ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1153
บทที่ 1153 การสารภาพรักครั้งแรกในชีวิต
ห้องโถงใหญ่ของปราสาทราชวงศ์ บรรยากาศอึดอัดไปชั่วขณะ
จางหย่งที่ปกติบ้าๆ บอๆ กลายเป็นเด็กที่มีความยับยั้งชั่งใจ ยกแก้วเซรามิกทองคำขาวขึ้นมาดื่มน้ำอย่างทำตัวไม่ถูก
เจมส์นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวสีทองตรงข้ามเขา โซฟาใหญ่มาก เขานั่งตรงกลางนังมีพื้นที่เยอะมาก เคาะนิ้วบนพนักแขน ให้เวลาจางหย่งปรับตัว ในที่สุดก็เปิดปากพูด
“นายกับพี่สาวฉันสนิทกันพอตัวใช่ไหม?”
จางหย่งไม่รู้ว่าควรกำหนดดีและไม่ดีอย่างไร “คุณเจมส์กำลังหมายถึงแบบไหน?”
ในความสัมพันธ์ของเพื่อน พวกเขาไปได้ดีจริงๆ แต่อิสซาไม่บอกก็หายไป เหมือนจะปฏิเสธเขาอีกครั้ง เขาควรคิดไปเองว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้แย่ไหม?
“ฉันพูดตรงๆ เลยนะ นายชอบพี่สาวฉันใช่ไหม?”
ผู้ชายก็มีเซนส์ เซนส์ของเจมส์ก็คือ ความสัมพันธ์ของพี่สาวกับจางหย่งไม่ธรรมดา คำพูด สายตา การกระทำที่ไม่ธรรมดา ชอบและรักไม่สามารถปกปิดได้ มักจะพบในรายละเอียด
จางหย่งที่โดนเขาถามใบหน้าร้อน มือจับแก้วแน่นกว่าเดิม “นั่น……ฉัน……ฉัน……”
“สรุปนายชอบพี่สาวฉันไหม ตัวนายเองกลับไม่รู้? เป็นผู้ชาย ขนาดคนที่ตัวเองชอบยังไม่กล้ายอมรับ นายยังเป็นผู้ชายเหรอ! ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ยอมรับตรงๆ จะตายเหรอ?”
มองการตอบสนองของจางหย่งลังเลมาก จักรวาลเล็กๆ ของเจมส์ก็ระเบิดทันที
“ชอบ!”
จางหย่งถูกเขากระตุ้นไปที่ปลายประสาท หลุดปากพูดความในใจ “ใช่ ฉันชอบพี่สาวของนาย เมื่อก่อนฉันไม่รู้ตัว พี่นายจากไปฉันถึงรู้ ฉันชอบเธอตั้งนานแล้ว แต่ว่าฉันไม่กล้ายอมรับ?
เพราะอะไร? เพราะว่าพี่สาวของนายเป็นเจ้าหญิงของราชวงศ์ ฉันเป็นอะไร? ฉันก็แค่สามัญชนทั่วไปฉันมีสิทธิ์อะไรชอบพี่สาวของนาย? เอาอะไรมาชอบ?”
จางหย่งวางแก้วน้ำลง ไม่สนว่าแก้วแพงๆ นั้นจะโดนตัวเองทำแตกหรือไม่
จู่ๆ เขาก็ตื่นเต้นมาก ทำให้เจมส์แปลกใจมาก และเซอร์ไพรส์มาก
เขาชอบพี่สาวจริงๆ! ดีมาก!
“เอาความจริงใจของนายมากชอบไง!” เจมส์รีบต่อประโยคจากเขา
จางหย่งตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรง มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น “จริงใจ? นายคิดว่าใช้ได้ไหม? พี่สาวนายจะแต่งงานแล้ว ฉันรู้”
เจมส์เกาหัว “อ่อ……นายรู้แล้ว……แต่ว่านายยังชอบเธอไหม?”
