ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1041
บทที่ 1041 ง่าย ป่าเถื่อน
MBK ห้องทำงานท่านประธาน
หลงเซียวประชุมเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้ในห้องทำงาน มือถือก็ดังขึ้น
รับโทรศัพท์ไปหลายสาย ประชุมไปสี่ชั่วโมงกว่า หลงเซียวรู้สึกเหนื่อย เวลานี้แค่อยากนั่งดื่มกาแฟสักแก้ว
นั่งจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แล้วก็คิดถึงภรรยาที่อยู่แดนไกล
แต่โทรศัพท์ก็ดังไม่หยุดเกือบนาที่ สุดท้ายก็รบกวนการนั่งพักของเขา
เขามองไปที่หน้าจอมือถือ คนที่โทรมาคือจางหย่ง
ไอ้นี่……
“เรื่องอะไร? เอาเนื้อหาสำคัญ”
ทุกครั้งที่จางหย่งโทรมาต้องสร้างบรรยากาศครึ่งวัน พูดโน่นพูดนี่ พูดครึ่งค่อนวันกว่าจะได้สาระ หลงเซียวก็พูดกันไว้ก่อน เผื่อเขาจะพูดไร้สาระ
ครั้งนี้จากหย่งไม่กล้าพูดไปเลื่อย เปิดปากก็พูดอย่างเร่งรีบ “พี่ ทำไมถึงเพิ่งรับ เมื่อก่อนพี่รับโทรศัพท์เร็วมากไม่ใช่เหรอ? ผมจะบอกว่าเมื่อกี้ผมเจอKreis พาลูกน้องกลุ่มหนึ่งไม่รู้ไปร่วมงานอะไร ท่าทางเหมือนงานใหญ่โต คนเยอะมาก ผมรู้สึกเหมือนเขาจะทำอะไรสักอย่าง
ผมสะกดรอยตามพวกเขา รถของพวกเขาขับเข้าไปในสถานที่ส่วนบุคคลแห่งหนึ่ง ผมเข้าไปไม่ได้ แต่พี่วางใจ ผมต้องหาวิธีให้ได้ อิสซาก็พยายามช่วยอยู่ พูดไปแล้วอิสซาก็มีความสามารถเหมือนกัน ช่วยผมหลายครั้งแล้ว เมื่อก่อนเหมือนผมรู้จักเธอไม่ค่อยดี”
ไม่รู้เพราะอะไร ในสมองหลงเซียวมีคำว่า “อยู่ด้วยกัน” ผุดขึ้นมา อาหย่งกับอิสซา อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่เท่าที่ดูแล้ว ก็ไม่เลว
หลงเซียวนวดที่ขมับ “อืม จับตาเขาไว้”
ตอบเขาไปคำหนึ่ง เพื่อแสดงว่าเขารับรู้แล้ว สำหรับเรื่องสืบหา หรือจะโดนฝั่งตรงข้ามกลับมาสืบหาหรือไม่ ก็ต้องดูความสามารถของอาหย่งแล้ว
“เถ้าแก่วางใจได้ ครั้งนี้ผมไม่ทำให้ผิดหวังแน่ ผมจะระวังเป็นพิเศษ”
จางหย่งรับปากด้วยความมั่นใจ ท่าทางเหมือนมีความหวังเต็มที่
หลงเซียวไม่อยากทำลายความมั่นใจเขา “อืม ระวังตัวด้วย”
พูดสาระสำคัญเสร็จ จางหย่งก็หัวเราะเหอะๆในโทรศัพท์ ถ้าแก่บอกให้เขาระวังตัว หมายความว่าเถ้าแก่เป็นห่วงเขา รู้สึกอบอุ่นซาบซึ้ง
อิสซายืนขาเดียว หลังพิงกำแพง มือกอดอกมองเขา “จางหย่ง นายนี่มีความสามารถแค่นี้เหรอ? โทรศัพท์แค่นี้เหมือนฝันกลางวัน ต้องถึงขนาดนี้ไหมนาย?”
