ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 130
ตอนที่ 130 คู่สามีภรรยาที่เหมาะสม งานเลี้ยงจัดขึ้นที่คฤหาสน์ตระกูลโ ม่
น้ำพุกลางสวนพ่นออกมาด้วยความสวยงาม ทั้งสองข้างนั้น ถูกประดับไปด้วยหยกขาวแกะสลักละเอียดอ่อน ใต้แสงไฟนีออน เสียงน้ำไหลประกอบกับวงดนตรี ช่วยประดับตกแต่งให้สถานที่ แห่งนี้ได้อย่างดี
เมื่อเทียบกับงานเลี้ยงวันเกิดครั้งที่แล้วของฟางหลิงหยู้ช่าง เทียบกันไม่ได้เสียเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่คู่ลั่วหานมายังคฤหาสน์บ้านตระกูลโม่ เธอ และโม่หรูเฟยรู้จักกันมาได้สามปี แต่จู่ลั่วหานไม่เคยเดินทางมา หาเธอที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียว แม้เธอจะรู้จักกันแต่ที่จริงแล้วมี อะไรมากกว่านั้น เธอทำได้เพียงยิ้มอย่างยากเย็น
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในรูปแบบ Outdoor เมื่อเงยหน้าขึ้น สามารถมองเห็นดวงดาวอันสว่างไสว และเมื่อก้มลงที่พื้นจะมอง เห็นต่างๆ หินสีต่างๆประดับบนทางเดินอย่างสวยงาม
บ้านตระกูลโม่ถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จนถึงรุ่นที่สาม พวก เขาดูแลรักษาและประดับตกแต่งได้อย่างไม่มีที่ติ
แต่ทำไมบ้านตระกูลโม่จึงต้องพยายามจะเกี่ยวข้องกับบ้าน ตระกูลหลงกันล่ะ แม้ว่าตระกูลโม่จะไม่ใช่เศรษฐีอันดับหนึ่ง แต่ก็ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในสาม
เมื่อเธอรวบรวมสติได้อีกครั้งประตูรถได้ถูกเปิดขึ้น
รถตอนยาวสุดหรูเดินทางมาถึง ดึงดูดสายตาของแขกผู้มี เกียรติทั้งหลาย ทั้งประเทศมีเพียงคันเดียวไม่ต้องเดาก็รู้ว่า เจ้าของคือใคร
ดังนั้นทุกคนจึงหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วถือแก้วรอการ ต้อนรับคุณชายหลง
คุณชายหลงเดินลงมาจากรถด้วยท่าทางสง่างาม เขายื่นมือ เข้าไปเพื่อรอรับใครสักคนที่อยู่ในรถด้วยความอ่อนโยน
ฉู่ลั่วหานยื่นมือมาให้เขาเพื่อลงจากรถ รองเท้าสูง 8 cm ประกอบกับขาอันเรียวยาวของเธอ เพียงเห็นแค่นี้ทุกคนต่างพา กันจินตนาการต่างๆนานา ชุดเสื้อผ้าที่ดูเรียบร้อยแต่ไม่ล้าสมัย เธอเดินออกมาจากรถ
แสงไฟส่องไปกระทบกับสร้อยบนคอของเธอเป็นประกายระยิบ
ระยับ รัศมีความสง่างามถูกแผ่ออกมาจากร่างกายของเธอ
รองเท้าส้นสูงถูกประดับไปด้วยเพชรแวววาวช่วยเผยให้รูป ร่างของเธอสูงสง่าและเรียวยาว มืออันขาวผ่องยื่นไปคล้องแขน ของชายหนุ่มรูปงาม บนใบหน้าของเธอไม่ได้มีรอยยิ้ม แต่การ แต่งหน้าของเธอ ทำให้มองจากระยะไกลแล้วเหมือนกับเธอ กำลังยิ้มอยู่
ภาพการเข้างานในฉากนี้ ไม่ต้องมีใครพูดก็รู้ได้ว่าเป็นภาพที่ สง่างามที่สุด พวกเขาเดินมาตามพรมแดงที่ปูไว้ เธอเดินมาทีละ ก้าวทีละก้าวอย่างสง่างาม
หลงเชียวยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย บรรดาผู้คนรอบข้างเข้ามาให้
ความเคารพแก่เขา
บรรดาผู้คนต่างเงียบสงัดไม่มีใครพูดสิ่งใดออกมาเนื่องจาก ตกตะลึงในความสวยงามของทั้งสอง พวกเขาพากันเรียกว่า”คู่ สามีภรรยาในเทพนิยาย”
โม่หรูเฟยยืนอยู่ตรงบันไดที่แกะสลักไปด้วยหยกขาว แก้วไวน์
ในมือของเธอหล่นแตก!
