ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 181
ตอนที่ 181 สวมอยู่ที่ตัว แล้วตัดโดยตรง
แอนน่าไม่มีทางที่จะเข้าใจคำขอร้องจากผู้มีอำนาจเหนือคน อื่นอย่างหลงเชียว แต่เธอก็จนปัญญาที่จะปฏิเสธ
พูดเบาๆ เขาโต้ตอบกลับมาประโยคนึง เพียงพอที่จะ
ทำลายขีดจำกัดต่ำสุดในการสบถคำหยาบและความกดดัน ภายในจิตใจของเธอ
พูดหนักขึ้น เขายิ่งพูดตรงๆ มาประโยคนึงว่า “ผู้ช่วยของ คุณ.” เธอสามารถทำได้แค่ประนีประนอมอย่างเชื่อฟัง
ฉะนั้นหลังจากต่างฝ่ายต่างยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน มาเป็นเวลายี่สิบนาที แอนน่าก็ต้องพ่ายแพ้ลงอีกครั้ง
บีบตะเกียบ แอนน่าไต่ถามกลับประโยคนึ่งอย่างขบเขี้ยว เคี้ยวฟันว่า “ให้ฉันมาเข้าร่วมงานเลี้ยงราตรี อย่างน้อยก็น่า จะเตรียมชุดราตรีให้ฉันสักชุด ฉันไม่ชอบสิ้นเปลืองเวลาเพื่อ ไปหาซื้อชุด”
ท่านเซียวยิ้มๆมุมปาก ดึงเก้าอี้เปิดทางอย่างไม่ทุกข์ร้อนและออกจากโต๊ะอาหารด้วยท่าทีที่หยิ่ง ทะนง คนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่อยู่ด้านหลังของเธอ สามารถ รู้สึกได้ถึงรัศมีอันเจิดจ้าของปฏิกิริยาตอบโต้
“ชุดราตรีของคุณ คุณเลือกเอง แน่นอน ถ้าคุณคิดว่าใส่สี ขาวดำออกจากบ้านมาเหมาะสมแล้ว ฉันก็ไม่มีความคิด เห็น”
ฟังๆแล้ว ยังมีอะไรน่ารำคาญกว่าค่ำพูดอีกไหม! ดังนั้น ผู้ชายเลวๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ชั่ว
นิรันดร์กาลล้วนก็คือผู้ชายสารเลว!
“ต้องขอบคุณอย่างมากที่เตือนสติ ฉันรู้ว่าจะต้องทำยังไง” แอนน่าอยากจะเอามีดผ่าตัดควักหัวใจเขาออกมาซะจริงๆ ลองดูซิว่าจะเปลี่ยนสีไหม
“ทางที่ดีคุณต้องรู้ไม่เช่นนั้น เมื่อรอให้ฉันเตือนสติคุณใน แบบของฉัน คุณก็จะชายหน้าอย่างมาก”
ใสหัวไปซะ!
เธอคิดที่จะพูดแบบนี้ แต่ก็ต้องอดทน
แอนน่าหยิบจดหมายเรียนเชิญมาเปิดอ่านอีกครั้ง “งาน เลี้ยงแบบค็อกเทลเฉลิมฉลองเนื่องจากเกาจิ้งอานเข้ารับ
ตำแหน่งประธานของบริษัทอื่นเคอ
เกาจิงอานคือใคร?
ไม่สนใจหรอก ที่เรียกว่างานเลี้ยงค็อกเทล ทั้งโลกนี้ล้วนก็ เหมือนกัน ตัวใหญ่ๆก็โอ้อวดอำนาจ ตัวเล็กๆก็กินๆดื่มๆไป ส่วนตัวที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กก็พยายามประจบสอพลอเพื่อให้ ตำแหน่งก้าวหน้า
โอกาสสมคบคิดอันน่าเบื่อหน่ายกับคนตำแหน่งสูงและมี อำนาจมาก แผนการเล่นที่ต้องนัดรวมตัวกันใช้เล่ห์เหลี่ยม ชั้นสูง
ตระกูลใหญ่ที่มีทั้งเงินและอิทธิพล แทบจะอดรนทนไม่ไหว เพียงหนึ่งวัน เพื่อแสดงกำลังทางทุนทรัพย์และความ แข็งแกร่งของตนเอง
“น่าเบื่อ!
