ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1177
บทที่ 1177 (ตอนจบ8) หย่า จุดจบของโชคชะตา
กลางดึก วิลล่าโรมัน
วิลล่าเปิดไฟสว่างจ้า ทว่าทั้งคฤหาสน์กลับเงียบสงบไม่มีความเคลื่อนไหว ราวกับถูกกั้นไปด้วยกระจกเก็บเสียง
หลินเหว่ยเย่และคุณนายหลินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก หลินซีเหวินนั่งอยู่ตรงข้ามคนเดียว นั่งเผชิญหน้ากันแบบนี้มาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นมาก่อน ความร้อนของน้ำชาค่อยๆ จางหายไป ควันสีขาวก็ค่อยๆ จางหายไป
กระบอกตาของคุณนายหลินแดงก่ำ บ่งบอกว่าเมื่อสักครู่ร้องไห้ไปแล้วหนึ่งรอบ เพียงก้มหน้า น้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลลงมาจากหางตา เธอจับดูและเช็ดมันออกไป
หลินซีเหวินท้องโต ลูกใกล้จะแปดเดือนแล้ว อีกเดือนเดียวก็จะออกมาดูโลกแล้ว ช่วงนี้เธอระมัดระวังเป็นพิเศษในทุกๆ ด้าน
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่โทรไปร้องไห้กับเธอบอกว่าไปต่อไม่ได้แล้ว เธอก็คงไม่มา พูดตามตรง สภาพของพ่อเธอในตอนนี้ ทำให้เธอปวดใจ เจ็บปวด ผิดหวัง และสิ้นหวัง
นั่งนานแล้ว เธอปวดหลังปวดเอวไปหมด หยิบหมอนอิงมาวางรองไว้ด้านหลัง ดูท่าแล้ว ถ้าเธอไม่พูด พวกเขาคงจะนิ่งเงียบอยู่แบบนั้นเป็นแน่
“แดดดี๊ หม่ามี๊ พวกคุณให้หนูกลับมา เพื่อมานั่งจ้องตาแบบนี้เหรอคะ”
หลินเหว่ยเย่ยกถ้วยชาขึ้น ดื่มไปหนึ่งอึก น้ำชาเย็นแล้ว เขาไม่คิดจะให้สาวใช้ชงมาให้ใหม่ เมื่อน้ำชาเข้าปากไปแล้ว จิตใจยิ่งไม่สบาย
“ซีเหวิน เรื่องของบริษัท เธอเองก็คงจะรู้ใช่ไหม”
บริษัทหลินซื่อถูกMBKซื้อไปในราคาที่ต่ำมาก และถูกเปลี่ยนชื่อชั่วข้ามคืน ไม่ใช่ทรัพย์สินของตระกูลหลินอีกต่อไปแล้ว เขาลำบากมากี่สิบปี สุดท้ายต้องกลายเป็นเรื่องตลก
หลินซีเหวินเห็นข่าวแล้ว ข่าวMBKบริษัทหลินซื่อไปจึงไม่ใช่ข่าวใหม่อะไร โรงพยาบาลเองก็กล่าวถึงเรื่องนี้ ทว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ความเป็นไป คิดว่าMBKช่วยหลินซื่อแก้ปัญหาหนี้สิน เห็นแก่หน้าหลินซีเหวินและหลงเจ๋อ ช่วยตระกูลหลินชดใช้หนี้
แต่พวกเขาไม่รู้ว่า นี่เป็นเพียงแผนการของหลงเซียวก็เท่านั้น
เหอะๆ …
แต่จะโทษใครได้ล่ะ
หลินซีเหวินยิ้มเย็น “แดดดี๊อยากพูดอะไรกับหนูคะ ให้หนูไปเอาหลินซื่อกลับมาเหรอ แดดดี๊ หน้าของหนูมันมีค่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ”
มาถึงวันนี้ พวกเขายังคงดึงดัน ยังคิดหาโอกาส เธอไม่พูดไม่ได้ พ่อแม่ของเธอบ้าไปแล้ว
คุณนายหลินสูดน้ำมูก น้ำตาหลั่งไหลลงมาจากหางตาอีกครั้ง เธอร้องไห้เจ็บปวด หนึ่งเพราะบริษัทไม่เหลือแล้ว เลือดเนื้อที่เธอทุ่มเท สองคือเธอผิดหวังต่อสามีและครอบครัวนี้
ไม่ต่อหัวข้อสนทนาของหลินเหว่ยเย่ คุณนายหลินเช็ดน้ำตา เพราะร้องไห้หนัก น้ำเสียงจึงขึ้นจมูก
“ซีเหวิน ตอนนี้บริษัทไม่เหลือแล้ว มีเรื่องหนึ่งที่แม่อยากบอกกับหนูตอนนี้”
หลินซีเหวินเงยหน้า ท่าทางของแม่เหมือนไม่ได้จะพูดกับเธอเรื่องบริษัท “อะไรคะ”
คุณนายหลินเหลือบมองหลินเหว่ยเย่เล็กน้อย อีกฝ่ายหลบตาเธอ ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