คู่ลั่วหาน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ได้ งานเลี้ยงนี้ไม่ได้เชิญเธอ มา! กระทั่งใบรับเชิญเข้างานของหลงเชียวก็ไม่ได้เขียนเชิญธอ มาด้วย ทำไมเธอถึงได้หน้าด้านตามเขามาแบบนี้นะ!
ให้ตายเถอะคู่ลั่วหาน
ยิ่งไปกว่านั้นสร้อยคอที่เธอใส่อยู่ โม่หรูเฟยจำได้ดีว่าเป็น
สัญลักษณ์ของสถานะแสดงตัวตนของขุนนาง และถูกส่งต่อจาก
อังกฤษมาถึงฝรั่งเศส เศรษฐีผู้มั่งคั่งระดับโลกเท่านั้นถึงจะมีไว้ใน ครอบครองได้อย่างภาคภูมิใจ เมื่อปีที่แล้วหลงเชียวใช้เงิน 200 ล้านหยวนในการประมูลมา
ตอนนี้กลับไปอยู่ที่คอของลั่วหาน ชีวิตของเธอยังไม่มีค่า ขนาดนี้ เธอมีสิทธิ์อะไรใส่มัน!
โม่หรูเฟยจำได้ หลงเชียวเคยพูดว่าอันนี้เขาจะเก็บรักษาไว้ ให้เฉพาะคนที่เขารักที่สุดเท่านั้น
คนที่เขารักที่สุด…วันนี้ใส่มันมาด้วย นั่นก็คืดคู่สั่วทาม
โม่หรูเฟยกำมือแน่น วันนี้เธอตั้งใจเลือกเสื้อผ้าด้วยชุดราตรีสี ขาวใหม่ล่าสุด แต่กลับไม่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับ ชุดราตรีสีแดงที่เรียบง่ายของฉู่ ลั่วหาน
บนคอของเธอประดับด้วยสร้อยที่หยวนชูเฟินให้มา จะไป เทียบกับจี้มูลค่า 200 ล้านได้อย่างไร?
“ว้าวๆๆๆ นางฟ้าของฉันกลับมาสักทีนะ! ให้ตายสิเธอสวย มากๆเลยรู้ไหม? ”
ลู่ซวงซวงวันนี้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบเล็กๆ จากเดิมเธอตั้งใจ ว่าจะแอบหนีกลับจากบรรดาฝูงชนวุ่นวายนี้ แต่เธอคิดไม่ถึงว่า
คืนนี้จะได้เห็นฉู่ลั่วหานและหลงเซียวออกงานด้วยกัน
ฉู่ลั่วหานที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้ ไม่หลงเหลือความเดียวดาย อ้างว้าง เธอเต็มไปด้วยสง่าราศีเหมือนราชินีผู้สง่างาม
เฮ้อ นางฟ้าอย่างนั้นหรือ เธอหมายถึงนางฟ้าบนรถเมล์งั้น หรือ? โธ่! สายตามีปัญหาหรือไง? ”
เสียงพูดนั้นดังมาจากข้างๆ บุคคลหนึ่งเดินมาพูดด้วยสายตา ดูถูก
ลู่ซวงซวงกัดฟันแน่นเธอกำมือแล้วหันกลับไปต่อว่าแทน นางฟ้าของเธอ “มีปัญหาเหรอ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ? ยัยผีบ้า”
เธอยังไม่ทันได้ตั้งสติ “ฉันหมายถึงเธอนั่นแหละยัยผีบ้า! ” ลู่ ซวงซวง ยิ้มอย่างมีความสุข “นี่ยายผีบ้า! พูดอะไรให้คิดก่อน นะอย่าให้ฉันได้ยินอีกแม้แต่คำเดียว”
%3D แกพูดว่ายังไงนะ? %3D
“สิ่งที่ฉันพูดก็หมายถึงเธอนั่นแหละยายผีบ้า! ”
ผู้ถูกพูดถึงสีหน้าไม่ดีนัก กัดฟันแล้วพูดว่า “เธอระวังตัวไว้ให้ ดีนะ! %3D
เชอะ! ฉันไม่อยากจะสนใจ
ในขณะนี้ ซุนเจียลี่ที่ยืนอยู่ข้างน้ำพุ ในมือของเธอเขย่าแก้ว ไวน์เบาๆสายตาที่หมองเศร้ามองไปที่คู่ลั่วหานที่กลายเป็นจุด เด่นในตอนนี้แล้วกัดฟันด้วยความไม่พอใจ
คนที่ทำลายแผนการของเธอจะไม่ได้มีความสุขแน่นอน!
