ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1003
บทที่ 1003 จะบอกคุณทุกอย่าง
สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงกว่านี้ก็คือ บอสกำลังกินอย่างอร่อย!
พระเจ้า!
ระหว่างทางที่ไปสนามบิน จี้ตงหมิงถูกหัวหน้าของตัวเองเปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อหัวหน้าไปแล้ว ภาพลักษณ์ของบอสที่เคยตั้งไว้ก่อนหน้านี้ต้องอัปเดตใหม่แล้ว!
บอสกำลังกินของบนรถ บอสกำลังกินขนมหวาน!
พระเจ้า!
หลงเซียวหยิบขนมหวานสีเขียวเข้มไว้ในมือ ข้างในเป็นไส้มัจฉะแบบเข้มข้น
จี้ตงหมิงมองเขาผ่านกระจกรถ สุดท้ายเขาทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นมาด้วยความอยากรู้ว่า “บอสครับ นี่มัน……”
“ลั่วลั่วเตรียมไว้ให้”
ทันใดนั้นจี้ตงหมิงเข้าใจอยู่อย่างแล้ว โอเคโอเค นิสัย การเป็นอยู่ของบอสในเมื่อก่อน เมื่อเจอกับภรรยาของบอสก็สามารถเปลี่ยนแนวได้
หลงเซียวมองดูเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในมือ แล้วรุ่นคิด
20อัน เธอจะไป20วันเหรอ?
—-
รถที่ลั่วหานนั่งวิ่งอยู่บนถนนยามค่ำคืนด้วยความเร็วสูง ทิวทัศน์ของถนนทั้งสองข้างก็วิ่งถอยหลังไปเรื่อยๆ ทิ้งเมืองที่รุ่งเรืองไว้ด้านหลังจนหมด อาคารบ้านเรือนที่อยู่ตรงหน้าก็น้อยลงเรื่อยๆ
ผู้คนก็น้อยลงเรื่อยๆ ขับต่อไปอีก10กว่านาทีก็แทบจะไม่เจอบ้านเรือนผู้คนเลย
ลั่วหานมองไปที่ไฟข้างถนนที่อยู่นอกหน้าต่างอย่างเดียวดาย “Where are we going?”
(เราจะไปไหนกันเหรอคะ?)
คนขับรถและชายเครื่องแบบสีดำที่นั่งตรงที่นั่งข้างคนขับพูดขึ้นมาพร้อมกันว่า “ไปพบสมาชิกรัฐสภา”
ลั่วหานบ่นในใจ ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องไปพบสมาชิกรัฐสภา!
“Where?tell me now” (ที่ไหน? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้)
ลั่วหานถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง
เดินทีเธอคิดว่าจะเข้าไปที่สำนักพระราชวัง แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาที่ที่กันดารขนาดนี้ เธอคิดผิดไปแล้ว
“ถึงแล้วครับ”
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ลั่วหานเพิ่งถามจบ ก็เห็นวิลล่าหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสถานที่กันดารเช่นนี้ อาคารสีขาวที่สูง3ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมกอทิกแบบโดดเด่น ด้านนอกเป็นไฟส่องทางย้อนยุค สวนของวิลล่ามีไฟส่องสว่างไปทั่ว พื้นที่สวนนี้ครอบคลุมมีอย่างน้อย1000 ตารางเมตร
สมาชิกรัฐสภางั้นเหรอ?