ล้างจานที่สกปรกเสร็จแล้ว แอนน่าเลือกรถPhaetonที่ งดงามเรียบง่าย ตรงไปยังอาคารหัวชิว ซื้อเสื้อผ้า ดูว่าพร้อมตีแล้วจึงลงมือ ไม่ให้เวลาและ โอกาสตนเองในการลังเล สามารถประหยัดเวลาได้อย่าง มาก
ชุดเดรสสีดำแบบเรียบง่ายสำหรับงานจัดเลี้ยงใหม่ล่าสุด ของฤดูกาลของGivenchy เธอเคยเห็นบนนิตยสาร แต่มัน เป็นที่นิยมมากเกินไป จะเป็นการใส่เสื้อชนกันได้ ผ่าน!
ชุดราตรียาวทรงหางปลาของชาแนล ดีไซน์เซ็กซี่ ทรงVเว้าลึก ปรากฏให้เห็นรูปร่างได้ชัดเจน ดึงดูดสายตา เป็นอย่างมาก แต่เธอไม่ใช่ตัวเอก ความสูงก็ไม่ดี ผ่าน!
ชุดราตรีคอกว้างสีขาวบริสุทธิ์ของ Versace.จำเป็น ต้องเข้าชุดกับเครื่องประดับจำนวนมาก ทอประกายแวววาว ไม่!
เธอก้าวฝีเท้าเดินอย่างรวดเร็วบริเวณชั้นหนึ่งของห้างเพื่อ สำรวจเหยื่อของตนเอง ทันใดก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงโต้ เถียงกันมาจากร้านค้าแบรนด์นึง ตอนแรกก็ยังส่งเสียงอย่าง นุ่มนวล ต่อมาก็ส่งเสียงดัง คำศัพท์หยาบคาย มากจนกระทั่ง มีแนวโน้มที่จะลงไม้ลงมือ
แอนน่าขมวดคิ้ว นี่คือคุณสมบัติที่ผู้บริโภคควรจะมีหรอ?
“สู่ชวงชวง! คุณก็คือหญิงสารเลวคนนึง! คุณมีอะไรน่า เกรงขาม! รีบไสหัวออกไปจากฉัน!”
เสียงร้องอันเล็กแหลมดึงดูดฝีเท้าของแอนน่า เมื่อหูจับคำ สามคำของลู่ซวงซวงได้ด้วยจิตสำนึกก็มองไปยังประตู กระจกของร้านค้าหลักGUCCI ประตูกระจกใสที่กั้นไว้ ภาพ เงาร่างเล็กงดงามและที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นหญิงที่สูงกว่าเธอ อย่างน้อยสิบเซนติเมตร คนทั้งสองทะเลาะกันอย่างดุเดือด
สู่ชวงซวง? ก็คือลู่ซวงวงของเธอที่คุยกันอย่างเปี่ยมไป ด้วยไมตรีจิตในวันนั้นหรอ?
ก้าวเท้ามาถึงนอกประตูร้านอย่างไม่ได้บังคับตัวเอง ลู่ชวง ชวงและหญิงแปลกหน้าตบตีกันอย่างดุเดือด แต่ส่วนสูงของ ลู่ซวงซวงกลับไม่ได้เปรียบเพราะถูกหญิงคนนั้นคว้าผมเอาไว้ แล้ว เจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟันแต่ก็ตอบโต้กลับอย่างเอาเป็น
“ถ้าคุณกล้าพูดอีกคำนึงนะ ฉันจะบีบคอคุณให้ตายเลย!”
