ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1060
บทที่ 1060 เด็กผู้หญิงสวยอย่าร้องไห้
“เป็นอะไรไปคะ? เจมส์”
ลั่วหานเห็นเขาไอจนใบหน้าเริ่มแดงขึ้นมา ลิ้นแฮ่ๆๆๆคายออกมาพ่นไอร้อน ก็ตกใจจนนึกว่าโรคหัวใจของเจมส์กำเริบอีก ทิ้งอุปกรณ์รับประทานอาหารที่อยู่ในมือลงอ้อมโต๊ะวิ่งเข้าไป ความรวดเร็วนั้น ทำให้หลงเซียวมองจนไม่เป็นสุข
เจมส์เมื่อครู่นี้กินพริกที่เผ็ดผิดปกติ จากนั้นดื่มน้ำวาซาบิที่เผ็ดผิดปกติหลายคำตามเข้าไปติดๆ คราวนี้ความเผ็ดชาปวดหน่วงภายในลำคอได้ทื่อไปหมดแล้วดวงตากลมโตสีครามเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา อยากจะยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของลั่วหานไว้อย่างบ้าคลั่งปวดร้าวปานจะขาดใจ
สุดท้าย แขนของหลงเซียวถือโอกาสยื่นเข้ามา ขวางการเคลื่อนไหวของเขาอย่างไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ดึงข้อมือของเจมส์เอาไว้ “รสชาติไม่ดีหรอ? เจมส์”
เดิมทีคือเสียงที่อ่อนโยนไพเราะน่าฟังจนถึงขีดสุด แต่ว่าฟังอยู่ในหูของเจมส์แล้วก็พอๆกันกับถูกตัดสินประหารชีวิต ทั่วทั้งตัวของเขาต่างก็ไม่ดีแล้ว!
ฮือๆๆ!โฮกๆๆ!น้ำตาไหลพราก!!
เจมส์สำลักอย่างทุกข์ทรมานมาก น้ำตาเอ่อล้นมองดูใบหน้าที่น่าเกลียดชังนั้นของหลงเซียวอย่างไม่มีเวลาว่างในการเคียดแค้น แบะปากเล็กน้อย “คุณ…”
หลงเซียวยิ้มขึ้นอย่างนิ่งเฉย “ปลาของผมไม่ถูกปากของคุณ? หรือว่าของผมไม่เหมือนกันกับของคุณ?”
เจมส์ในใจคำรามฮือๆๆๆ แกไอ้คนที่น่ารังเกียจ!ไอ้คนที่น่ารังเกียจ!ฉันเกลียดแก!เกลียดแก!
หลงเซียวยังคงรักษารอยยิ้มที่สูงส่งสง่างาม “คุณสั่งอาหารได้อร่อยมาก ผมจำเอาไว้แล้ว”
หมัดของเจมส์กำแน่นจนไม่สามารถแน่นขึ้นได้อีก หลอดเลือดดำที่อยู่ด้านหลังฝ่ามือกระตุกออกมา “คุณ…”
ลั่วหานแม้ว่าฟังไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนพูดอะไรกัน แต่อย่างน้อยที่สุดก็เข้าใจว่าเจมส์ไม่ใช่โรคหัวใจกำเริบ งั้นก็วางใจแล้ว จากนั้นมองดูเนื้อปลาที่เจมส์กินไปแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “มีอะไรพิเศษหรอคะ? ฉันคิดว่ารสชาติดีมาก ไม่เค็มไม่จืด และก็ไม่เลี่ยนขนาดนั้นเหมือนกับอาหารญี่ปุ่นที่ฉันเคยทานเมื่อก่อน”
พูดถึงตรงนี้ ลั่วหานหยิบส้อมที่หลงเซียวใช้ไปแล้วที่อยู่ใกล้ๆขึ้นมา “ฉันลองดู”
“อย่า!”
“NO!”
ความเห็นของหลงเซียวและเจมส์ในคราวนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจนน่าแปลกใจ เสียงของทั้งสองคนทับซ้อนกันด้วยความรวดเร็ว รู้ใจกันจนไม่สามารถรู้ใจได้อีก
ลั่วหานยิ้มเล็กน้อย “ทำไมคะ? ฉันทานไม่ได้?”
