ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1071
บทที่ 1071 กลายเป็นเรื่องใหญ่
ซุนปิงเหวินนั่งอยู่ในห้องทำงานของตน บนหน้าจอที่คมชัด มีคนมากมายล้อมรอบอยู่หน้าประตูของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนมากมายถือป้ายประท้วงอยู่หน้าประตูขอบริษัทบริษัทผลิตยาฉู่ซื่อ
เลขานุการมองไปที่นาฬิกา รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว “ท่านประธานคะ คนของสำนักดูแลคุณภาพและคณะกรรมการความปลอดภัยด้านยาไปกันหมดแล้วค่ะ โรงพยาบาลหวาเซี่ยและบริษัทผลิตยาฉู่ซื่อ
กำลังได้รับการตรวจ ข่าวนี้ค่อนข้างดัง คราวนี้หวาเซี่ยและบริษัทฉู่ซื่อก็คงจะจัดการให้ข่าวหายสนิทได้ยาก”
ซุนปิงเหวินทำสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่ได้แสดงท่าทีดีใจ “ฉู่ลั่วหาน หลงเซียว…….”
เลขาไม่เข้าใจ ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าในคลิปมีท่านเซียวและลั่วหานโผล่มาอย่างเห็นได้ชัด “ท่านประธานคะ หลงเซียวไปด้วยตัวเองเลยหรือ? แสดงว่าเขากลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่”
ซุนปิงเหวินรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “หลงเซียวเล่ห์เหลี่ยมเยอะมากเล่ห์กลของเขาโหดเหี้ยมกับที่ผมคิดเสียอีก เขาไม่ปล่อยผมไปง่ายๆ แน่ๆ”
เลขาพูดออกมาทันที “แต่ตอนนี้ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่คุณหญิงแล้วไม่ใช่เหรอคะ? เรื่องนี้คงไม่มาเกี่ยวกับท่าน”
“เธอจะไปเข้าใจอะไร!”
ซุนปิงเหวินต่อว่าเธออย่างเสียงดัง เลขาไม่กล้าพูดอะไรตามใจตัวเองอีกต่อไป เธอก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวด้วยความเคารพ แล้วหางตามองไปที่จอ ก็ได้ยินหลงเซียวพูดว่า “ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต” พอดี
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งๆ ที่ระหว่างเขาถูกกั้นด้วยจอโทรทัศน์ แต่เขากลับรู้สึกว่าสายตาของหลงเซียวเหมือนว่าทะลุสิ่งกีดขวางทุกอย่างแล้วจ้องมองมาที่เขาโดยตรง อยากที่จะขยี้เขาให้แตกสลาย ราวกับขยี้แมลงที่ไม่มีทางสู้
เลขาไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมา แต่เงยหน้าขึ้นดูปฏิกิริยาของซุนปิงเหวิน
เช่นเดียวกัน เมื่อซุนปิงเหวินได้ยินคำพูดของหลงเซียวแล้ว เขาเองก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา
แต่โชคดีที่ขณะนี้ยังไม่มีข่าวด้านลบของบริษัทซุนซื่อออกมา ข่าวด้านลบของเขาเองก็ไม่มี เพราะฉะนั้นเขาพอจะแน่ใจได้ว่า หลงเซียวไม่มีหลักฐานโดยตรงอยู่ในมือ
แต่ เห็นได้ชัดว่าซุนปิงเหวินมั่นใจในตัวเองเกินไป
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่หนวกหูดังขึ้นมา
ซุนปิงเหวินรู้สึกตัวสั่นขึ้นมาเนื่องจากที่กังวล ตอนนี้ไม่ว่าใครต่างก็เป็นศัตรู แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็สามารถทำให้เขาเหงื่อออกเต็มหัวได้เลย
“ใคร?”
โทรศัพท์บ้านที่โทรมามีแต่เบอร์ แต่คนที่อยู่อีกฝั่งของสายเขาไม่รู้
“ซุนปิงเหวิน นายใจกล้าจริงๆ เลยนะ!”
ซุนปิงเหวินคิดว่าตัวเองหูฝาด เขาหรี่ตาลงแล้วถามเพื่อความแน่ใจอีกรอบ “คุณชายรองหลง?”
หลงจื๋อยืนอยู่ห้องทำงานประธานของบริษัทฉู่ซื่อ ไป๋เวยยืนอยู่ตรงข้ามเขา วันนี้เป็นวันแรกที่เขาเข้ามาเรียนรู้งานในบริษัทฉู๋ซื่อ แต่ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่มาต้อนรับเขาคือผู้คนที่มาหาเรื่อง
เป็นพิธีต้อนรับที่พิเศษจริงๆ เลย!
“หึหึ ขาหักไปแล้ว แต่ยังดีที่หูยังไม่หนวก พูดมาเถอะ คนที่อยู่หน้าบริษัทฉู่ซื่อนางเป็นคนสั่งให้มาใช่ไหม?”