“คนตายไปแล้ว คุณยังอวดเก่งอะไรได้อีก? ตอนนี้ไม่มีคนปกป้องคุณแล้ว! ฉะนั้น คุณให้ฉันพักสักหน่อย! ผู้ หญิงแซ่ฉู่ตายแล้ว! คุณยังไม่สงบเสงี่ยมเจียมตัวอะไรเลย! ไม่มีเธอ คุณคิดว่าใครจะสนใจคุณ!”
ลู่ซวงซวงจ้องสายตามองหญิงคนนั้น “คุณต่าฉันได้ แต่ต่า นางฟ้าของฉันไม่ได้! เห้อเหม่ยฉีระวังเถอะนางฟ้าของฉันจะ มาบีบคอคุณตอนกลางคืน!”
“หญิงแซ่ฉู่ ก็คือหญิงชั่ว! คุณก็เช่นกัน!”
“คุณมันก็โสเภณีคนนึง กะอีแค่ภรรยาลับ! หน้าด้าน!”
นางฟ้า? นางฟ้าอีกแล้วหรอ
แอนน่าเดินเข้าไป ยืนอยู่ในกลุ่มพนักงานที่กำลังตื่น ตระหนกตกใจอยู่ด้านใน ความได้เปรียบทางด้านความสูง ทำให้ออร่าของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก ชั่วพริบตาก็กลายเป็น จุดโฟกัสของคนในร้าน
“ลู่ชวงซวง?”
ลังเลใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่งงงวยสับสนโดยสิ้นเชิง น้ำ
เสียงที่ย้อนถามกลับเพิ่มการควบคุมอารมณ์ในใจของเธออย่างลึกซึ้ง
“ลั่วลั่ว? นางฟ้า! นางฟ้า!”
แอนน่าขมวดคิ้ว ไม่ว่าใครก็เรียกนางฟ้าหรอ? เด็กผู้หญิง คนนี้ไม่เป็นไรใช่ไหม?
เห้อเหม่ยฉีคว้าผมของลู่ซวงซวงไว้แน่นแล้วมองไปยังแอน น่า ยิ้มเยาะอย่างดูหมิ่นเหยียดหยาม “คุณเป็นใคร?”
แอนน่าโอบแขนแล้วมองไปยังเธอ พูดด้วยน้ำเสียงอันเย็น ชาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆว่า “อย่าเพิ่งถามว่าฉันเป็นใครเลย ปล่อยมือ แล้วปล่อยเธอชะ”
“ฮี! ปล่อยเธองั้นหรอ? เธอฉีกทำลายเสื้อผ้าของฉัน มันไม่ ได้ราคาถูกอย่างนั้น!” เห้อเหม่ยฉีอวดดี ท่าทางเย่อหยิ่งเป็น อย่างมาก
แอนน่ามองหญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบนึง สร้อยคอ กำไล เสื้อผ้า กระเป๋าหนัง ล้วนเป็นสินค้าคุณภาพระดับ แบรนด์ดัง แสดงว่าเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินคนนึง หรือ ไม่ก็เป็นคนติดตามของคนรวย เพียงแต่ท่าทางการพูดนี้ ช่าง ดูไม่คล้ายกุลสตรีเอาซะเลยจริงๆ
“ปล่อยมือ เธอฉีกเสื้อผ้าของฉัน ฉันต้องการการชดใช้”
เท้อเหม่ยฉีหัวเราะเอ็กอากอยู่นาน แล้วจึงมองแอนน่า อย่างเหยียดหยาม สวมใส่ชุดเรียบง่ายสีขาวดำ มองไม่เห็น ถึงแบรนด์เสื้อผ้า แต่กระเป๋าก็ราคาไม่เบา เพียงแต่เธอเคย เห็นเยอะแยะแล้วจากคนข้างกายของเธอ ไม่ได้หายาก
ทันใดมือก็คลายออก เพียงรวดเดียวลู่ซวงซวงก็ล้มลงอยู่ ในอ้อมกอดของแอนน่า เธอพยุงไหล่เอาไว้ แอนน่ากล่าว เบาๆว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องกลัว”
ลู่กว ชวงเงยหน้ามองเธอ คล้ายกับมองเห็นผู้ที่ช่วยให้ รอดชีวิต
ริมฝีปากที่แดงเปล่งปลั่งของหญิงสาวยิ้มมุมปาก นำ กระเป๋าHERMESในมือยกขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ตั้งใจชี้ นิ้วไปยังกระโปรงที่ถูกฉีกขาดเป็นหลายเส้น “เห็นได้ชัด เล็บ ของเธอช่วนกระโปรงของฉัน นี่เป็นรุ่นล่าสุด!”