เจมส์แฮ่ๆๆติดต่อกันอยู่พักใหญ่ คว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอึกๆจนหมดแก้ว รสชาติสำลักที่เผ็ดร้อนที่ติดอยู่ภายในลำคอในที่สุดก็ดีขึ้นนิดหน่อน “คุณอย่าทาน ทานแล้วคุณจะร้องไห้”
ลั่วหานรับชมสีหน้าเล็กๆที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมาของเจมส์อย่างใจเย็นไม่รีบร้อน “อ้อ? ทำไมคะ?”
“เพราะว่า…” เจมส์พยายามใช้ความคิดอย่างถึงที่สุด ถือโอกาสกลอกตามองบนถลึงใส่หลงเซียว กัดฟันพร้อมกับเอ่ย “เพราะว่า…เพราะว่าอร่อยมากเหลือเกิน!คุณจะร้องไห้เพราะความซาบซึ้ง!”
ลั่วหานมือเท้าคาง พยักหน้าอย่างแสร้งทำเป็นจริงจัง “ในเมื่ออร่อยขนาดนี้ งั้นคุณก็ทานให้หมดเถอะค่ะ อย่าสิ้นเปลืองอาหาร”
หลงเซียวก็ตบหลังของเจมส์เบาๆอย่างเหมาะสม “อืม ที่หมอพูดนั้นถูก ในเมื่ออร่อยก็ทานให้หมด ไม่แน่มีผลดีต่ออาการป่วยของคุณ”
เจมส์กัดฟันแน่นอย่างโกรธจัด สายตาที่โมโหไม่ต้องเอ่ยถึงเลย “พวกคุณรังแกผม!เฮอะ!”
ลั่วหานและหลงเซียวสบตากันยิ้มเล็กน้อย เจมส์คนนี้น่ะนะ คิดอะไรไม่ดี จะต้องกลั่นแกล้งหลงเซียว ก็ไม่คิดดูบ้างว่าตัวเองอยู่ขั้นไหน
“อ๊วก…”
เพิ่งจะระบายคำบ่นเสร็จ อยู่ๆเจมส์ก็รู้สึกว่าส่วนกระเพาะเกลือกกลิ้งขึ้นมาระลอกหนึ่ง ดวงตาเบิกโพลงเป็นสองเท่าภายในชั่ววินาที หลังจากนิ่งค้างอยู่สักพักก็ออกแรงผลักหลงเซียวออกอย่างกะทันหัน
“เจมส์…”
ลั่วหานยังไม่ได้ถามคำพูดครึ่งหลังออกมา เจมส์ก็ได้วิ่งไปทางห้องน้ำด้วยความเร็วพายุลมกรดก็ไม่ปาน
คิดถึงว่าทิวทัศน์ที่อยู่ด้านล่างคงจะงดงามมาก ลั่วหานกับหลงเซียวตัดสินใจไม่สร้างภาพในสมองอีกต่อไป
รอกระทั่งร้านอาหารเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคน ลั่วหานถึงได้เก็บกลับสีหน้า เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มจ้องมองหลงเซียว มองดูคิ้วดวงตาสันจมูกปากของเขาอย่างละเอียดหนึ่งรอบ จากนั้นก็ยกปลาหิมะจานนั้นขึ้นมาดมเล็กน้อย น้ำวาซาบิที่ยังดื่มไม่หมดก็ดมเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
โอ๊ยกลิ่นนี้
“เมื่อครู่นี้หลังจากที่คุณทานหมดคิดไม่ถึงว่าจะไม่มีความรู้สึก ฉันจำได้ว่าที่คุณกลัวที่สุดก็คือ…”ทานเผ็ด!
