ปฏิญญาค่าแค้น - ตอนที่ 311-1 โกรธเคืองอย่างยิ่ง
หลี่หมิงอวินตามมาถึงป่าท้อด้วยความร้อนรนใจอย่างยิ่ง แต่กลับเห็นหรูอี้กำลังเป็นเสมือนแมลงวันไร้หัวที่กำลังหันไปหันมาอย่างไร้จุดหมาย
“จิ่นซิ่ว เอ้อร์เส้าหน่ายนายล่ะ” ความกังวลใจที่หนักอึ้งในดวงใจหลี่หมิงอวินผ่อนคลายลง เพราะจิ่นซิ่วอยู่ที่นี่ หลันเอ๋อร์ก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วยเป็นแน่
คาดไม่ถึงว่าจิ่นซิ่วจะกล่าวโดยชักสีหน้าเศร้าโศก “เอ้อร์เส้าเหยียเจ้าคะ ข้าน้อย…ข้าน้อยพลัดหลงกับนายหญิงเจ้าค่ะ…”
หลี่หมิงอวินรู้สึกหนังศีรษะชาขึ้นมาทันที ความรู้สึกที่เพิ่งผ่อนคลายลงกลับหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “ว่าอย่างไรนะ อะไรที่ว่าพลัดลงกันแล้ว?”
จิ่นซิ่วปาดน้ำตา พลางกล่าวอย่างขลาดกลัว “ข้าน้อยติดตามเอ้อร์เส้าหน่ายนายมา ทว่าพอเอ้อร์เส้าหน่ายนายเดินเข้าป่าท้อไป ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเจ้าค่ะ ข้าน้อยตามหาอยู่แถวนี้ตั้งนานแล้ว ตะโกนจนคอแหบแห้งแล้ว ก็ตามหาเอ้อร์เส้าหน่ายนายไม่พบเจ้าค่ะ”
หลี่หมิงอวินรู้สึกโมโหอย่างยิ่ง จึงจ้องเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยวใส่จิ่นซิ่ว อยากตำหนินางแรงๆ สักชุด เดินติดตามผู้ใหญ่ตัวเป็นๆ คนหนึ่งยังอุตส่าห์ให้พลัดหลงกันได้อีก
จิ่นซิ่วเห็นแววตาที่ดุดันของคุณชายรองที่แทบจะเฉือนร่างนางออกเป็นชิ้นๆ ก็ว่าได้ ความหวาดกลัวจึงยิ่งทวีเพิ่มขึ้น จนกล่าวทั้งเสียงร้องไห้กระซิก “ข้าน้อยเห็นเอ้อร์เส้าหน่ายนายเดินเข้าป่าท้อไปชัดๆ…”
จิ่นซิ่วร้องไห้เยี่ยงนี้ หลี่หมิงอวินที่อยากอบรมสั่งสอนนางจึงพูดไม่ออกเช่นกัน ช่างเถอะๆ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือตามหาหลันเอ๋อร์ให้เจอ หลี่หมิงอวินพยายามสะกดกลั้นความโกรธเกรี้ยวที่ปะทุออกมา แล้วกล่าวอย่างหงุดหงิด “เจ้ายังมีหน้ามาร้องไห้อีก รีบตามหาคนเข้าสิ! เจ้าไปทางตะวันออก ข้าจะไปทางตะวันตก อีกครึ่งชั่วโมงกลับมาเจอกันตรงนี้”
“เจ้าค่ะ!” จิ่นซิ่วรีบปาดน้ำตา ตาลีตาเหลือกไปตามหานายหญิงสะใภ้รอง แต่กลับมุ่งไปทิศทางเดียวกับคุณชายรองเสียได้