“ซีเหวิน แม่ตัดสินใจจะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ คงจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
การตัดสินใจแบบนี้ ความจริงเธอคิดมานานแล้ว เพียงแต่บริษัทยังอยู่ในมือ และยังมีลูกสาวที่ทิ้งไม่ลง แผนการจึงต้องยืดออกไป
“ไม่กลับมาแล้ว” หลินซีเหวินเบิกตากว้าง “ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศแน่นอนว่าได้อยู่แล้ว คุณกับแดดดี๊ควรเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตบ้าง ไปประเทศที่พวกคุณอยากไป สบายหน่อย”
คุณนายหลินถูมือตัวเอง ผ้าเช็ดน้ำตาเป็นก้อนกลมแล้ว “ซีเหวิน หม่ามี๊ไม่ได้ไปใช้ชีวิตด้วยกันกับแดดดี๊ของหนู”
“…” หลินซีเหวินไม่เข้าใจ ดวงตาดำสวยจ้องมองเธอ
คุณนายหลินผ่อนลมหายใจ “ซีเหวิน หม่ามี๊ตัดสินใจหย่ากับแดดดี๊แล้ว จากนี้เราต่างคนต่างไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้หนูแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังใกล้จะมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูแล้ว แดดดี๊กับหม่ามี๊เดินมาถึงวันนี้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่บางเส้นทางเหมาะที่จะเดินไปด้วยกัน บางเส้นทางเหมาะที่จะเดินคนเดียว”
คำพูดของเธอ ผ่านการทบทวนมานานแล้ว วันนี้คุยกับหลินซีเหวิน ในใจนั้นผ่อนคลายลงไม่น้อย ก้อนหินหนักที่ถ่วงอยู่ในใจได้วางลงแล้ว
แบบนี้ ก็ดี
หลินซีเหวินตกใจนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะจบลงแบบนี้ ความเป็นไปได้หลายอย่างเธอรับได้หมด แต่การหย่า…เธอไม่เข้าใจ
“คุณกับแดดดี๊รักกันดีขนาดนั้น ทำไมถึงหย่าคะ เพราะไม่มีบริษัทแล้วงั้นเหรอ หม่ามี๊ คุณไม่ใช่คนแบบนั้น ตอนนั้นที่อยู่กับแดดดี๊ แดดดี๊ก็ไม่มีบริษัทนะคะ ตอนนั้นแดดดี๊ไม่มีอะไรเลย คุณอยู่กับเขาช่วยกันสร้างบริษัทขึ้นมา ทำไมตอนนี้ถึงต้องแยกกัน”
สามีภรรยาที่แยกทางกันมีมากมาย แต่หลินซีเหวินเชื่อมาตลอดว่า แม้คนรอบข้างเธอจะหย่ากัน แต่พ่อกับแม่ของเธอไม่มีวันหย่ากันแน่นอน
ความรักของพวกเขายิ่งใหญ่ขนาดนั้น กลับมาจากต่างประเทศแล้วสร้างบริษัทขึ้นมาด้วยกันจนสำเร็จ พวกเขาอยู่ด้วยกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน รักกันขนาดนั้น แทบจะไม่เคยทะเลาะกันใหญ่โต ทำไมอยู่ๆ ถึงจะแยกทางกัน
สองคนตรงหน้าต่างก็พากันเงียบ ทำให้หลินซีเหวินรู้สึกเสียใจ
เกี่ยวกับความรู้สึก พวกเขาไม่อยากให้ลูกสาวรู้มากเกินไป ยังไงซะก็เป็นความรู้สึกกี่สิบปีแล้ว ไม่อยากให้มันแย่ต่อหน้าลูกสาว
หลินซีเหวินตาร้อนผ่าว น้ำตาแทบไหลออกมาอยู่แล้ว “แดดดี๊ คุณพูดมาสิคะ ทำไมกันล่ะ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงเป็นแบบนี้ มันเพราะอะไรกันแน่ มีปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้ หนูไม่เชื่อหรอกว่าพวกคุณจะแยกทางกันจริงๆ ”
อารมณ์ของลูกสาวคุณนายหลินเข้าใจดี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้อธิบายอะไรอีก แต่หยิบเอกสารการหย่าออกมา ทั้งสองคนได้เซ็นชื่อลงในเอกสารเรียบร้อยแล้ว เธอยื่นมันให้หลินซีเหวินดู