คิ้วของหลงเซียวในที่สุดก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่น่าดูเล็กน้อย ยกแก้วน้ำขึ้นมาดูเหมือนคนไม่เป็นอะไรดื่มรวดเดียวหมด
ลั่วหาน “…”
ดื่มน้ำเสร็จ หลงเซียวก็วางแก้วน้ำลงอย่างคนไม่เป็นอะไรยังไงอย่างงั้นอีกครั้ง
ลั่วหาน “…”
“อาหารจานนี้คือรสชาติอะไร คุณก็อย่าลองเลยจะดีกว่า ปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อครู่นี้ของเจมส์ได้พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว” ใบหน้าที่หล่อเหลาของหลงเซียวยังคงดูดีขนาดนั้น ใครก็ดูไม่ออกว่าเมื่อสักครู่นี้เขาผ่านอะไรมา
ลั่วหานได้ถูกความอดทนของหลงเซียวทำให้ทึ่งอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว!
“คุณทำได้ยังไงกันคะ? คุณ…” ในฐานะที่เป็นหมอ เธอไม่สามารถอธิบายปฏิกิริยาตอบสนองของหลงเซียวได้ คนทั่วไปในตอนที่สัมผัสเข้ากับอาหารที่มีแรงกระตุ้น ต่างก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางสรีรวิทยาโดยอัตโนมัติ ก็เหมือนกับเจมส์อย่างนั้น
แต่หลงเซียวทำไมปฏิกิริยาตอบสนองเกินคนปกติ?
หลงเซียวกลับหัวเราะขึ้นเล็กน้อยอย่างสบายๆ “เผ็ด ที่จริงแล้วไม่ใช่การรับรส แต่คือความรู้สึกเจ็บปวด เผ็ดถึงระดับที่แน่นอนแล้ว ก็จะเกินการรับได้ของต่อมรับรสภายในร่างกาย กลายเป็นความเจ็บปวดที่กระตุ้นระบบประสาท ในการแบ่งระดับความเจ็บปวด ความเผ็ดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ระดับเริ่มต้นเท่านั้น”
ดวงตาของลั่วหานกระตุกอย่างรุนแรง “คุณเรียนเหตุผลมั่วซั่วไม่มีที่ยืนมาจากที่ไหนกันคะ?”
หลงเซียวไม่ได้พูดความจริง เอ่ยลวกๆ “อนุญาตให้แต่หมอฉู่ความรู้กว้างขวาง ผมมีไม่ได้ คุณก็มีจุดบอดความรู้เช่นเดียวกัน”
เขาไม่มีทางบอกลั่วหานอยู่แล้วว่า ในตอนแรกที่เขาตะลอนอยู่ที่ขอบของกฎหมายนั้น ได้ผ่านการทรมานและการฝึกฝนอย่างโหดร้ายทารุณมาเท่าไร
เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอก เพื่อรักษาการแจ้งเตือนขั้นสูงของตัวเองทุกที่ทุกเวลา ให้ตัวเองแข็งแกร่งจนไม่ถูกคนดูอารมณ์ความรู้สึกออก ระดับความแข็งแกร่งในการฝึกฝนที่เขาได้รับ คงจะพอที่จะเทียบเคียงกับกองกำลังพิเศษแล้ว
ลั่วหานไม่ซักไซ้ให้ลึกอีกต่อไป เพียงแต่เธอรู้สึกได้ว่า คุณหลงที่สง่างาม ดูเหมือนไม่ง่ายอย่างที่ภายนอกแสดงออกมาอย่างนั้น
อาหารมื้อหนึ่งสิ้นสุดโดยอาการปวดกระเพาะที่เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ของเจมส์ ทั้งสามคนออกจากร้านอาหาร ด้านนอกได้เป็นเวลาดึกสงัดที่เต็มไปด้วยแสงสีจากโคมไฟ ชีวิตกลางคืนของต่างประเทศง่ายมาก ถนนในยามค่ำคืนเงียบสงบเป็นพิเศษ ไฟถนนยืดเงาของคนให้ยาวขึ้น ค่อยหดลงอีกครั้ง
ลั่วหานเดินอยู่ที่ด้านข้างของหลงเซียว เพราะว่าอากาศหนาว ก็เลยนำมือข้างหนึ่งของตัวเองใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมของหลงเซียว อีกข้างหนึ่งใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมของตัวเอง ทั้งสองคนแนบชิดกันและกัน ราวกับเด็กทารกตัวติดกันที่แยกไม่ออก
เจมส์ที่น่าสงสารหลังจากที่ได้รับการทรมานจากร่างกายอย่างเต็มที่แล้ว ก็มาเจอแรงกดขี่ทางอารมณ์อย่างถึงที่สุดอีกครั้ง ทั่วทั้งร่างกายไม่แฮปปี้แล้ว
“เฮ้ย พวกคุณสองคนเดินก็เดินสิ นี่คือทำอะไร?”