ใบหน้าที่เคร่งขรึมอย่างหล่อเหลาของหลงจื๋อ มองไปที่ผู้คนที่ถือป้ายอยู่ด้านล่างตึกผ่านกระจกพาราโนม่า ทุกๆ คำที่พูดออกมาจากปากสามารถหักคอซุนปิงเหวินให้หักได้เลย!
ซุนปิงเหวินถามกลับไปอย่างคนที่มึนงงที่ถูกกล่าวหา “บริษัทฉู่ซื่อเกิดอะไรขึ้นครับ? ผมเพิ่งเห็นข่าว ว่าหน้าโรงพยาบาลหวาเซี่ยมีคนมาประท้วง เหมือนว่าคุณผิดพลาดทำให้คนไข้เสียชีวิต มันเกี่ยวข้องกับฉู่ซื่อเหรอครับ?”
หลงจื๋อกระตุกมุมปากอย่างเย็นชา “ซุนปิงเหวินเอ๊ย นายนี่มันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เลยนะ! รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่คู่แข่งของพี่ชายผม แต่ก็ยังหาเรื่องพี่ชายกับพี่สะใภ้ผมไม่เลิก ฉี่แล้วส่องดูหน้าตัวเองหน่อยว่าตัวเองเป็นใคร! แค่นายยังกล้ามาขิงกับพี่ชายผมเหรอ!”
ไอแพดในมือของไป๋เวยเปลี่ยนเวปเพจใหม่ เธอยื่นข้ามโต๊ะทำงานไปให้หลงจื๋อดู
หน้าเว็บเป็นหลักฐานที่ซุนปิงเหวินสั่งให้ตัวแทนดูแลยาใส่พิษลงไปในยา ด้านหลังมีหลักฐานเกี่ยวกับคดีลักพาตัวที่ลอนดอนที่ตำรวจเสนอ ทั้งพยานและหลักฐาน และยังมีคลิปเสียงและคำให้การของพยานที่ทำโมเสกไว้
ถ้าเทียบกับการมาวุ่นวายหาเรื่องที่โรงพยาบาลหวาเซี่ยแล้ว ข่าวที่มีเหตุผลมีหลักฐานมีที่มานี้ดูมีความน่าเชื่อถือกว่าอย่างเห็นได้ชัด!
เมื่ออ่านข่าวจบ หลงจื๋อพูดต่อว่า “ซุนปิงเหวิน นายรีบเตรียมจัดงานศพได้เลย! อีกอย่าง ผมจะเตือนคุณอีกครั้งด้วยความใจดี พรุ่งนี้บริษัทซุนซื่ออาจจะไม่ใช่นามสกุลซุนแล้วก็ได้ แต่ว่าไม่เป็นไรนะ สุดท้ายแล้วนายก็ต้องไปใช้ชีวิตอีกครึ่งชีวิตหลังในคุกอยู่ดี มีเงินหรือไม่มีเงินมันก็ไม่ต่างกันหรอก!”
นิ้วมือที่เรียวยาวของหลงจื๋อจับโทรศัพท์ไว้แน่น แรงนั้นมันมากพอที่จะบิดหัวของซุนปิงเหวินออกมาได้!
เพี๊ยะ!
ก่อนที่ซุนปิงเหวินจะรู้สึกตัว หลงเซียวก็วางโทรศัพท์ไปก่อนอย่างฉุดเฉียว
ซุนปิงเหวินทำตาโต!
ทันทีที่เห็นหน้าต่างข่าวเด้งขึ้น สายตาของเขาก็โดนความตกตะลึงรัดไว้อย่างแน่น จนถึงขั้นที่หยุดหายใจไป1วินาที
……….
ไป๋เวยเลื่อนเวปเพจลงไปด้านล่าง “ผมกระทบกว้างมากอย่างที่คิดเลยค่ะ บริษัทเทียนเซี่ยที่ได้เป็นแพลตฟอร์มทางการของMBKฉลาดคิดฉลาดทำมากๆ เลยนะคะ”
หลงจื๋อไม่สามารถปฏิเสธได้ “ใต้การปกครองของขุนนางที่แกร่งกล้านั้นย่อมไม่มีทหารที่อ่อนแอ บริษัทย่อยของMBKต่างมีความสามารถทุกแห่ง โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับการจัดการจากพี่ชายผมแล้ว”
“ความภูมิใจที่คุณมีต่อพี่ชายของคุณมันมากเกินไปรึเปล่าคะ?” ไป๋เวยเบะปาก เมื่อเจอกับแฟนพันธุ์แท้ของหลงเซียว เธอก็พูดได้แค่ว่าคุณตาถึงมากแต่อย่างบ้าคลั่งมากเกินไป
หลงจื๋อกลับคิดว่าเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว “พี่ชายของผมเก่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของผมแค่คนเดียว”
ไป๋เวยเลิกพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อนี้กับเขา เธอชี้ไปที่แฟ้มงานข้อมูลเยอะๆ “นี่เป็นข้อมูลแต่ละแผนกของบริษัทฉู่ซื่อ นี่คือเอกสารงบการเงิน นั่นเป็นข้อมูลวิศวกรรม อ๋อ ด้านในแฟ้มเอกสารสีดำเป็นเอกสารข้อมูลของบริษัทผลิตยาฉู่ซื่อ”
ดวงตาที่ขี้เล่นของหลงจื๋อมองไปที่แฟ้มงานสีดำ “ประธานไป๋ เปลี่ยนสีอื่นได้ไหมครับ?”
