ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1115
บทที่ 1115 อย่าสร้างเรื่อง
หลงเซียวไม่ได้รู้สึกขอบคุณ ไม่ได้กอดเขาอย่างตื่นเต้น เพียงเอ่ยสี่คำง่ายๆ
เจมส์เองก็ไม่ได้เตรียมตัวมาโดนเขากอดอยู่แล้ว จึงยอมรับเงียบๆ
“พี่ใหญ่ เราไปกันหรือยัง”
ท่าทางของเกาจิ่งอาน ราวกับไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ
“พวกนายอยู่เถอะ อีกหน่อยCresจะจัดประลองคนกับสิงโต ไม่ดูเหรอ” หลงเซียวเอ่ยออกมา บ่งบอกว่าจริงจัง
เกาจิ่งอานและจางหย่งหันไปมองCres “จริงเหรอ”
จี้ตงหมิงหัวเราะ “เจ้านายครับ เราจะไปไหนครับ”
“ไปรวมกับเสี่ยวเจ๋อ”
……
หลงเจ๋อเดินไปมาไม่หยุด “ทำไมพี่ใหญ่ยังไม่กลับมาล่ะ”
กู้เยนเซินเองก็กังวลอยู่ในใจ ทว่าภายนอกนั้นแสดงออกมาเหมือนไม่ใส่ใจ “พี่ชายคุณเก่งขนาดนั้น ไม่ต้องกังวลหรอก”
ตอนนั้นเอง รถแลนด์โรเวอร์สีดำก็ขับมาจอดตรงหน้า ป้ายทะเบียนท้องถิ่น ท่าทางโอ้อวดวางอำนาจ
ไม่นานรถก็ขับมาจอดใกล้ๆเครื่องบิน หลงเจ๋อนึกว่าเป็นพี่ใหญ่ วิ่งออกจากเครื่องบินเข้าไปหา
เมื่อประตูรถถูกเปิดออก ท้าวที่กำลังวิ่งของหลงเจ๋อก็หยุดชะงัก เขาหยุดนิ่ง
“แม่…”
โฉหวั่นชิงได้เห็นหน้าลูกชายที่ไม่ได้เจอกันมานานมาก น้ำตาไหลทะลักออกมา สองมือคว้าแขนหลงเจ๋อเอาไว้แน่น “เสี่ยวเจ๋อ…ในที่สุดแม่ก็ได้เจอลูกแล้ว ทำไมถึงผอมแบบนี้ เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า”
ในใจหลงเจ๋อเกิดความรู้สึกมากมาย ความซาบซึ้งล้นเอ่อถูกส่งผ่านสายตาไปให้หลงเซียว ต้องเป็นพี่ใหญ่ให้เจมส์พาแม่มาที่นี่แน่ๆ
บนรถ เจมส์และหลงเจ๋อกำลังหยอกล้อ “คุณดูใจดีนะ ไม่เลือดเย็นเหมือนที่เห็น”
“ในสายตาคุณ ผมดูเลือดเย็นเหรอ”
หลงเซียวตอบกลับเสียงเรียบ
เจมส์ขยับออกห่างเล็กน้อย “ไม่ใช่หรือไง อยู่ใกล้คุณแล้วผมยังรู้สึกหนาวอยู่เลย”
หลงเซียวไม่คุยกับเขาเรื่องเย็นไม่เย็นแล้ว แต่มองไปตรงหน้า
ห่างเพียงกระจกกั้น มองเห็นหลงเจ๋อและโฉหวั่นชิงยืนกอดกันอยู่ตรงนั้น ความรักของแม่ลูกตรงหน้าทำให้ตื้นตัน
โฉหวั่นชิงถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ ยังไม่มีช่วงอ่อนไหว ประเทศMเองก็ไม่เปิดช่องทาง มีเพียงอาศัยอำนาจของเจมส์ถึงจะมีสิทธิ์
จุดนี้ หลงเซียวรู้สึกขอบคุณเจมส์มาก
ผ่านไปกว่ายี่สิบนาที ทั้งสองพูดคุยกันพอประมาณแล้ว จึงเดินขึ้นรถ
หลงเจ๋อมองขอบคุณเจมส์ พยักหน้าให้เขาพลางยิ้ม จากนั้นมองพี่ใหญ่ “ผมพาแม่กลับประเทศด้วยได้ไหมครับ”
“ไม่ได้ ตอนนี้เธอยังไม่มีสิทธิ์กลับประเทศ ถ้านายอยากอยู่กับเธอ ก็อยู่ที่อิตาลีอีกสักสองสามวัน”
คำตอบของหลงเซียวไม่ได้เกินคาด หลงเจ๋อพยักหน้า ยังคงดีใจ