ในที่สุดก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว!
หลงเซียวกับลั่วหานแม้แต่ศีรษะก็ยังไม่หันกลับมามอง “ดึกขนาดนี้ เจ้าชายไม่กลับไปพักผ่อน ตามพวกเราอยู่ทำไม?”
เจมส์กัดฟัน “ผม…”
อยากจะพูดว่าดึกขนาดนี้แล้วไม่สะดวก
แต่บอดี้การ์ดทั้งหลายที่กั้นอยู่ทางด้านหลังของเขาช่าง…แทงตาจริงๆ
“ผมยังไม่ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ที่พวกคุณพัก เยี่ยมชมเสร็จแล้วผมก็จะกลับบ้าน อีกอย่าง ลอนดอนความสงบเรียบร้อยไม่ดี ผมต้องให้บอดี้การ์ดคุ้มครองพวกคุณ ความปลอดภัยของคุณไม่ได้สำคัญอะไร แต่ความปลอดภัยของแอนน่าผมต้องรับผิดชอบ หากเกิดเรื่องแบบเมื่อก่อนอีกครั้งจะทำยังไง? ถึงอย่างไรผมก็ต้องปกป้องแอนน่า!”
อยากจะลงโทษหรือเล่นงานใครย่อมหาข้ออ้างได้เสมอที่ว่า เจมส์หมายมั่นปั้นมือตามพวกเขาแล้ว ไม่ง่ายที่จะได้เจอแอนน่า เขาจะไม่กลับไปตอนนี้หรอก!
ลั่วหานกลั้นขำเอาไว้ไม่ส่งเสียง ใช้สายตาสื่อสารกับหลงเซียวเล็กน้อย หลงเซียวยิ่งเต็มไปด้วยความจนปัญญาทั้งใบหน้า ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ภรรยายังสามารถอดทนไม่หัวเราะออกมาได้ หลงเซียวก็นับถือเธอมากจริงๆ
เจมส์เดี๋ยวมองท้องฟ้า เดี๋ยวมองดูไฟถนนของทั้งสองข้าง เดี๋ยวมองข้ามไปยังสิ่งก่อสร้างชั้นสูงที่อยู่ไกลๆ แต่ไม่ว่าเขามองอะไร ในดวงตาต่างก็บรรจุหลงเซียวกับลั่วหานเอาไว้อยู่
กลัดกลุ้ม!
ครืนๆๆ
โทรศัพท์มือถือของหลงเซียวสั่นสองสามทีอยู่บนถนนที่เงียบสงบ บริเวณโดยรอบเงียบมากจนเกินไป ความสนใจของทุกคนต่างก็ถูกเสียงสั่นของมือถือดึงดูดเข้าให้แล้ว
ลั่วหานนำมือชักออกจากกระเป๋าเสื้อของเขา สัญชาตญาณบอกกับเธอว่า โทรศัพท์ของหลงเซียวสำคัญมาก
เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อการรับโทรศัพท์ของเขา ลั่วหานเดินให้ช้าลง รักษาเส้นทางเดียวกับเจมส์อย่างช้าๆ แน่นอนว่า เข้าใกล้เจมส์ เพื่อกระจายจุดสนใจของเขา
หลงเซียวยังคงรักษาจังหวะการเดินเมื่อสักครู่นี้ มือที่กุมโทรศัพท์เอาไว้ขาวใสเป็นพิเศษภายใต้ไฟถนน “แม่”
โทรศัพท์ทางนั้นยังคงอยู่ในช่วงกลางวันของเมืองหลวง แสงอาทิตย์ส่องเต็มขอบหน้าต่าง ด้านนอกหน้าต่างคือแปลงดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ดอกล่าเหมยที่พริ้วตามลมแข่งกันเบ่งบาน ราวกับทุกอย่างต่างก็คงที่จนเหมือนกับโลกทั้งใบในเดือนเมษา
“เซียวเอ๋อ MAXติดต่อกับแม่แล้ว”
หยวนชูเฟินนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างวิลล่าซีหู บนร่างกายคลุมด้วยผ้าคลุมไหล่ลายฮาวส์ทูธที่อ่อนนุ่ม ผ้าคลุมไหล่ที่ยาวห้อยลงไปถึงบนพื้น ด้านหน้าของเธอตั้งขาตั้งวาดภาพเอาไว้ บนกระดาษวาดสะพานขาดท่ามกลางหิมะที่ยังละลายไม่หมดไปครึ่งหนึ่ง
หลงเซียวบีบหัวคิ้วเล็กน้อย “ความรวดเร็วของเขาไวจริงๆ พูดอะไรบ้างครับ?”
