ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 103
ตอนที่ 103 คำสารภาพที่สายไป
เค่ยรุ่ยเป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในมิลาน นิวยอร์ก รอได้รับรางวัลมากมายจากสัปดาห์แฟชั่น ชุดสูทมากมาย ของหers เรีในฝีมือของเขาทั้งหมด เธอรู้รสนิยมชมชอบ ของหลงเซียวเป็นรอยแดง
จี้ตงหมิงมาถึงออฟฟิศเคยรุ่ย สาวเท้าเดินเข้าไปที่ห้องทำ งานของเค่ยรุ่ยอย่างชำนาญชำซอง “ฮัลโล ไม่เจอกันนาน เลย”
เค่ยรุ่ยกำลังวุ่นอยู่กับเขียนแบบอย่างตั้งใจ เห็นว่าเป็นจี้ ตงหมิง จึงหันไปมองทางด้านหลัง “เจ้านายคุณไม่มาหรือ?”
“ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักหลิงเซียวสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องให้เจ้า นายผมมาเยือนด้วยตัวเองหลอก ผมมาก็พอแล้ว ช่วงนี้มี แบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจหรือไม่?” จี้ตงหมิงเดินไปยังโซนภาพ นิทรรศ ชุดสูทมากมายตั้งเรียงรายบนราว เนคไทที่ออกแบบ อย่างประณีต รองเท้าหนัง เครื่องประดับที่วางตั้งในตู้กระจก ขอบทอง
เค่ยรุ่ยเป็นนักออกแบบการผลิตสูง เพียงแค่เดือนเศษเธอ สามารถออกแบบเครื่องประดับมากมาย
จี้ตงหมิงลูบไล้ผ่านชุดสูทแถวหนึ่ง จินตนาการภาพเจ้านายสวมใส่ชุดสูทพวกนี้ ไม่ว่าเป็นชุดไหนได้อยู่บนเรือนร่าง ของเจ้านายก็ดูดีทั้งนั้น
“โอเค โอเค อย่างนั้นเลขาจี้วันนี้อยากได้อะไรคะ?”
หลงเชียวเป็นลูกค้าเก่าแก่ และเป็นลูกค้ารายใหญ่ เค่ยรุ่ย ให้ความสนใจใบถือเขายิ่ง และนอบน้อมต่อเขา เธอเอื้อม มือเปิดตู้อย่างหวงแหนราวหีบสมบัติ “ผลงานชิ้นเอกทั้งนั้น เลือกได้ตามใจชอบเลย”
ในด้านแฟชั่นจี้ตงหมิงเทียบชั้นเค่ยรุ่ยไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ กล้าตัดสินใจเอง จึงขอคำแนะนำจากหญิงสาวอีกด้าน “เธอ ว่า นัดกินข้าวกับผู้หญิงเลือกอะไรเป็นของขวัญดี?”
เค่ยรุยดีดนิ้วดังเป้าะกะทันหัน “คุณชายใหญ่หลงนัดเดท กับภรรยาสินะ”
จี้ตงหมิงอึ้ง!
ให้ตาย เธอคาดเดาได้ง่ายขนาดนี้เลย?
จี้ตงหมิงไม่ตอบรับค่า “ฉะนั้น ความเห็นเธอว่าไง?”
“ชุดสูทขาดไม่ได้ รองเท้าหนังต้องเข้าคู่ได้อย่างดีเลิศ ห้ามมองข้ามรายละเอียดเด็ดขาด” เธอเลือกสามชุดอย่าง รวดเร็ว กับรองเท้าหนังอิตาลีสีน้ำตาล
เค่ยรุ่ยหยิบกล่องของขวัญ “ของขวัญชิ้นนี้ ผู้หญิงต่างชอบ ทั้งนั้น แบบใหม่ล่าสุดของปีนี้!”
จี้ตงหมิงเอื้อมมือรับกล่องของขวัญนั้นไว้ ข้างในเป็นสร้อย คอเพชร ระยับวับวาว เพียงแค่ราคา ผู้หญิงต่างปฏิเสธไม่ได้
อยู่แล้ว
“ได้”
“ไม่ถ หรือ? ไม่กลัวฉันถือโอกาสนี้หลอกคุณหรือ
ยังไง?”
จี้ตงหมิงระเบิดเสียงหัวเราะ “ขอเพียงเจ้านายชอบ เขาซื้อ
ได้กระทั่งร้านเธอ ว่าไงหละ?”
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
“คนไข้จากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่เรียบร้อยดีไหม”
“เรียบร้อยดีค่ะหมอฉู่”
“ถ้าอย่างนั้น เลิกงานได้”
คู่ลั่วหานเปลี่ยนชุด ต่อให้เขาไม่นัดเธอกินข้าว ระหว่างทั้ง สองหลีกเลี่ยงการเจอกันครั้งนี้ไปไม่ได้อยู่ดี
คำสั่งของหยวนชูเฟิน เธอจะไม่ทำตามได้อย่างไร?