“แม่ ช่วงนี้เราสามารถอยู่เที่ยวที่อิตาลีได้ แม่อยากดูอะไร อยากกินอะไร เดี๋ยวผมพาแม่ไป พรุ่งนี้เราไปมิลาน ชมมหาวิหารมิลาน และทะเลสาบโกโม จากนั้นค่อยไปนั่งเรือเล็กที่เวนิส…แม่ชอบนครรัฐวาติกันไหม ถ้าชอบเราไปวาติกันก็ได้…”
หลงเจ๋อวางแผนการเดินทางกับโฉหวั่นชิงด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจ รอยยิ้มสดใสราวกับเด็กที่ได้รับของรางวัล
ในรถเต็มไปด้วยเสียงของหลงเจ๋อ และเสียงตอบรับจากโฉหวั่นชิง “อืม” “ดี ดีหมดเลย” “ลูกตัดสินใจ แม่ชอบทั้งหมดเลย”
วันเวลาผ่านไป โฉหวั่นชิงเปลี่ยนไปไม่น้อย แม่ปากจะไม่ได้พูด แต่ความรู้สึกผิดและขอบคุณหลงเซียว ก็เผยออกมาให้เห็น
หลงเซียวไม่ได้ใส่ใจการขอบคุณหรือขอโทษจากเธอ นิ่งเฉยอยู่ตลอด
โทรศัพท์ของจี้ตงหมิงสั่นขึ้นมา เมื่ออ่านจบแล้ว เขาจึงก้มลงไปหาหลงเซียว
“เจ้านายครับ Cresจัดการประลองคนกับสิงโตจริงๆ แต่เจิ้งซิ่วหยาคิดว่ามันโหดร้ายจึงปฏิเสธไป”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ชะงักไปเล็กน้อย “หึหึ เขาคาดเอาไว้แล้วว่าเจิ้งซิ่วหยาจะปฏิเสธ”
“งั้น ต่อไปเราจะจัดการยังไงครับ”
จี้ตงหมิงคิดถึงงานในประเทศ งานเลี้ยงประจำปี เจ้านายทั้งสองก็หายตัวไป ตอนนี้MBKมีเพียงรองผู้จัดการที่คอยดูแลอยู่ หรือว่าเจ้านายก็จะอยู่เที่ยวที่อิตาลีเหมือนกัน
“เรากลับประเทศวันนี้ นายไปจัดการ”
โครงการในประเทศกำลังเก็บรายละเอียด สิ่งที่หลงเซียวต้องรับผิดชอบนั้นยิ่งใหญ่ เขาไม่มีเวลาและไม่มีใจอยากอยู่ต่อ
ที่สำคัญคือ เมื่อคิดว่าตอนนี้อยู่ห่างจากลั่วหานและชูชูหลายหมื่นลี้ พลันรู้สึกไม่สบายใจ
จี้ตงหมิงดูเวลา “เจ้านายครับ รีบไปหรือเปล่าครับ เอางี้ไหมครับ คุณพักที่นี่ก่อนสักคืน พรุ่งนี้ค่อยบิน นั่งเครื่องยาวนานอาจจะเหนื่อยเกินไป”
“ไม่เป็นไร กลับวันนี้แหละ”
แม้หลงเซียวจะบินกลับในวันนั้น ก็ยังไม่ทัน “รางวัลพิเศษ”
ประเทศจีน MBK
แอนดี้กุมขมับปวดหัว “ท่านประธานมีเรื่องด่วนต้องไปต่างประเทศ ดังนั้นงานเลี้ยงประจำปีในวันนี้จึงไม่สามารถเบิกเงินสด”
หญิงสาวที่ได้รับรางวัลในวันนี้ก็ถามไม่หยุด “ท่านประธานจะกลับมาเมื่อไหร่คะ ดีเลย์เราก็รอได้ค่ะ”
แอนดี้ยิ้ม “ตารางท่านประธานเต็มแล้ว ถ้าวันนี้มาไม่ทัน วันหลังก็เกรงว่าจะไม่ได้ ท่านประธานรับปากแล้วว่าจะให้เงินสดพวกคุณคนละห้าหมื่นแล้ว อย่าเดือดร้อนเรื่องเงินเลย”
หญิงสาวคนหนึ่งกอดแขนแอนดี้ “พี่แอนดี้คะ เงินเอาไว้วันหลังก็ได้ แต่ว่าการได้ทานอาหารร่วมกับท่านประธานนั้นมีแค่ครั้งเดียว ฉันไม่เอาเงิน จะเอาท่านประธาน”
แอนดี้ปวดหัว ทำได้เพียงบอกปัดพวกเขาไป “เดี๋ยวฉันถามท่านประธานดูอีกที”
แอนดี้คิดในใจ เอาเรื่องเล็กน้อยแบบนี้รบกวนหลงเซียว เธอคงเป็นเลขาที่น่าผิดหวังมากทีเดียว ดังนั้นจึงโทรหาจี้ตงหมิงก่อน