“อืม ชอบ”
“นายยอมเห็นเธอแต่งงานกับคนอื่นไหม? ถามใจตัวเองแล้วตอบฉัน พี่สาวฉันจะแต่งงานกับคนอื่นแล้ว นายเสียใจไหม?” ดวงตาสีน้ำเงินของเจมส์จ้องมองจางหย่ง
“ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่”
ไม่ใช่แค่ตอนนี้ ตอนนั้นที่อิสซาออกจากอิตาลี หัวใจของเขาก็เริ่มเจ็บ เจ็บมาสองปีแล้วยังไม่หาย เจ็บกว่าเดิม ชัดเจนกว่าเดิม
ก้าวแรกที่เหยียบลงบนพื้นของประเทศM ความรักที่เขากดไว้ก็ทะลุออกมาจากพื้นดิน เข้ามาพัวพันกับความคิดของเขาทั้งหมด
เขามั่นใจในความสัมพันธ์ของตัวเอง เขาอยากอยู่กับอิสซา
จู่ๆ เจมส์ก็วิ่งขึ้นบันได หนึ่งก้าว ก้าวทีสามขั้น ถึงหน้าประตูห้องอิสซาอย่างเร็ว เคาะประตูอย่างแรง “พี่สาว! เธอออกมา ออกมาเร็วๆ!”
อิสซาปิดประตูทันพอดี ล็อกประตู ดวงตาเจ็บร้อน หลายครั้งที่น้ำตาจะไหลออกมา
คิดไม่ถึงว่าในสถานการณ์แบบนี้ตัวเองจะได้ยินคำสารภาพที่อยากได้ยิน น่าขันจริงๆ
จางหย่งชะงัก กลืนน้ำลายลง อิสซาอยู่ที่นี่? ฉะนั้น……เมื่อกี้เธอได้ยินหรือยัง?
เจมส์เคาะประตูต่อ “พี่สาว ฉันรู้ว่าเธอได้ยินแล้ว ถ้าเธอไม่ได้ยินเดี๋ยวฉันพูดให้ฟังอีกรอบ จางหย่งมาแล้ว เขาบอกว่าเขาชอบเธอ เขารักเธอ เธอก็ชอบเขาไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอชอบเขาจริงๆ เธอก็เปิดประตู”
มือของอิสซา จับลูกบิดประตู ไม่ขยับ
เปิดประตูแล้วช่วยได้เหรอ? ใครสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้?
จางหย่งเหรอ?
เพราะอะไร? เขาทำได้เหรอ?
จางหย่งสูดหายใจ เดินขึ้นบันได
“อิสซา ฉันคือจางหย่ง เธอยังจำฉันได้ไหม?”
อิสซาเงยหน้า พยายามส่งน้ำตากลับเข้าไป จำได้ ทำไมฉันจะจำไม่ได้
เจมส์เดินถอยหลังไปครึ่งก้าว เหลือพื้นที่ให้จางหย่ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ บนตัวของผู้ชายคนนี้มีพลังที่ถูกเขาชิงชัง พลังแห่งความรักในตำนาน?
จางหย่งยกแขนขึ้นหนึ่งข้าง วางไว้บนประตู กางนิ้วทั้งห้า “ฉันไม่รู้ว่าเธอรักฉันไหม อาจจะไม่รัก แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ฉันรักเธอ”
อิสซาสูดจมูก นายมันโง่!
“หลังจากที่แยกกันที่ อิตาลี ฉันตามหาเธอตลอด แต่ว่าไม่เจอ ฉันคิดว่าเธอตั้งใจหลบฉัน อาจจะ……เฮอะๆ เธอไม่อยากเจอฉัน”
คนโง่! เธอหมายความว่าแบบนี้เหรอ?
จางหย่งพูดต่อ “พูดตามตรง ฉันไม่กล้าคิดว่าจะชอบเธอ ยิ่งไม่กล้าคิดว่าจะคบกับเธอ พวกเราต่างกันมาก ฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิด……ไม่กล้าคิด จริงๆ”
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนต่างกันมากจริงๆ เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเงินไม่มีอำนาจไม่มีพื้นหลัง
“ฉันกลัวว่าฉันไม่สามารถให้ความสุขที่เธออยากได้”
ประโยคนี้ เขาเคยถามตัวเองหลายครั้งแล้ว ฉันทำให้เธอมีความสุขได้ไหม? ชีวิตชนชั้นสูงของราชวงศ์ เขาให้ได้ไหม?
คำตอบนั้นชัดเจนมาก เขาให้ไม่ได้จริงๆ
อิสซามีความต้องการที่จะชกเขาให้ตาย เธอสนใจชีวิตที่อยู่เหนือกว่าเหรอ? เธอสนใจเหรอ?