“รายชื่อ เราได้เซ็นไปแล้ว หลังจากนี้ฉันกับแดดดี๊ของเธอไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว ทรัพย์สินหลังแต่งงานแดดดี๊อยากจัดการยังไงก็จัดการ ฉันจะไม่เอาแม้แต่บาทเดียว”
หลินซีเหวินมองไปยังหลินเหว่ยเย่ “แดดดี๊ คุณก็ยอมเหรอคะ หม่ามี๊ลงทุนลงแรงกับบริษัทมาขนาดนั้น ต้องลำบากอยากเข็ญขนาดไหนคุณไม่เห็นเหรอ ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่สาวๆ แล้ว มอบชีวิตวัยหนุ่มสาว ช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตมาทุ่มให้กับบริษัท แล้วคุณยังยอมให้เธอไปแต่ตัวแบบนี้”
เธอรับไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้ ไม่ได้
ในที่สุดหลินเหว่ยเย่ก็วางถ้วยชาลง น้ำชาในถ้วยราวกับไม่ได้แตะ ผิวน้ำมีคลื่นน้ำ ทำให้เงาของเขานั้นขยับ
“นี่เป็นความหมายของหม่ามี๊เธอ ฉันให้เธอติดตัวไปครึ่งหนึ่ง แต่หม่ามี๊เธอไม่รับ”
คุณนายหลินยิ้มแกนๆ ราวกับได้ยินเรื่องน่าตลก แถมคนที่พูดยังทำเหมือนเป็นเรื่องจริงได้อีก ราวกับคนฟังนั้นโง่สิ้นดี
“ใช่ เงินนี้ฉันไม่ต้องการ สักบาทก็ไม่ต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำเพื่อบริษัท นั่นเป็นสิ่งที่ตัวฉันเองยินยอม เป็นความโง่ของฉันเอง ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แยกถูกผิดไม่ออก”
คำพูดของคุณนายหลินนั้นแฝงไปด้วยความหมาย หลินซีเหวินได้ยินก็เข้าใจได้ครึ่งหนึ่ง แต่หลินเหว่ยเย่นั้นเข้าใจทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงไม่ตอบโต้
เธอไม่ต้องการ เพราะเงินนี้มันสกปรก ตอนนี้เธอเข้าใจดีแล้ว
เธอเคยหอบความหวัง หวังว่าหลินเหว่ยเย่จะสามารถปล่อยวางทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่ ทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ชำระล้างสิ่งสกปรก เริ่มต้นใหม่ด้วยความซื่อสัตย์
แต่ว่าตอนนี้…
ไม่ ควรบอกว่าเมื่อสองวันก่อน เธอได้ทำลายความเพ้อฝันของตัวเองจนแหลกสลาย
วันนั้นหลงเซียวมาคุยกับหลินเหว่ยเย่ คุยเรื่องเงินซื้อขายบริษัท คุณนายหลินยังสงสัย ทำไมเงินลงทุนถึงต้องคุยอีก
เธอกลัวว่าหลินเหว่ยเย่จะสู้ความฉลาดของหลงเซียวไม่ได้แล้วจะเสียเปรียบ ดังนั้นจึงแอบฟังสิ่งที่ทั้งสองคุยกัน
เมื่อฟังจบ เธอก็รู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า ตอนนั้นราวกับระเบิดไปแล้ว
ที่แท้หลายปีมานี้หลินเหว่ยเย่ทำการค้าผิดกฎหมายมาตลอด ภายนอกเขาดูว่างอยู่บ้าน ที่แท้กลับทำเรื่องเลวร้าย บางเรื่องแค่คิดเธอเองยังหวาดกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินมาเองกับหู ให้ตายเธอก็ไม่เชื่อว่าสามีเธอจะเป็นคนแบบนี้
ต่อมา หลินเหว่ยเย่ยอมรับทุกอย่างเงียบๆ ภายใต้ความกดดันของหลงเซียว ตกลงทำสัญญาชิ้นสุดท้าย
เดิมหลงเซียวสามารถหาหลักฐานทำให้เขาถูกขังได้ แต่หลงเซียวบอกหลินเหว่ยเย่อย่างเข้าใจ “คุณควรขอบคุณที่คุณมีลูกสาวที่ดี และมีลูกเขยที่ดี ไม่งั้นคนที่จะมานั่งคุยกับคุณตรงนี้ในตอนนี้อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้”