“แม่ขอบคุณลูก ขอบคุณแทนพ่อของลูก ลูกไม่ใช่แค่โค่นล้มหลงถิง ยังทำให้Merrickถูกราชวงศ์อังกฤษสอบสวน ตอนนี้Merrickได้ลงจากเวทีแล้ว ต่อไปMAXอาจจะกลับไปตำแหน่งที่เขาต้องการใหม่อีกครั้ง ถ้างั้นก็หมายความว่าธุรกิจของเขาจบลงแล้ว
เซียวเอ๋อ ลูกทำเรื่องที่ให้พวกเราปลื้มใจมาก แม่ดีใจมากจริงๆ”
หยวนชูเฟินปิดตาลง น้ำตาสองเส้นเอ่อล้นออกมาจากรอบดวงตา น้ำตาไหลตามคางหยดลงที่ข้างมือของเธอ ร่วงลงบนรูปคู่ของเธอกับมู่เส้าเอิน
ความปรารถนาในใจของเธอได้สำเร็จแล้ว ไม่มีอะไรน่าเสียดายแล้ว
หลงเซียวฟังเสียงสะอึกสะอื้นของเธอออก รีบเอ่ยขึ้นว่า “แม่ ผมกับลั่วลั่วยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ รอพวกเรากลับไปก็จะไปเยี่ยมแม่”
“จ้ะ”
หยวนชูเฟินวางโทรศัพท์ลง ทั้งคนต่างก็อาบอยู่กลางแสงแดดที่อบอุ่น ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้เงยศีรษะขึ้นมาอย่างช้าๆ มองดูส้งชิงเซวี๋ยนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
“ เวลาของฉันไม่มากแล้ว ขอบคุณที่ยังยอมอยู่เป็นเพื่อนฉัน”
บนใบหน้าของส้งชิงเซวี๋ยนฝืนบีบรอยยิ้มที่น่าเกลียดมากออกมารอยยิ้มหนึ่ง “พูดซี้ซั้วอะไร ผมสมัครใจต่างหาก ผมเพียงแค่อยากให้คุณดีๆเท่านั้น”
หยวนชูเฟินเช็ดน้ำตาที่อยู่บนรูปภาพเบาๆ ก้มศีรษะลงมองดูมู่เส้าเอินที่ยังคงรอยยิ้มราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิก็ไม่ปาน “ฉันใกล้จะไปหาเขาแล้ว…ชีวิตนี้ฉันมีเซียวเอ๋อ พอใจมากแล้วจริงๆ หากจะพูดว่าเสียดาย สิ่งที่เสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือไม่ได้ยินชูชูสุดที่รักของฉันเรียกฉันสักคำว่าย่า”
“ได้สิ!จะต้องได้อย่างแน่นอน!อาเฟิน คุณอย่าคิดมาก คุณ…”
“แค่กๆ!”