ไป๋เวยกอดอกไว้แล้วมองลงไปด้านล่าง ด้านนอกยังคงมีเสียงคนวุ่นวายเต็มไปหมด “ได้สิคะ คุณชายรองสองเชิญคนพวกนี้กลับไปให้ได้ แล้วคืนสภาพแวดล้อมการทำงานที่เงียบสงบให้กับพวกเรามา ฉันรับปากว่าจะเชื่อฟังคุณ”
หลงจื๋อเข้าใจ ไป๋เวยกำลังทดสอบตนอยู่
เขาว่ากันว่ารับตำแหน่งใหม่ต้องทำงานใหญ่ๆเพื่อสยบตำแหน่งสักสองสามงาน แต่เขาน่ะสิ เริ่มก็เจอบททดสอบเลย
อีกอย่างบังเอิญเจอเรื่องที่จัดการยากเสียด้วย
หลงจื๋อจัดเนกไทและเสื้อสูทให้เรียบร้อย และยืดตัวตรงๆ “โอเค! ให้ผมจัดการเถอะ”
ไป๋เวยเดินตามหลังหลงจื๋อไป ในหัวเธอคิดทบทวนคำพูดของหลงเซียว
“คุณไม่ต้องสงสัยในความสามารถของเสี่ยวจื๋อ ความสามารถในการทำงานของเขาสามารถดำรงตำแหน่งประธานของบริษัทฉู่ซื่อได้อย่างแน่นอน แต่เสี่ยวจื๋อยังไม่ค่อยได้เจอกับปัญหาวุ่นวายสักเท่าไหร่ ทางที่ดีที่สุดก็คือให้เขาลองฝึกฝน แบบนี้เขาถึงจะเติบโตได้รอบด้าน”
ท่านเซียวดูดวงเป็นนี่นา เขาเพิ่งมาทำงาน ก็ได้เจอโอกาสดีๆ ซะแล้ว
…….
ณ MBK ออฟฟิศ
จี้ตงหมิงจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ และใส่หูฟังบลูทูธไว้ที่หู สามารถได้ยินเสียงเคาะแป้นพิมพ์ได้อย่างชัดเจนผ่านหูฟัง เสียงนั้นแล้วราวกับว่าจะเคาะจนแป้นพิมพ์หลุดออกมา
“เลขาจี้ หุ้นของบริษัทซุนซื่อเริ่มมีการเคลื่อนที่แล้ว”
คำนี้แหละที่เขารอ
“รอก่อน รอราคาที่ต่ำที่สุด”
“โอเคครับ กำลังเฝ้ามองอยู่ ไม่รู้ว่าทางประธานตู้เขาจะลงมือเมื่อไหร่”
จี้ตงหมิงไม่ได้ตอบ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าตู้หลิงเซวียนคิดเห็นยังไง “เราซื้อเข้าในราคานี้มันไม่มีประโยชน์อะไร อีกสักพักหุ้นของบริษัทซุนซื่อจะร่วงลงไปเหมือนอุจจาระ ตู้หลิงเซวียนไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ซื้อหรอก”
จี้ตงหมิงพูดถูก
นักซื้อขายของตู้หลิงเซวียนก็กำลังรอดูสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นกัน
ข่าวแย่ๆ ของบริษัทซุนซื่อเพิ่งถูกปล่อยออกมา หลายคนยังไม่รู้เงื่อนงำที่อยู่ภายใน แต่มีคนบางส่วนเห็นซุนปิงเหวินสู้กับหลงเซียว พวกเขาก็ทิ้งหุ้นในมือทันที
และการขายหุ้นก็เหมือนกับโรคระบาดที่ไม่สามารถควบคุมมันได้ จากหนึ่งไปสิบ จากสิบไปร้อย
แต่ตอนนี้มีแค่ผู้ถือหุ้นรายเล็กที่แยกตัวออกไป ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังคงไม่หวั่นไหว
กว่าหุ้นของบริษัทซุนซื่อจะร่วงลงมาอย่างหนัก ก็ต้องใช้เวลา