ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit - ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit - บทที่ 603
- Home
- ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit
- ประชันยุทธ์สะท้านฟ้า Peerless Battle Spirit - บทที่ 603
บทที่ 603 – การขึ้นสวรรค์ขององค์รัชทายาท
กองพันวิหคเพลิง สํานักอรุณธรณี “งานบูชาสวรรค์กําลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้อาวุโสหวัง ท่านดูแลพวกเขาด้วย!” ร่างของโจรวฮวาปรากฏตัวขึ้น เขาพูดเพียงสั้นๆ ก่อนที่จะเปิดรอยแยกและส่งคนอื่นๆไปยังเมือง พยัคฆ์ขาว งานบูชาสวรรค์ เป็นการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่สําหรับ ทั้งราชอาณาจักร! สถานที่ที่จัดงานบูชาสวรรค์ ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านใน ของพระราชวัง โจรวฮวาเป็น 1 ใน 3 ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของ อาณาจักรนภาลัยโบราณ และผู้นํากองพันวิหคเพลิง เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องไปถึงสถานที่ล่วงหน้า
สําหรับฉันหนาน ผู้อาวุโสหวัง และคนอื่นๆ แม้พวก เขาจะมีสถานะ แต่พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามกฏ
ของงานบูชาสวรรค์ และเข้าสู่สถานที่หลังจากผ่าน 99 เส้นทางหลักจากประตูทางเข้าของพระราชวัง ในระหว่างงานบูชาสวรรค์ นอกเหนือจากขอบเขต เทวะแล้ว ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้บินอยู่ในอากาศ และความตายคือบทลงโทษสําหรับผู้ที่ต่อต้านกฎ “นั้นไง!” ผู้อาวุโสหวังชี้ไปข้างหน้า และพูดกับคนของตน ฉินหนานเงยหน้าขึ้น และชําเหลืองมองตรงหน้า สถานที่ทั้งหมดดูคล้ายกับซามขนาดใหญ่พร้อมกับ แถวที่นั่งรอบๆ มีการจัดที่นั่งอย่างน้อย 1,000 ที่นั่ง เก้าอี้ทั่วไปแทนด้วยเก้าอี้ไม้เนื้อแดง, เก้าอี้หยกขาว และเก้าอี้มังกรทองใกล้กับตรงกลาง เก้าอี้คือสิ่งที่แสดงสถานะของผู้ที่นั่งมัน
ได้ยง
ในขณะที่ศูนย์กลางของสถานที่เป็นแท่นบูชาขนาด ใหญ่ที่มี 99 ขั้น แท่นบูชามีสีดําอย่างสมบูรณ์และ ผิวของมันเต็มไปด้วยคริสตรัลลึกลับที่ร้อนดังเปลว เพลิง มันปล่อยพลังอันทรงอํานาจออกมา ขณะที่
สั่นสะเทือนอย่างแรง และเหนือแท่นบูชานั้นคือรูปปั้น รูปปั้นนั่นสูง 10 จราง(10 ม.) และขาวนวลละเอียด มันดูเหมือนกับชายวัยกลางคนถือกระบี่ยักษ์และ สวมแผ่นเกราะ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาจ้อง มองออกไปไกล กลิ่นอายโบราณอันเก่าแก่นั้นอาจ รู้สึกได้จากรูปปั้นอันงดงามนี้ “รูปปั้นนั้นคือรูปปั้นจักรพรรดิผู้ล่วงลับ! ข่าวลือ กล่าวว่า หากอาณาจักรนภาลัยโบราณกําลังตกอยู่ ในวิกฤติ รูปปั้นนี้จะแสดงพลังและปกป้อง อาณาจักร! ขณะเดียวกัน ภายในรูปปั้นนั่นมีสมบัติ อันยิ่งใหญ่ ซึ่งยังไม่มีใครที่สามารถปลุกมันจากการ