เจมส์ตั้งใจฟังคำสารภาพของเขา ตัวเองยังซึ้งเลย
“ฉันมาที่นี่ ก็แค่อยากเจอเธอ อวยพรให้เธอโชคดีด้วยตัวเอง ถ้าเธอไม่อยากเจอฉัน ฉันก็จะรอตรงนี้ เธอไม่เปิดประตูฉันก็ไม่ไปไหน”
จางหย่งพูดจบ มองเจมส์ “ฉันนั่งที่นี่สักพัก ได้ไหม?”
เจมส์ยังคิดว่าเมื่อกี้เขาหมายความว่าอะไร จางหย่งก็นั่งลงทันที ท่าทางนั้นไม่ปกติเลย
“ก็……ก็ได้ แต่ว่านายจะนั่งตรงนี้จริงๆ เหรอ?”
จางหย่งนั่งท่าขัดสมาธิ “อืม นอกจากพังประตู มีแค่วิธีนี้ที่ใช้ง่าย ฉันไม่เชื่อว่าพี่สาวนายจะอยู่ได้สามวันโดยไม่กินไม่ดื่ม”
เจมส์จับผมที่อยู่บนหน้าผาก “พี่สาวฉันอยู่ข้างในสองวันสองคืนแล้ว น้ำยังไม่ดื่ม ฉันสงสัยว่าเธอเป็นลมหรือยัง”
“นายว่าไงนะ?!!”
จางหย่งลุกขึ้นมาทันที สองมือจับคอเสื้อของเจมส์แล้วยกขึ้น “นายบอกว่าเธอไม่กินข้าวสองวันสองคืนแล้ว?”
เจมส์กะพริบตาปริบๆ ตกใจจะตายแล้ว “อืม ฉันเคาะประตูแล้วเธอไม่ยอมเปิด”
“นายโง่เหรอ! เธอไม่เปิด นายใช้กุญแจไม่เป็นเหรอ? ถ้าไม่ได้จริงๆ นายพังประตูไม่เป็นหรือไง!!!” ครั้งนี้จางหย่งโกรธกว่าเดิม แม่เอ๊ย ไม่มีสมองเหรอ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งอดอาหาร!
“ฉันรู้นิสัยของพี่สาวฉัน เธอไม่ยอมเปิดประตู ฉันพยายามเปิดก็ไม่ได้ เธอจะยิ่งโกรธ ปัญหาจะหนักกว่าเดิม”
เมื่อก่อนเคยเกิดเรื่องคล้ายแบบนี้ เขาเปิดประตู สุดท้ายอิสซาเกือบจะฆ่าตัวตาย เขาไม่กล้าอีก
จางหย่งโกรธจนอ้วกออกมาเป็นเลือด “นายหลบไป”
พูดจบ เขาเดินไป ยกขาขึ้น “ปั้ง” เตะลงแรงๆ
อย่างไรก็ตาม ประตูที่แข็งแรงไม่ขยับแม้แต่นิด
เจมส์อ้าปากค้าง “นาย……”
“ปั้ง!”
จางหย่งเตะอีกครั้ง ประตูยังคงไม่ขยับ
“มัวทำอะไรอยู่? ไปเอากุญแจสิ!” จางหย่งพบว่าประตูบานนี้ไม่เปิดออกง่ายๆ เครื่องเรือนราชวงศ์มีคุณภาพพิเศษ เขาเตะมันก็เปล่าประโยชน์
อาจเป็นเพราะตกใจ เจมส์วิ่งไปหยิบกุญแจแล้วจริงๆ
จางหย่งทุบประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย “อิสซา! อิสซา! ได้ยินหรือเปล่า? ได้ยินก็พูดหน่อย!”
อิสซาตกใจกับการกระทำของเขาเมื่อกี้ จางหย่งกล้าเตะประตูของราชวงศ์?!
“เจ้าชาย!”
ทหารได้ยินเสียงของที่นี่ รีบพุ่งเข้ามา ทุกคนถือปืน กระสุนพุ่งออกมาทะลุหัวของจางหย่งได้ตลอดเวลา
ปากกระบอกปืนสีดำมุ่งเป้าไปที่ผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุ แรงผลักดันไม่น้อยไปกว่านักโทษประหารที่เป็นเป้าหมาย
จางหย่งหรี่ตา “ไม่อยากให้เจ้าหญิงของพวกนายตาย ก็วางปืนลง!”
