จิ่นอ๋องมองเสื้อนอกที่ฉู่เหลียนสวมอยู่ เห็นว่าเป็นขององค์หญิงต้วนเจี่ย ในใจก็ผูกโยงเรื่องราวจนเข้าใจในทันที
ฉู่เหลียนหน้าขึ้นสี สีแดงนั้นปรากฏชัดบนใบหน้าซีดขาว หลบหลีกอันตรายได้หวุดหวิดเช่นนี้ นางลืมไปเลยว่าองค์หญิงยังคงอยู่ในบ่อน้ำ…
นางกระแอมไออย่างกระอักกระอ่วนซ่อนความรู้สึกผิดและลอบมองจิ่นอ๋อง “ทางนี้”
เวิ่นหลานรีบเข้ามาประคองฉู่เหลียน เมื่อฉู่เหลียนนำทางจิ่นอ๋องและเหล่าทหารมายังเรือนเล็กหลังนั้นแล้ว นางก้มมองไปในบ่อน้ำ เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น ทว่าท่อนไม้ยังลอยอยู่เหนือน้ำ จึงตะโกนดังลั่น “องค์หญิง! ออกมาได้แล้วเพคะ! มีคนมาช่วยแล้ว!”
เหล่าทหารผู้แข็งแกร่งที่ยืนรายล้อมต่างมีสีหน้างุนงงและหวาดหวั่นใจ
ผิวน้ำเบื้องล่างกระเพื่อมไหว ศีรษะคนผุดขึ้นมาจากใต้ท่อนไม้ น้ำเสียงขององค์หญิงต้วนเจี่ยก็ดังลอดขึ้นมาคล้ายกำลังโมโห “ฉู่เหลียน! เจ้านี่ช้านัก!! รีบให้คนมาช่วยข้าขึ้นไปเร็วเข้า!”
ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดขององค์หญิงต้วนเจี่ยแล้ว ฉู่เหลียนจึงผ่อนคลายลงได้
ที่จริงเมื่อฉู่เหลียนหวนนึกถึงการกระทำของตัวเอง นางก็ต้องยอมรับว่าการผลักองค์หญิงลงบ่อน้ำนั่นออกจะหนักมือไปจริง ๆ ตอนนั้นนางเพียงคิดว่าจะเอาตัวรอดเช่นไรดี โดยลืมนึกไปว่าองค์หญิงจะลำบากหรือไม่ แต่โชคดีที่องค์หญิงไม่ใช่คนบอบบางแบบนั้น
เหล่าทหารรีบเตรียมเชือกโยนลงไปในบ่อ
เมื่อดึงตัวองค์หญิงที่เปียกชุ่มโชกขึ้นมาได้ ไม่ทันรอให้จิ่นอ๋องนำผ้ามาคลุมตัวให้อุ่น องค์หญิงต้วนเจี่ยก็พุ่งเข้ากอดฉู่เหลียนแน่น
น้ำเสียงขององค์หญิงสั่นเล็กน้อยยามนางกระซิบที่ข้างหูฉู่เหลียน “ฉู่เหลียนคนโง่งม! รู้ไหมว่าข้าอยู่ในบ่อลำพังน่ากลัวเพียงใด!! หากข้าฝันร้าย ข้าจะไปซื้อตุ๊กตาตัวหนึ่ง ปักชื่อเจ้าลงไป แล้วเอาเข็มทิ่มแทงมันทุกวันจนกว่าจะหายหวาดกลัว!”
ฉู่เหลียนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น ดังคาด องค์หญิงผู้นี้นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย สิ่งที่ทำหลังช่วยชีวิตกลับเป็นการดุด่า! ฉู่เหลียนไม่รู้จะทำอย่างไรดี กระทั่งรู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่คอ
ใจฉู่เหลียนอ่อนยวบ นางตบหลังองค์หญิงต้วนเจี่ยเบา ๆ และเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “หม่อมฉันขออภัยเพคะ เป็นความผิดหม่อมฉันเอง หากอีกหน่อยองค์หญิงฝันร้าย หม่อมฉันจะทำของอร่อย ๆ ไปให้ท่าน จะดีหรือไม่?”
องค์หญิงสะอึกสะอื้น นางผลักฉู่เหลียนออกแล้วเช็ดน้ำตา พร้อมทั้งจดจ้องฉู่เหลียนด้วยดวงตาแดงก่ำก่อนเม้มปาก “ฉู่เหลียน ที่เจ้าพูดมาจริงหรือไม่? อย่าได้บังอาจหลอกลวงข้าเชียวนะ! ข้าอยากทานคุกกี้รูปหัวแมว! และยังมีเป็ดย่างฝีมือเจ้าด้วย!”
ฉู่เหลียน: …
องค์หญิงที่รักเจ้าขา เลิกเปลี่ยนอารมณ์ไปมารวดเร็วเพียงนี้ได้หรือไม่? หัวใจของข้ารับไม่ทันแล้วเจ้าค่ะ
แน่ใจนะว่าที่ร้องไห้นี่ไม่ใช่แผนหลอกเอาขนมข้าน่ะ?
ฉู่เหลียนอยากกลอกตาใส่องค์หญิงจริง ๆ