ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1026
บทที่ 1026 ผมว่า ผมสั่งไว้ทั้งหมด
เนื่องด้วยการหมุนพลิกครั้งใหญ่ในท้ายสุดของเกาจิ่งอาน การประมูลราคาการย้ายรื้อทิ้งเข้าสู่ระดับจุดเดือดอีกครั้ง
ผู้นำใหญ่แต่ละคนของเมืองเจียงเฉิงเกิดการถกกันอย่างรุนแรง อีกทั้งเอาการตัดสินใจที่จะประกาศผลในงานที่กำหนดไว้แต่แรกเปลี่ยนเป็นประกาศในวันถัดไป
คนที่เดิมทีมีท่าทีที่ยืนหยัดว่าตู้หลิงเซวียนจะต้องชนะ ก็เริ่มลาดตระเวนอยู่ในระหว่างบริษัทอึนเคอกับบริษัทหลันเทียนแล้วด้วย ในทันทีนั้นดูไม่ถูกว่าตกลงเกาจิ่งอานมีบทบาทอะไรกันแน่
ในเมื่อมีการสร้างสรรค์ดีขนาดนี้ ทำไมไม่หยิบออกมาตั้งแต่แรก? จะต้องโอละพ่อหนึ่งทีจึงเอาความประหลาดใจครั้งใหญ่ให้กับทุกคนอีก!
เกาจิ่งอานเบิกบานใจอย่างมาก ย่างก้าวที่เดินล้วนเบาหวิว ทั้งตัวล้วนเป็นไออุ่น จากใต้ฝ่าเท้าจนถึงบนยอดศีรษะ ตื่นเต้นดีใจจนอยากจะเข้าไปท้าแข่งกับตู้หลิงเซวียนสักหน่อย!
คนที่นามสุกลตู้ คุณไม่ใช่หยิ่งมากเก่งมากหรือ? ลองสู้กับพี่ชายใหญ่ผมสิ แม้แต่ตดคุณก็ไม่ใช่! เกาจิ่งอานร่าเริงสว่างไสวตั้งใจจ้องมองตู้หลิงเซวียนแสดงพลัง
คนหลังดูเหมือนไม่เข้าใจความหมายของเขา ยิ้มอย่างความรู้ลุ่มลึกเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่าตนเองเห็นด้วย
เชอะ! ใครจะสนใจการเห็นด้วยของคุณ!
เกาจิ่งอานย่างสามขุม เดินปลิวไปยังแถวสุดท้าย
จากนั้น ตอนที่รอจนถึงทุกคนสังเกตเห็นทิศทางที่เกาจิ่งอานเดินไป หลงเซียวออกไปก่อนแล้ว
เกาจิ่งอานออกนอกประตูเลี้ยวขวา มองเห็นพี่ชายใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักผ่อนข้างนอก ตื่นเต้นดีอกดีใจเต้นเข้าไป “พี่ชายใหญ่ เมื่อกี้คุณเห็นหรือยัง?”
หลงเซียวเอากาแฟที่สั่งไว้เรียบร้อยแล้วส่งให้เขา “ทำได้ดีมาก ให้รางวัลแก”
เกาจิ่งอานใช้ชุดสูทเช็ดมือถือให้ดีอย่างตั้งใจ ใช้สองมือส่งคืนกลับหลงเซียว “ขอบคุณพี่ชายใหญ่! พี่ชายใหญ่คุณดีเหลือเกิน ผมมีความสุขอย่างมาก! จริงๆนะ!”
คิ้วกระบี่ทั้งคู่ของหลงเซียวค่อยๆยักหนึ่งที ดื่มกาแฟหนึ่งคำ “เรื่องนี้ เฉินว่านเหนียนช่วยไม่น้อย เดี๋ยวมีโอกาส แกต้องไปขอบคุณเขา”
เกาจิ่งอานงงแล้วงงอีก “เขาหรือ? เขาทำอะไรหรือ?”
หลงเซียวขยับริมฝีปากเล็กน้อย “คุณคิดว่าโปรเจ็คเตอร์จะให้พังก็พังหรือ?”
หลอดไฟปัญญาในสมองของเกาจิ่งอาน ปิ๊ง สว่างขึ้น “ใช่! ผมก็รู้สึกประหลาดใจด้วย! เป็นพี่ชายใหญ่ให้เขาทำหรือ?”
เขายังงงอยู่ล่ะ!
ทำไมจะพอดีขนาดนั้นล่ะ?
