ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1184
บทที่ 1184 [ตอนจบ15] มึนกับชื่อแล้ว
หกชั่วโมงผ่านไป หลินซีเหวินคลอดลูกคนแรกของเธอกับหลงจื๋อ
หลินซีเหวินหมดแรง ผมยุ่งเหยิง นอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนล้า มือถูกหลงจื๋อกุมไว้แน่น ฝ่ามือของหลงจื๋อยังมีเหงื่อร้อนๆ เมื่อกี้อยู่ที่ห้องคลอด หลงจื๋อตื่นเต้นกว่าเธออีก
“ซีเหวิน ขอบคุณนะ ลำบากเธอแล้ว”
เห็นเธอเจ็บปวดขนาดนี้ เขามีเพียงความคิดเดียว ฆ่าตัวเองให้ตาย!
ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าคลอดลูกเจ็บขนาดนี้ เขายอมไม่มีลูก อยู่กับเธอไปตลอดชีวิต
หลินซีเหวินลูบมือเขา “ร้องไห้ทำไม? เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า?”
หลงจื๋อเช็ดน้ำตา สูดน้ำมูกพูดด้วยเสียงหงอย “ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ ให้เธอเจ็บปวดขนาดนี้ เราคลอดแค่คนเดียว ไม่คลอดอีกแล้ว”
หลินซีเหวินหัวเราะ “ตอนนั้นที่พี่ลั่วลั่วคลอดลูกเสร็จ พี่ใหญ่ก็พูดแบบนี้ ทำไมคำพูดของพวกนายเหมือนกัน”
ลั่วหานอยู่ข้างๆ ห่มผ้าให้เธอ ลูบผม “เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้ชายที่ดี รักพวกเรามากจริงๆ”
ไม่เหมือนผู้ชายบางคน ภรรยาคลอดลูก ห้องคลอดยังไม่ยอมเข้า ยังบอกว่า “ผู้หญิงก็ต้องคลอดลูก? ร้องอะไร? คนอื่นคลอดได้ เธอคลอดไม่ได้เหรอ?”
ลั่วหานเคยเจอผีบ้าพวกนี้ไม่น้อย!
ยิ่งมีครอบครัวฝั่งผู้ชายบางคน ล้อมรอบกันไปดูเด็ก ทิ้งแม่ของเด็กไว้ไม่สนใจ ภาพนั้นแค่คิดก็เจ็บใจ
โชคดีคือ พวกเธอเจอสามีที่รักตัวเอง
หลินซีเหวินเบะปาก “เห็นลูกหรือยัง? เป็นยังไง? น่ารักไหม?”
หลงจื๋อดูแค่ตอนที่อยู่ห้องคลอด ลูกถูกอุ้มไปที่ห้องทารก เขายังไม่ได้ไปดู อยู่กับหลินซีเหวินตลอด “ลูกของเราต้องน่ารักแน่นอน แต่ว่าน่ารักที่สุดคือเธอ”
คุณนายหลินเดินมาจากห้องทารก ได้ยินพวกเขาคุยกันแล้วยิ้ม “เสี่ยวจื๋อ นายยังตามใจเธอเกินไปแล้ว ตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้ว ต้องให้มีท่าทางเหมือนหม่ามี๊หน่อย”
หลงจื๋อดึงเก้าอี้ให้คุณนายหลิน เทชาแล้วยื่นให้เธอ ยิ้มแล้วตอบ “ไม่ว่าซีเหวินเป็นหม่ามี๊หรือไม่ ยังไงผมอยู่ตรงนี้ เธอก็เป็นเจ้าหญิง ผมจะดูแลเธอและลูกให้ดี”
ลูกเขยพูดแบบนี้ แม่ยายก็พอใจมากๆ “ซีเหวิน ได้ยินหรือยัง? ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะเจอผู้ชายที่ดี เธอต้องรักษานะ”
หลินซีเหวินอ้อน “ฉันรักษามากแล้วนะหม่ามี๊ ท่านดูสิ ลูกก็คลอดออกมาแล้ว!”
“ใช่ๆๆ วันนี้เธอพูดอะไรก็ถูก”
ลั่วหานพูด “พวกเธอตั้งชื่อให้ลูกหรือยัง? สองวันนี้ต้องเข้าทะเบียนให้ลูกนะ”
หลินซีเหวินปวดหัวกับชื่อลูกที่สุด “คิดเยอะมาก แต่ก็ไม่พอใจ คิดมาหลายเดือนแล้ว สมองของหลงจื๋อเป็นยังไงเธอก็รู้ ให้เขาตั้งชื่อก็เหมือนทำลายไอคิวของเขา”
หลงจื๋อถูกกล่าวหา ยังคงหัวเราะ “สะใภ้พูดถูก ดังนั้นชื่อของลูกชายก็มอบให้เป็นหน้าที่ของเธอแล้ว เธอว่าไงเราก็เรียกแบบนั้น!”