เครื่องบินส่วนตัวของหลงเซียวออกแล้ว เนื่องจากเครื่องบินโดนกระแสลมกระทบจึงเกิดความสั่นสะเทือนเล็กน้อย เพื่อความปลอดภัยจี้ตงหมิงจึงเปิดโหมดเครื่องบิน
“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียก…”
แอนดี้ขมวดคิ้ว ปิดเครื่องเหรอ
“ท่านประธานทำธุระอยู่ต่างประเทศ ติดต่อไม่ได้ เดี๋ยวฉันให้ฝ่ายบัญชีออกโบนัสให้ทุกคน อาหารค่ำค่อยคุยพรุ่งนี้ ตั้งใจทำงานเถอะ”
แอนดี้ท่าทางดุดัน ไล่ทุกคนออกไปก่อน
เมื่อจัดการเรื่องงานเลี้ยงสำเร็จ โทรศัพท์ที่โต๊ะเลขาก็ดังขึ้น
แอนดี้ตอบรับอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะ ฝ่ายงานเลขาบริษัทMBKค่ะ”
“สวัสดีครับ ผมติดต่อคุณหลงครับ” อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ฟังจากน้ำเสียงอายุน่าจะราวๆยี่สิบต้นๆ ทว่าน้ำเสียงเซ็กซี่น่าหลงใหล เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นแอนดี้จึงถูกดึงดูดความสนใจไปในทันที
“ท่านประธานไม่อยู่ที่บริษัทค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือใครคะ”
แอนดี้หยิบปากกาขึ้นมา เตรียมพร้อมจด
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะบอก “ไม่ต้องหรอกครับ ไว้เดี๋ยวผมหาเวลาไปเยี่ยมเขา”
แอนดี้มองสายที่ถูกตัดไปอย่างมึนงง หันกลับมามองเบอร์ที่โชว์อยู่อีกครั้ง เบอร์นี้เธอเหมือนจะไม่เคยเห็นมาก่อน
โรงพยาบาลหวาเซี่ย ห้องพักวีไอพี
หวาเทียนเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยเบาๆ
“เชิญครับ”
เมื่อได้รับคำอนุญาต หวาเทียนและพยาบาลไม่กี่คนก็เดินเข้ามา มองเห็นชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
ในห้องผู้ป่วย มีดอกทิวลิปถูกวางเอาไว้ แสงแดดสาดส่องลอดผ้าม่านทอดลงมายังดอกไม้ หอมไปทั่ว
และในมือของชายหนุ่มมีโทรศัพท์ที่พึ่งวางสายอยู่ในมือ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“คุณเฉิง วันนี้รู้สึกยังไงบ้างครับ” หวาเทียนถามน้ำเสียงอบอุ่นและท่าทางที่ใจดี
เฉิงโม่อันพยักหน้าตอบนิ่งๆ “ก็ดีครับ”
พึ่งเอ่ยได้ไม่กี่ประโยค ชายสวมชุดสูทสีดำหลายคนก็เดินเข้ามาในห้อง แต่ละคนถือกระเป๋าเอกสาร ดูท่าแล้วเหมือนผู้บริหารชั้นระดับสูงของบริษัท
เฉิงโม่อันขมวดคิ้วถามหวาเทียน “คุณหมอหวาครับ ผมจะออกจากโรงพยาบาลได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ครับ”
หวาเทียนเดาว่าเขาน่าจะยุ่งมาก ระหว่างที่นอนพักที่โรงพยาบาลก็มีคนมาไม่หยุด เหมือนเขาเป็นเจ้านายที่ยุ่งมากๆ
“อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาอีกยี่สิบวันครับ เพื่อมั่นใจว่าอาการจะไม่กลับมาและไม่มีผลข้างเคียง เราต้องตรวจให้ครบทุกด้านครับ รู้ผลทุกอย่างแล้วถึงจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้”
หวาเทียนอธิบายอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เขาดื้อดึงทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล
เฉิงโม่อันเพียงผิดหวังเล็กน้อย ทว่าไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น “ครับ”
ผู้บริหารระดับสูงหลายคนเดินเข้ามาที่เตียงผู้ป่วย หวาเทียนเดินออกประตูไป
ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนรายงานประจบสอพลอ
พยาบาลที่อยู่ข้างๆเมื่อสักครู่ไม่กล้าเอ่ยอะไร ตอนนี้ค่อยพูดออกมาท่าทางตื่นเต้น
“กรี๊ด หล่อมาก มีเอกลักษณ์ เขาเป็นผู้ป่วยที่หล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาแล้ว”
อีกคนบอกด้วยใบหน้าแดงก่ำ “น้ำเสียงก็เพราะ แค่ได้ยินฉันก็ท้องแล้ว”
“น่าเสียดาย เขามาจากปีนัง ออกจากโรงพยาบาลก็คงไม่ได้เจอแล้ว เฮ้อ หัวใจของฉัน แตกสลาย”
“จริงสิ เขาชื่ออะไรนะ เหมือนจะอยู่มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่แจ้งชื่อเลยนี่นา อยู่ลึกลับมากเลย”
“นั่นนะสิ”
หวาเทียนเปิดเอกสารประวัติคนไข้ สาวเท้าเดินไปยังลิฟต์ เขียนพลางยิ้มบางๆ “เก็บความบ้าผู้ชายของพวกคุณก่อนเถอะคุณผู้หญิงทั้งหลาย ไม่ใช่ทุกคนที่พวกคุณจะมโนเพ้อเจ้อได้”
……
หวาเทียนกลับไปถึงห้องเวร เห็นลั่วหานอยู่ที่นั่น เคาะประตูแล้วเดินเข้าไปหา “คุณหมอฉู่ ยุ่งอยู่ไหมครับ”
ลั่วหานมือหนึ่งเปิดประวัติผู้ป่วยบอก “ไม่ คุณพูดมาสิ”
หวาเทียนรู้สึกขอบคุณ “ในที่สุด สายลมก็แปลเปลี่ยน ครั้งนี้รองผู้อำนวยการถังก็มีงานใหญ่ คุณมีเรื่องแล้ว”
ลั่วหานรู้แล้วว่าเรื่องราวฝั่งถังจิ้นเหยียนนั้นราบรื่น ในใจนั้นสบายใจไม่น้อย “ทำเพื่อหัวหน้า ฉันยินดีค่ะ พนักงานคนไหนไม่อยากทำให้เจ้านายชื่นชอบล่ะคะ”
หวาเทียนกลอกตา “จริงสิหมอฉู่ ผู้ป่วยวีไอพีที่ไม่ประสงค์แจ้งชื่อคนนั้น ชื่ออะไรเหรอครับ ใครเหรอ เหล่าพยาบาลของพวกเราถามทุกๆห้าเมตรเลยล่ะ”
เขาเหรอ
ลั่วหานรับปากเฉิงโม่อันว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลของเขา จึงบอก “เรื่องส่วนตัวของคนไข้ ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เปิดเผย ทำไมคะ คุณก็ชอบเขาเหรอ”
บอกตามตรง เฉิงโม่อันนั้นหล่อจริงๆ เขาพึ่งอายุยี่สิบสอง ทว่ากลับมีเสน่ห์น่าหลงใหล เย็นชา สง่างามและฉลาดหลักแหลม
ต้องเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบขนาดไหนถึงจะได้ผู้ชายคนนี้ไปครอบครอง
หวาเทียนเบ้ปาก “ผมไม่ได้มีปัญหา เขามีรูปลักษณ์น่าหลงใหลจริงๆ แต่…ผมมีซวงซวงแล้ว โอเคไหม แค่น่าเสียดาย พยาบาลเหล่านั้นคงต้องมโนต่อไป”
ลั่วหานตั้งใจจบบทสนทนานี้ หยิบเอกสารออกมาจากกองสองชุด “กรณีพิเศษของโรคหัวใจพิการมาตั้งแต่กำเนิด คุณลองกลับไปศึกษาดู ปลายเดือนเขียนบทความมาส่ง บทความยื่นขอรองศาสตราจารย์ของคุณยังขาดอยู่หนึ่งฉบับ