“อืม พี่สะใภ้คุณมีบุญคุณกับเขา ตัวของเฉินว่านเหนียนเองก็ซื่อตรงมากด้วย มีเขาอยู่ แผนของแกก็จะมีความหวัง” หลงเซียวไม่มีคำพูดที่พูดมากมายเลย
เขาทำการแก้ไข แต่ไม่สามารถพูดได้ว่าจะผ่านการพิจารณาท้ายสุดอย่างแน่นอน เฉินว่านเหนียนจะอาศัยพลังความสามารถทำการเปรียบเทียบ อยู่ในการดำเนินการโดยทั่วไปเขาไม่ทำการเหลวไหลตั้งแต่ไหนแต่ไหร่ และไม่เห็นแก่น้ำใจคน
สิ่งที่หลงเซียวชื่นชมเขาก็คือจุดนี้เอง
เกาจิ่งอานพยักหน้าอย่างรุนแรง “โอเค! เพียงแค่ยุติธรรมเที่ยงธรรม ผมเชื่อว่าผมยังมีโอกาสชนะ แท้ที่จริงแล้วผมไม่เชื่อว่าจะชนะโครงการ ผมก็แค่ไม่อยากให้ตู้หลิงเซวียนชนะ มองเห็นเขาหลงระเริงผมก็หงุดหงิดทั้งตัว! ก็แค่อยากจะกดขี่เขา!”
หลงเซียวเงยหน้าอย่างไร้สีหน้า มองเห็นตู้หลิงเซวียนที่เดินออกมาจากงาน
แทบจะอยู่ในเวลาเดียวกัน ตู้หลิงเซวียนก็มองเห็นหลงเซียวเช่นกัน
กลิ่นไฟระเบิดในอากาศระเบิดขึ้นระหว่างจุดของคนทั้งสอง ในฉับพลันบริเวณนั้นหมดอาลัยตายอยากเลย
เกาจิ่งอานค่อยๆมองไปยังตู้หลิงเซวียนจากพี่ชายใหญ่ฝั่งนี้ จากนั้น “……..”
อะไรคือยอดฝีมือแข่งขันกันหรือ?
ทั้งๆที่คนทั้งสองล้วนไม่ได้พูด ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการแสดงให้เห็นสักนิด แต่ว่าแรงอาฆาตโดยทั่วไปเกิดขึ้นตามสถานการณ์ รุนแรงจนช้างต่อช้างชนกัน หญ้าแพรกก็แหลก
เกาจิ่งอานดื่มกาแฟหนึ่งทีอย่างเงียบๆสงบจิตใจให้นิ่ง เขาเข้าใจแล้วว่าอะไรคือไร้ซึ่งกระบวนท่า
ตู้หลิงเซวียนเก็บสายตากลับ เสื้อคลุมสีดำแนบไว้ด้วยความโมโหในอกอยู่ เดินไปยังลานจอดรถพร้อมกัน
ผ่านไปสักพัก เจิ้งซินก็วิ่งออกมาด้วย วิ่งตามตู้หลิงเซวียนโดยตรง
หลงเซียวเก็บสายตากลับ ไม่สนใจไยดีพูดว่า “ดื่มเสร็จหรือยัง?”
เกาจิ่งอาน “…….อ่า? เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว! พี่ชายใหญ่ยังมีอะไรชี้แนะไหม?”
ยังมีอีก พี่ชายใหญ่ไม่น่าจะเป็นเพราะว่าจะมาส่งเอกสารการประมูลให้เขา ตั้งใจบินมาจากเมืองหลวงมั้ง? โอ้พระเจ้า นั่นจะต้องมีความสุขจนร้องไห้เลย!
ความจริงพิสูจน์ได้ว่า เขาคิดมากไปแล้ว
หลังจากสามสิบนาที
เกาจิ่งอานขับรถ พาหลงเซียวไปสถานที่ที่ขังนักฆ่าไว้
“พี่ชายใหญ่……..นี่เป็นสถานที่ผีอะไรหรือ? คุณจะพัฒนาที่นี่หรือ?”