หยวนชูเฟินกุมปากแน่นไอเสียงดังอย่างเกินกำลังออกมาอย่างกะทันหัน เธอไอจนทั่วทั้งร่างกายต่างก็กำลังสั่น ส้งชิงเซวี๋ยนสีหน้าซีดเผือด ดูเหมือนจะวิ่งเข้าไปตบไหล่ของเธอเบาๆ
ในที่สุด เสียงไอที่ยาวนานและบีบหัวใจก็หยุดลง หยวนชูเฟินรู้สึกได้ถึงในฝ่ามือมีความเหนียว ในวินาทีที่แบมือออกมา เลือดที่เปื้อนทิ่มแทงดวงตาของเธอ แล้วก็ทำให้ส้งชิงเซวี๋ยนตาค้างเช่นเดียวกัน
“คุณ…นี่คุณ…”
หยวนชูเฟินเช็ดฝ่ามือ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มราวกับคุ้นชินเป็นเรื่องปกติตั้งนานแล้ว “ไม่มีอะไรค่ะ หลายครั้งแล้ว”
ส้งชิงเซวี๋ยนหันหลัง ดวงตาแสบร้อนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“คนจีนพูดอยู่บ่อยๆว่าชะตากรรมใกล้จะถึงที่สิ้นสุด เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อโชคชะตา และก็ไม่เชื่อเทพผีปีศาจ ตอนนี้ฉันนับวันยิ่งรู้สึกว่า เส้าเอินอยู่ใกล้กับฉันมาก ฉันมักจะได้ยินเขาเรียกชื่อของฉัน เขาบอกว่า อาเฟิน คุณดูสิ ดอกไม้ทางนี้เบ่งบานหมดแล้ว คุณรีบมาดู”
ตอนที่พูดคำพูดเหล่านี้ บนใบหน้าของหยวนชูเฟินแขวนไปด้วยรอยยิ้มที่งดงามราวกับดอกซากุระในเดือนมีนาก็ไม่ปาน
ในตอนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอมักจะรู้สึกว่าตัวเองดูเหมือนกำลังเดินเล่นด้วยกันกับมู่เส้าเอิน เดินอยู่บนถนนทีเต็มไปด้วยต้นไม้ในข้างๆ ซึ่งเป็นพวกเขาชอบ ถนนสีทองที่อเมริกา หอนาฬิกาบิกเบนที่ลอนดอน หรือว่าจะเป็นริมแม่น้ำเทมส์ นั่นคือต้นฤดูร้อนที่อากาศกำลังพอดี ลมกำลังพัด แสงอาทิตย์กำลังอบอุ่น
น้ำตาของส้งชิงเซวี๋ยนห่ออยู่ภายในเปลือกตา ไม่กล้าร่วงหล่นลงมา
หยวนชูเฟินหยิบปากกาวาดภาพขึ้น “พวกพูดถึงเสียดายอีก ยังมีอีกอย่างนึง เดิมทีอยากจะเห็นทิวทัศน์หิมะที่เมืองหางโจว อากาศช่วงนี้กลับดีเป็นพิเศษ”
ส้งชิงเซวี๋ยนมองไปยังแสงอาทิตย์ที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง ครั้งแรกในชีวิต ที่เขารู้สึกคิดไม่ถึงว่าแสงอาทิตย์จะน่ารังเกียจขนาดนั้น
…
เจมส์เกาะแกะไม่เลิกยืนกรานจะตามลั่วหานกับหลงเซียวไปที่โรงแรม พลังแห่งความมุ่งมั่นก็แข็งแกร่งจนน่าตกใจจริงๆ
เดินมาถึงห้องโถงใหญ่ของโรงแรม หลงเซียวหันกลับไปมองดูเจมส์เล็กน้อย “คุณยังไม่กลับไปอีก?”
เจมส์ลูบสันจมูก “ผมรู้สึกว่าโรงแรมนี้ดีมาก ผมก็อยากจะพักอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน!”
ลั่วหานกุมหน้าผากอยากจนปัญญา เจมส์อย่าทำตัวเหมือนเด็กอีกต่อไปเลยค่ะ ตอนนี้คุณคือแขกของราชวัง จำเป็นต้องกลับไปพักที่พระราชวัง รู้ไหมคะ?”