“ตอนนัันชื่อของชูชูและหยางหยางเพราะทั้งสองคลอดตอนเช้า ตั้งชื่ออย่างกะทันหัน พวกเธอลองอ้างอิง?” ลั่วหานก็หัวโตกับการตั้งชื่อ ยังไงก็เป็นคนถนัดด้านวิทยาศาสตร์ ไม่มีการสะสมบทกวีและบทเพลงมากนัก
ท้องฟ้านอกหน้าต่างเต็มไปด้วยดวงดาว ดวงจันทร์ขึ้นบนกิ่งไม้ ม่านท้องฟ้าสีครามเข้มพร่างพราวไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ ท้องฟ้าของฤดูร้อนเต็มไปด้วยดวงดาวสว่าง
คุณนายหลินครุ่นคิด “ตอนนี้เป็นตอนกลางคืน ด้านนอกมีดาวและดวงจันทร์ แต่พวกเราจะตั้งหลงชิงชิงก็ไม่ได้มั้ง?”
หลินซีเหวินหัวเราะ หัวเราะแรงเกินกระทบต่อส่วนที่เจ็บ เบะปากและขมวดคิ้วพูด “หม่ามี๊ คุณก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ยังเป็นผู้บริหารธุรกิจ ชื่อนี้ฉันก็มึนแล้ว”
คุณนายหลินไม่พอใจที่ถูกลูกสาววิจารณ์ จึงพูด “ทำไมเหรอ? ชิงชิงไม่ดีตรงไหน?”
“หม่ามี๊ ชิงชิงกับซินซินออกเสียงเหมือนกัน ท่านไม่กลัวอนาคตเขาโดนเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อเหรอ?”
คนข้างในกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน โฉหวั่นชิงยืนอยู่ข้างนอกคนเดียว หลายครั้งที่อยากเคาะประตูเข้าไป แต่ไม่กล้ารบกวนพวกเขา
เธอก็เหมือนคนนอก ความสัมพันธ์กับพวกเขาเหมือนมีภูเขากั้นไว้
ส้งชิงเซวี๋ยนเดินมาที่หน้าประตู เห็นโฉหวั่นชิงยืนอยู่คนเดียว คิดแล้วเดินไป “แม่หลงจื๋อ ทำไมไม่เข้าไป?”
โฉหวั่นชิงหันไปอย่างเร็ว เห็นส้งชิงเซวี๋ยน ยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก “ศาสตราจารย์ส้งนี่เอง คุณมาดูหลินซีเหวินเหรอ?”
“อืม เด็กคนนี้วันนี้ทำผลงานดีๆ ไว้ ฉันมาดู อวยพร
เธอไม่กล้าเคาะประตู น่าจะเพราะทำตัวไม่ถูก
ส้งชิงเซวี๋ยนได้ยินเรื่องระหว่างเธอกับหลินซีเหวินเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนเธอจะมีอคติกับหลินซีเหวิน ความสัมพันธ์แม่สามีกับลูกสะใภ้ตึงเครียด อยู่ด้วยกันเวลาสั้นๆ ไม่มีความรู้สึกอะไร จู่ๆ ก็ไปเกรงว่าจะพูดอะไรก็ยังไม่รู้
“ได้ ได้สิ
ภรรยากับแม่ไม่ลงรอยกัน คำนึงถึงว่าตอนนี้ร่างกายของหลินซีเหวินอ่อนแอ หลงจื๋อคิดว่ารอให้เธอดีขึ้นค่อยให้แม่มา แต่คิดไม่ถึงว่าแม่จะมาหาเธอเอง
“แม่ ท่านนั่ง”
คุณนายหลินเห็นโฉหวั่นชิง ยื่นน้ำชาที่ยังไม่แตะให้เขา “แม่สามีร่วมมาแล้ว เรากำลังคิดชื่อให้ลูด คุณมาพอดีเลย”
โฉหวั่นชิงประหลาดใจกับปฏิกิริยาของคุณนายหลินเล็กน้อย เมื่อก่อนเธอทำแบบนั้นกับหลินซีเหวิน เป็นแม่ ในใจไม่มีอคติกับเธอเหรอ? ทำไมดูเหมือนเธอจะไม่ถือสาแม้แต่นิด?
หลินซีเหวินโดนโฉหวั่นชิงรังแก ไม่เคยบอกแม่ เป็นภรรยาของหลงจื๋อ เธอเคารพแม่ของสามี ถ้าหากบอกแม่ตัวเอง จะมีช่องว่างแน่นอน อนาคตอยู่ด้วยกันจะอึดอัดไม่มากก็น้อย
ดังนั้นในสายตาของคุณนายหลิน โฉหวั่นชิงเป็นแม่ที่ไม่เลว จึงเป็นมิตรกับเธอเป็นพิเศษ
หลินซีเหวินลุกขึ้นไม่สะดวก นอนทักทายโฉหวั่นชิง “คุณแม่คะ ท่านเห็นลูกหรือยัง?”