ที่อยู่อาศัยของสมาชิกรัฐสภามันจะหรูหราเกินไปหรือเปล่า
ชายวัยกลางคนที่สวมเครื่องแบบสีฟ้าเปิดประตูหลังรถออกมาอย่างสง่า แล้วโน้มตัวลงกล่าวว่า “คุณหมอแอนน่าครับ เชิญด้านในครับ”
แอนน่าสังเกตอาคารสิ่งก่อสร้างรอบๆ พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างพิเศษ ด้านหลังวิลล่าติดกับภูเขา ด้านหน้าเป็นลำธารเล็กๆ หลังภูเขาหน้ามีน้ำ เป็นตำแหน่งที่ตั้งที่เคร่งเรื่องฮวงจุ้ยมาก
คนรับใช้ในนี้มีระดับสูง ผู้ชายใส่เครื่องแบบสีฟ้าเหมือนกัน มีตราติดอยู่ตรงหน้าอก ส่วนผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงสีดำ มีตราติดไว้ตรงหน้าอกเช่นกัน วิลล่าทั้งหลังนี้ทำให้คนรู้สึกกดดัน หนักหน่วง เคร่งเครียดและโบราณเล็กน้อย
ทุกคนต่างทำงานอย่างตั้งใจ แต่ทุกคนไม่มีสีหน้าใดๆ แสดงออกมาบนใบหน้าเลย
ราวกับหุ่นยนต์
“คุณหมอแอนน่าคะ เชินด้านนี้ค่ะ”
หญิงวัยกลางคนที่จัดทรงผมขึ้นสูงๆ มาต้อนรับแอนน่าต่อจากชายคนนั้น
พวกเขาเดินผ่านทางเดินยาวๆ แห่งหนึ่งไป นี่เป็นห้องโถงที่ใหญ่มาก ด้านบนมีโคมระย้าคริสตัลวินเทจของอลิซาเบธ ขอบผนังที่ขาวสะอาดฝังลายลูกไม้หยักสีทองไว้ รายละเอียดของมันมากพอที่จะดูออกว่าเป็นหัตถกรรมที่ยอดเยี่ยมมาก
มือทั้งสองข้างของหญิงวัยกลางคนวางทับกันอยู่ตรงหน้าท้อง เธอกล่าวพร้อมพยักหน้า “คุณหมอแอนน่า กรุณารอสักครูนะคะ”
“ค่ะ”
หญิงสาวคนนี้ผลักประตูไม้แกะสลักไม้มะฮอกกานีออก ดูจากช่องว่างตรงประตูแล้วสามารถเห็นได้ว่าด้านในนั้นเป็นห้องนอนที่กว้างมาก ติดระเบียงแบบสวนดอกไม้ไว้
พื้นที่ด้านในใหญ่กว่าบ้านประเภท3ห้องนอนของประเทศจีนเสียอีก
“คุณหมอแอนน่าคะ คุณเข้าไปได้แล้วค่ะ ท่าน Merrickเพิ่งจะฉีดยาชาไป ตอนนี้เขาไม่ค่อยสบายตัว ขอความกรุณาลดการสนทนาลงให้มากที่สุดนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เป็นหมอของคนเหล่านี้ กฎเยอะจริงๆ
ลั่วหานพยักหน้า ขอบคุณที่เธอช่วยเปิดประตูให้ เงาร่างที่ผอมบางเพิ่งจะเดินเข้าไป ประตูบานใหญ่ด้านหลังเธอก็ปิดลง
ลั่วหานหันกลับไปมองประตูด้วยความเคยชิน
“คุณมาแล้วหรือ”
เสียงที่อ่อนแอกำลังคุยกับเธอจากบนเตียง อ่อนแรงและเสียงเบามาก แต่สำเนียงบริติชที่ชัดเจนก็ทำให้รู้สึกว่าเพราะมาก
เขาได้ฝึกการออกเสียงมาโดยเฉพาะ มีความกลมกล่อม มีพลัง และอ่อนโยน
น่าจะเป็นคนที่ได้พูดสุนทรพจน์อยู่บ่อยๆ
ลั่วหานเดินเข้าไปหน้าเตียงเบาๆ แล้วเห็นใบหน้าที่ขาวซีด
อายุจริงของเขาคือ55ปี แต่ว่าเขาบำรุงดี ไม่รู้สึกแก่เลย แต่ว่าโรคนี้ทำให้เขาดูแห้งเหี่ยวลงเล็กน้อย
แห้งเหี่ยว แต่ไม่ได้ดูอนาถ
พูดได้เลยว่าใบหน้าของเขาหล่อและดูดี
โครงสร้างหน้าที่ราวกับแกะสลักออกมา ดวงตาสีฟ้าที่ดูลึกลับ จมูกโด่งๆ และริมฝีปากที่ขาวซีด ถ้าเขายืนขึ้นมาได้ เขาต้องดูดีมีราศีอย่างแน่นอน
“สวัสดีค่ะ คุณMerrick คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ?”
Merrickยิ้มออกมาอย่างลำบาก “ผมรู้สึกไม่เท่าไหร่ครับ คุณหมอแอนน่า ผมพึ่งผ่านความเจ็บปวดมาเมื่อสักครู่นี้ครับ”
ตอนนี้เขายิ้มมีตีนกาขึ้นที่หางตาของเขา เห็นได้ชัดว่าปกติเขาเป็นคนชอบหัวเราะ
เขามีความสุข?
หรือว่าเป็นมารยาทที่ต้องมีในการเสวนา?