หลี่หมิงอวินกล่าวตำหนิด้วยสีหน้าบึ้งตึง “บอกแล้วนี่ว่าให้เจ้าไปทางตะวันออก ทางไหนเป็นทิศตะวันออก เจ้าแยกไม่ได้แล้วหรือไร”
จิ่นซิ่วพยักหน้าระรัว ที่แท้เป็นนางที่วิ่งไปผิดทิศทาง จิ่นซิ่วเดินไปได้ระยะหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองคุณชายรอง คุณชายรองวิ่งหายเข้าไปในป่าตั้งนานแล้ว ทั้งยังตะโกนเรียกชื่อของนายหญิงสะใภ้รองด้วยความกระวนกระวายใจ จิ่นซิ่วย่นจมูก พลางรำพึงรำพันในใจ เอ้อร์เส้าหน่ายนาย นี่ท่านจงใจดัดนิสัยเอ้อร์เส้าเหยียสินะเจ้าคะ! ดูเอ้อร์เส้าเหยียร้อนรนใจ อย่างกับไฟลนหางเข้าสิ ป่านี่กว้างใหญ่ไพศาลเพียงนี้ ชั่วโมงสองชั่วโมงยังเดินไม่รอบด้วยซ้ำ เฮ้อ! คุณชายรองผู้น่าสงสาร ใครใช้ให้ท่านทำให้เอ้อร์เส้าหน่ายนายโกรธล่ะ ข้าน้อยรับปากเอ้อร์เส้าหน่ายนายไว้แล้ว จึงทำได้เพียงขอโทษท่านด้วยเท่านั้นแล้วละ
หลังหลินหลันฟื้นฟูสภาพอารมณ์เป็นที่เรียบร้อย จึงเดินกลับมายังบ้านพักอย่างเอ้อระเหยลอยชาย
กุ้ยซ่าวและคนอื่นๆ กำลังยืนรอคอยอยู่ปากประตูบ้าน เมื่อเห็นนายหญิงสะใภ้รองกลับมาแล้ว กุ้ยซ่าวจึงเป็นอันโล่งอกโล่งใจ เดินเข้าไปต้อนรับด้วยสีหน้าเบิกบาน “ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดเอ้อร์เส้าหน่ายนายก็กลับมาเสียที ขืนท่านยังไม่กลับมา ตงจึคงต้องลงเขาไปหาคนมาช่วยตามหาแล้วละเจ้าค่ะ”
หลินหลันยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด “ทำให้พวกเจ้าเป็นกังวลเสียแล้ว ข้าเพียงแค่เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์บนเขา จนลืมเวร่ำเวลาไปเลย”
ตงจึเดินเข้ามา แล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มระรื่น “เอ้อร์เส้าหน่ายนายคงได้เจอเอ้อร์เส้าเหยียแล้วสินะขอรับ?”
หลินหลันแสร้งเผยสีหน้าประหลาดใจ “ตงจึ เจ้าติดตามเอ้อร์เส้าเหยียไปมิใช่หรือ เหตุใดถึงมาถามข้าล่ะ”
“เอ่อ…เอ้อร์เส้าเหยียกลับมา ได้ยินว่าท่านออกไปข้างนอก ก็รีบออกไปหาท่านทันทีขอรับ” ตงจึกล่าวอย่างอ้ำอึ้ง
หลินหลันกล่าวหน้าตาเฉย “ข้าไม่เห็นเขาเลย กุ้ยซ่าว ข้าหิวแล้ว มื้อเย็นทำเรียบร้อยแล้วหรือไม่”