เธอยิ้ม มือของโฉหวั่นชิงสั่น สายตึงในใจก็คลายลงเล็กน้อย “ดู ดูแล้ว ลูกน่ารักมาก ดวงตาเหมือนเธอกลมโตและสดใส”
หลินซีเหวินเม้มริมฝีปากและยิ้ม “คุณแม่มีคำแนะนำอะไรไหม ตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี?”
โฉหวั่นชิงคิดไม่ถึงว่าหลินซีเหวินจะยอมให้เธอตั้งชื่อให้ลูก ปลื้มปลิ่มอยู่พักใหญ่ “ฉันไม่ค่อยมีความรู้ ตั้งชื่อยากสำหรับฉันเล็กน้อย พวกเธอคิดยังไง? เราดูด้วยกัน”
คุณนายหลินหยิบโทรศัพท์มือถือเริ่มค้นหา “ตั้งชื่อเพื่อเน้นขาดอะไรก็ชดเชยสิ่งนั้นไม่ใช่เหรอ? ฉันให้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์ช่วย เพียงใส่วันเดือนปีเกิดก็ได้แล้ว”
หลินซีเหวินทำหน้าบึ้ง “หม่ามี๊! อย่างน้อยท่านก็กลับมาจากอเมริกา กลับเชื่อในอะไรแบบนี้! ดูวันเดือนปีเกิดอะไรกัน ชอบอะไรก็ตั้งอันนั้น!”
คุณนายหลินไม่ฟัง “ไม่ได้ กฎของบรรพบุรุษยังคงต้องเชื่อ ฉันลองดูนะ”
พิมพ์วันเดือนปีเกิดของลูก ผลออกมาเร็วมาก “โอ้ คนที่นับบอกว่าลูกขาดไม้ ชื่อต้องเกี่ยวกับไม้”
หลินซีเหวินจะบ้าตายแล้ว “แม่! ถ้าเขาขาดไม้จริงๆ อนาคตให้หลงจื๋อเปิดโรงงานไม้ให้เขา ให้เขาอยู่กับไม้ทุกวัน หรือพวกเราย้ายไปอยู่ในป่า”
โฉหวั่นชิงก้มหน้าหัวเราะ ซีเหวินน่ารักขนาดนี้ ทำไมเมื่อก่อนเธอตาบอดดูไม่ออกกัน?
คุณนายหลินต่อสู้ด้วยเหตุผล “ไม่ได้ ฉันคิดว่าวิธีนี้ได้ เดี๋ยวก่อน ฉันดูชื่อที่เขาแนะนำ”
แอปพลิเคชันมีชื่อที่แนะนำหลายชื่อ: หลงหลิน หลงเซิง หลงซึง หลงเฟิง หลงฉี……
“ชื่อที่เขาแนะนำก็ไม่เลวนะ เลือกสักชื่อไหม?” คุณนายหลินให้หลงจื๋อและหลินซีเหวินดูโทรศัพท์
หลินซีเหวินหลับตาไม่ดู “ไม่เอา! โหลขนาดนี้ ฉันไม่อยากให้อนาคตลูกชายเหมือนท่อนไม้หรอก!”
ส้งชิงเซวี๋ยนลูบเครา “เสี่ยวหลินจื่อ ลูกเหมือนแม่ เธอฉลาดและแปลกประหลาดแบบนี้ ลูกจะเหมือนท่อนไม้ได้ยังไง! อย่าพูดไปมั่ว”
หลินซีเหวินขอความช่วยเหลือ “ตาเฒ่าน้อย คุณดูหม่ามี๊ฉัน ความคิดโบราณมาก คุณช่วยฉันคิดหน่อยสิ!”
ส้งชิงเซวี๋ยนคิด “การตั้งชื่อ เป็นความรู้มากมาย ฉันไม่กล้าคิดวิธีมั่ว”
จึงเปิดปากพูด “เสี่ยวหลินจื่อเธอฉลาด เธอคิดชื่อหนึ่งก็ได้แล้วนี่นา?”
หลงจื๋อก็พูดตาม “บ้านเราเธอใหญ่สุด เธอว่าอะไรก็ชื่อนั้น”
โทรศัพท์มือถือของลั่วหานสั่น หลงเซียวโทรศัพท์มา เธอถือโอกาสไปรับสายที่ห้องรับแขก
“ที่รัก ชูชูกับหยางหยางหลับหรือยัง?”