แอนน่าพยักหน้า “เป็นเสื้อผ้าที่ดูดีมาก พูดมาเถอะ ฉันจะ ชตใช้ค่าเสียหายให้”
หญิงคนนั้นกวาดสายตามองแอนน่าตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบ นึง จึงยื่นมือที่มีบัญชีพร้อมแสดงตัวเลขจํานวนนึง “หนึ่งแสน นี่เป็นการตีราคาจากทั่วโลก”
สู่ชวงซวงไม่ใจเย็นแล้ว “หนึ่งแสน? คุณจงใจจะปล้นเงิน กันหรือไง! ราคาขายเสื้อตัวนี้อยู่ที่สองหมื่น! คุณอย่าคิดว่า ฉันไม่รู้นะ!”
แอนน่ายิ้มๆ แสดงออกอย่างสงบจิตสงบใจ แทบจะไม่ สังเกตเห็นถึงความคิดของเธอ เธอโบกมือห้ามลู่ชวงซวง กล่าวกับหญิงคนนั้นว่า “โอเค ฉันให้คุณหนึ่งแสน ส่งเสื้อตัว นี้คืนมาให้ฉัน เป็นยังไง?”
หญิงคนนั้นเพียงได้ยินว่าเธอยอมที่จะให้หนึ่งแสนจริงๆ ทันใดก็กล่าวอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “คุณพูดจริงหรอ?”
“ใช่ หนึ่งแสนเงินจํานวนไม่น้อยเลยนะ ส่งเสื้อคืนมาให้ฉัน ตกลงไหมล่ะ?”
“ตกลง! ตรงไปตรงมา!”
ลู่ซวงชวงดึงแอนน่า “นางฟ้า คุณอย่าตกหลุมพรางเสื้อ ตัวนี้ไม่ได้มีราคาแพงขนาดนั้น อีกอย่าง ฉันไม่ได้ก่อเรื่อง ทะเลาะกับเธอเพราะเสื้อผ้า เธอด่าพี่น้องที่ดีที่สุดของฉัน ฉัน อดทนกับค่าพูดนี้ไม่ได้!”
แอนน่าล้วงสมุดเช็คออกมาจากในกระเป๋าเอียงหน้าไป กระซิบเบาๆว่า “ในเมื่ออดทนไม่ไหว งั้นก็ไม่ต้องอดทน”
ห้ะ? หมายความว่าอะไร?
แอนน่าจดปลายปากกาเพื่อโอนเงินในสมุดเช็คอย่าง รวดเร็ว เซนต์เช็คหนึ่งแสนแผ่นนึง “แคว่ก” ฉีกออกแล้วส่ง ให้หญิงคนนั้น “ในนี้คือหนึ่งแสน ไม่ว่าธนาคารไหนก็ สามารถเบิกได้ ตอนนี้คุณสามารถโทรถามเพื่อความชัดเจน ได้เลย”
ไม่ต้องโทรถามหรอก สมุดเช็คนี้มีแค่ระดับVIPเท่านั้นถึง จะมี มีมูลค่าไม่เบา
หญิงคนนั้นฉีกมุมปาก ยิ้มๆ “อย่างแน่นอน ตอนนี้ฉันจะ เปลี่ยนเสื้อออกให้คุณ”
เปลี่ยน?