เธอมุ่งมั่นเช่นนี้ หากเธอขัดคำสั่ง เกรงว่าหนทางที่รอหลง
เซียวคงเป็นภัยขนาดใหญ่
ที่ว่าแม่ไม่เขมือบลูกตัวเองนั้นอาจจริง แต่สามารถเขมือบ ลูกคนอื่นได้นั้น จริงยิ่งกว่า
เธอจู่ลั่วหานเป็นอะไรในบ้านตระกูลหลงกัน? เป็นเพียง คนนอกที่ไร้หัวนอนปลายเท้า
หลงเชียว ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงจุดนี้จนได้
ลั่วหานกลับบ้านก่อนเวลา จับจ่ายผักสดมากมาย เธอ ล้างผัก 4 ผัดผัก เธออยากทำอาหารให้เขาทานสัก ครั้งด้วยตัวเอง ที่นี่ไม เหญ่มาก เทียบไม่ติดเลยกับคฤหัสถ์ ของหลงเชียว แต่ที่นี่เป็นความทรงจำของพวกเขาทั้งคู่
ประตูบานนั้น เตียงเตียงนั้น เต็มไปด้วยเหตุการณ์ชวนใจ เต้นหน้าแดงมากมาย
ให้เขามาที่นี่… . ู่รั่วหานคิดไม่ตก เธอกำลังตั้งความหวัง อะไรอยู่กันแน่?
ขณะที่คิดไปพลาง อาหารได้เสร็จลงพอดี
ฉู่ลั่วหานจัดเตรียมจานช้อน เปลี่ยนน้ำให้กับดอกไม้ใน แจกัน เหลือเวลาราว20นาทีกว่าจะถึงเวลานัด ระยะเวลานี้ รู้สึกยาวนานเหลือเกิน เธอรออย่างยากล่าบาก แต่ก็คิดว่าช้า เหลือเกิน เกรงว่าเธอตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีวันหวนกลับคืนมา อีก
เธอสับสนกระสับกระส่าย เธอทำได้เพียงให้ตัวเองยุ่งเข้า ไว้ สับเปลี่ยนชุดกระโปรงสีเทาออก สวมชุดกระโปรงสีชมพู อ่อน ปล่อยผมสลวยสยายไปตามแผ่นหลัง แต่งแต้มลิปสติกสีอ่อน
สีหน้าดูดีกว่าตอนทำอาหารเมื่อครู่เยอะเลย ความโศก เศร้าลดลง เพิ่มความงดงามแจ่มใส
หลงเชียว เราจากกันด้วยดีเถอะนะ”
“หลงเชียว…
่างนั้นเซ็นใบหย่าเถอะนะ”
“หลงเชียว ฉันคิดดีแล้ว เราทั้งคู่ไม่เหมาะกับการเป็นคู่ สามีภรรยา ฉันยอมถอยให้กับโม่หรูเฟย จบจากอาหารมื้อนี้ เราอย่าได้เกี่ยวข้องกันอีกเลยนะ”
ต่อหน้ากระจก เธอเตรียมประโยคเริ่มต้นประเด็นมากมาย แต่ไม่ว่าแบบไหน ก็ทำให้คนเอ่ยเสียใจทั้งนั้น
หลงเซียวเป็นคนตรงต่อเวลา เขาไม่เคยสายเลยสักครั้ง เขาผลักประตูเข้ามา ได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่น เขาเผยรอยยิ้ม รางๆ สายตาที่ไม่อาจคาดเดาระยับวับวาว
กลิ่นอายเรียบง่ายธรรมดาเช่นนี้ วันนี้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจ อย่างบอกไม่ถูก
“ฉันมาสายไปไหม?” หลงเซียวเข้ามาได้ พลางเตรียม
ถอดเปลี่ยนรองเท้า ฉู่ลั่วหานขัดห้าม “ไม่ต้องเปลี่ยนหลอก เข้ามาเลย”
“ได้” หลงเชียวยึดตัวขึ้น ส่งยิ้มพราวเสน่ห์ให้กับเธอ
แม้ไร้เครื่องสำอางประทินผิวแต่งแต้มแต่อย่างใด ความ เรียบง่ายธรรมดาเช่นนี้ของฉู่ลั่วหาน เพียงแค่เห็นเธอในแวบ แรกพลันถูกดึงดูดจนละสายตาไม่ได้
เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ หากแต่มุมปากกลับเผยให้เห็นรอย ยิวจะพลอยทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
เธองามมากเสียจริง!
