ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1081
บทที่ 1081 ให้เขาได้เรียนรู้สักหน่อย
กลางดึกจางม่านหนิงบุกเข้ามาในห้องของลูกชาย
ภาพลักษณ์ของจางม่านหนิงในสายตาของเจิ้งซินนั้นเปลี่ยนไป เธอไม่ได้อ่อนโยนไร้พิษสงอย่างที่เห็น ตรงกันข้าม เธอฉลาด แต่เป็นประเภทที่ไม่เปิดเผยตัวตนอะไรแบบนั้น
“คุณป้า ยังไม่นอนเหรอคะ”
เมื่อสักครู่มือของเจิ้งซินนั้นวุ่นอยู่กับการจัดระเบียบชุดนอน เผยให้เห็นร่อง…ด้านหน้า หมอนที่ตู้หลิงเซวียนถือไปยังห้องนั่งเล่นก็ถูกย้ายกลับมาอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ ราวกับเมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้คนคิดไปไกล
จางม่านหนิงทำเพียงมองอย่างไม่ใส่ใจ “เจ็ทแล็กน่ะ นอนไม่หลับ รบกวนเวลานอนพวกเธอหรือเปล่า”
ตู้หลิงเซวียนสวมแว่นตากลับคืน “เปล่าครับ เรายังไม่นอนเลย”
จางม่านหนิงยิ้ม “ฉันแค่มาดูว่าพวกเธอพักผ่อนกันดีหรือเปล่า หม่ามี๊จะกลับไปนอนแล้ว พวกเธอก็รีบนอนซะล่ะ”
“ครับ หม่ามี๊”
“ค่ะ คุณป้า”
จางม่านหนิงเข้ามาอย่างกะทันหัน ออกไปก็รวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ แต่เวลาแค่สองนาทีนั้น ก็สามารถยืนยันในสิ่งที่เธอคาดเดาเอาไว้ได้ไม่น้อยเลย
ลูกชายของเธอ เธอรู้จักดีที่สุด เขาชอบหรือไม่ชอบผู้หญิงบนเตียง ทำไมเธอจะดูไม่ออก
ประตูปิดลง ตู้หลิงเซวียนยกมือขึ้นนวดขมับ “แม่ผมคงจะดูอะไรออกบ้างแล้ว”
เจิ้งซินจัดระเบียบชุดนอนให้เข้าที่อีกครั้ง มัดเชือกแน่น “แล้วคุณคิดจะทำยังไง สารภาพกับเธอเหรอ หรือว่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเธอรู้ความจริงแล้ว”
ตู้หลิงเซวียนไม่ได้กลับไปที่โซฟา แต่เดินตรงไปยังเตียงใหญ่ นั่งลงบนเตียง เตียงยุบลง “แน่นอนว่าไม่ เราคงต้องแต่งงาน เพื่อให้แม่วางใจ เราคงต้องเป็นคู่รักที่แท้จริงสักครั้ง”
เจิ้งซินหัวเราะหยัน “เป็นคู่รักจริงๆเหรอ ตู้หลิงเซวียน ฉันต้องเข้าใจประโยคนี้ว่ายังไงดี”
ตู้หลิงเซวียนตอบคำถามเจิ้งซินโดยการเลิกผ้าห่มขึ้นแล้ว จากนั้น สองขายาวก็แทรกลงไป เมื่อเรียบร้อยก็ยกผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเอง
เจิ้งซินรอจนเขาเรียบร้อย มองตู้หลิงเซวียนที่นอนอยู่ด้านข้าง “คืนนี้คุณจะนอนตรงนี้เหรอ”
ตู้หลิงเซวียนหลับตาลลง ไม่คุยกับเจิ้งซิน “ปิดไฟ”
เจิ้งซินหันกลับไป “ตู้หลิงเซวียน อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ”
ตู้หลิงเซวียนขยับหมอนให้เข้าที่ สองมือประสานอยู่เหนือผ้าห่ม “เจิ้งซิน อย่าเสแสร้งเลย เราเคยนอนด้วยกันแล้ว”
เจิ้งซินกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ “ตู้หลิงเซวียน คุณเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงยังไง ครั้งก่อนเราดื่มเยอะเกินไป นั่นเป็นความไม่ตั้งใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาดูถูกกันง่ายๆแบบนี้”
