ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 15
ตอนที่ 15 ไอคิวเธอสูงไม่พอ ก็ไม่สมควรมาลงไม้ ลงมือ
ตอนที่ฉ่ซีหรานเห็นคลิปจากกล้องวงจร เธอก็รู้สึกเข่า อ่อนขึ้นมาทันที มือที่จับเม้าท์ไว้ก็ได้สั่นงันงกไม่หยุด สองตามองฉ่ลั่วหานด้วยสายตาที่ไม่จดจ่อ คำพูดเมื่อกี้ ของเธอ ฉู่ซีหรานก็ฟังออก เธอต้องไม่ยอมปล่อยเธอไป ง่ายๆแน่นอน
“เธออยากทำอะไร?” ต่อให้ฉู่ซีหรานพยายามที่จะ ทำตัวให้สงบ แต่ก็ถูกมองออกอยู่ดี น้ำเสียงของเธอได้ ทำให้เธอเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
ฉู่ซีหราน ก็แค่เสือตัวปลอมที่กากมากเท่านั้น
ค่ลั่วหานเห็นฉู่ซีหรานที่สะดุ้งตกใจ จู่ๆเธอก็รู้สึก เสียใจแทนเธอ “เธอถามฉันอยากทำอะไร? น้องสาว ที่รัก พี่อยากจะถามเธอว่าเธอจะเอายังไงกันแน่?”
ฉู่ซีหรานจึงได้ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ของนักบริหาร แผ่น หลังของเธอรู้สึกเย็นขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็เงยหน้า ขึ้นแล้วมอง ฉู่ลั่วหาน และยังไม่พูดอะไรใดๆออกมา เธอ ยิ่งกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดไป
พอเห็นเธอสะดุ้งตกใจขนาดนั้น ฉู่ลั่วหานจึงพูดขึ้น “วันนี้มาปิดรูล็อกประตูของฉัน พรุ่งนี้ก็คงอยากจะมา ปิดปากฉันหรือเปล่า? ฉู่ซีหราน เธอว่าก่อนที่เธอจะปิดปากฉัน ฉันควรจะปิดปากเธอก่อนหรือเปล่า?”
ฉู่ซีหรานจึงเบิกตากว้างกว่าเดิมไปสองเท่า เธอมองฉู่ลั่ วหานที่ทำสีหน้าที่นิ่งเฉย ในใจจึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ทันที เธอจึงหายใจเข้าลึกๆ
เธอจะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้กับฉู่ลั่วหาน ทุกอย่างมันพึ่ง จะเริ่มต้นเท่านั้น!
“ฉู่ลั่วหาน เธอมาออฟฟิศฉันมาโวยวายแบบนี้! เธอ ออกไปเดี๋ยวนี้! ออกไป!” ฉ่ซีหรานจึงชี้ไปยังหน้าประตู แล้วผลักไสฉูลั่วหานให้ออกไป แต่ว่าฉู่ลั่วหานกลับทำ สีหน้าที่ไม่สนใจอะไรใดๆ
“ตื่นเต้นอะไรล่ะ? รอให้ตอนที่ฉันอยากไป ฉันก็จะไป เอง แต่ว่าตอนนี้ ฉันยังไม่อยากไป”
ฉูลั่วหานจึงกระชากเอกสารในแฟ้มออกมา จากนั้นก็ พลิก แล้วก็ใช้นิ้วมือแตะบนโต๊ะ “ฉู่ซีหราน ตอนนี้เธอจะ ขอโทษฉัน หรือว่าจะรอให้พวกฉันนัดทนายมาก่อน?”
เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่หนักและไม่เบา ทุกคำพูด หนักแน่นมากๆ ทำให้ใจของฉู่ซีหรานกระวนกระวายขึ้น มาทันที
“เธออยากให้ฉันขอโทษ? ฝันไปเถอะ! ฉู่ ลั่วหาน ไม่ผิด ที่ฉันให้คนไปทำให้ที่ล็อกประตูของเธอเสีย! ฉันไม่เพียง แต่จะทำให้ประตูเธอเสีย แต่ฉันอยากจะฆ่าเธอด้วย!”