หลับใหลได้ ราวกับมันชัดเจนแล้วว่ามันกําลังรอ คอยผู้ที่ถูกเลือก…” ผู้อาวุโสหวังอธิบายรายละเอียด ฉินหนานพยักหน้าเล็กน้อย แล้วทันใดนั้น เขาก็ สามารถรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่มันสั่นอยู่ในจิตใจ ความรู้สึกนี้มาจากเสื้อคลุมจ้าวแห่งปีศาจ “จักรพรรดิตายแล้ว” ฉุนหนานพึมพําในหัวใจของ เขา “ไม่ต้องห่วง ข้าจะทําสิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้ข้าให้ สําเร็จ ติดตามข้าและข้าจะกู้คืนศักดิ์ศรีของเจ้าใน อนาคต” เสื้อคลุมจ้าวแห่งปีศาจนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่มันจะส่งเสียงอย่างนุ่มนวล ราวกับว่ามันได้ ยอมรับฉินหนานแล้ว ยุทธภัณฑ์ขั้นตํานานจักรพรรดิมีจิตวิญญาณของ ตนเอง จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะทําให้มันเชื่อใจด้วย ท่าทางของเขา เพื่อให้มันยอมทําตามที่เขาต้องการ จากนั้น ผู้อาวุโสหวังก็พาพวกเขาไปยังที่นั่ง แม้ว่า ตําแหน่งของพวกเขาจะใกล้กับตรงกลางก็ตาม แต่ เก้าอี้นี้ก็เป็นแบบทั่วไปสมบูรณ์แบบ เหตุผลนั่นคือฉินหนานและเพื่อนๆของเขาเป็น
สมาชิกใหม่ของกองพันวิหคเพลิง ดังนั้นสถานะของ พวกเขาค่อนข้างธรรมดา แม้ว่าชื่อเสียงของด่วนฉิงจะพุ่งสูงขึ้นในอาณาจักร นภาลัยโบราณ เขาก็ไม่ได้ใกล้เคียงในการเป็นที่เฉิด ฉายในวันนี้ ฉินหนานไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเก้าอี้ นอกจากนี้ มันยังทําให้เขาได้มีโอกาสสังเกตการณ์คนอื่นๆด้วย “กลิ่นอายของคนทั้ง 10 นั้นค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนๆนั้น ซึ่งการบ่มเพาะอยู่ที่ครึ่ง
ก้าวสู่ขอบเขตเทวะ ถ้าข้าจําไม่ผิด มีแนวโน้มมากว่า พวกเขาคือสิบขุนนาง” ฉินหนานเหลือบมองไปที่ผู้คน ซึ่งประกอบด้วยชาย 8 คนและหญิง 2 คน นั่งอยู่ในเขตเก้าอี้ไม้เนื้อแดง ด้วยตาซ้ายเทพเจ้าแห่งสงคราม และรู้สึกประหลาด ใจเล็กน้อย ขุนนางที่อยู่ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเทวะได้หันศีรษะไป รอบๆ และสวมรอยยิ้มที่เงียบสงบ ซึ่งเขาได้หันหน้า มาทางฉินหนานราวกับเขารู้ถึงการจ้องมองนี้ ฉินหนานแสดงเคารพต่อขุนนางอื้อย่างรวดเร็ว จากนั้น เสนาบดีด้านวินัย, เสนาบดีด้านสงคราม, และเสนาบดีที่เหลือได้เข้าสู่พื้นที่บูชาสวรรค์ และนั่ง ที่เก้าอี้ไม้เนื้อแดง ผู้ปกครององครักษ์หลวง, เจ้าเมือง และอื่นๆ ได้
ผลัดกันเข้าสู่สถานที่จัดงาน แต่พวกเขาทุกคนล้วน นั่งอยู่บนเก้าอี้ปกติ พื้นที่บูชาสวรรค์ได้กลายมามีชีวิตชีวาทันทีใน ขณะนั้น “ที่เพิ่งยวิน ยังไม่ได้มาที่นี่” ฉินหนานมองไปทางเก้าอี้หยกสีขาว ที่มีเพียงจํานวน จํากัด มันถูกเตรียมไว้สําหรับผู้ทรงอํานาจอย่างโจรว ปีฮวา และหลินเฟิงเชียว แต่อย่างไรก็ตามโจรวปี่ฮ วาและหลินเฟิงเซี่ยวได้มาถึงที่นี้นานแล้ว และที่ เพิ่งยวินก็ยังไม่ได้แสดงตัว
หวูบบบ! ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ลงมาจากเบื้องบนซึ่งกลายเป็นที่ เพิ่งยวิน
ผู้คนต่างมุ่งความสนใจไปที่เขา ผู้ที่ได้เคลื่อนที่ต่อไป ยังเก้าอี้หยกสีขาว ในระหว่างทางนั้นที่เพิ่งยวินได้ หันศีรษะไปรอบๆ และพบร่างของฉันหนาน ตอนที่พวกเขาได้สบตากัน ฉินหนานได้ตอบกลับไป ด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ (????)