ตู้หลิงเซวียนไม่แม้แต่จะมองเธอ รู้สึกว่าแสงสว่างจ้าจนเกินไป เอื้อมมือไปยังสวิตช์เปิดปิด จากนั้นกดปิดไฟหัวเตียง ไฟดับแล้ว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืด
“ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณหรอก นอนอยู่ที่นี่ก็เพื่อไม่ให้แม่สงสัย พรุ่งนี้เช้าเธอคงจะเข้ามาแต่เช้า ผมไม่อยากย้ายกลับมาจากโซฟาอีกครั้ง แค่ง่ายๆแบบนี้”
ไม่รู้ทำไม คำอธิบายของตู้หลิงเซวียนยิ่งทำให้เจิ้งซินอยากหัวเราะดังๆ
ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก เจิ้งซินคว้าหมอน จากนั้นขยับออกห่างจากเขา นอนลง สองมือกระชับผ้าห่ม “ตู้หลิงเซวียน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะดีกับแม่คุณขนาดนี้ เหอะๆ คนแบบคุณ ก็ยังรู้จักกตัญญู น่าแปลกใจจริงๆ”
ตู้หลิงเซวียนไม่ถือสา และไม่ใส่ใจ
เจิ้งซินรู้ว่าเขานอนหลับแล้ว เขาหายใจสม่ำเสมอ ไม่ตื่นเต้นอะไรเลยสักนิด
แต่เธอทำไม่ได้
ไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งก่อนพวกเขาทำเรื่องในแบบสามีภรรยา แต่เธอไม่มีสติ ไม่รู้ตัว ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะมีผู้ชายมานอนข้างๆ
แต่ว่าตอนนี้ เสียงหายใจของตู้หลิงเซวียนแม้จะเบา แต่ก็ชัดเจน
แถมยังมีกลิ่นกายของเขา ลอยเข้ามาในจมูกของเธอ ทำให้เธอหนีไม่พ้น ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ การหายใจและเสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำ
เจิ้งซินพยายามทำให้ตัวเองสงบลง เตือนตัวเองอยู่ในใจ : ตู้หลิงเซวียนเป็นผู้ชายอันตราย มีใจให้ไม่ได้ ชอบไม่ได้ แตะต้องไม่ได้
ยิ่งเตือนตัวเอง ก็ยิ่งชัดเจน ในหัวมีแต่ภาพรายละเอียดที่เธอและเขาอยู่ด้วยกัน
ให้ตายสิ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
……
“พี่สะใภ้ คืนนี้ผมนอนที่ห้องชูชูดีไหมครับ ผมสัญญาว่าจะไม่เสียงดังจะไม่รบกวนให้เด็กน้อยตื่นแน่นอน พี่ให้ผมนอนที่เตียงเด็กนะ”
หลงเจ๋ออาบน้ำเสร็จ สวมชุดนอนตัวใหม่ของหลงเซียว สองมือประกบเข้าหากับอ้อนวอนลั่วหาน
ลั่วหานเองก็อาบน้ำเสร็จแล้ว สวมชุดนอนตัวยาว ผูกเชือกที่เอวแน่น สองมือล้วงอยู่ในกระเป๋า เอียงคอหัวเราะเขา “ไม่ได้หรอกค่ะ”
หลงเจ๋อไม่ยอม เดินตามหลินเช่อไปยังห้องรับแขก “พี่สะใภ้ ผมจริงจังนะ ผมสัญญา ผมสัญญาจริงๆนะ พี่ใหญ่ก็รับประกันได้ ผมไม่นอนกรน จริงนะ”
ลั่วหานนั่งอยู่บนโซฟา เปิดหนังสือการแพทย์ภาษาอังกฤษ “ไม่ได้”
ห้องของชูชูมีเตียงเด็กแค่เตียงเดียว และมีเตียงพี่เลี้ยงหนึ่งเตียง หลงเจ๋อเข้าไปนอนในนั้นคิดว่าคงจะไม่สะดวก เตียงนั้นสำหรับเขาแล้วมันเล็กเกินไป
หลงเจ๋อนั่งลงข้างเธอ ใช้ไม้อ่อนออดอ้อน เขย่าแขนลั่วหานเบาๆ “พี่สะใภ้ พี่ก็ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนชูชูหน่อยนะครับ ผมชอบหลานสาวคนโตของผมจริงๆนะ นานๆทีจะได้เจอเธอ พี่ก็ยอมให้ผมหน่อยนะครับ”