“อาหารบ้านๆ” ฉู่ลั่วหานเอ่ย น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย ราว ต้องการเว้นระยะห่างทั้งสอง
ในขณะเดียวกันเขาสังเกตเห็น วันนี้หลงเซียวตั้งใจแต่งตัว เป็นพิเศษ ชุดนี้อยู่บนเรือนร่างเขาช่างหล่อเหลา ดูดี มีออร่า!
มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก
อดยอมรับไม่ได้จริงๆ เพียงแค่รูปลักษณ์หน้าตา หญิงสาว ราว99เปอร์เซ็นบนโลกต่างยอมทวายชีพให้เขา
คู่ลั่วหานมีมือคู่ประณีต ไม่เพียงแต่ทางการแพทย์เท่านั้น ทางด้านอาหารเธอละเมียดละไมไม่แพ้กัน แต่ละจานล้วน เต็มไปด้วยเคล็ดลับทั้งนั้น
“นี่เป็นมื้อค่ำที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเห็น” หลงเชียวช่วย เลื่อนเก้าอี้ออกเพื่อให้เธอนั่ง อ่อนโยนราวกับไม่ใช่เขา
เธอเน้นอาหารเบาเป็นจานหลัก และปลากะพงนึ่ง ล้วน แล้วแต่ของโปรดเขาทั้งนั้น
เธอทำน้ำซุปให้กับเขา นี่เป็นแผนการที่ดี เขาชอบใจนัก
หยิบตะเกียบขึ้น เธอยิ้มอ่อนโยน ริมฝีปากแต่งแต้มด้วย ลิปสติกอวบอิ่ม “คุณขับรถมาใช้ไหม อย่างนั้นไม่ต้องดื่ม เหล้าแล้วกัน”
หลงเขา อันที่จริงเขาจะสั่งให้จ้างหมิงมารับเขา เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดื่มเหล้าไม่ดีต่อสุขภาพ คำพูดของเธอ เขา ยอมทำตาม
“โอเค”
ทั้งคู่สลับกันคืบอาหาร บรรยากาศในห้องให้ความอบอุ่น ผ่อนคลาย หลงเชียวเคี้ยวบดอาหารช้าๆ เขานึกจินตนาการ ภาพเธอยุ่งวุ่นในครัว เขาคิดว่า บางทีเขาอาจลองล้างจานดู บ้าง
เช่นนี้ พวกเขาทั้งคู่อาจดูเป็นคู่สามีภรรยามากขึ้น
เธอหยิบยกแก้วน้ำใสบนโต๊ะขึ้นดื่ม ถือโอกาสขณะดื่มน้ำ ปิดบังความเก้อ เธอยอมรับ ปฏิเสธหลงเชียวต้องใช้ความ กล้ามหาศาล
หลงเชียวจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธออยู่นาน เพ่งพินิจทุก ลมหายใจเข้าออก เธอเลื่อนแก้วน้ำออก สายตาสองคู่สบ ประสาน หลงเชียวยิ้มพราวเสน่ห์ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “อาหารที่เธอทำอร่อยมาก”
หวังว่าวันหลังจะได้มีโอกาสแบบนี้บ่อยๆ
เขาอ่อนโยนเช่นนี้ ราวสาหร่ายในมหาสมุทรโบกสะบัด พัดพลิ้วรอบกายเธอ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองกำลัญ กถึงดูดให้ตกอยู่ในห้วงแห่งความอ่อนนุ่มราวปุยเมฆ
ทำไมเน นี้?
“ขอบคุณ” เธอยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ลำคอแห้งฝาด
หลงเสี่ยวยิ้มอ่อนโยน เอื้อมมือแย่งแก้วน้ำออกจากมือเธอ “ยังไม่ทานข้าว เธอคิดจะดื่มน้ำจนอิ่มหรือไง?”
คู่ลั่วหานจ้องมองเข้าไปในดวงเนตรคู่คม นัยน์ตาแสน อ่อนโยนกลับแปลกตา พราวเสน่ห์เสียจริง!
วันนี้เป็นอะไรกันแน่? ปกติพวกเขาพูดคุยกันไม่เกิน ประโยคด้วยซ้ำ เธอพูดอะไรเขาจะต้องประชดประชันเธอทุก ครั้งไป วันนี้หลงเชียวอ่อนโยนเป็นพิเศษ
คิดผิดแล้ว! ฉู่ลั่วหาน! ผิดแล้ว!