“ ด่วนฉิง – 6 การแสดงออกของที่เพิ่งยวินเปลี่ยนไปทันที และ เกือบจะบดขยี้ฟันของเขาจนแหลกไปแล้ว ในไม่กี่วันมานี้เขาได้รักษาความโกรธของตนเองให้ มันเบาลง และแทบจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ ของตัวเอง เมื่อเขานึกถึงภาพของการถูกหลอกโดยด์ วนฉิง หากไม่ได้รับคําแนะนําจากพยัคฆ์ขาว ฟิววว!
ที่เพิ่งยวินถอนหายใจยาว และระงับความโกรธ เขา นั่งอยู่บนเก้าอี้หยกสีขาวและไม่แม้แต่จะ มองไป ทางด่วนฉิงเลย ตอนนี้ข้าไม่สามารถทําอะไรได้ มิฉะนั้นแผนการ ทั้งหมดจะล้มเหลว! โฮกกกก! ในขณะนั้นเอง เสียงคํารามที่น่าตกใจได้ระเบิดขึ้น อย่างฉับพลัน กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของมัน กวาดสะพัดไปทั่วทั้งพื้นที่ของงานบูชาสวรรค์เช่น ความกระหายที่รุนแรง ร่างยักษ์กระโดดออกมาจากรอยแยก และทําให้เกิด เงาที่ด้านล่าง ซึ่งนั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก พยัคฆ์ขาวนภาคําราม!
ด้วยการปรากฏตัวที่แท้จริงนี้ มันมีขนาดใหญ่กว่า ร่างจําแลง 3 เท่า พร้อมกับการบ่มเพาะขั้นสูงสุด ขอบเขตเทวะ! “นายท่านพยัคฆ์ขาวนภาคําราม!” แววตาของเสนาบดีและผู้เชี่ยวชาญหรือเซียนหลาย คนต่างวูบวาบด้วยความหลงใหล สําหรับพวกเขา นี้ไม่ใช่แค่พยัคฆ์ขาวนภาคําราม 1 ใน 3 ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์และการดํารงชีวิตทางจิตวิญญาณแก่พวก เขาด้วย “ พยัคฆ์ขาวนภาคําราม ดวงตาของฉันหนานวูบวาบด้วยจิตสารอันเยือกเย็น แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ระงับจิตสังหาร และ ตรวจสอบฝูงชนด้วยตาซ้ายเทพเจ้าแห่งสงคราม
แต่แล้วฉินหนานก็ต้องประหลาดใจเมื่องได้เหลือบ มอง มีเสนาบดีและเจ้าเมืองจํานวนมากที่อยู่ใน อาการตื่นเต้นและมองอย่างหลงใหล มันเป็นไปได้สูงว่านพวกนี้คือผู้อาวุโสของกองพัน พยัคฆ์ขาว! และในตอนนั้นเอง! ต้มมม! พื้นที่บนท้องฟ้าแยกออกจากกัน เผยร่างสูงที่เดิน ออกมาจากความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่เขา ปรากฏตัวมันได้ราวกับว่าเขาได้กลืนกินแสงสว่าง ทั้งหมด และกลายเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ตรงนั้น แม้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะไม่ได้เทียบเท่ากับ พยัคฆ์ขาวนภาคําราม แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากัน
เลย! จักรพรรดินภาลัยโบราณมาถึงแล้ว!
“ท่านพยัคฆ์ขาว โปรดนั่งเถอะ” จักรพรรดินภาลัย โบราณกล่าวเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม “อืม” พยัคฆ์ขาวนภาคํารามยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย และเตะ เท้าลงที่พื้น ร่างของมันเปลี่ยนไปเป็นชายวัย กลางคนที่โหดเหี้ยม ก่อนที่จะนั่งอยู่ที่เก้าอี้หยกขาว ใกล้กับตรงกลางมากที่สุด “สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ข้ามีความยินดีอย่าง มากที่ได้พบทุกท่านที่นี่ในงานบูชาสวรรค์!” จักรพรรดินภาลัยโบราณ ได้ลอยอยู่เหนือศูนย์กลาง ของพื้นที่บูชาสวรรค์ กลิ่นอายอันงดงามของเขาได้ ห่อหุ้มฝูงชนไว้ ในขณะที่เขาได้เปล่งเสียงคํารามดัง สนั่นออกมา “ตอนนี้ถึงเวลาสําหรับ ส่วนแรกของ พิธีแล้ว…การขึ้นสู่สวรรค์ขององค์รัชทายาท!”