ลั่วหานเปิดหนังสือ “อ้อนแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก ไม่ได้ก็คือไม่ได้”
หลงเจ๋อตาละห้อย เบ้ปากไม่พอใจ
ตอนที่เขากับหลงเซียวกลับมานั้นชูชูหลับไปแล้ว เขายังไม่ทันได้ยินเสียงชูชูพูด มันยุบยิบอยู่ในใจ คันไม้คันมือ คันไปทั้งตัว
ทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงชูชูพูด แต่เขายังไม่ทันได้ยินเสียงหลายสาวด้วยหูตัวเองเลย
ไม่ยอมนะ ไม่ยอมจริงๆด้วย
“พี่สะใภ้ พี่ให้ป้าหลันพักสักคืนสิ คืนนี้ผมจะดูแลชูชูเอง ผมสามารถทำมันได้ดี ผมเคยเรียนมา เมื่อสักครู่ผมเรียนมาแล้ว รับรองว่าจะดูแลหลานสาวให้ดีที่สุดไม่ขาดตกบกพร่อง”
หลงเจ๋อโอ้อวดฝีมือตัวเอง แถมยังนัดแนะกับป้าหลันมาก่อนแล้ว ให้ป้าหลันช่วยให้ความร่วมมือกับเขา
ป้าหลันไม่ได้แสดงท่าทางใดๆออกมา
ร่างกายของลั่วหานสั่นไปตาม เอ่ยกับคนตรงหน้า “เสี่ยวเจ๋อ นายนี่…”
“เสี่ยวเจ๋อ ทำไมยังไม่ไปนอน”
ขณะกำลังออดอ้อน หลงเซียวก็เดินลงมา เดินลงมาพลางมัดเชือกชุดคลุม หลังจากอาบน้ำเสร็จเดินลงมาด้วยท่าทางขี้เกียจ ปกติที่อยู่กันสองคน
หลงเจ๋อชอบพี่ใหญ่ที่ดูท่าทางสบายๆแบบนี้ที่สุด รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้น “พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ผมกำลังคุยกับพี่สะใภ้อยู่เลย คืนนี้ให้ผมนอนที่ห้องหลานเถอะนะครับ ผมจริงจังนะ จริงๆนะ”
หลงเจ๋อท่าทางจริงจัง แทบจะยกมือขึ้นมาสาบานอยู่แล้ว
หลงเซียวนั่งลงที่โซฟาตรงหน้าลั่วหาน หยิบนิตยสารที่ยังอ่านไม่จบขึ้นมาจากบนโต๊ะกระจก “นายอยากไปขนาดนั้นเลยเหรอ นึกถึงผลที่มันจะตามมาหรือเปล่า”
“ผลอะไรครับ”
ชูชูเป็นเด็กน้อย ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
“เด็กน้อยมักจะร้องไห้ตอนกลางดึก มีป้าหลันคอยดูแลตลอด นายดูแลไม่ไหวหรอก”
หลงเซียวรู้ดีว่าชูชูร้องไห้กลางดึกนั้นร้ายกาจขนาดไหน โดยเฉพาะเวลาร้องไห้ตอนหิว ถ้าร้องไห้แล้วยังไม่มีนมเข้ามาในปากรับรองว่าไม่มีวันหยุดแน่
ป้าหลันรู้เวลาให้นมของชูชูดีแล้ว ก็จะชงนมไว้ล่วงหน้า และตื่นขึ้นมาก่อนที่ชูชูจะร้องไห้ ปกติแล้วไม่เปิดโอกาสให้ชูชูได้ร้องไห้ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำ
หลงเจ๋อแย้ง “ผมทำได้ ผมถามป้าหลันแล้ว ผมป้อนนมได้ แถมยังเปลี่ยนผ้าอ้อมได้อีกด้วย”
ลั่วหานหัวเราะออกมา “หึหึ เสี่ยวเจ๋อ เธอก็รีบมีของตัวเองสิ ชอบเด็กขนาดนั้นเชียว”
หลงเจ๋อขยี้ศีรษะ “ผมก็อยากมีนะ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าลูกของผมจะน่ารักเหมือนชูชูไหม ไว้วางใจเท่าไหร่เลย”
“ในเมื่อเธออยากรู้ วันนี้ตอนเย็นก็ลองนอนที่ห้องของชูชูเถอะ”
หลงเซียวยอม ให้โอกาสหลงเจ๋อได้ทดลองสักครั้ง
“เอาสิ เอาสิ ขอบคุณพี่ใหญ่ พี่ใหญ่เข้าใจผมที่สุดเลย งั้นผมไปนอนแล้วนะครับ พวกคุณก็รีบพักผ่อนนะครับ ฝันดีครับ ฝันดีครับ ป้าหลัน ฝันดีครับ”