“รู้สึกเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ถ้าไม่รู้สึกเจ็บปวดจะแย่กว่าเดิมนะคะ จริงไหมคะ?” ลั่วหานยิ้มออกมาเบาๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้กับคุณหมอก็ดีขึ้นเยอะเลย
“ครับ…..ถ้าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด นั่นคือความตาย”
แอนน่าหยิบประวัติคนไข้ที่วางอยู่บนโต๊ะพีบี ลายมือภาษาอังกฤษที่ดูดีได้บันทึกอาการของเขาไว้ อาการทุกครั้งที่เกิดอาการป่วย ระยะเวลาระหว่างเกิดอาการ
“ฉันต้องทำการตรวจให้กับคุณ” แอนน่าวางประวัติคนไข้ลง แล้วหยิบเครื่องตรวจฟังที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา
“อืม”
—-
“อาเฟิน ทำไมคุณตื่นเช้าจัง?”
พระอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ลอยออกมาจากกลุ่มก้อนเมฆ ส้งชิงเซวี๋ยนมาถึงหน้าห้องนอนของหยวนชูเฟินพร้อมแดดยามเช้า และก็พบว่าเธอตื่นนอนแล้ว แถมยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วด้วย
หยวนชูเฟินถอดวิกผมออก เห็นผมที่ยาวมาถึงข้างหู เธอจัดการกับผมที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ได้เรียบร้อยมาก เธอแต่งหน้าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เห็นอาการป่วยได้ชัดเกินไป
แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาจากตรงหน้าต่าง เหมือนแต่งหน้าให้เธอเองโดยธรรมชาติ
“วันนี้เซียวเอ๋อจะกลับมา”
หยวนชูเฟินวางหวีลง แล้วใช้มือจัดแต่งปลายผมหน้ากระจก
เธอในกระจกดูแก่ลงเยอะมาก
เธอไม่ใช้หญิงสาววัยใสที่อยู่ต่อหน้าเส้าเอินอีกต่อไปแล้ว
เธอแก่ลงแล้ว แต่เขากลับยังหนุ่มเสมอ
“เซียวเซียวจะมาหางโจวเหรอ? เป็นเด็กที่กตัญญูจริงๆ!”ส้งชิงเซวี๋ยนเก็บความชื่นชมภายในสายตาไว้ พร้อมยิ้มออกมา
“อืม ใช่ค่ะเซียวเอ๋อ………กตัญญูมาตลอด”
หยวนชูเฟินจัดแต่งทรงผมเสร็จเรียบร้อย แล้วจัดเสื้อผ้าตัวเองให้ดูดี เธอทำอยู่อย่างให้ดูดีและเพียบพร้อม
ส้งชิงเซวี๋ยนมองแล้วรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “คุณจะไปไหน?”
“ไปเอาภาพวาด”
เธอต้องไปเอาภาพวาดที่เธอจะให้ลูกชายดูออกมาก่อน
ส้งชิงเซวี๋ยนไม่รู้เรื่องนี้ “ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”
เจมส์ออกมาจากห้องนอนพร้อมผมที่ยุ่งเหยิง เขาหาวยาวๆ ไปหนึ่งรอบ “ลุงส้งครับ คุณน้าหยวนครับ อรุณสวัสดิ์นะครับ! ว้าว……วันนี้คุณน้าหยวนสวยจังครับ!”
หยวนชูเฟินลูบหัวเขาราวกับโอ๋เด็กน้อย “ยังไม่ตื่นดีเลยใช่ไหม? กลับไปนอนต่อเถอะ อีกเรื่องหนึ่ง พี่ส้ง วันนี้คุณพาเจมส์ไปเที่ยวแถวๆ ถนนยู่ หน่อยสิ พาเขาไปชิมอาหารพื้นเมืองหน่อย ไม่อย่างงั้นคงน่าเสียดายมาที่มาหางโจว”
พอเจมส์ได้ยินคำว่าอาหารพื้นเมืองเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ได้สิครับ! ลุงส้งครับเดี๋ยวพวกเราไปกันเถอะ! ไปกินอาหารเช้าที่นู้น! ในfacebookมีคนแนะนำของกินอร่อยๆ เยอะมากเลยครับ ทั้งขนมรูปทรงหูแมว! แครอทชุบแป้งทอด!! ผมจะกินขนมเปี๊ยะติ้งเซิ่งด้วยครับ! ”
ส้งชิงเซวี๋ยนขยับมือแล้วสอดไขว้กันเข้าไปในชายแขนเสื้อทั้งสอง “กินเป็นอย่างเดียว ถ้ากินต่อไปอีกจะกลายเป็นซาลาเปาแล้ว”
เจมส์กอดแขนของหยวนชูเฟินไว้แล้วโยกไปมาราวกับเด็กน้อยขี้งอแง “คุณน้าหยวนครับ ลุงส้งไม่ยอมพาผมไป”
หยวนชูเฟินตบไปที่หลังมือเขาเบาๆ “ลุงไปค่ะ น้าให้ลุงไปเป็นเพื่อนนะ ไปเที่ยวให้สนุก”
“ครับครับครับ! ขอบคุณครับคุณน้า!”