หลงเซียวเคารพความสัมพันธ์เครือญาติ เหนือความคาดหมายของเธอ ด้วยความสามารถของหลงเซียว อยากบดขยี้หลินเหว่ยเย่ซะตอนนี้เลยก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาไม่ทำ
แต่ว่า เธอไม่ไหว
ความคิดเรื่องการหย่าร้างที่ผุดขึ้นมาในใจ มันปะทุขึ้นมาในเวลานี้ เธอไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนคนนี้ได้อีกแล้วแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่อยาก
แค่คิดว่าคนที่เธอร่วมเตียงเคียงหมอนมามีจิตใจโหดร้ายแบบนี้ เธอรังเกียจ เธอกลัว
หลินซีเหวินหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด หัวใจบีบแน่น เจ็บจนแทบหายใจไม่ออก ท้องก็เจ็บแปลบขึ้นมาเพราะความเครียด จากท้องน้อยสู่หัวใจ อวัยวะของเธอราวกับอยู่ผิดที่ เจ็บราวกับมันฉีกขาด
“คุณตัดสินใจแล้วใช่ไหมคะ”
เมื่อถามคำถามนี้ออกมา หลินซีเหวินพบว่าตัวเองกำลังหัวเราะ หัวเราะออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งริน
คุณนายหลินพยักหน้าช้าๆ “เซ็นชื่อแล้ว ความจริงเราสองคนไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว รอหนูคลอดลูกแล้วฉันก็จะไป พาสปอร์ตและเอกสารต่างๆ ก็เตรียมไว้หมดแล้ว อีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะได้วีซ่าแล้ว”
เร็วแบบนี้…กะทันหันแบบนี้
จะให้เธอรับไหวได้ยังไง
หลินซีเหวินอยากร้องไห้ แต่ก็ยังยิ้ม “ได้ค่ะ ในเมื่อไม่อยากอยู่ด้วยกัน งั้นก็เลิกกันเถอะ เลิกกันก็ดีเหมือนกัน”
หลินเหว่ยเย่นึกว่าลูกสาวจะเกลี้ยกล่อมอะไร แต่เธอไม่ได้พูด ก็ใช่ นี่ถึงจะเหมาะกับนิสัยของเธอ “ซีเหวิน แดดดี๊ขอโทษนะ”
“ไม่ คุณอย่ามาขอโทษหนูเลยค่ะ คนที่คุณควรขอโทษที่สุดคือหลงเซียว”
เธอไม่รับคำขอโทษของเขา เพราะเธอไม่ใช่คนใจกว้างขนาดนั้น แม้ว่าคนคนนี้จะเป็นพ่อของเธอเอง เธอทำไม่ได้
หลินเหว่ยเย่ก้มหน้าลงทำอะไรไม่ถูก หัวเราะออกมาด้วยความอึดอัด โศกเศร้า เจ็บปวด “ดูเหมือนว่า ฉันคงไม่สามารถลบคำสบประมาทจากคนเหล่านั้นได้แล้ว”
หลินซีเหวินแสบจมูก อดกลั้นแล้วทว่าน้ำตายังคงกลิ้งไหลลงมา เธอเช็ดมันออกไป “แดดดี๊ ยอมเถอะค่ะ บางทีความสัมพันธ์พ่อลูกของเราอาจจะคืนกลับมาได้บ้าง”
ไม่งั้น คุณคงไม่ใช่พ่อฉันอีกต่อไป ฉันเองก็คงไม่รู้จักคุณ
คุณนายหลินส่ายหน้า ถอนหายใจ คำพูดเดิม เธอเคยพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่หลินเหว่ยเย่ยึดมั่นในแผนการ เขาแทบอยากฆ่าฉู่ลั่วหาน จะยอมจำนนได้ยังไง
เป็นไปไม่ได้ ชาตินี้เขาคงเป็นแบบนี้แล้ว
ไร้ความรู้สึก เฝ้าทรัพย์สมบัติของตัวเองไปจนวันตาย
ช่างเถอะ ยังไงซะต่อไปก็จะไม่ยุ่งอีกแล้ว
หลินเหว่ยเย่ลุกขึ้น เดินไปหยุดอยู่ริมหน้าต่าง ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน
คุณนายหลินกุมมือลูกสาวเอาไว้ “ซีเหวิน วันนี้แม่ก็จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ตอนที่หนูคลอด แม่จะอยู่กับหนู แม่อยากเห็นหลานคลอดออกมา”
สำหรับหลินเหว่ยเย่จะเป็นยังไงนั้น เธอไม่อยากสนใจอีกแล้ว
ความเป็นสามีภรรยานี้ โชคชะตาได้มาถึงจุดจบแล้ว ต่อไปนี้ชีวิตใครชีวิตมันเถอะ