ฉู่ซีหรานยืดตัวตรง แต่เพราะว่าความโมโห ทำให้ทั้งตัวของเธอสั่นเทา นิ้วมือนิ้วหนึ่งที่ชี้หน้าผากของฉู่ลั่วหา น ทำให้รู้สึกได้ว่าเธอต้องการฆ่าคน
ฉู่ลั่วหานจึงยิ้มอ่อนๆขึ้น เธอเงยหน้าแล้วมองฉู่ซีหราน ผู้หญิงที่ละทิ้งเปลือกนอกที่ชอบทำตัวเป็นสุภาพสตรี ตอนนี้ทำตัวเหมือนคนบ้า
ถ้าคุยกับฉู่ซีหราน ก็คงไม่ได้เรื่องอะไรแน่นอน เธอชอบคนที่ฉลาด อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนโง่ขนาดนี้ คนที่จะเป็นศัตรูกับเธอ ฉ่ซีหรานไม่เหมาะสมเลยสัก นิดจริงๆ
“อ่อ? อยากจะฆ่าฉัน? ฉันให้โอกาสเธอ ไม่ต้องเล่น อะไรตุกติกอีก ตอนนี้ก็ฆ่าฉันเลยสิ” ภายใต้ดวงตาของฉู่ ลั่วหานจึงเผยยิ้มอ่อนๆออกมา ยิ้มของเธอเต็มไปด้วย การดูถูกเยาะเย้ยที่มองไม่ออก
เธอได้ใช้ชีวิตกับฉู่ซีหรานมานานขนาดนั้น ถ้าเธอไม่ เข้าใจแผนร้ายในสมองของผู้หญิงคนนี้ งั้นเธอก็คงจะ ล้มเหลวมากๆ
ฉู่ซีหรานจึงได้จับเอกสารชุดนั้นขึ้นแล้วเตรียมตัวขว้าง ไปทิ้งไป ยังดีที่เธอจะมีความฉลาดอยู่หน่อยๆ ในช่วง เวลาที่วิกฤตขนาดนี้ ฉู่ซีหรานจึงได้เผยยิ้มขึ้น แล้ว ค่อยๆวางเอกสารลง จากนั้นก็นั่งกลับไปที่เดิม “ฉู่ลั่วหาน คุณกลับมีหลักฐานในมือ ทำไมไม่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อ แจ้งความเลยทีเดียว? ทางที่ดีที่สุดก็ให้ตำรวจมาลากตัวฉันไป จากนั้นก็ตัดสินให้ฉันติดคุกไปหลายๆปี แบบนี้ ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลฉู่ก็จะกลับไปอยู่ในมือของ 11 เธอ? แต่ว่า….”
เธอยิ้มอย่างสะใจกว่าเดิม จากนั้นก็ยิ่งบ้าคลั่งกว่าเดิม
“ถ้าสื่อมวลชนรู้ว่าผู้บริหารของตระกูลฉู่ ต้องติดคุก
เพราะมีปัญหากับพี่สาว เธอว่า หุ้นของบริษัทจะเป็นยัง
ไง?”
“ธุรกิจของที่บ้าน เธอก็น่าจะได้ยินมันมาหมดแล้ว ถ้า ไม่ใช่ฉันกับหม่ามี้พยายามประคับประคอง ตระกูลฉู่ก็ คงจะล้มละลายไปแล้ว!”
ฉู่ซีหรานจึงกำหมัดไว้แน่นๆ เธอนึกไม่ถึงว่าฉู่ซีหรานที่ เป็นคนที่ไอคิวต่ำ กลับสามารถคิดถึงพวกนี้ได้
เธอไม่ได้ไปแจ้งตำรวจโดยตรง กลัวว่าจะทำให้ทุก อย่างมันซวยไปกับเธอ เธอเคยคิดจะเอาเรื่องสองแม่ลูก เลยทีเดียว แต่พอนึกถึงผลที่ตามมา เธอเลยไม่กล้าทำ อะไรอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
แต่ว่าฉู่ลั่วหานเป็นใคร?
“เธอคิดว่าฉันจะสนใจสมบัติของตระกูลฉู่หรือไง? เธอ คงจะลืมไปแล้วว่าฉันเป็นสะใภ้ของตระกูลหลง และเป็น ภรรยาของหลงเซียว แค่นิ้วเพียงนิ้วเดียวของหลงเซียว ก็สามารถตัดสินว่าตระกูลฉู่สมควรอยู่หรือตายไป เธอ คิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรเธองั้นหรอ?”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ! สะใภ้ใหญ่ของตระกูลหลงงั้นหรอ?! เธอ ยังเห็นว่าตัวเองเป็นสะใภ้ตระกูลหลงจริงๆหรอ? ถ้าหลง เซียวเห็นว่าเธอเป็นภรรยาจริงๆ ก็คงไม่ควงโม่หรูเฟยอ อกสื่อหรอก และไม่เคยพูดถึงเธอเลยสักคำ? พี่สาวของ ฉัน ถูกคนอื่นทิ้งยังไม่รู้ตัว! น่าสงสารจริงๆ!”