เจมส์เชิดคอขึ้นแสดงท่าทางว่าเขาไม่ได้ยิน
ตอนที่ยืนกรานอยู่นั้น เด็กผู้หญิงที่รูปร่างผอมบางสูงโปร่งคนหนึ่งก็ยืนขึ้นมาจากบนโซฟา เธอมองหลงเซียวอย่างละเอียดอยู่พักใหญ่ๆ สุดท้ายถึงมั่นใจว่าก็คือคนนั้นที่เธอรออยู่
“คุณหลง ขอถามว่าคุณใช่คุณหลงหรือเปล่าคะ?”
ภาษาจีนของเด็กสาวพูดได้อย่างค่อนข้างแย่ การออกเสียงแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ดีที่ทุกคำต่างก็แสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจน
ได้ยินเสียง ลั่วหานและหลงเซียวบวกกับเจมส์ ต่างก็หันศีรษะไปทางเด็กผู้หญิงอย่างพร้อมเพรียง
เด็กหญิงสวมชุดกันหนาวขนสัตว์ทรงความยาวกลางๆสีขาวสะอาด ด้านหลังสะพายกระเป๋าผู้หญิงFendiสีชมพูอ่อนแต่งลาย กางเกงยีนส์ลุ่มลึกสีน้ำเงิน เท้าเหยียบอยู่บนบูทกึ่งส้นสูงทรงกระบอก ไม่เห็นว่าใช้แป้งใดๆ หน้าตากลับสวยงามอ่อนเยาว์เป็นอย่างยิ่ง
ดวงตากลมโตสีฟ้า ผมลอนเป็นธรรมชาติสีทอง ตอนที่พูดจานั้นรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าค่อนข้างระมัดระวังมากจนเกินไป
หลงเซียวมั่นใจว่าตนเองไม่ได้รู้จักเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่…ใบหน้าของเธอช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
ลั่วหานก็ไม่รู้จักเธอ แต่ดูเหมือนแวบเดียวก็ดูรูปร่างของเธอออก
เพราะว่าเธอหน้าเหมือนกับMerrickเหลือเกิน!เหมือนเหลือเกิน!
“สวัสดีครับ Catherine” หลงเซียวยิ้มเล็กน้อย
Catherineค่อนข้างประหลาดใจ ตื่นเต้นทั้งยังดีใจจนแก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ “คุณหลงคุณรู้จักฉัน ดีจังเลย งั้น…งั้นฉันก็พูดตรงๆเลยดีกว่า ฉันอยากจะรบกวนคุณเรื่องหนึ่งค่ะ”
ลั่วหานก็ยิ้มพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนเช่นเดียวกัน เพราะว่าเด็กผู้หญิงคนนี้สวยและน่ารักเหลือเกิน เธอไม่มีทางไม่ชอบได้เลยจริงๆ “Catherine คุณไม่ต้องตื่นเต้นค่ะ พวกเราไม่มีทางทำร้ายคุณ”
เจมส์มองดูเด็กผู้หญิงคนนี้ ทั้งยังมองหลงเซียวอีกครั้ง แสดงท่าทีว่าไม่เชื่อ
Catherineเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “คุณหลง คดีของแด๊ดดี้ฉันได้เริ่มตรวจสำนวนและตัดสินแล้ว ลุงMAXเกลียดแด๊ดดี้ของฉันมากมาโดยตลอด ฉันรู้ว่าที่เขาเกลียดแด๊ดดี้ของฉันเป็นสิ่งที่สมควร ที่จริงแล้วหม่ามี๊ของฉันก็รู้สึกว่าแด๊ดดี้สาสมที่จะได้รับโทษ แต่ว่า…ถึงอย่างไรท่านก็คือแด๊ดดี้ของฉัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถปล่อยท่านไป ขอร้องล่ะค่ะ…”
พูดไปพูดมา ในดวงตาสีฟ้าครามของCatherineก็เอ่อทะลักน้ำตาที่สะอาดบริสุทธิ์ออกมา
เจมส์มองจนดวงตากระตุก “คุณ…อย่าร้องไห้ก่อนสิ คุณอย่าร้องไร้ คุณค่อยๆพูด”
จากนั้นก็ค้นกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดไปทั่ว ในที่สุดก็หาผ้าเช็ดหน้าที่พับไว้อย่างดีผืนหนึ่งเจอส่งให้กับเธอ “คุณอย่าร้องไห้ อย่าร้อง”