สถานที่ที่รถจอดอยู่เป็นโรงงานที่ร้างไปหมด แต่ก่อนเป็นโรงงานสิ่งทอฝ้าย เพราะว่ามลพิษหนักมากถูกสั่งปิดแล้ว สิ่งแวดล้อมของบริเวณนั้นไม่ดี ไม่มีคนยินดีที่จะมาพัฒนา เปลี่ยนคนไปมากลายเป็นการหมุนเวียนที่เลวร้าย คนที่เข้ามายิ่งมายิ่งน้อย กลายเป็นเมืองผีแห่งหนึ่ง
หลงเซียวเดินลงจากรถ เสื้อคลุมกับรองเท้าหนังที่สะอาดจนไม่มีฝุ่นสักนิด ไม่คู่ควรกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นอย่างมาก ตาที่มืดดำจ้องมองโรงงาน “เข้ามา วันนี้จะสอนของอย่างอื่นให้แกสักหน่อย”
“ได้สิ!”
เรียนรู้สิ่งต่างๆตามพี่ชายใหญ่ เกาจิ่งอานน้อมรับด้วยความยินดีอย่างที่สุด!
พี่ชายใหญ่ครั้งนี้จะสอนเขาพัฒนาโรงงานเก่าด้วยมือของตนเองหรือ? หรือว่าอยากจะซื้อที่นี่ขึ้นมาหรือ? แต่ว่า……เขาคิดมากไปแล้ว
ในโรงงาน บนแท่นที่วางเปล่า เก้าอี้สองตัวหมัดคนสองคนไว้ ในนั้นเลือดบนแขนของคนคนหนึ่งแห้งแข็งไปแล้ว เพียงแค่ใช้ผ้าพันแผลง่ายๆพันไว้ เห็นลักษณะก็เจ็บมาก
อีกคนหนึ่งขาทั้งสองข้างล้วนพันผ้าพันแผลไว้อย่างหนา เลือดสดเปื้อนผ้าพันแผลเต็มไปหมด ผู้ชายเจ็บจนขาสั่น สีหน้าซีดเผือด
ข้างกายของพวกเขา มีผู้ชายชุดสูทสีดำหลายคนยืนอยู่ มีคนถือปืนเช็ดอยู่ มีคนเล่นมีดสั้นอยู่ ยังมีคนเช็ดรองเท้าอย่างตามใจชอบอยู่
ไอ้……..เหี้ย!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เกาจิ่งอานติดตามอยู่ข้างหลังหลงเซียว แสดงให้เห็นว่ามึนงงแล้ว
มองเห็นหลงเซียวเข้ามา ชายชุดสูทหลายคนรีบหยุดงานที่อยู่ในมือ ยืนตรงเป็นแถวพร้อมกัน “เถ้าแก่”
เกาจิ่งอานสัมผัสรู้ได้อะไรเรียกว่าจิ้งจอกอ้างบารมีเสือ ตามหลังพี่ชายใหญ่ยังมีหน้ามีหน้ามีตาหน่อย
หลงเซียวพยักหน้า “อืม ถามได้อะไรหรือเปล่า?”
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าขมวดคิ้ว “ไม่มี อะไรก็ไม่ยอมพูด”
ผู้ชายที่อยู่บนเก้าอี้คอแข็งอยู่ สายตาที่มองไปก็ไม่ยอมก้มหัวเย็นชาหนาวเหน็บ
หลงเซียวปรบมือแล้วปรบมืออีก “ไม่พูดหรือ? กระดูกช่างแข็งนะ”
ผู้ชายที่ขาหักจ้องเขม็งต่อเขาอย่างโหดร้ายหนึ่งที ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “จะฆ่าก็ฆ่า สะใจหน่อย”
เกาจิ่งอานไม่เข้าใจยืนอยู่ข้างๆ “พี่น้อง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
บอดี้การ์ดลูบคาง “นักฆ่าที่ลอบสังหารเถ้าแก่ในวันนี้ กำลังสอบสวนผู้บงการที่อยู่เบื้องหลัง”
“อีเหี้ยยยยย! ลอบสังหารพี่ชายใหญ่กู! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ!”
เกาจิ่งอานแย่งมีดสั้นของผู้ชายมาอย่างรวดเร็ว ก้าวดั่งธนูเข้าไปหนึ่งก้าว คมมีดที่คมของมีดสั้นติดกับใบหน้าที่โหดเหี้ยมของผู้ชายอย่างแน่น “ไอ้สัตว์! มึงกล้าลอบสังหารพี่ชายใหญ่กู! บอก! ใครให้มึงมา ไม่บอก กูจะถลกหนังของมึง!”