ซี!
“ไม่ต้อง! ใส่ไว้เถอะ!” ทันทีน้ำเสียงของแอนน่าก็ดังขึ้น อย่างมาก แต่สายตากลับเยือกเย็นเฉียบแหลม มองเห้อเหม่ ยฉีที่ไม่สบายใจเล็กน้อย
สู่ซวงซวงกัดฟัน กำหมัด แล้วก็กัดฟันอีกครั้ง
หนึ่งแสนนะ! สำหรับหญิงต่ำซ้าคนนี้มันราคาถูก!
แอนน่ามองไปรอบๆร้านขายเสื้อผ้า จากนั้นก็เห็นปลาย ด้ามกรรไกรเล่มเล็กเล่มนึงอยู่บนเคาท์เตอร์บริการ หยิบถือ มาในมือ แล้วส่งให้ลู่ซวงซวง น้ำเสียงที่เย็นชา แต่พูดออก มาอย่างหนักแน่นว่า “ซวงซวง ตอนนี้เสื้อตัวนี้เป็นของฉัน แล้ว ฉันไม่ชอบ คุณช่วยฉันตัดมันให้ขาดที่ อยากตัดยังไง ก็
ตัดได้เลย”
อะไรนะ?
อะไรกัน?
เชี่ย!
สีหน้าท่าทางของลู่ซวงชวงนี้.
ฮๆๆ จะทำให้ดีที่สุด!
เห้อเหม่ยฉีปกป้องกระโปรงไว้แล้วก้าวถอยหลัง “พวกคุณ จะทำอะไร! พวกคุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
ลู่ซวงซวงเดินต่อไปพร้อมกรรไกรตัดกระโปรงของเห้อ เหม่ยเป็นรอยแยกรูใหญ่ เดิมที่กระโปรงカワカナ
ก็สั้นอยู่แล้ว นี่ก็ยิ่งเห็นได้จนไร้ขอบเขต
“เห้อเหม่ยจี คุณอย่าขยับจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นกรรไกรฉัน จะพลาดไปตัดเนื้อคุณเข้า น่าจะไม่ดีนะ” ลู่ซวงซวงตั้งใจตัด แคบๆ หลายชิ้นลงมาแสดงให้เห็นถึงระดับความคมของ กรรไกร
ในเวลาเดียวกันเห้อเหม่ยฉีก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด ตัดแล้ว ตัดอีก ตัดกระโปรงของเธอจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลียบคอเสื้อด้านบนลงมา เสื้อแทบจะไม่ปกปิดร่างกาย
ค่อยๆดึงดูดสายตาผู้คนจากนอกหน้าต่างเข้ามา า พูด หัวเราะเยาะกับคนด้านใน
สีหน้าเห้อเหม่ยฉีนี้ชีตอย่างสุดขีด
“นางฟ้า ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” ลู่ซวงซวงขยี้ๆจมูก เชิญ เธอชื่นชมกับผลงาน
กระโปรงอันหรูหราห้อยเป็นเศษขยะอันน่าเกลียดอยู่บน ร่างกายของเธอ ปกปิดเฉพาะส่วนที่สำคัญ อีกทั้งมองเห็น บ้างไม่เห็นบ้าง อัปลักษณ์น่าเกลียดเป็นอย่างมาก
แอนน่าขมวดคิ้ว “ตอนนี้….เปลี่ยนเป็นไม่ชอบแล้ว”
สู่ชวงชวงหัวเราะฮ่าๆ “งั้น ฉันจะไปถอดออกมาให้เธอ?”