นิ้วมืออันเรียวยาวและสะอาดสะอ้านของฉู่ลั่วหานจึง กดลงบนโต๊ะเบาๆ และค่อยๆขมวดคิ้วขึ้น “น้องสาว อยากจะเอาสมบัติของตระกูลฉู่มาลองดูไหมล่ะ? ลองว่า พี่สาวคนนี้จะมีปัญญาหรือไม่?”
ใบหน้าของฉู่ซีหรานจึงดูเกร็ง “เธอ ….”
“อีกอย่าง ถ้าเธอยังจะทำให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก ฉันก็คงไม่แจ้งตำรวจแค่อย่างเดียว แน่นอนว่าฉันเห็นแก่ หน้าตาของตระกูลฉู่ ฉันจะไม่เอาไปแจ้งตำรวจแน่นอน แต่ว่าบนโลกใบนี้ วิธีที่จะทำให้คนๆหนึ่งปิดปากตลอดไป มันมีเยอะมากๆ ฉันมีวิธีเป็นหมื่นที่จะทำให้เธออ้าปากพูด ขึ้นไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ฉันก็มีวิธีเป็นหมื่นที่จะทำให้ คำพูดจากปากของเธอไม่มีใครเชื่อ”
ฉู่ลั่วหานจึงยิ้มอ่อนๆขึ้น นัยน์ตาที่เลือดเย็นของเธอ ทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ
“เธออยากจะทำอะไร?!”
“เป้าหมายของฉัน ฉันพูดไปแล้ว ขอโทษ”
ทั้งสองจ้องตากัน ฉู่ซีหรานกัดฟันไว้แน่นๆ แล้วไม่ยอมทำตามที่เธอบอก
“ฉันให้เวลาเธอแค่สิบวินาที ถ้าฉันไม่ได้ยินคำขอโทษ ก็หนามยอกเอาหนามบ่งแล้วกัน”
ลั่วหานจึงได้มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย
ผู้หญิงตรงหน้าทำสีหน้าที่เขียวคล้ำ นิ้วมือทั้งห้าของเธอ
กำเป็นหมัดไว้ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร
ฉู่ลั่วหานเป็นภรรยาของหลงเซียว แม้ว่าเขาไม่สนใจ เธอ ยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าเธอก็ยังคงเป็นสะใภ้ ของตระกูลหลง ตอนที่พูดอะไรออกมาก็ย่อมมีน้ำหนัก อยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าในใจของฉู่ซีหรานกำลังคิดอะไรกับเธออยู่ เธอจึงฝืนกล่องเสียง และกัดฟันไว้แน่นๆ จากนั้นก็ เปล่งคำพูดออกมาสามคำ “ฉันขอโทษ”
ฉู่สั่วหานจึงค่อยๆลุกขึ้น กลัวว่าจะไปดึงโดนแผลอีก จากนั้นก็โน้มตัวลงงแล้วมองฉู่ซีหรานด้วยสีหน้าที่ เหมือนจะยิ้มและไม่ยิ้ม “แผ่นซีดีอันนี้ เธอเก็บไว้ดีๆ ใช่ แล้ว พี่กลัวว่าเธอจะทำมันหาย ก็ได้ก๊อปไว้หลายชุดแล้ว ถ้าเธอไม่ระวังขูดมันให้ฉัน พี่สาวคนนี้ยังสามารถส่งให้ ฉันอีกชุด”
ฉู่ซีหรานจึงกัดฟันตัวเองแล้วพูดขึ้น “ออกไป!”
“ฝากสวัสดีคุณหม่ามีที่เห็นภูมิใจนักภูมิใจหนา บอกให้ เธอเห็นค่าเวลาที่จะได้พักอาศัยในวิลล่าของตระกูลฉู่ดีๆเพราะว่าไม่แน่วันหนึ่ง…”
“แกออกไป!”