บอดี้การ์ดสายตาว่องไวมากช่วยย้ายเก้าอี้ที่สะอาดตัวหนึ่งมาให้หลงเซียว “เถ้าแก่ เชิญนั่ง”
หลงเซียวกระชากเสื้อคลุมหนึ่งที นั่งลงอย่างเยือกเย็น เอาขาไขว่ห้าง ชื่นชมคนทั้งสองที่เลือดเต็มตัวอย่างสบายใจ
“พูด! แม่มึงเอ่ย ปากมึงจะแข็งกว่ามีดของกูหรือ?” คมมีดของเกาจิ่งอานประชิดหน้าข้างซ้ายของผู้ชาย ใช้แรงเล็กน้อยสักหน่อย คางของผู้ชายก็จะถูกกรีดออกเป็นบาดแผลหนึ่งเส้น
ผู้ชายเหลือบตามองอย่างเย็นชาหนึ่งที เงียบต่อไป
“อีเหี้ยยยยย ปากช่างแข็งนะ ดูแล้วถ้าไม่เล่นจริง มึงคงไม่บอกหรอก!” เสียงพูดเพิ่งจบ เกาจิ่งอานจะกรีดปากของผู้ชายจริงๆ——
“จิ่งอาน อย่าแตะต้องปากของเขา เก็บไว้ให้เขาได้พูด ส่วนอื่นๆตามใจแก อย่าทำให้เขาตายก็พอ”
หลงเซียวตักเตือนอย่างไม่เค็มไม่จืด บุคลิกที่งดงามแต่เดิมเหมือนดั่งกำลังพูดว่า “อย่ากินสเต๊ก มันเลี่ยนเกินไป กินสลัดหน่อยเถอะ”
ผู้ชายที่อยู่บนเก้าอี้เห็นได้ชัดว่ากระตุกหนึ่งที แต่สีหน้ายังคงรักษาความเย็นชากับไม่ยี่หระต่อความตายใดๆทั้งสิ้นในเมื่อกี้เอาไว้
เกาจิ่งอานมองรอบร่างกายของผู้ชาย อิอิ พูดว่า “มึงว่า กูลงมือจากที่ไหนจะดีกว่าล่ะ?”
พู่!
เขาเพิ่งพูดจบ มีดสั้นก็เสียบเข้าไปหลังเท้าของผู้ชายแล้ว ใบมีดที่คมเสียบทะลุผ่านฝ่าเท้าของผู้ชาย!
“อ่า!!”
ผู้ชายเปล่งเสียงร้องทุกข์ทรมานดั่งถูกฉีกขาดขึ้นมา
เกาจิ่งอานก้มหัวจ้องมองเท้าของเขา “อิอิอิ ดูเหมือนเสียบเพี้ยนไปแล้ว กูเอาใหม่อีกรอบ”
พ่นเสียงหัวเราะ!
ตามมีดสั้นที่ดึงออกมา เลือดสดพ่นออกมาดั่งน้ำพุ!
“อ่า!!”
ผู้ชายร้องทุกข์ทรมานอีกรอบ ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ใบหน้าที่ซีดเผือดของเขาไม่มีสีเลือดสักนิด ริมฝีปากทั้งคู่กลายเป็นสีม่วงดำที่น่ากลัว
ผู้ชายที่ไม่ได้ถูกมีดแทงอยู่ข้างๆก็ตกใจจนตัวสั่นเช่นกัน!
เกาจิ่งอานยกมีดสั้นขึ้น “กูให้มึงสามวินาที พูดหรือไม่พูด? ถ้าหากไม่พูดล่ะก็ กูลองอีกที แน่นอน กูไม่รับรองว่าครั้งนี้จะเสียบไปที่ไหน อาจจะที่นี่…….ที่นี่…….หรือว่า………ที่นี่”
พูดถึงส่วนที่สัมพันธ์กัน เกาจิ่งอานมองไปยังต้นขาใหญ่ น่องน้อย ระหว่างขาของผู้ชาย
ผู้ชายหุบขาเข้ามาทันที!
คนบ้านี่มาจากไหน! แม่มึงเอ่ยลากออกไป!
ริมฝีปากบางของหลงเซียวยักขึ้นข้างหนึ่ง ดูแล้วให้เกาจิ่งอานมาทำถูกแล้ว
ผู้ชายแยกเขี้ยวฝืนใจอดทน หุบปากไว้อย่างแน่นเหมือนเดิม!
เกาจิ่งอานค่อยๆยกมีดสั้นขึ้นมา “โอ้ว ช่างมีนิสัยเหลือเกิน แต่ว่าของอย่างนิสัยแบบนี้ บางทีไม่ได้รับการสนใจจากคน…….อย่างมากจริงๆ!”