พอเธอแยกส้งชิงเซวียนและเจมส์ออกจากบ้านไปได้ หยวนชูเฟินก็นั่งที่ห้องรับแขกของวิลล่าคนเดียวอย่างเดียวดาย ลมเย็นๆ พัดเข้าใส่สวนไม้ไผ่ที่อยู่นอกหน้าต่าง ได้ยินเสียงซีซ่าผ่านหน้าต่าง
ภาพวาดทั้ง3รูปวางเรียงกันเป็นแถว เธอใช้มือค่อยๆ จับไปทีละภาพ
ถ้ามันจะเกิด เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าจะต้องพูดมันออกมา เราก็คงเก็บซ่อนไม่อยู่
เธอยอมจำนนแล้ว
ตอนนี้เธอเองที่หน้ามืดตามัว ความผิดที่เธอสร้างขึ้นมาเอง เธอก็ต้องออกมายอมรับมัน
แต่ว่าถ้าเซียวเอ๋อรู้ความจริงแล้ว เขาจะรับได้ไหม? จะให้อภัยเธอไหม?
หยวนชูเฟินหลับตาลงแล้วก้มหน้าลงอย่างตรอมตรม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าทุกอย่างเริ่มใหม่ เธอจะไม่เลือกที่จะทำเช่นนี้อย่างแน่นอน
หลงเซียวขับรถตรงจากสนามบินเซียวซานมาที่วิลล่าด้วยความเร็วสูง เขาไม่ให้เสียเวลาเลยแม้แต่นาทีเดียว
ล้อรถวิ่งผ่านใบไม้ที่ร่วงอยู่บนพื้น รถวิ่งเร็วจนพัดเอาฝุ่นทรายบนถนนลอยขึ้นมา
เขาจอดรถเรียบร้อย มือของหลงเซียวผลักประตูออก เงาร่างที่สูงใหญ่ของเขายืนอยู่กลางสวนหน้าบ้าน
ทันใดนั้น ฝีเท้าของเขาก็ช้าและหนักแน่นขึ้นมา เมื่อสักครู่นี้เขายังใจร้อนเร่งรีบเดินไวราวกับลอยมาอยู่เลย แต่ตอนนี้ฝีเท้าของเขากลับช้าและหนักแน่นขึ้น
“เซียวเอ๋อ เข้ามาเถอะ”
หยวนชูเฟินที่อยู่ด้านในก็เงยหน้าขึ้นมา เขามองไปที่ลูกชายอย่างอ้างว้างผ่านกระจกไม้แดง
หลงเซียวกลืนกลิ่นอายของความเย็นชาลงไป เขาผลักประตูออกด้วยสองมือ ลมเย็นๆ ก็พัดเข้าห้องรับแขกไป ผมของหยวนชูเฟินสะบัด
“นั่งสิ”
เธอรินชามาแก้ว กลิ่นหอมของชาโชยไปทั่ว ชาแดงชั้นดีหมุนเซียนไปมาอยู่ในแก้ว
หลงเซียวนั่งตรงข้ามเธอ เขาถือแก้วชาด้วยมือสองข้าง ดวงตาที่มีเส้นเลือดสีแดงเต็มไปหมดให้ความรู้สึกว่าเขาเหนื่อยล้ามาก
เขามองไปที่ภาพวาด3ภาพที่วางอยู่บนโต๊ะ พอได้เห็นพวกมันอีกครั้ง ความรู้สึกมันช่างต่างจากครั้งแรกที่เขามองมันด้วยมุมมองชื่นชมศิลปะเหลือเกิน
จิตใจเขาไม่สามารถนิ่งสงบอีกต่อไป
หยวนชูเฟินดื่มชา แล้วก้มหน้าลง “สิ่งที่นายอยากรู้ ฉันจะบอกให้หมด หลังจากที่ฟังจบแล้ว นายอยากทำยังไงฉันจะไม่ห้ามและจะไม่พูดกล่อมนาย แต่มีเรื่องหนึ่งนายต้องรับปากกับฉัน”
“คุณแม่พูดมาได้เลยครับ ถ้าผมทำได้ ผมจะรับปากอย่างแน่นอนครับ