“เอาตาที่คุณชอบเลย” แอนน่ายักไหล่
ลู่ซวงซวงยื่นมือเพื่อจะไปถอดเสื้อให้เธอ เห้อเหม่ยฉีตกใจ จนรีบก้าวถอยหลัง “ไม่ต้อง ลู่ชวงชวงคุณ….คุณอย่าทำ แบบนี้ ยังไงก็ตามก็เคยรู้จักกันครั้งนึง คุณเป็นคนดีไม่ สามารถทำอะไรแบบนี้หรอกใช่ไหม? ฉันจะนำเงินคืนให้ คุณ! คืนให้คุณ!”
เห้อเหม่ยฉีควักใบเช็ดโยนลงบนพื้น เมคอัพบนใบหน้าที่ จัดเจน ลบเลือนกระจัดกระจายไม่น้อย อายแชโดว์ก็เริ่ม เลือนรางลง
“ทำอะไรนะ?”
เมื่อมือจับที่คอเสื้อของเห้อเหม่ยฉี ก็มีเสียงของผู้ชายคน นึงเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน บางคนต่อต้าน บางคนหงุดหงิด บางคนก็ประพฤติตัวเป็นคุณชายของทุกคน ส่วนใหญ่คือ เบื่อหน่ายความมีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวย
เห้อเหม่ยฉีเห็นว่าเป็นเกาจิ้งอาน ก็ปกป้องตนเองแล้วร้อง ห่มร้องให้ ตะโกนด้วยเสียงหวานหยาดเยิ้มว่า “จิ่งอาน คุณ มาได้ยังไง? เมื่อกี้ฉันถูกรังแกจนแทบตายเลยนะ? ฮือฮือ ฮือชื่อ….”
พูดไปพลาง ก็แนบชิดกับร่างกายผู้ชายไปพลาง ทำตัวน่า สงสาร
สู่ซวงซวงกัดฟันแน่น ด่าไปด้วยเสียงเบาๆประโยคนึงว่า “นังโสเภณี!”
โสเภณี? เป็นคำศัพท์ใหม่ค่านึง
เกาจึงอานที่เพิ่งมาจากด้านนอกเห็นเหตุการณ์กับตาแล้ว เดิมทีเขาก็อยากเข้ามา พอดีเห็นเห้อเหม่ยฉีและลู่ซวงซวง ทะเลาะกันแบบนั้น เขาเข้ามาก็จะไม่เหมาะสม
แต่คิดไม่ถึง ภายหลังจะมีคนเพิ่มมาโต้เถียงอีก เขามองอ ย่างสนุกครึกครื้น แอนน่าชำเลืองมองบุคคลที่ปรากฏตัวขึ้น ร่างกายสูง
กำยำ เสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน ใบหน้าดูดี ทั้งหมดทั้งมวลมี ลักษณะที่สอดคล้องกับการเป็นคนมีฐานะร่ำรวย
แต่กลิ่นความเห็นแก่ตัวบนร่างกายและกลิ่นน้ำหอมของผู้ หญิงแรงมาก
“กล่าวขอโทษ”
ทันทีเกาจึงอานก็ตำหนิด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดมาประโยคนึ่ง
ลู่ขวงวงกัดฟันแน่น นิ้วมือคว้าแขนของแอนน่าไว้แน่น เธอท่าทางไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม กล่าวขอโทษงั้นหรอ?
“ฉันให้คุณกล่าวขอโทษ!”
สู่ขวงชวงนิ้วมือสั่นไปหมด เกาจิงอานเป็นคุณชายของ ครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองหลวง อีกทั้งตอนนี้ยิ่งอยู่ใน สถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก กวนโมโหไม่ได้
แต่ แอนน่าก็ไม่สนว่าเขาเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอไม่รู้
จัก
ผู้ชายหมดความอดทนอย่างชัดเจน ส่งเสียงอย่างเย็นชา อีกครั้งนึง “ยังอยากให้ฉันพูดอีกครั้งนึงหรอ? หม?”