และเกาหยิ่งจือที่อยู่ข้างๆปรากฏตัวในรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ ได้โดดเด่นนัก พูดว่า “หมอซุนฉู่ลั่วหานของเราวันนี้ช่างเปล่ง ประกายจริงๆนะคะ”
ซุนเจียลี่กำหมัดไว้แน่นจนชายกระโปรงของเธอยับ ก็แค่คนที่ ล้มละลายคนหนึ่ง มีอะไรให้น่าภาคภูมิใจกัน เธอก็เพียงแค่ใช้ ตำแหน่งคุณนายหลง ปืนขึ้นมาเชิดหน้าชูตาก็เท่านั้น!
เกาหยิ่งจือค่อยๆเขย่าของเหลวสีแดงในแก้วของเธอ ดู
เหมือนว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจกับการปรากฏตัวของฉู่ลั่
วหานในคืนนี้
ในงานเลี้ยงของบ้านตระกูลโม่ แขกผู้หญิงจดจ่ออยู่กับบริเวณ รอบนอกส่วนแขกผู้ชายเข้าไปในบ้าน แต่ละคนมาในชุดสูทและ รองเท้าหนัง ล้วนเป็นบุคคลสำคัญของเมืองหลวง
แต่..!
ไม่มีใครกล้าละสายตาไปจากแขกกิตติมศักดิ์ในวันนี้!
ร่างกายสูงใหญ่ของหลงเชียวเดินออกมาอย่างช้าช้าและตรง มาที่ฉู่ ลั่วหาน ใบหน้าที่สง่างามของเขาบ่งบอกถึงความหล่อ เหลาและสูงส่งอย่างไม่อาจบรรยายได้
เมื่อเขาปรากฏตัวเหมือน ไฟทุกดวงส่องใบที่เขาแล้วทุกคนก็ จับจ้องไปที่เขา คล้ายกับถูกมนต์สะกด
งานเลี้ยงในวันนี้แขกที่มาร่วมงานจากทั่วสารทิศมีทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่ บรรดาคุณชายก็มารวมตัวกันไม่น้อย แต่ไม่มีใครเหมือน กับหลงเชียวที่สามารถแผ่รัศมีความหล่อเหลาออกมาได้เช่นนี้ ช่างเป็นคุณชายโดยกำเนิดอย่างแท้จริง
เมื่อครู่ที่เขาเดินผ่านห้องแขกผู้หญิงไม่มีใครกล้าเข้ามา
ทักทายเขา แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นบรรดาแขกผู้ชาย พวกเขาต่าง
พากันรุมเข้ามาและให้ความเคารพเขา บางคนเรียกเขาว่า “ท่าน
ประธานหลง”และบางคนเรียกเขาว่า”คุณชายหลง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นบทบาทที่ ตามปกติแล้วจะไม่ได้ เจอกันบ่อยๆนัก
เมื่อมองจากมุมสูง ใครไม่รู้บ้างเล่าว่าตระกูลหลงผู้มีความ สามารถคนนี้อายุเพียงยี่สิบกว่าก็สามารถเข้ามารับตำแหน่ง ประธาน MBKได้ และพัฒนาบริษัทที่ถูกครอบงำโดยแบบดั้งเดิม ให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยหลีก เลี่ยงปัญหาการล้มละลายของ MBK และกลายเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมการเงินของจีน
หลงเซียวเธอเพียงคนเดียวเปรียบได้กับทีมงานทั้งทีม ความ เด็ดเดี่ยวและความสามารถที่แท้จริงเขาไม่เคยผัดวันประกันพรุ่ง