คิ้วของเจมส์ขมวดแน่น กระตุกยิ้มมุมปาก ดูไม่ออกว่าจางหย่ง เป็นลูกผู้ชายจริงๆ!
“วางปืนลง” เจมส์สั่งเสียงเย็น
ทหารยังคงถือปืนไม่ยอมลดลง “เจ้าชายครับ คนคนนี้……”
“วางลง เขาเป็นเพื่อนของเจ้าหญิง”
หัวหน้าทหารมองจางหย่ง และสั่งให้ทหารสองนายเฝ้า ถึงจะยอมลดปืนลง “เจ้าชาย พวกผมอยู่ที่นี่ พวกผมต้องมั่นใจว่าท่านและเจ้าหญิงจะปลอดภัย”
เจมส์ทำสีหน้าตึงเครียด “ออกไป”
“เจ้าชาย……”
“ออกไป”
“ครับ”
ถ้าเจมส์โกรธ ทหารก็ไม่กล้าตัดสินใจเอง ถอยออกไปจากห้องโถงใหญ่
อิสซายิ้ม หึ เมื่อกี้อ่อนมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆ ก็กล้าขึ้นมาล่ะ?
แอ๊ด–
ประตูถูกเปิดออกจากด้านในโดยอิสซา
อิสซากอดอก พิงประตู “จางหย่ง นายโวยวายอะไร?”
จางหย่ง “……”
เจมส์ “……”
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?
แนวโค้งของการตอบสนองของจางหย่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ไม่สามารถตอบสนองทันที “ฉัน……”
ริมฝีปากแดงของอิสซา ดวงตาเปล่งประกายยิ้ม “นายทำไม? บ้าก็ดูสถานที่หน่อย ตะโกนอะไรหน้าห้องฉัน?”
จางหย่งชะงักไปแล้ว “เมื่อกี้ฉัน……”
ที่เขาพูดไปเมื่อกี้ เธอมองว่าเป็นบ้า?
เจมส์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี รีบวิ่งขึ้นมา “พี่สาว เธอเข้าใจผิดแล้ว เมื่อกี้จางหย่ง……”
ไม่รอเขาพูดจบ นิ้วเรียวยาวของอิสซาเกี่ยวคางของจางหย่ง เชยขึ้นมาเล็กน้อย “ที่นายพูดเมื่อกี้ พูดอีกรอบสิ?”
“……”
“พูดสิ เป็นใบ้เหรอ?”
สายตาของจางหย่งเปล่งประกาย ไม่เจอกันสองปี ใครจะคิดได้ว่าฉากที่เจอกันอีกจะเป็นแบบนี้?
“ฉัน……ฉัน……ฉัน……”
คำพูดออกคำ ฉัน ไปครึ่งวัน ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
อิสซาเย้ยเขา “ไม่ได้เรื่อง!”
“ฉันพูดว่าฉันชอบเธอ!” คนอย่างจางหย่ง กลัวคนอื่นกระตุ้นเขา
อิสซาหัวเราะเยาะ “ชอบฉัน?”
“ใช่ ฉันชอบเธอ ฉันรักเธอ!”
จางหย่งเองก็คิดไม่ถึง การสารภาพรักครั้งแรกในชีวิตของเขา เกิดขึ้นแล้ว ไม่โรแมนติกแม้แต่นิด
ได้ยินคำพูดของเขาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะมองตาของเขา อารมณ์ที่เร่าร้อน ทำให้หัวใจของอิสซาสั่นไหวตาม
เธอใช้ชีวิตเหมือนศพเดินได้สองปี ในที่สุดก็มีคนมาปลุกแล้ว
แต่ว่า……
“อ้อ ฉันรู้แล้ว” อิสซาผละคางเขาออก ยกขาเรียวยาวเดินลงไป
จางหย่ง “……”
เจมส์ “……”
โดนปฏิเสธแล้วเหรอ?
จางหย่งก็ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน รีบวิ่งตามอิสซา ดึงแขนเธอไว้ “อิสซา ไปกับฉัน! ฉันพาเธอไป!”