จางหย่งหน้าบึ้ง ตอกกลับอย่างไม่พอใจ “เธอจะไปรู้อะไร? ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเถ้าแก่เธอไม่รู้หรอก พวกเราต่อสู้มาด้วยกัน ช่างเถอะ เธอเป็นผู้หญิง ไม่เข้าใจโลกของผู้ขายหรอก”
อิสซาหัวเราะเสียงเย็นชา นิ้วมือเรียวยาวปัดจมูกตัวเอง “แต่ดูแล้วนายทำอะไรไม่ได้เลยแต่ละวัน ทำให้เถ้าแก่นายผิดหวังทุกวัน เชอะ”
“…..” จางหย่งหน้าดำ หน้าเขียว ตามองบนไปสักพัก “ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน”
อิสซาเงยหน้ามองท้องฟ้า ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ลมหนาวพัดมา ฤดูหนาวในอิตาลีหนาวมาก “จะมาดูว่า Kreis ทำอะไรอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไปเถอะ ไปดูกัน”
จางหย่งบีบหนังตา “ล้อเล่นใช่ไหม? ไปดู? ไปยังไง? ดูยังไง?”
เขากำลังคิดหาวิธีอยู่ เธอกลับมาวุ่นวาย ผู้หญิงบางทีก็ไม่มีเหตุผลสักเลย
อิสซาทำเสียงออกจมูก “นายเป็นหมูเหรอ? ก็ต้องเข้าไปดูไง ข้างนอกจะดูอะไร? อยากเข้าไปไหม?”
คำพูดท่อนหลัง น้ำเสียงและสีหน้าอิสซาเริ่มมีแววล่อ
อีกอย่าง จางหย่งก็ค่อนข้างกินไม้นี้
“พูดไร้สาระเหรอ ก็ต้องอยากแน่นอน แต่……จะบุกเข้าไปเหรอ?”
คาดว่ายังไม่เข้าไปก็ต้องได้กินลูกกระสุนแล้ว
อิสซาไม่อยากพูดเรื่องไอคิวของจางหย่งเวลาสำคัญแบบนี้แล้ว “เข้าไปอย่างเปิดเผย สง่าผ่าเผย ปลอมตัวเป็นไหม? เล่นละครเป็นไหม? อยากยังในแวดวงมาตั้งนาน สู้ฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ”
จากหย่ง “……”
เขาอยู่ในแวดวงนี้มานานจริง ในส่วนมาอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต สถานการณ์จริงกับในอินเทอร์เน็ตไม่เหมือนกันที่ไหน
ช่างเถอะ ถ้าเธอมีวิธีก็ฟังเธอละกัน อย่างน้อยจางหย่งก็ไม่ใช่คนชักช้า
ยี่สิบนาทีผ่านไป
อิสซากับจางหย่งเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดงานราตรีแบรนด์ดังของประเทศอิตาลี อิสซาใส่ชุดกระโปรงดำหางปลายาวเก็บเอว คอวี เห็นรูปทรงหน้าอกสวยงามผิวขาวสวย คอวีลึก ตรงกลางเป็นพลอยเม็ดใหญ่ที่ใช้เศษเพชรสีชมพูติดรวมดัน
กระโปรงทรงเข้ารูป ตั้งแต่ไหล่จนถึงบั้นท้ายห่อแน่นไร่ร่องรอย ทำให้เห็นหุ่นสวยไร้ไขมันส่วนเกินของอิสซาได้อย่างชัดเจน ด้านบนอวบอั๋น เอวคอด บั้นท้ายนูนได้รูปสวยงาม
ด้านข้างทำให้เห็นขาเรียวยาวขาวใสของเธอ ทุกครั้งที่เดินก็จะเห็นขาอันเรียวยาวของเธอ กระโปรงสะบัดไปมาเหมือนจะเห็นอะไร แต่พออยากมองชัดๆ ขาก็ก้าวออกไปแล้ว
เอิ่ม……
จางหย่งกลืนน้ำลายเหมือนรู้สึกคอแห้ง เลื่อนสายตาออกจากหน้าอกเธออย่างไม่ธรรมชาตินัก อาการคลุมเครือแล้วหันไปมองท้องฟ้านอกรถ ทำไมดาวไม่สว่างแล้ว?
ต้องเป็นเพราะเพชรของเธอสว่างเกินไปแน่นอน
ใช่ ต้องใช่แน่นอน
อิสซาส่องกระจกเติมลิปสติก ลิปสติกสีแดงเข้ากับเธอมาก เพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้ปากของเธออวบอิ่มขึ้นมาก ริมฝีปากของเธอเหมือนดูดซับน้ำจนเต็มอิ่ม ใต้แสงไฟสะท้อนทำให้คน ใจละลาย
เห็นสายตาของจางหย่ง อิสซาพูดอย่างล้อเล่น “ตอนนี้พี่สวยไหม?”