หลงเซียวออกมาจากห้องเด็ก เพิ่งกล่อมลูกรักสองคน “หลับแล้ว ฝั่งเธอเป็นยังไงบ้าง?”
“กำลังคิดชื่อให้ลูก ความคิดเห็นไม่ตรงกัน คิดว่าดึกๆ ก็ไม่หลับแล้ว” ลั่วหานหาว
ตอนเย็นหลงเซียวอยู่ที่โรงพยาบาลสองชั่วโมง จากนั้นกลับบ้านไปดูแลลูก ตอนนี้ลูกๆ หลับแล้ว เขาห่วงลั่วหานที่สุด
“เหนื่อยแล้วใช่ไหม? ฉันไปรับเธอที่โรงพยาบาล”
“อื้ม”
หลงเซียววางสายโทรศัพท์ เห็นเจมส์และอิสซานั่งคุยกันที่ห้องรับแขก หยิบกุญแจรถแล้วพูด “ฉันออกไปแป๊บหนึ่ง”
เจมส์วางเครื่องเล่นเกม “นายไปไหน? ฉันก็จะไป!”
เจ้าหมอนี่……
“โรงพยาบาล”
เจมส์กระโดดขึ้นไปเปลี่ยนรองเท้า “ไปรับแอนน่าใช่ไหม? ฉันก็จะไป!”
####บทที่ 1185 [ตอนจบ16] จุดเริ่มต้นของความรัก
บทที่ 1185 [ตอนจบ16] จุดเริ่มต้นของความรัก
เสียงที่ห้องรับแขกดังมาก ลูกสองคนที่กว่าจะกล่อมให้หลับก็ตื่นแล้ว ชูชูที่สวมชุดนอนกระโปรงลายดอกผลักประตู ดวงตากลมโตน่ารักมองแด๊ดดี้ “หนูก็จะหาหม่ามี๊!”
หยางหยางเห็นพี่สาวออกไป ตามไป ยื่นหัวออกมา ความหมายก็คือ ผมก็จะไป
หลงเซียวหัวโตขึ้นมาสองเท่าทันที “angel พาน้องกลับไปนอน เดี๋ยวแด๊ดดี้ก็กลับมาแล้ว”
ชูชูไม่ยอม “แด๊ดดี้ หม่ามี๊บอกว่าคุณอาคลอดลูก หนูก็อยากเห็นเด็กน้อย”
เจมส์ก็พูดขึ้น “โอ๊ย! หลงจื๋อเป็นแด๊ดดี้แล้ว! ฉันก็จะไปดู!”
อิสซาพูดประชด “เจมส์ ที่ไหนก็มีนาย! นายไปยุ่งอะไร?”
เจมส์เปลี่ยนรองเท้าเสร็จเรียบร้อย “ฉันชอบยุ่ง! angel Leo ไป เราไปด้วยกัน!”
หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ เด็กๆ ชอบความสนุกสนาน ถ้าบังคับไม่ให้พวกเขาไป เด็กน้อยสองคนต้องเสียใจแน่ๆ “ก็ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน”
ชูชูและหยางหยางวิ่งตึงตังไปที่ห้องนอน หาเสื้อของใครของมัน ยื่นให้หลงเซียว “แด๊ดดี้!”
หลงเซียวรับเสื้อมา นั่งลงอย่างช่วยไม่ได้แต่ก็มีความสุข ถอดชุดกระโปรงให้ชูชูก่อน สวมกระโปรงให้เธอ “ชูชู พรุ่งนี้เธอยังต้องไปโรงเรียนอนุบาล ห้ามนอนดึก”
สวมชุดเสร็จ หลงเซียวใช้นิ้วมือลูบผมของเธอ เจ้าหญิงน้อยของเขาน่ารักมากจริงๆ
ชูชูสวมรองเท้าแตะและเดินไปที่โถงทางเดินเพื่อเปลี่ยนรองเท้า “หนูนอนบนรถ! แด๊ดดี้ห้ามฟ้องหม่ามี๊นะ”
เจมส์ช่วยชูชูติดกระดุมบนรองเท้าหนังเล็ก “angel ของเราฉลาดจริงๆ! สัญญาว่าไม่ให้หม่ามี๊รู้!”
หลงเซียว……
ต่อมาถอดชุดนอนให้หยางหยาง แล้วสวมเสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้น อุ้มเขาไปเปลี่ยนรองเท้าที่โถงทางเดิน
ท่านเซียวในเวลานี้ รับรู้ความรู้สึกที่ว่าอะไรเรียกว่าเป็นทั้งพ่อทั้งแม่
Leo กอดคอแด๊ดดี้ ดวงตากลมโตเป็นประกาย ดวงดาวบนท้องฟ้าสว่างมาก เขาชอบดูท้องฟ้าที่สุดเลย
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ ดูสิ มีดาวตก!”