ใครกันเล่าที่ไม่อยากจะรู้จักกับหลงเชียว เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาก็เหมือนกับได้บินขึ้นท้องฟ้าไปด้วยเสียแล้ว
แต่ใบหน้าของหลงเซียวกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออก มา เขาดูเฉยเมยและเย็นชาแต่มีออร่าอยู่เสมอ
ฉู่ลั่วหานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นหลงถึงหัวหน้า ตระกูลหลงที่ถูกรายล้อมไปด้วยฝูงชน
นอกจากนี้ยังมีหยวนชูเฟินที่ยืนอยู่ข้างๆหลงถิง
ชุดสูทสีดำนั้น บ่งบอกถึงความเก่าแก่และประสบการณ์ใน ตลาดมานานหลายทศวรรษทำให้เขาดูดีอย่างไร้ที่ติ
ส่วนหยวนชูเฟินที่ใส่ชุดกี่เพ้าสีม่วงอ่อนนั้นสะท้อนให้เห็นถึง ความเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวย เธอยืนอยู่ระหว่างแขกชายหญิงที่ล้วน เป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์
บรรดาแขกในงานมีบางส่วนมาจากตระกูลหลง แต่ตามปกติ แล้วไม่ได้คุ้นเคยเท่าไรนัก เธอจึงไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
หยวนชูเฟินหันกลับมามองเธอด้วยสายตารังเกียจแล้วขมวด คิ้วงง ทำไมลูกชายของเธอถึงพาผู้หญิงคนนี้มาที่นี่กัน! อีกทั้ง ยังให้เธอใส่จี้นี้อีกด้วย
คู่ลั่วหานโค้งตัวทำความเคารพ เธอรู้ดีว่ามาถึงจุดนี้แล้วก็ คงจะปลีกตัวออกไปได้ยาก
หลงถึงเองนั้นมองไปที่ลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาแค่แวบ หนึ่ง จากนั้นเดินไปในบรรดาฝูงชน
หนึ่งในกลุ่มนั้นมีพ่อของโม่หรูเฟย โม่ล่างคุนอยู่ด้วย
คู่ลั่วหานรู้สึกว่าที่แห่งนี้ไม่ควรคู่กับการปรากฏตัวของเธอ เธอ อยากจะสลัดแขนแล้วเดินออกไปแต่หลงเชียวเหมือนกับเข้าใจ ความคิดเธอและไม่ปล่อยแขนอย่างง่ายๆ เขายืนอยู่ท่ามกลาง แขกที่เป็นผู้ชาย ยืนด้วยท่าทางที่มีเสน่ห์และปล่อยราศีสง่างาม ของเขาออกมา
คล้ายกับจะทำให้ทุกคนเห็นว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มีความ เหมาะสมกันเพียงใดและเขาเองก็มีความภูมิใจยิ่งนัก
ฉู่ลั่วหานเองไม่ได้เกิดความเขินอายแต่อย่างใด เธอยอมรับ สายตาอิจฉาริษยาจากผู้คนรอบข้างและยิ้มอย่างสวยงาม แล้ว เดินไปด้วยความสง่า
หลงจื้ออยู่ข้างๆ เวทีเขายิ้มขึ้น จนคนรอบข้างไม่เข้าใจว่าเขา ยิ้มอะไร
การปรากฏตัวในวันนี้ฉู่ลั่วหานได้รับขนานนามว่าเป็นเทพเจ้า สาวอย่างแน่นอน!