กุ้ยซ่าวตบลงไปที่หน้าผากของตนเองหนึ่งที “ไอ้หยา…บ่าวมัวแต่เป็นห่วงเอ้อร์เส้าหน่ายนาย จนลืมทำมื้อเย็นไปเลยเจ้าค่ะ เอ้อร์เส้าหน่ายนายเจ้าคะ ท่านรอสักประเดี๋ยวหนึ่งนะเจ้าคะ บ่าวจะไปทำเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
กุ้ยซ่าวรีบวิ่งไปยังห้องครัวทันที
“หรูอี้ ประคองข้ากลับห้องทีสิ ข้าเหนื่อยแล้ว”
หรูอี้ขานรับแล้วเดินเข้ามา ช่วยประคองนายหญิงสะใภ้รองมุ่งเข้าไปด้านใน ปล่อยให้ตงจึยืนเกาศีรษะอยู่ตรงนั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ นี่เขายังต้องไปตามหาคุณชายรองอีกหรือ แต่คุณชายรองไม่ได้บอกกล่าวไว้ด้วยว่าไปแห่งหนใด จำให้เขาตามหาอย่างไรล่ะ ตงจึตกตะลึงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เขากัดฟันแน่น แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่คุณชายรองเดินไปเพื่อตามหา
หลินหลันล้างหน้าล้างตาเป็นที่เรียบร้อย หรูอี้เดินถือขนมของว่างมาให้นางรองท้องก่อน หลินหลันจึงดื่มน้ำชาไป รับประทานขนมไป พลางกล่าวสั่งการ “เจ้าไปเก็บกวาดห้องด้านตะวันตกทีสิ คืนนี้เอ้อร์เส้าเหยียจะนอนที่นั่น”
หรูอี้ตะลึงงัน “เอ๋?”
“เอ๋อันใดหรือ รีบไปเร็วเข้า” หลินหลันกล่าวเร่งเร้า ครั้งนี้ หากหลี่หมิงอวินไม่สำนึกผิดและหยิบยกความสัตย์จริงมากพอออกมากล่าวขอโทษ นางจะไม่ให้อภัยเขาเป็นอันขาด
หรูอี้ส่งเสียง อ้อ อย่างงุนงง จากนั้นไปจัดการเก็บสิ่งของของคุณชายรองอย่างเชื่องช้า เห็นทีว่า ครั้งนี้นายหญิงสะใภ้รองจะโกรธเคืองอย่างยิ่ง คุณชายรอง ท่านคงต้องช่วยเหลือตนเองให้มากเข้าไว้แล้วกระมัง!
ท้องนภามืดมิดสนิทลงแล้ว หลี่หมิงอวินตามหาในป่าท้อแล้วหนึ่งรอบ ตะโกนจนคอแทบแตก แต่ยังคงตามหาหลันเอ๋อร์ไม่พบ หลันเอ๋อร์ไปไหนแล้วกันแน่ หลี่หมิงอวินมองไปยังท้องนภายามราตรีที่มืดสลัว ทั้งเป็นกังวลทั้งเศร้าใจ ในสมองเต็มไปด้วยความนึกคิดในแง่ร้าย เกิดหลันเอ๋อร์โชคร้ายหล่นภูเขาไป ที่นี่มืดมิดนัก หากไม่ทันระวังเท้าพลิก เท้าแพลง ไม่แน่ว่ายามนี้หลันเอ๋อร์อาจกำลังแอบร้องไห้อยู่ที่ไหนสักแห่ง…ยิ่งหลี่หมิงอวินคิดก็ยิ่งนึกตำหนิตนเอง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงหวังว่าทางด้านจิ่นซิ่วนั่นจะได้รับอะไรกลับมาบ้าง