ชูชูตาดี ชี้ไปที่ด้านบนของศีรษะให้แด๊ดดี้ดู
หลงเซียวเงยหน้า เห็นดาวตกผ่านจริงๆ แสงสีขาวสว่างวาบ ท้องฟ้ายามค่ำคืนช่างงดงาม
หยางหยางเงยหน้า มองเห็นดาวตก ปากเล็กๆ เม้ม ดวงตาเปร่งประกาย
……
ชูชูและหยางหยางมาหาหม่ามี๊ที่โรงพยาบาลบ่อย จึงคุ้นเคยกับสถานที่ หลงเซียวมือข้างหนึ่งอุ้มLeo อีกข้างหนึ่งจูงมือเล็กๆ ของชูชู กลางคืนโรงพยาบาลเงียบมาก ไม่ค่อยมีคน
แต่ว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในทางเดินยังคงตกใจกับภาพที่เห็น!
โอ้! พระเจ้า! พระเจ้า!
ท่านเซียวพาเจ้าหญิงน้อยกับเจ้าชายน้อยมาโรงพยาบาล!
พาลูกสองคนมาในเวลาเดียวกัน หล่อเกินต้านจริงๆ! พ่อสุดหล่ออยู่ยงคงกระพัน! อยากแอบถ่าย แต่ไม่กล้า
ชูชูรู้จักหมอหลายคน โบกมือทักทายพวกเขา “สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”
ตอนนี้หมอและพยาบาลยิ่งตื่นเต้นและอยากจะกระโดด ชูชูหน้าตาน่ารักอยู่แล้ว แค่มองก็ดูดีมากๆ ฟังเธอพูดยิ่งน่ารักจนแทบบ้า
หลงเซียวไม่แสดงสีหน้า เว้นระยะห่างสามเมตรกับทุกคน ดังนั้นไม่มีใครกล้าไปกอดเด็กน้อย ทำได้แค่มอง
เจมส์สวมหน้ากากอนามัยเดินอยู่ข้างหลัง มือซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน ทักทายหมอและพยาบาลตามชูชู เกือบจะทำให้หมอผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานสลบ ไม่ต้องดูทั้งหน้า ความสูงและดวงตาสีฟ้าเข้มก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนนึกถึงละครของไอดอล
ไม่ไหวแล้วๆ จะสลบแล้ว!
ชูชูปล่อยมือแด๊ดดี้ วิ่งไปข้างหลังจูงมือของเจมส์ เงยหน้ามองเขา “คุณอาเจมส์ ห้องทำงานของหม่ามี๊อยู่ชั้นแปด นั่งลิฟต์ลงจากตรงจะถึงห้องทำงานของหม่ามี๊พอดีเลย”
“ชูชูเก่งมาก จำได้ชัดเจน” เจมส์เคยไปห้องทำงานของลั่วหาน จำทางได้
ชูชูยิ้มหวาน “ยังมีที่นี่ เวลาหม่ามี๊เข้าเวรจะอยู่ที่นั่น หนูเคยไป”
มองออกไปจากทางเดิน สามารถมองเห็นห้องผู้ป่วยนอกที่ชั้นแปด เป็นห้องผู้ป่วยนอกเฉพาะทางสำหรับการผ่าตัดหัวใจพอดี แต่ว่าตอนนี้ปิดประตูไว้
เจมส์ถูกชูชูจับมือหนึ่งนิ้ว มือเล็กๆ ของชูชูร้อนมาก นุ่มมาก สบายมากๆ “อนาคตถ้าชูชูโตขึ้น อยากเป็นหมอไหม?”
ชูชูคิดก็ไม่คิด “อื้ม! หนูอยาก! หนูจะเป็นหมอที่เก่งเหมือนหม่ามี๊! ถ้าคุณอาเจมส์ป่วยหนูก็รักษาให้ได้ หนูรับรองฉีดยาไม่เจ็บแม้แต่นิด จริงๆ!”
เด็กน้อย สัญญากับเขาอย่างจริงจัง กลัวเขาไม่เชื่อ ยังทำท่าฉีดยาบนแขนของตัวเอง เหมือนว่าอบบนั้นไม่เจ็บจริงๆ
ใจของเจมส์ จะเหลวเป็นน้ำแล้ว “อืมๆ ไม่เจ็บๆ คุณอาเชื่อชูชู!”
GOD! ถ้าชูชูฉีดยาให้เขาจริงๆ ต่อให้เจ็บก็ต้องกัดฟันพูดว่าไม่เจ็บ เด็กน้อยอบอุ่นและอ่อนโยนจริงๆ!