หลงเซียวจับจ้องไปที่ใบหน้าหวั่นวิตกแต่กลับน่ารัก พลาง
หัวเราะออกมา
ที่ผ่านมาเวลาพวกเขาทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เขาก็อยากจะ อยู่กับเธอด้วยดี แต่สุดท้ายมันก็มักจะจบลงอย่างอารมณ์ เสีย ถูกรบกวนด้วยเหตุผลต่างๆ
แต่คืนนี้ เขาจะปฏิเสธทุกอุบัติเหตุ
“หัวเราะอะไร?” เธอไม่เข้าใจ หลงเชียวแปลกประหลาด
ไปจากทุกที
พอโทรศัพท์เธอให้ฉัน”
หลงเชียวเอ รอไม่ปฏิเสธ
เมื่อได้โทรศัพท์ หลงเซียวช่วยเธอปิดเครื่อง “วันนี้ ไม่ว่า ใครเรื่องใหญ่แค่ไหนก็ห้ามลุกหนีไปไหนเด็ดขาด”
หลังปิดเครื่องให้เธอ เขาทำการปิดเครื่องตัวเอง เครื่องทั้ง สองวางทับซ้อนกันไว้บนโต๊ะ ของเขาอยู่ล่าง ของเธออยู่บน
ใกล้ชิดราวกับสองคนสลับซ้อนกัน
ฉู่ลั่วหานใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
เขาหยิบตะเกียบขึ้น คืบเนื้อปลาให้กับเธอ เขียก้างออก “เธอชอบกินปลา กินเยอะๆ เลย”
คู่ลั่วหานหวั่นไหวกับมือหนาที่กุมทับมือของเธอเอาไว้ อบอุ่นกระทั่งหยาดหยดเหงื่อผุด “ขอบคุณ…ฉันทำเองจะดี กว่า”
“ใช่แล้ว นี่ให้เธอ”
หลงเชียวหยิบของขวัญที่เค่ยรุ่ยแนะนำออกมา ยื่นให้กับ เธอ คนตรงข้ามเงยหน้า “นี่อะไร?”
วันนี้หลงเชียวจริงจัง ไม่ปกปิดความรู้สึกตัวเองอีกต่อไป เขาจะเป็นสามีที่ดีของเธอ “ของขวัญให้เธอ เปิดดูสิชอบ ไหม?”
ใบหน้าคู่ลั่วหานฉาบไปด้วยความตกใจ “วันนี้…ไม่ใช่ วันเก ไใช่วันสำคัญอะไรด้วย ทำไมถึงซื้อของขวัญให้
ฉัน?”
“ให้ของขวัญจำเป็นจะต้องเป็นวันสำคัญหรือไง เปิดดูสิ” ฉู่ลั่วหานวางมีดซ่อมลง เธอตื่นเต้นกับของขวัญจริงๆ นั่น
แหละ แต่..
ทำไมสร้อยนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน?
โม่หรูเฟยกับสร้อยลิมิเต็ดที่เธอชอบโอ้อวดนั่นแบบ เดียวกันเลยไม่ใช่หรือ?
คู่ลั่วหานปิดกล่องลง จับจ่ายสองเส้นที่เหมือนกันแบบนี้ ช่างมีใจเสียจริง
“หมายความว่าแบ่งปันฝนและหยาดน้ำค้างอย่างนั้น
หรือ?”
อะไร?
หลงเชียวเผยให้เห็นความไม่พอใจผ่าวสั่นระริก “เธอไม่
ชอบหรือ?”
คู่ลั่วหานไร้ความรู้สึก ช่างเถอะ ไม่เป็นไรแล้ว
เมื่อเห็นความน่ารักของฉู่ลั่วหานเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความ ชัดเจนให้กับความคิดของเขาเข้าไปอีก “ฉันพูดก่อนแล้วกัน เธอฟังฉันให้จบ แล้วค่อยตัดสินใจจะไปต่อไหม”
หลงเขม กต่อมลง สูดหายใจลึกเข้าเต็มปอดเอ่ย “สั่ วหาน ฉันไม่อยากหย่า ตอนนี้ไม่อยาก วันหลังก็ไม่อยาก”
เธอพยายามควบคุมการเต้นของหัวใจ กระชับลมหายใจ
“ลั่วหาน”คำสองคำทำให้หัวใจเธอเต้นรัว!
หลงเชียวยื่นมือข้ามโต๊ะอาหาร ดึงมือเล็กขึ้นกุมขณะที่เธอ ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า “เราอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ฉัน ไม่เคยพูดสามคำนี้กับเธอเลย”
ไม่….ไม่ได้! อย่านะ!
เธอส่ายหน้า แต่กลับไร้เสียงใดเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน เนื้อหาเริ่มต้นนี้ของหลงเชียวในคืนนี้ ปานต้องการลองใจ อะไรบางอย่าง เธอหวั่นวิตก!
หลงเชียวกุมมือเธอแน่น กลัวเธอหนีหายไป “ฉันรักเธอ เมื่อก่อนฉันไม่มั่นใจความรู้สึกนี้ แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกเธอ ว่า ฉันรักเธอ