จิ่นซิ่วไม่ได้เดินไปไกลด้วยซ้ำ นายหญิงสะใภ้รองกลับไปแล้ว ยังจะต้องเปลืองแรงทำไมอีกล่ะ นางจึงหาบริเวณหนึ่งนั่งลงพักผ่อน รอถึงเวลา ค่อยเดินคอตกกลับไปทางเดิม
หลังรอคอยอยู่พักใหญ่ คุณชายรองและนางเดินออกจากป่ามาด้วยสภาพเศร้าสร้อยเช่นเดียวกัน ทันทีที่มองเห็นนางอยู่ตัวคนเดียวตรงนั้น สีหน้าของคุณชายรองก็บูดบึ้งทันที จิ่นซิ่วหักห้ามใจไม่ได้ จึงกล่าวอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เอ้อร์เส้าเหยียเจ้าคะ บ่าวหาเอ้อร์เส้าหน่ายนายไม่พบเจ้าค่ะ แต่ไม่แน่ว่าเอ้อร์เส้าหน่ายนายอาจจะกลับไปแล้วก็เป็นได้นะเจ้าคะ หรือไม่ พวกเรากลับไปดูกันก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ”
หลี่หมิงอวินทั้งท้อใจทั้งเหนื่อยล้า เอนกายพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง ในสมองเต็มไปด้วยความเวิ้งว้าง ด้วยนิสัยของหลันเอ๋อร์ที่พูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อนางออกมาแล้ว มีหรือจะกลับไปง่ายๆ เขาจึงมั่นใจเกินกว่าครึ่งว่าคงลงเขาไปแล้ว
หลี่หมิงอวินพยายามพูดด้วยสีหน้าท่าทีตื่นตัว “จิ่นซิ่ว เจ้ากลับไปบอกกล่าวตงจึก่อนว่า ให้เขาลงเขาไปหาผู้ดูแลโดยด่วน ให้ผู้ดูแลนำคนแยกกันตามหาบนเขา แล้วค่อยส่งคนกลับไปดูสิว่าเอ้อร์เส้าหน่ายนายกลับจวนหลี่ไปแล้วใช่หรือไม่”
“แล้วท่านล่ะเจ้าคะ” จิ่นซิ่วเอ่ยถาม
หลี่หมิงอวินมองลงไปยังเบื้องล่างภูเขา กัดฟันแน่น แล้วกล่าว “ข้าจะไปตามหาบนเส้นทางเขานี่”
หากตามหลันเอ๋อร์กลับมาไม่ได้ เขาก็ไม่อาจสงบจิตสงบใจอยู่ได้
จิ่นซิ่วร้อนรนใจ แต่ก็ไม่อาจพูดตามตรงได้ว่านายหญิงสะใภ้รองกลับไปแล้ว นี่จะทำอย่างไรดี แต่แล้วจิ่นซิ่วก็ฉุกคิดบ้างอย่างขึ้นมาได้ แล้วกล่าวเสียงอ่อน “แต่ว่า…แต่ว่ายามนี่มืดมิดไร้แสงไฟ บ่าวจำทางกลับไปมิได้แล้วเจ้าค่ะ”
หลี่หมิงอวินหมดคำบรรยายถึงขีดสุด เวลานี้ สถานการณ์นี้ นี่มันเรียกได้ว่าฟ้าดินกลั่นแกล้งกันเห็นๆ เขาโกรธชั่วขณะหนึ่ง ผลลัพธ์กลับกลายเป็นตัวเขาเองที่ถูกลงโทษ
“เอ้อร์เส้าเหยีย เอ้อร์เส้าเหยียขอรับ…ท่านอยู่ไหนหรือขอรับ” เสียงตะโกนเรียกของตงจึล่องลอยมา
จิ่นซิ่วกล่าวด้วยความดีใจ “พี่ตงจึ พวกเราอยู่ตรงนี้!”