ในบางเวลาเธอช่างน่าสงสาร และในบางเวลาเธอสามารถ ขจัดความสงสัยของบรรดาผู้คนไปได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไหนกันเล่าที่เป็นตัวเธออย่างแท้จริง?
โม่หรูเฟยโยนแก้วไวน์ทิ้งลงที่พื้น แล้วจับมือแม่ของเธอพูดว่า “คุณแม่คะฉู่ลั่วหานจะไม่ได้มีโอกาสอยู่กับที่หลงเชียวแน่นอน พวกเขาจะต้องหย่ากัน! วันนี้ที่เขาพาฉู่สั่วหานมาออกงานก็ เพียงแค่ต้องการตบหน้าหนู! คุณแม่คะ แต่เด็กในท้องนี้ เป็น..! ”
มันเป็นการตบอย่างแน่นอน แต่แม้ว่าหลงเชียวจะตบหน้าเธอ ต่อหน้าสาธารณชนก็ไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้
ผู้คนในปัจจุบันก็เข้าใจกฎจารีตประเพณีนี้อย่าง ในสมัยนี้ ดาราต่างๆจะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเป็นโม่หรูเฟยแล้วยังไงล่ะ?
ฟูเหวินฟางตบหลังมือลูกสาวแล้วพูดด้วยความโล่งใจ “แม่จะ ช่วยลูกเอง ดังนั้นใจเย็นๆ ก่อนนะ”
โม่หรูเฟยกัดฟันกรอดๆ “แม่คะ หนูไม่อยากเห็นพวกเขาอยู่ ด้วยกันอีกแม้แต่วินาทีเดียว! หนูเจ็บใจเหลือเกิน! เจ็บ มากๆ !
แววตาฟูเหวินฟางมองไปที่หยวนชูเฟินยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้หญิงที่ หยวนชูเฟินไม่ชอบ จะไม่สามารถอยู่ในบ้านตระกูลหลงได้นาน นักหรอก”
“ลูกสาวแม่ ฟังแม่นะ ไปทักทายคุณป้าหน่อยเร็ว” ฟูเหวินฟางเดินไป ผู้คนต่างพากันมารุมล้อมโม่หรูเฟยอย่างรวดเร็ว บางคนแค่ต้องการมาดูหน้าเธอ และบางคนต้องการยืน ข้างโม่หรูเฟยเผื่อว่าถูกนักข่าวจับภาพได้
เป็นเพียงพวกประจบประแจงเท่านั้น
“โม่หรูเฟยหนอ ผู้หญิงคนที่ชื่อฉู่ลั่วหานนี่มันแย่จริงๆ ได้ยิน มาว่าใช้หน้าตานั้นทำเสน่ห์ให้หลงเชียวหลงใหล และใช้ทุกวิถี ทางเพื่อขึ้นเตียงหลงเซียว วันนี้ยังมีหน้ามาเสนอหน้าที่งานนี้ หน้าด้านจริงๆ ! ”
“ไม่เพียงแค่นี้นะ ดูชุดที่ใส่วันนี้สิ แหมจะมาจับผู้ชายหรือไง แพศยา! ไม่เคยเปลี่ยนนิสัย! %3D
ยิ่งด่ายิ่งไม่น่าฟัง บรรดาคำพูดนี้ดังขึ้นมารอบๆหูเธอ แล้วก้อง กังวานไปทั่วห้อง
เชอะ! ก็แค่คนดีแต่ปากกลุ่มหนึ่งเท่านั้น!
ผู้หญิงใส่ชุดเดรสตัววีคอลึกที่กำลังด่าทออย่างสนุกสนานถูก เพื่อนข้างๆตบไหล่เข้า เธอหันหน้าไปมองอย่างสงสัย เธอยัง ไม่ทันเห็นว่าใครอยู่ข้างหลัง และเทน้ำส้มสีเหลืองหนึ่งแก้วลงบน ศีรษะและใบหน้าของเธอ!