ฉ่ซีหรานลุกขึ้นอีกครั้ง มือชี้ไปตรงประตูใหญ่ เวลานี้ เธอจะถอดหน้ากากอันจอมปลอมออกมาอย่างแท้จริง จึงเผยความโมโห และธาตุแท้ และเผยอีกมุมหนึ่งที่เธอดู ไม่มีสมอง
“ดูๆแล้ว ในใจของเธอก็เข้าใจตั้งนานแล้ว” เธอเพิ่มเติม ขึ้นอีกคำ แล้วยิ้มอ่อนๆขึ้น
ฉู่ลั่วหานจึงได้ก้าวออกจากออฟฟิศของตระกูลฉู่ด้วย ฝีเท้าที่แผ่วเบา แล้วนั่งเข้าไปบนรถ จากนั้นก็มองโลโก้ที่ อยู่นอกตึก
“ลั่วลั่ว หนูชอบอันนี้ไหม?”
ตอนที่ฉ่ลั่วหานอายุเจ็ดแปดขวบและได้อยู่ในอ้อม กอดของพ่อ มือเล็กๆของเธอก็จับของที่ระลึกที่ทำโลโก้ ของบริษัทฉู่ซื่อขึ้น จากนั้นก็ยิ้มหวานขึ้น “ชอบค่ะ!”
“รอหลังจากที่ลั่วลั่วโตเป็นผู้ใหญ่ มาช่วยแดดดิบริหาร จัดการบริษัทดีไหม?”
ค่ลั่วหานที่ยังเด็กก็ได้ครุ่นคิดขึ้น จากนั้นก็เบิกตากว้าง แล้วส่ายหัว “ไม่ดีค่ะ หนูไม่อยากจะบริหารจัดการบริษัท ธุรกิจ หนูอยากเป็นหมอค่ะ”
พ่อของเธอจึงขยี้ผมของเธอเบาๆ แล้วถามขึ้น “ทำไม ถึงอยากเป็นหมอ ทำไมไม่อยากดูแลบริษัท?”
ฉู่ลั่วหานจึงเม้มปาก “เพราะว่าเป็นหมอ ถ้ามีทักษะการ แพทย์แล้วก็สามารถช่วยคนอื่นได้ ถ้าวันข้างหน้าหนู กลายเป็นหมอที่เก่งมากๆ ตอนแดดดี้ป่วย หนูจะได้ รักษาแดดดี้!”
ในใจของเธอตอนนั้นกำลังคิดว่า ถ้าเธอเป็นหมอที่เก่ง จริงๆ หม่ามีก็คงไม่ป่วยแล้วเสียชีวิตไป
เธอจึงสายหัว ฉ่ลั่วหานก็ได้ลื้อฟื้นถึงความทรงจำที่
ผ่านมา
ตอนนี้เธออดคิดไม่ได้ ตอนนี้ที่เธอปล่อยบริษัทให้ หลุดมือไป เธอทำผิดไปแล้วใช่ไหม?
ตอนนี้ เสียงมือถือจึงดังขึ้น
“คุณหมอฉู่ รีบมาโรงพยาบาลเร็วๆ
เกิดเรื่องอีกแล้ว?
“ครั้งนี้เป็นคนไข้คนไหน?”
ฉ่ลั่วหานจึงคาดเข็มขัด แล้วใช้หูฟังบลูทูธรับสาย จาก นั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล
“ครั้งนี้เรื่องมันไปกันใหญ่แล้ว คุณหมอฉู…ไม่แน่คุณ อยากจะเจอปัญหาก็ได้ รีบมาก่อนเถอะ ผอ.และหัวหน้า คนอื่นๆกำลังจัดการปัญหาอยู่”
น้ำเสียงของจ้าวเหมียนเหมียนฟังดูตื่นเต้นมากๆ ข้าง หลังยังได้ยินเสียงวุ่นวะวุ่นวายที่ส่งผ่านกระจกที่กั้นอยู่มาด้วย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“คือว่า เมื่อวานผู้ป่วยที่ย้ายมาที่แผนกเรา หนึ่งชั่วโมง ที่ผ่านมา จู่ๆหัวใจก็ขาดเลือด ถ้าไม่รีบช่วย…”
เมื่อวาน คนป่วยคนนั้นของฉู่ ลั่วหาน
“ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้??”
ฉู่ลั่วหานจึงรีบเหยียบคันเร่ง จู่ๆผู้ป่วยก็ตายไป ผลที่ ตามมาจะรุนแรงหรือว่าเล็กน้อย ถ้ามันรุนแรง เธอก็ คงจะซวยแล้วจริงๆ
“ผู้ป่วยตอนเริ่มแรกก็ได้รับการรักษาและได้ผลสรุป ออกมาอย่างดี และไม่เคยเปิดปัญหาอะไรเลย แต่ จู่ๆ..
“ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังจะไป!”