ตงจึวิ่งกระหืดกระหอบมา “เอ้อร์เส้าเหยียขอรับ ให้ข้าน้อยตามหาอยู่ตั้งนาน”
หลี่หมิงอวินกล่าวด้วยสีหน้าตึงเครียด “เจ้ามาได้อย่างไรหรือ”
มาได้อย่างไรน่ะหรือ หากเขาไม่มา ไม่รู้ว่าคุณชายรองต้องเดินงมอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อใดน่ะสิ ตงจึกล่าวอย่างหายใจหายคอไม่ทัน “เอ้อร์เส้าเหยียขอรับ รีบกลับเถอะขอรับ! เอ้อร์เส้าหน่ายนายกลับถึงบ้านพักแล้วนะขอรับ”
หลังหลินหลันรับประทานมื้อค่ำเสร็จสิ้น นางให้หรูอี้ไปคอยสังเกตการณ์ที่ปากประตู หากคุณชายรองกลับมาแล้วให้รีบมาบอกกล่าวโดยด่วน
เห็นทีว่าการร่วมมือของจิ่นซิ่วจะประสบความสำเร็จมากทีเดียวเชียว ถึงยามนี้หลี่หมิงอวินจึงยังไม่กลับมา คาดว่ายังคงเดินวกไปวนมาอยู่ในป่าท้อนั่นกระมัง! สมน้ำหน้า นอกจากความสะใจ นางเองก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลใจ ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เริ่มอบอุ่น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พวกงูพิษจะคืบคลานออกมา เกิดเขาถูกงูพิษกัดเข้าแล้วล่ะ…
ในยามที่หลินหลันแทบอดทนไม่ได้ จึงต้องการออกไปตามหาเขา หรูอี้ก็ส่งเสียงรายงานกลับเข้ามา “เอ้อร์เส้าเหยียกลับมาแล้วเจ้าค่า”
หลินหลันรีบไปลงกลอนประตูทันที ตามด้วยดับตะเกียง แล้วขึ้นเตียงนอน
“หลันเอ๋อร์ หลันเอ๋อร์…” หลี่หมิงอวินมาเคาะประตูทันที หลินหลันเอาแต่คลุมโปง ไม่แยแสเขา
หลี่หมิงอวินผลักประตู จึงค้นพบว่าประตูถูกใส่กลอนไว้ จึงทำได้เพียงเคาะประตูอีกครั้ง “หลันเอ๋อร์ เปิดประตู ให้ข้าเข้าไปดูเจ้าหน่อย หลันเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ หลันเอ๋อร์…”
หรูอี้และคนอื่นๆ มองดูคุณชายรองที่ถูกกีดกั้นไว้ด้านนอกประตูอย่างเห็นใจ
หลี่หมิงอวินเดิมอยากพูดเกลี้ยกล่อมให้หลันเอ๋อร์เปิดประตู แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้กะทันหันว่า ด้านหลังยังมีคนจำนวนหนึ่งยืนหัวโด่อยู่ จึงหันไปกล่าว “พวกเจ้าออกไปให้หมด! ไม่ต้องคอยปรนนิบัติอยู่ตรงนี้แล้ว”
หรูอี้ชี้นิ้วไปยังห้องปีกตะวันตก แล้วกล่าวเสียงอ่อน “เอ้อร์เส้าเหยียเจ้าคะ เอ้อร์เส้าหน่ายนายให้ข้าน้อยเตรียมห้องทางด้านตะวันตกไว้ให้แล้วเจ้าค่ะ โดยเอ่ยไว้ว่าคืนนี้ให้ท่านนอนที่นั่นเจ้าค่ะ…”
หลี่หมิงอวินกล่าวด้วยความอับอายปนหงุดหงิด “ใครให้พวกเจ้าจัดเตรียมหรือ เอ้อร์เส้าหน่ายนายอยู่ห้องไหน ข้าก็ต้องอยู่ห้องนั้นเป็นธรรมดา แยกย้ายไปได้แล้ว แยกย้ายกันไปให้หมด…”
กุ้ยซ่าวแอบจับมือหรูอี้แล้วดึงมา พลางกล่าวต่อคุณชายรองด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “เอ้อร์เส้าเหยีย เช่นนั้นท่านเกลี้ยกล่อมเอ้อร์เส้าหน่ายนายอีกสักหน่อยนะเจ้าคะ ส่วนมือเย็นบ่าวจะไปอุ่นร้อนไว้ให้ท่านเจ้าค่ะ! อีกประเดี๋ยวจะให้ตงจึนำมาส่งให้ท่านเจ้าค่ะ”
ทั้งสี่คนถอยออกอย่างเร่งรีบ หลังออกจากบ้านแล้ว กลับพากันไปแอบฟังอยู่ข้างบานประตู