ตลอดทางชูชูไม่หยุดพูด เผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์ให้เจมส์ เหมือนผู้เชี่ยวชาญตัวน้อย
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ ดูสิ รูปของหม่ามี๊”
พวกเขาเดินถึงห้องคลอดVIP จากทางเดินถึงข้างนอก ถึงห้องโถงใหญ่ของชั้นแปดพอดี ที่นั่นแขวนรูปของลั่วหานและถังจิ้นเหยียน ทั้งสองเป็นผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดหัวใจ เป็นที่เลื่องลือของหวาเซี่ย ดังนั้นจึงเด่นมาก
หลงเซียวมองไปตามทิศทาง บนรูปลั่วหานสวมเสื้อกาวน์ รูปถ่ายติดบัตรครึ่งหนึ่งกลับสดใสและอบอุ่นถึงหัวใจ มุมปากกระตุก “หม่ามี๊สวยมาก”
“คุณลุงถังก็ดูดี คุณลุงถังอยู่เวรไหม? หนูอยากไปเล่นกับคุณลุงถัง”
ชูชูสนิทกับทุกคนจริงๆ ไม่ว่าอยู่กับใคร จะกลายเป็นที่รักของคนอื่นอย่าวเร็ว ส่วนนี้ทำให้หลงเซียวหวงไม่น้อย
“วันนี้ลุงถังไม่อยู่เวร” หลงเซียวตอบ
ชูชูเม้มปาก “ก็ได้ งั้นครั้งหน้าหนูจะมาตอนบ่าย!”
ชูชูพูดตลอดทาง ในที่สุดสี่คนก็ถึงนอกห้องผู้ป่วย
ลั่วหานเปิดประตู เห็นภาพนี้ ตะลึงเล็กน้อย
ผู้ใหญ่สองเด็กสอง เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า?
คุณนายหลินและโฉหวั่นชิงทักทายหลงเซียว คุยกันเล็กน้อย หลงเซียวพยักหน้า ตอบกลับสองสามประโยค
ชูชูผละออกจากมือของเจมส์ กอดขาของลั่วหาน “หม่ามี๊! หนูกับน้องชายจะดูเด็กน้อย”
ลั่วหานก้มลงอุ้มลูกขึ้น จิ้มจมูกเล็กๆ นุ่มๆ ของเธอ “งอแงให้แด๊ดดี้พาพวกเธอมาด้วยใช่ไหม? ไม่นอนหลับดีๆ”
ชูชูยิ้มแหะๆ เงยหน้าเห็นหลินซีเหวินและหลงจื๋อ เรียกอย่างตื่นเต้น “คุณอารอง! คุณอาสะใภ้!”
เด็กๆ มา บรรยากาศในห้องผู้ป่วยสดใสเร็วมาก หลงจื๋อโบกมือ “ชูชู รีบมาหาอารอง”
ชูชูวิ่งไปหาหลงจื๋ออย่างเร็ว ซุกเข้าอ้อมกอดของเขา นั่งมองหลินซีเหวินบนขาของเขา น่าจะตกใจท่าทางอ่อนเพลียของเธอ มือเล็กๆ ดึงมือของเธอ “คุณอาสะใภ้……”
หลินซีเหวินเห็นชูชูมา ยิ้มจนตาหยี “ชูชูเด็กดี”
ชูชูเห็นสายน้ำเกลือบนหลังมือของเธอ คิ้วขมวดทันที ก้มหัวชิดหลังมือของเธอ ปากเล็กๆ จูบมือเบาๆ “แด๊ดดี้บอกว่า แค่หนูจุ๊บทีหนึ่งก็ไม่เจ็บแล้ว! เดี๋ยวคุณอาสะใภ้ก็จะไม่เจ็บแล้ว!”
หลินซีเหวินเกือบจะร้องไห้ให้กับความอบอุ่นของเธอ พยักหน้ารัวๆ “ว้าว! วิเศษจริงๆ ไม่เจ็บแล้วจริงๆ! ขอบคุณชูชูที่รัก!”
ชูชูปรบมืออย่างดีใจ มองไปที่หลงเซียว “แด๊ดดี้ หนูรักษาคุณอาสะใภ้ให้หายแล้ว!”
ใบหน้าของหลงเซียวเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความรัก “ชูชูเก่งจริงๆ”
ลั่วหานกำลังจะถูกพิชิตโดยคุณลักษณะที่อบอุ่นและน่ารักตามธรรมชาติของลูกสาว “เด็กฉลาด! ปลอบคนเก่งจริงๆ รีบลงมา อย่าให้อารองอุ้มไว้ อารองเหนื่อยมาก”
หลงจื๋อส่ายหัว อุ้มชูชูไม่เหนื่อยแม้แต่นิด “เธอเบาขนาดนี้ ไม่เหนื่อย”
ชูชูเชื่อฟังหม่ามี๊ หม่ามี๊พูดอะไร ทำต้องทำตามแน่นอน จึงปีนลงจากอ้อมกอดของหลงจื๋อ หมุนตา “คุณอารองต้องเก็บแรงไว้อุ้มเด็กน้อย!”