“……”
สวย พูดตามตรงสวยมาก
ปกติเธอแต่งตัวอย่างกับผู้ชาย. ไม่ใช่เสื้อแจ็คเก็ตก็เป็นเสื้อกีฬา ไม่ใช่กางเกงยีนก็เป็นกางเกงทรงกระบอก ไม่ใช่รองเท้าบูตก็เป็นรองเท้ากีฬา ไม่มีความเป็นผู้หญิงสักนิด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม อิสซาตอนนี้……
มีความเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ในต่างแดน หน้าตาคมชัดแบบลูกครึ่ง ความสง่าแบบผู้หญิงแกร่ง และมีความเย้ายวนใจแบบผู้หญิง
สรุปแล้ว รูปลักษณ์เธอเปลี่ยนไปโดยสนิท เต็มเปี่ยมมาก ไม่ใช่แค่คนเรียบง่ายเฉื่อยชา
แต่ว่า คำพูดพวกนี้ จากหย่งไม่พูดออกมาอยู่แล้ว
“ก็ใช้ได้…..” ทำใจอยู่ครึ่งค่อนวัน นี่เป็นคำพูดของเขา
อิสซาไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่าเธอสวยแค่ไหน เธอรู้
“แน่จริงอย่าดูข้างนอก ดูฉันซิ” อิสซาตั้งใจเอาแขนที่พ่นน้ำหอมไปวางบนไหล่ของจางหย่ง กลิ่นดอกฝิ่นหอมอบอวลไปทั่วคันรถ
จางหย่งรู้สึกแน่นคอ กลืนน้ำลายไปหลายครั้ง “พวกเราถึงแล้ว ลงรถ”
เปิดประตูรถออก จางหย่งในชุดสูทอามานี่สีดำยืนอยู่ใต้แสงไฟ ตั้งใจยึดคอมองขึ้นเล็กหน่อยอย่างหยิ่งดูแล้วก็หล่อทีเดียว
มุมแสงไฟส่องพอดี ส่องอยู่บนหน้าของเขา ดีกว่าแป้งของผู้หญิงออก จมูกโด่งได้รูปเหมือนตั้งใจแต่งหน้า
อิสซา “…..”
เธอคิดฟุ้งซ่านอะไร
อิสซาจับแขนจางหย่งอย่างธรรมชาติ ห่มเสื้อคลุมขนเสือ เหมือนคุณนายตระกูลผู้ดี
แต่จางหย่งความรู้สึกไม่เหมือนกัน
ดูแล้ว…
เสื้อบนตัวพวกเขา เช่ามาโดยเอาสมบัติเขาไปจำนำเลยทีเดียว ถ้าทำให้มันเปื้อน เขาคงต้องล้มละลาย แค่คิดก็เจ็บหัวใจแล้ว
“เข้าไปเถอะ”
อิสซายิ้ม เพื่อบอกจางหย่ง
จางหย่งพยายามไม่มองเธอ แต่ก็เหมือนน้ำหอมลอยเข้าจมูกเขาอย่างตั้งใจ “คุณพ่นไปเท่าไหร่เนี่ย?”
“ประมาณครึ่งขวด เพราะน้ำหอมช่างแต่งหน้าให้มาฟรี ไม่ใช้ก็เสียดาย”
จางหย่ง “……”
ด้านหน้าก็คือสถานที่จัดงานเลี้ยงของพวกKreis วิธีของอิสซาง่ายและป่าเถื่อน ลองร้อยครั้งก็ไม่เบื่อ
ล้มคู่ผัวเมียไปหนึ่งคู่ ได้บัตรเชิญของพวกเขามา จากนั้นก็ใช้นามพวกเขาเข้าไป
แน่นอน วิธีนี้เธอไม่ได้ใช้เป็นครั้งแรกแน่นอน
จางหย่งมองบัตรเชิญในมือ “คุณ…..ได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
อิสซาเอียงคอ ยิ้มอย่างน่ารักไร้เดียงสา “ตอนนี่คุณโทรหาเถ้าแก่คุณ แล้ว……เขาไม่รับ”
จางหย่ง “….