“คุณ.เข้าประตูหลังเถอะ ประตูหน้ามีญาติๆของผู้ ป่วยกำลังโวยวายอยู่ และต้องให้โรงพยาบาลคิดหาวิธี อีกอย่าง ญาติของผู้ป่วยเจาะจงชื่อของคุณ คุณรีบมา เถอะ ดูแล้วผอ.จะว่ายังไง”
ลั่วหานจึงขับรถไปอย่างซิ่งมาก เธอที่พึ่งลงจากลิฟต์ ก็ได้ยินคนกำลังด่าว่าและตำหนิขึ้น
“โรงพยาบาลที่ใจดำ! หมอที่ใจดำ! พวกคุณคืนชีวิต ของสามีฉันมาเดี๋ยวนี้!”
“พวกคุณมันโจรที่มีจิตใจที่อำมหิต และไม่มีความรับ
ผิดชอบ!
..ขอให้พวกคุณไม่มีลูกไม่มีหลาน!”
จ้าวเหมียนเหมียนออกมาจากประตูอีกข้างหนึ่ง จาก นั้นก็ดึงมือของฉู่ลั่วหานแล้วกำลังจะเดินไป “คุณหมอฉู่ ญาติของผู้ป่วยขาดสติแล้ว คุณอย่าไปคุยอะไรกับพวก เขาก่อนเลย ถ้าพวกเขาลงไม้ลงมือทำร้ายคุณ เดี๋ยว อยากจะตีคุณให้ตายเลยก็ได้”
ลั่วหานจึงขมวดคิ้วขึ้น “พวกเขาไม่กล้าหรอก ฉันจะ ไปอธิบายให้เข้าใจเอง”
“ไปอธิบายอะไร?! พวกเขายอมฟังคำอธิบายงั้นก็ไป ตั้งนานแล้ว! ผอ.พึ่งจะถูกรปภ.ส่งตัวกลับไปอย่าง ปลอดภัย ตอนนี้คุณไปออฟฟิศของผม.เถอะ”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “ได้”
“เธอนี่แหละ! เธอนี่แหละ! หมอที่รักษาพี่ชายฉันคือ
เธอ!”
ฉ่ลั่วหานที่ใส่ชุดลำลองแล้วยังไม่ได้เข้าไปในลิฟต์ ข้างหลังจึงมีกลุ่มคนหนึ่งที่โหดเหี้ยมกำลังพุ่งเข้ามาหา เธอ “ลูกชายฉันถูกคุณรักษาจนเสียชีวิต! คืนลูกชายฉัน มา! คืนลูกชายฉันมา!”
กลุ่มคนเจ็ดแปดคนดักทางของฉู่ลั่วหานไว้ และยังมี หญิงวัยกลางคืนคนหนึ่งได้กระชากผมของฉู่ลั่วหานแล้วกำลังจะตบตีเธอ!
“คุณมันลูกเมียน้อย! ผู้หญิงที่โลภมากแล้วยังทำลาย ชีวิตคนอื่น!”
“ตีเธอให้ตาย! ยังผู้หญิงต่ำต้อย! ฉันจะแก้แค้นแทนพี่
ชายฉัน!”
รปภ.ก็ได้จับตัวของญาติๆผู้ป่วยแล้ว แต่พวกเขาก็ยัง เหมือนคนบ้าที่กระชากฉู่ลั่วหานไว้ไม่ปล่อย ฉู่ลั่วหานจึง ขมวดคิ้วขึ้นแล้วเงยหน้าตำหนิอย่างโมโห “ปล่อยเดี๋ยว นี้!”
พอได้ยินคำพูดที่โมโหและเลือดเย็น ญาติเจ็ดแปดคน ก็รู้สึกสะดุ้งตกใจ จากนั้นก็ได้หยุดกระทำ
มือสาวๆของฉู่ลั่วหานปล่อยลงไปพาดกับเรือนร่างของ เธออย่างยุ่งเหยิง คอเสื้อที่ไม่เป็นระเบียบ สีหน้าที่ดู เคร่งขรึมและเย็นชา มองไม่ออกว่าเธอกำลังตกใจ ฝ่ามือของเธอเปียกเปรยไปด้วยเหงื่อ
“ฉันคือหมอประจำของผู้ป่วย จู่ๆผู้ป่วยจากไป ฉันก็ รู้สึกอยากจะที่ขอโทษ แต่ว่า ทุกท่านก็คงจะเข้าใจดี อาการของเขามัน……”
“เราไม่ฟังพวกนี้ !”
“จับเธอไว้! ตีให้ตายไปเลย!”