“ฮ่าๆ! เด็กคนนี้ พิชิตทั้งโลกแล้ว!” ฝั่งส้งชิงเซวี๋ยนตะลึงแล้วจริงๆ
ชูชูเอียงคอมองส้งชิงเซวี๋ยน “คุณปู่ ท่านจะอุ้มเด็กน้อยไหม?”
ส้งชิงเซวี๋ยนกระแอม “คุณปู่ไม่อุ้ม”
“งั้น……” ชูชูอ้าแขนเล็ก “คุณปู่อุ้มหนู!”
“ฮ่าๆๆ! ได้ๆๆ! คุณปู่อุ้มชูชู มา ให้คุณปู่วัดดูว่าเจ้าหญิงน้อยของพวกเราอ้วนขึ้นหรือเปล่า”
Leoเงียบตลอด ทุกคนชินแล้ว
แม้ว่าเขาไม่พูดอะไร แต่ยืนกับหลงเซียว เหมือนออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน ผู้ใหญ่เย็นชาหนึ่งคน เด็กเย็นชาหนึ่งคน แค่มองก็ดูดีมากแล้ว!
จู่ๆ ชูชูก็พูดขึ้น “หม่ามี๊ ระหว่างทางพวกเราเห็นดาวตกด้วย! Leoก็เห็น ใช่ไหมLeo?”
Leoถูกดึงเข้าบทสนทนา พยักหน้า “อืม ดาวตกม้าบิน”
ดวงตาหลินซีเหวินเปร่งประกาย “ว้าว มีดาวตก ดีจริงๆ!”
หลงจื๋อเห็นภรรยาตื่นเต้น “ทำไมเหรอ?”
“ชื่อของลูกชายไง! ชื่อซิงซ่านเป็นไง? ดวงดาวที่ส่องสว่าง ความรู้สึกเหมือนโอปป้าเกาหลี อนาคตอาจจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับอินเตอร์!”
หลงจื๋อมึน “หลงซิงซ่าน? นี่……”
พูดได้ไหม ก็ไม่ดูสูงขนาดนั้น?
แต่ว่า มีความรู้สึกเกาหลี
“ได้ ฟังเธอ ชื่อซิงซ่าน”
ภรรยาใหญ่ที่สุด ภรรยาพูดอะไรก็ชื่ออะไร เขาเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้
หลินซีเหวินปีนขึ้นตามเสา จินตนาการต่อ “ชื่ออังกฤษชื่อ star! เป็นไง? ฮ่าๆ!”
หลงจื๋อ “……”
ลั่วหาน “……”
คุณนายหลินทนฟังต่อไปไม่ไหว “ซีเหวิน ชื่อของเด็กจะง่ายแบบนี้ได้ยังไง ต้องจริงจังหน่อย”
หลินซีเหวินกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ นับข้อดี “หม่ามี๊ ชื่อไม่ดีตรงไหน?”
คุณนายหลินพูดไม่ออกเล็กน้อย “ดีตรงไหน?”
หลินซีเหวินไม่ยอม “ที่รัก นายพูด”
หลงจื๋อ “……” ทำไมเขาต้องแบกรับสิ่งนี้?
“เธอพูดถูก เธอพูดอะไรก็มีเหตุผล ฉันเชื่อในความรู้สึกของเธอ ภรรยาว่าดี งั้นก็ต้องดีแน่นอน! เราก็เรียกแบบนี้!”
ลั่วหานกุมขมับ “เสี่ยวจื๋อ นาย……” ไม่มีจุดยืนเลย “ดีอยู่ ผู้ชายที่ดี”
หลงเซียวเห็นใจ “……”
เจมส์ที่เป็นเพื่อนนานาชาติได้มึนไปแล้ว “หลงจื๋อ star ในประเทศของเรา ก็เหมือนประเทศพวกนายตั้งชื่อให้ลูกว่าหลี่เฉียน หวังเหว่ย จ้าวกัง”
อุ๊บ!!!
ลั่วหานทนไม่ไหว หลุดขำแล้ว
นิ้วของหลงเซียวกดจมูก มุมปากกระตุก
โจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว! หลินซีเหวินทำตัวไม่ถูกแล้ว แต่บรรยากาศต้องรับให้ไหว “แล้วยังไง? ชื่อแย่เลี้ยงง่าย นายรู้อะไรไหม? ชาวต่างชาติอย่าแสดงความคิดเห็นมั่ว”
เจมส์ทำท่ายอม “ได้ๆๆ เธอถูกหมด”
มีแม่เอาแต่ใจขนาดนี้ ไม่รู้ว่าอนาคตลูกโตมาจะรู้สึกยังไง
ตัดสินใจชื่ออย่างมีความสุข ต่อมาหลงเซียวและลั่วหานพวกเขาไปดูเด็กที่ห้องทารก
ชูชูและหยางหยางมองเห็นเบบี๋นอนอยู่บนเตียงเด็ก ตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะชูชู อยากไปอุ้มเขา
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ คนนี้ใช่น้องชายไหม?”
หลงเซียวอุ้มเธอไว้ “อืม คนนี้ก็คือน้องชาย อนาคตถ้าโตขึ้น พวกเธอก็จะเล่นด้วยกันได้ ดีใจไหม?”
ชูชูพยักหน้าหงึกๆ “ดีใจ! เขาเล็กจัง”
ลั่วหานลูบผมลูกสาว “ใช่แล้ว ตอนนี้ยังเล็ก ตอนที่เธอเพิ่งคลอดก็เล็กเท่านี้ ตอนนี้ก็โตขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ?
จู่ๆ ชูชูก็เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ “แด๊ดดี้ หม่ามี๊ หนูเป็นพี่สาว หนูมีน้องชายสองคน อนาคตถ้าหนูโตขึ้นหนูจะปกป้องพวกเขา!”
ลั่วหานอุ่นใจมากที่ลูกสาวพูดแบบนี้ พูดให้กำลังใจ “ดีสิ รอชูชูโตขึ้นก็สามารถปกป้องน้องชาย น้องๆ ก็จะปกป้องเธอ”
เจมส์มองก้อนเล็กๆ โดยมีกระจกกั้น “วิเศษจริงๆ ฉันก็อยากได้หนึ่งคน”
ลั่วหานยักคิ้ว “ฉันดูต้นทางให้นาย ขโมยไปหนึ่งคนสิ”
หลงเซียว “……”
สอนชาวต่างชาติแบบนี้ไม่มีปัญหาใช่ไหม?
ดูเด็กน้อยเสร็จก็ดึกมากแล้ว ชูชูและหยางหยางหาวพร้อมกัน หลงเซียวอุ้มชูชู ชูชูอยู่ในอ้อมกอดเขา ตาโตหรี่ลง สักพักก็หลับแล้ว
ลั่วหานอุ้มหยางหยาง เจ้าตัวเล็กก็ง่วงแล้ว สักพักก็เข้าฝันในอ้อมกอดลั่วหาน
ระหว่างทางกลับไป เจมส์ขับรถ ลั่วหานและหลงเซียวอุ้มเด็กอยู่เบาข้างหลัง ลูกรักในอ้อมกอดหายใจเบาๆ ทำปากอย่างอ่อนหวาน
ลั่วหานมองลูกรัก ยิ้มทันที “ที่รัก รู้สึกวิเศษไหม?”
“เด็กๆ เป็นสัตว์ที่น่าทึ่งที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวกเขาเต็มไปด้วยความรัก ความหวัง รอพวกเขาโตขึ้นอีกนิด พลังนี้จะชัดเจนมากขึ้น”
ใช่แล้ว เด็กๆ โตขึ้นทีละวัน พวกเขาก็จะแก่ลงทีละวัน
“จะปิดเทอมแล้ว นายจัดวันหยุดไหม พวกเราพาเด็กๆ ไปเที่ยว?” ลั่วหานไม่ได้พาเด็กๆ ออกไปเที่ยวนานแล้ว ช่วงนี้อยากพักผ่อนพอดี
ตอนนี้หลงเซียวก็ไม่มีโครงการอะไร หยวนชูอยู่ในการติดตาม หลายโครงการในเมืองหลวงเสร็จสมบูรณ์ทีละโครงการ “ได้สิ หยุดยาว พวกเราสี่คนไปเที่ยวรอบโลกกัน”
“หนึ่งเดือน? นายหยุดนานขนาดนั้นได้ไหม?” ลั่วหานไม่เชื่อ
หลงเซียวให้ความเชื่อมั่นและยิ้ม “หนึ่งเดือนเอง เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าพวกเธอ บริษัทฉันจัดการได้ เธออยากไปไหนเป็นที่แรก?”
สำหรับเขา เงินไม่สำคัญเท่าครอบครัว เงินเป็นของนอกกาย มีเพียงครอบครัว เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ลั่วหานคิด คิดถึงสายลมในฤดูร้อนของปีนั้น ฉากถนนในต่างประเทศ ความรู้สึกของปีนั้นเข้ามาในใจ “ไปจุดเริ่มต้นของความรักของเรา!”
“ดี กลับไปที่จุดเริ่มต้นของความรัก เดินถนนแห่งความเยาว์วัยอีกครั้ง