พู่!
ครั้งที่สอง มีดสั้นแทงเข้าไปในต้นขาใหญ่ของผู้ชาย! ความเจ็บปวดที่จี้ถึงหัวใจทำให้ผู้ชายแหกคอร้องเสียงดังดั่งผีร้อง!
“อ่า!!”
แม้ว่าส่วนขาไม่ได้ถูกยิง แต่มีดนี้แทงลงไป พลังการทำร้ายรุนแรงกว่ากระสุน ใบมีดหลอมรวมกับเลือดเนื้อ อาวุธที่เย็นชาเขย่าเลือด…….
เกาจิ่งอานอมยิ้ม มีดกดทับลงไปอย่าง “อ่อนโยน” “สะใจไหม? ยังสามารถสะใจกว่านี้อีก”
แคร่ก แคร่ก…….
ใบมีดแทงลงถึงกระดูก เสียงข้อกระดูกแตกเหมือนดั่งปีศาจร้าย!
“อ่า…….อ่า…….”
เสียงร้องทรมานของผู้ชายเพี้ยนไปแล้ว เสียงเป็นคนไม่เป็นคน ผีไม่เป็นผี ไม่น่าฟังมากขนาดไหนก็ไม่น่าฟังมากขนาดนั้น
กระดูกสันหลังของผู้ชายที่อยู่ข้างๆเปียกหมดด้วยเลือดเย็น มือทั้งคู่ที่ถูกล็อกไว้อยู่ข้างหลังงอขึ้นมาอย่างแน่นทีละนิ้ว!
บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆหลายคนสบตากัน “…….”
มีเพียงหลงเซียวสีหน้าไม่มีลูกคลื่นสักนิด
“พูด!”
เกาจิ่งอานใช้แรงดันใต้คางของผู้ชายไว้ มีดสั้นแทงอยู่บนขาของเขาเหมือนเดิม เลือดเนื้อพร่ามัว บนพื้น เสื้อผ้าของผู้ชายเปียกด้วยเลือดสดแล้ว……..
“กู…….” ผู้ชายพูดออกมาคำหนึ่งอย่างลำบาก เหงื่อเม็ดใหญ่ดั่งถั่วไหล่ลงตามหน้า
“กู……..กูพูด”
เกาจิ่งอานเหมือนดั่งกล่อมเด็กตบหน้าของเขาต่อกัน “นี่ก็ถูกแล้ว พูดเถอะ”
เกาจิ่งอานเตรียมตัวเตรียมตัวที่จะดึงมีดสั้นออก ผู้ชายร้องเสียงดังหนึ่งที “อย่า!”
ถ้าหากดึงมีดสั้นออกมา เส้นเลือดใหญ่ของเขาจะระเบิดแตก เขาต้องตาย!
เกาจิ่งอานยิ้มเจ้าเล่ห์ “ช่างรู้มากนะ วางใจเถอะ หลังจากพูดจบ หมอจะช่วยคุณทำแผล”
นิ้วมือของหลงเซียวค่อยๆเสียดสีกับแหวน ตาที่ลึกล้ำแฝงไว้ดั่งพายุฝน
“พวก………พวกกูคือ………คือได้รับคำสั่งต้องฆ่าจากอิตาลีฉบับหนึ่ง ดัง ดังนั้น จึงลงมือปฏิบัติ” ผู้ชายเจ็บปวดจนสั่นระริกไม่หยุด เสียงติดๆขัดๆ
หลงเซียวขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก อิตาลีหรือ?
“ในคำสั่งบอกว่า เอา…….เอาชีวิตของหลงเซียว”
เกาจิ่งอานถุยน้ำลายหนึ่งที “แม่มึงเอ่ย ใครหรือ?! ใครออกคำสั่ง!”
ผู้ชายกลืนไอหนาวหนึ่งที เสียงระริกพูดว่า“คือ……..คือคนของกลุ่มมาเฟีย…….พวกเราแค่รับผิดชอบฆ่าคน ระหว่างคำสั่งคดเคี้ยวมาหลายโค้ง พวกกูก็ไม่รู้ด้วย พี่ชายใหญ่! พี่ชายใหญ่ พวกกูไม่รู้จริงๆ”
เกาจิ่งอานยกมือขึ้นจะตบคนอีก——
“พอแล้ว”
เสียงเย็นชาของหลงเซียวห้ามการกระทำของเขาไว้
ไม่ต้องแล้ว เขาคาดเดาได้แล้วว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง