ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 197
ตอนที่ 197 ดอกกุหลาบจากคนนิรนาม
ข้อความที่ส่งจากเขา แต่ไหนแต่ไรไม่เคยยาวเกินสอง
ประโยค
“นั่งแท็กซี่กลับมา ต้องนั่งแท็กซี่”
คำไม่ถึงสิบคำ กลับทำให้แอนน่ายิ้มออก
หญิงสาวสายหัว หน้าจอโทรศัพท์ที่จู่ๆก็ทำให้เธอรู้สึกว่า ในเวลากลางดึกที่ท้องฟ้าเป็นสีดำเหมือนหมึกจู่ๆก็เหมือนถูก เปิดออกแล้วมีแสงสว่างวาบขึ้นจนท่าให้เธอใจเต้นแรง
เขาส่งมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน หลงเชียวรู้ว่าคืนนี้เธอมี ผ่าตัด จึงไม่ได้ขอให้เธอต้องกลับบ้านตรงเวลา
เพราะผ่าตัดมาหลายชั่วโมง ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ดวงตาเองก็ย่อมได้รับผลกระทบพอสมควร ถ้าฝืนขับรถอาจ จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่ายๆ
แอนน่าทำปากขมุบขมิบ “ขี้เก๊ก”
ก่อนจะเริ่มขยับนิ้วมือ เธอไม่สนว่าเขาจะนอนหรือยัง แต่ ตอบกลับไปคำนึง รู้แล้ว”
กดส่งเรียบร้อย เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า และหิ้วกระเป๋าออกจาก
ประตู
ขณะกำลังยืนรอรถ มือเล็กก็จับโทรศัพท์ขึ้นมาอีก แอนน่า ลังเลนิดหน่อย จะโทรหาเควินตอนนี้ดีไหมนะ?
คิดอยู่ไม่นาน ก็กดโทรออก
เสียงเรียกเข้าของปลายสายดังขึ้นเพียงสองครั้งก็มีคนรับ ที่อเมริกาตอนนี้เป็นเวลาเช้า ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ในห้อง ทำงาน เขากำลังคุยเรื่องงานกับผู้บริหารชั้นสูงสองสามคน ทันทีที่เห็นว่าแอนน่าโทรมา เขาก็โบกมือเป็นสัญญาให้พวก นั้นออกจากห้อง
ชายหนุ่มลุกขึ้น เขาเดินไปที่หน้าต่างห้อง ท้องฟ้าของนิว เยอร์กสดใสเมฆก้อนใหญ่สีขาวล่องลอยทั่ว “แอนน่ายุ่งอยู่ หรือเปล่า?”
รถแท็กซี่เข้ามาจอด แอนน่าโน้มตัวขึ้นนั่ง เธอบอกที่อยู่แก่ คนขับ ก่อนจะตอบปลายสาย “ฉันมาทำงานที่โรงพยาบาล หวาเซี่ยแล้ว ขอโทษที่เพิ่งบอกคุณตอนนี้”
ตู้หลิงเฉวียนใช้มืออีกข้างลูบคาง สายตาทอดไปยังวิว ของเมืองที่อยู่นอกหน้าต่าง “ทำไมถึงตัดสินใจไปทำ เธอเคยบอกว่าจะไม่เข้าท่างานไม่ว่าจะโรง พยาบาลไหน ที่สำคัญ เธอไม่ชอบโรงพยาบาลนี้”
เธอไม่ชอบโรงพยาบาล เพราะต้องนอนอยู่ที่นั่นจนกลัวไป หมด มันทั้งเกลียด ทั้งกลัว แต่แปลกตรงที่เธอกลับไม่ปฏิเสธ หวาเซี่ย หรือคำพูดของลู่ชวงซวงมันซึมซับเข้าไปในจิตสำ นึกลึกๆของเธอ?
“ที่นี่มีโปรเจคนึงที่ฉันต้องทำ รอให้โปรเจคนี้จบฉันก็จะ ไป” แอนน่านวดเปลือกตาที่อ่อนล้า เธอทิ้งตัวลงพิงกับเบาะ แล้วสูดหายใจลึก
“ในเมื่อเธออยากทำ ฉันก็จะไม่ขัด แต่มีเรื่องที่ฉันต้อง ปรึกษากับเธอหน่อย” ตู้หลิงเซวียนลูบฝ่ามือ หลงถึงคิดจะ เล่นตุกติก ต่อหน้าเขาก็รับปากว่าจะส่งแอนน่ากลับอเมริกา อย่างปลอดภัยแต่ลับหลังกลับให้เธอไปทำงานที่หวาเซี่ย
เล่นสกปรก!
หัวใจของแอนน่าบีบตัวขึ้นทันใด จังหวะหายใจเปลี่ยน เป็นช้าลง “เรื่องอะไร?”
เธอแอบกังวลอยู่ลึกๆ
“หลังจากจบโปรเจคเธอรีบกลับอเมริกา พวกเราจัดงาน แต่งที่นิวเยอร์กดีไหม?”
แอนน่าถอนหายใจ เธอเดาอยู่แล้วว่าไม่มีทางหนีเรื่องนี้ พัน ดังนั้นจึงพยักหน้า “ได้ รอฉันจัดการทางนี้เรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับอเมริกา…ไปแต่งงาน”
เสียงพ่นลมหายใจคลายกังวลของตู้หลิงเซวียนดังซัดจาก
ปลายสาย
“ฉันคิดถึงเธอมากแอนน่า หวังว่าเธอจะกลับมาอยู่เคียง ข้างฉันให้เร็วที่สุด” ตู้หลิงเซวียนพูดความรู้สึกของตัวเอง ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เสียงในโทรศัพท์ชัดเจนราวกับชาย หนุ่มกำลังยืนอยู่ข้างเธอในตอนนี้
เหมือนกับในความทรงจํา เสียงที่เรียกชื่อของเธอแผ่วเบา
หลายต่อหลายครั้ง
เธอเผลอหวั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ แอนน่ากับโทรศัพท์ในมือ แน่น กลัวตัวเองจะเผยความรู้สึกออกมา
“เควิน ฉันเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ตอนนี้เหนื่อยมาก ขอฉันพัก ก่อนได้ไหม?” เธอไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเขายังไง การหลีกหนี ของเธอมันคือการทำร้ายเขา เพราะงั้นเธอถึงรู้สึกผิด
“อืม โทรหาฉันได้ทุกเมื่อนะ”
หลังวางสาย แอนน่านวดหัวคิ้ว แต่งงาน? เกรงว่าเธอจะ หนีไม่ได้อีกแล้ว
พอมาคิดดู จริงๆแต่งงานกับเควินก็ไม่แย่ ในโลกนี้จะมี ผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยนขนาดนี้สักกี่คน?
ในห้องทำงานภายในตึกสูงใหญ่ของนิวยอร์ก
ตู้หลิงเซวียนเปิดโทรศัพท์ออก แล้วเสิร์ชที่อยู่ที่แอนน่าเพิ่ง บอกกับคนขับเมื่อครู ข้อมูลที่เด้งขึ้นมา เป็นวิลล่าหรูหรา สไตล์ยุโรปส่วนบุคคล
แท็กซี่มาถึงจุดหมาย ประตูทางเข้ากับห้องรับแขกยังเปิด ไฟสว่าง แต่ด้านในไม่มีคน ขณะนี้ใกล้จะเป็นเวลาตีสอง
“คุณหลง?”
ไม่มีเสียงตอบกลับ
จู่ๆคงไม่โผล่ออกมาทำให้ตกใจเล่นหรอกมั้ง?
“คุณหลงคะ?”
เอาเถอะ คงไม่มีใครจริงๆนั่นแหละ
แต่บนโต๊ะกระจกในห้องรับแขก มีกระดาษสอดอยู่ใต้จาน ใส่ผลไม้ รอยตัวอักษรที่นูนออกมาถึงด้านหลังกระดาษ แสดงให้เห็นถึงพลังและความดุดัน หลงเชียวเชียนโน้ตให้ เธอเนี่ยนะ?
หมอนี่หลุดมาจากยุคแปดศูนย์หรือเปล่า?
“กลับมาแล้วจัดการอาหารที่เหลือในห้องครัวซะ”
แอนน่าเลิกคิ้วสูง ยังมีกับข้าวด้วย? หลงเชียวกินยาผิด หรือไง? ยังอุตส่าห์เหลือกับข้าวไว้ให้เธอกิน?
กล่องอาหารเก็บความอุ่นที่วางอยู่ในห้องครัว เป็นเซ็ทอา หารมื้อดึกที่มีทั้งน้ำซุป และอาหารเบาๆบำรุงสุขภาพ อาหาร ข้างในกำลังอุ่นๆ สีสันสดใส ไม่เหมือน”อาหารเหลือ”เลยสัก นิด
หญิงสาวหยิบกล่องข้าวมาที่ห้องอาหาร แอนน่าหิวจริงจัง เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีอาหารที่เหลือก็ถูกจัดการจนเกลี้ยง
เธอลูบท้องอย่างสบายใจ ไม่สนกฎที่ว่าห้ามกินอะไรก่อนนอนหนึ่งชั่วโมงที่ตัวเองเคยตั้งขึ้นมาอีก หลังกิน อิ่มก็อาบน้ำแปรงฟัน แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง
เป็นคืนที่เธอหลับลึกจนเต็มอิ่ม
เช้ารุ่งขึ้นเธอตื่นขึ้นตามเวลาปกติ ผลจากการหลับสนิททำ ให้แอนน่าเหมือนใต้ฟื้นร่างกายกลับมาเกินครึ่ง เธอเปลี่ยน เสื้อผ้าเตรียมออกไปวิ่ง
“คุณหลง?”
ขณะที่เธอเปิดประตูห้องนอนออก ประตูที่อยู่ตรงโถงทาง เดินก็ถูกเปิดออกในเวลาเดียวกัน
หลงเชียวอยู่ในชุดออกกำลังกายสีขาวยืนอยู่หน้าประตู เขาพยักหน้าให้นิดหน่อย “อีม”
ผู้หญิงคนนี้ร่างกายทำมาจากโลหะหรือไง? เมื่อคืนนี้กว่า เธอจะกลับมาอย่างต่ำๆก็หลังตีหนึ่ง แถมยังกินอาหารที่เขา เตรียมไว้ให้จนหมด อย่างมากก็ได้นอนไปแค่สี่ถึงห้าชั่วโมง แต่หน้าตาดูไม่มีร่องรอยความเหนื่อยอ่อนเลยสักนิด
“เมื่อคืนกลับมาตอนไหน?” ทั้งคู่เดินไปคุยไป
“ตีหนึ่งกว่าเกือบๆตีสอง” แอนน่าวอร์มแขน ยึดไปข้าง หน้าที่ข้างหลังที่
“กลับมายังไง?” หลงเชียวแสร้งถามอย่างไม่ใส่ใจ
แอนน่ากำลังยืดเส้นท่อนบน เธอทำท่าบิดไปมา จึงเอียง ศีรษะไปหาเขา “เรียกแท็กซี่ ก็คุณบอกให้ฉันเรียกแท็กซี่ กลับมานี่”
หลงเชียวเลิกคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้ “คิดไม่ถึงว่าคุณแอนน่า ที่ชอบต่อต้านมาโดยตลอดจะให้ความร่วมมือขนาดนี้”
แอนน่ายักไหล่ “เพื่อความปลอดภัยของตัวฉันเอง แต่ก็ ต้องขอบคุณคุณที่เดือน”
คุณชายเชียววางสีหน้าเพิกเฉย เตรียมออกวิ่ง “ฉันชอบ วิธีการขอบคุณที่สัมผัสได้จริงมากกว่า”
แอนน่ามองตามแผ่นหลังของคุณชายเชียวที่ออกวิ่งไป
ก่อน เธอขบคิด สัมผัสได้จริง?
งั้นก็ทำอาหารเย็นสุดพิเศษ ให้เขาแล้วกัน
นับวันแอนน่าก็ยิ่งใช้เวลาในการทำอาหารน้อยลงเรื่อยๆ แถมรสชาติก็อร่อยขึ้น รู้จักผสมผสานวัตถุดิบ มากขึ้นด้วย บางครั้งเธอก็ทำอาหารที่เน้นรสจืด แต่บางครั้ง ก็ทำอาหารประเภททอด แต่ไม่มัน
หรือแม้แต่วิธีการใช้น้ำมันในการทอด เธอก็มีสูตรเป็น ของตัวเองแล้ว
เรียกว่าสวมวิญญาณเซฟไปแล้วครึ่งตัว
แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ ขณะที่เพิ่งทำอาหารเช้าที่ตัวเธอคิดว่า แสนอร่อยเสร็จ จู่ก็ๆก็มีสายโทรเข้า ปลายสายเป็นคนส่ง
พัสดุ
เด็กส่งพัสดุยืนอุ้มดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ คำนวณเอา จากสายตาคิดว่าน่าจะมีถึงร้อยดอก แต่ละดอกนั้นกำลังบาน สะพรั่ง แถมเป็นกุหลาบพันธุ์เนเธอร์แลนด์ที่มีราคาแพง ถูก ห่อด้วยกระดาษหรูหรา
“อันนี้คือ?”
แอนน่าไม่ได้โทรสั่ง
“คุณแอนน่า มีคนสั่งดอกไม้มาให้คุณ กรุณาเซ็นรับด้วย
ครับ”
หม?
“ใครสั่งตะ?”
ใครเป็นคนสั่งมาให้เธอนะ? อย่าบอกว่าเป็นหลงเชียว? เป็นไปได้หรอ?
แต่…เมื่อคืนเขาส่งข้อความเตือนไม่ให้เธอขับรถกลับ ไหน จะเตรียมอาหารมื้อดึกให้ ถ้าจะส่งดอกกุหลาบมาอีกสักช่อก็ ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“เรื่องนี้ ขอโทษทีครับ แต่ลูกค้าไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมาเลย เพราะงั้นทางร้านก็ไม่ทราบเช่นกัน”
แอนน่าอุ้มช่อดอกไม้เข้าห้องรับแขกด้วยความแปลกใจ ในใจรู้สึกพิลึกพิลั่น หลงเชียวจะทำเรื่องพรรค์นี้จริงๆหรอ?
เขาคงไม่ขึ้นถึงขั้นนี้มั้ง? แต่ถ้าเป็นเขาส่งมาจริงๆ ก็ไม่ได้ น่าขนลุกซะทีเดียว คิดถึงตรงนี้ แอนน่าก็อยากจะหัวเราะ
เธอตั้งใจกอดช่อดอกไม้เดินเข้ามา ขณะกำลังผ่านห้อง อาหารก็ชะลอฝีเท้าลง หลงเชียวกำลังเตรียมจะกินมื้อเช้าก็ เงยหน้าขึ้นมอง “ใครส่งดอกไม้มา?”
เอ๊ะ? ไม่ใช่เขาหรอ?
แอบผิดหวังอยู่เล็กๆ
แอนน่ายักไหล่ “ไม่รู้เป็นบุคคลนิรนามส่งมา”
หลงเชียวจับตะเกียบ แล้วส่งเสียงหี่เบาๆ “คงเป็นคนที่
แอบชอบล่ะมั้ง”
ฟังดูแล้ว น้ำเสียงแลดูแปลกๆ
“คงงั้น” เธอพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะวางดอกไม้ลงใน แจกันเปล่าที่ครั้งก่อนใส่ดอกไม้ของหลงจื้อ
หลงเชียวขมวดคิ้วเล็กๆ “ไม่รู้ว่าใครส่งมาให้ แต่ยังชี้ชั้ว
รับ?”
ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดจะกลั่นกรองผู้ชายที่มาจีบเลยสักนิต!
ทำตัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?
แอนน่าล้างมือเสร็จก็นั่งลงกินข้าว ให้ตอกกุหลาบผู้อื่น เป็นของขวัญ กลิ่นหอมคงค้างอยู่กับมือ ทำไมจะรับไว้ไม่ได้ ล่ะ? อีกอย่าง คุณหลงคิดว่าฉันไม่ควรรับไว้หรอคะ? อย่างงั้น ขอถามหน่อย ทำไมคะ?”
หญิงสาวสังเกตชายหนุ่มที่เหล่มองดอกกุหลาบผู้หญิงคนนี้ดูท่าจะภูมิใจซะด้วย “ไม่ทำไม แต่มันไม่ดี”
แอนน่ากับกับข้าวเข้าปาก ดื่มน้ำซุป จากนั้นลอบมองเขา อีกเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
ห้าวันติดๆ ที่แอนน่าได้รับสายจากเด็กส่งพัสดุ และก็เป็น ตั้งเช่นเคย ทุกๆวันเป็นดอกกุหลาบสีแดงเก้าสิบเก้าดอก กับ คนส่งนิรนาม
เธอเริ่มไม่สบายใจ จึงถามเด็กส่งดอกไม้ต่อหน้าอีกครั้ง “ตกลงเป็นใครส่งมาคะ?”
พนักงานสายหน้า “ผมไม่ทราบจริงๆครับคุณผู้หญิง ฝั่งนั้น เขาไม่ยอมเปิดเผยชื่อ”
“ถ้าไม่บอกว่าใครเป็นคนส่ง ต่อไปฉันจะไม่รับแล้ว”
พนักงานยิ้มอีกอัก “ถึงคุณผู้หญิงไม่เซ็นรับ ผมก็ยังต้องส่ง อยู่ดีครับ ร้านเรารับเงินลูกค้ามาแล้ว ต้องบริการให้ถึงที่สุด”
ดอกกุหลาบมีอายุอยู่ได้หลายวัน ไม่นานห้องรับแขกก็เต็ม ไปด้วยช่อกุหลาบห้าช่อ ทุกๆมุมมีกลิ่นหอมของดอกไม้โชย ไปทั่ว
หลงเชียวขมวดคิ้ว กุหลาบสีแดงมันช่างระคายตาเขาเสียจริง “แอนน่า ของขัดตาพวกนี้ เธอเอาไปโยนทิ้ง จะดีกว่า”
“กลิ่นดอกไม้ช่วยทำความสะอาดอากาศภายในห้องได้ อีกอย่างฉันว่ากลิ่นของดอกกุหลาบก็สดชื่น ช่วยดูดกลิ่นอบ ของห้องได้พอดี”
แต่ยังเหลือความคุกรุ่นจากบางคนที่นับวันก็ยิ่งสะสมมาก ขึ้นเรื่อยๆ
หลงเชียวพลิกนิตยสารไปมา แต่จิตใจลอยไปอยู่ที่อื่น
“บ้านของฉัน ไม่จำเป็นต้องใช้ของราคาถูกพวกนี้มาประดับ เอาไปทิ้งซะ”
เซอะ! ใครจะสนคุณกันล่ะ!
แต่ในเช้าวันถัดมา หลังจากแอนน่าตื่นขึ้นก็พบว่าดอก กุหลาบในห้องรับแขกหายไปหมด
แอนน่ามองหาตามมุมห้อง แต่ก็ไม่พบแม้แต่ดอกเดียว หรือแม้แต่ใบไม้ก็ไม่เหลือ “คุณหลง นี่มันอะไรกัน? ดอกไม้
ล่ะ?”
ในบ้านมีแค่พวกเขาสองคน ไม่มีความจำเป็นต้องสงสัย อีกต่อไป
คุณชายเชียวผูกเชือกรองเท้ากีฬา แล้วตอบอย่างไม่ใส่ใจ “โยนทิ้งไปแล้ว”
“โยนทิ้ง? ทิ้งไปหมดเลยหรอคะ? ทำไมกัน?!”
แอนน่ากลุ้มใจ หลงเซียวปกตินายขี้เกียจถึงขนาดหนังสือ ตกลงพื้นยังไม่เก็บ แต่ตอนนี้ถึงกับออกแรงโยนดอกไม้มาก ขนาดนั้นทิ้ง?
หลงเชียวเปลี่ยนรองเท้าเสร็จพอดี “ท่าไม? ดอกไม้เหี่ยว ไม่ควรทิ้งหรือไง? ถ้าตัดใจไม่ได้ขนาดนั้นก็ไปเก็บมาจากถัง ขยะสิ”
“คุณ….คุณไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!”
ทิ้งแล้วก็ช่างมันเถอะ ยังไงซะตอนกินข้าวเดี๋ยวก็มีคนมา ส่งให้ใหม่อยู่ดี
แอนน่าอุ้มดอกไม้ช่อใหม่แล้วตั้งใจหยุดลงที่หน้าโต๊ะ อาหาร เธอหยิบดอกกุหลาบดอกนึงออกมาแล้วเสียบลงบน แจกันกลางโต๊ะอาหาร ก่อนจะแกล้งดม “คุณหลง ตรงนี้ อากาศมันขุ่นมัวไปหน่อย เอามาดูตอากาศเสียๆออกหน่อย น่าจะดี”
หลงเซียวเหล่มองดอกไม้สีแดงฉูดฉาดลูกตา “ฉันว่าตอน นี้อากาศขุ่นมัวมากกว่าเดิมซะอีก”
แอนน่าไม่สนเขา “คนเราถ้าใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความกด ดันนานๆเนี่ย จะมีโอกาสทำลายความสนุกในชีวิตได้ง่าย มาก คุณหลง ยิ่งถ้าเป็นคนป่วยแล้ว ยิ่งต้องมีจิตใจที่เบิกบาน OK?”
หลงเขียวหยิบมีดกับส้อมขึ้น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้า มากระทบเข้ากับใบหน้าที่มีเส้นเลือดฝาดๆเพราะเพิ่งออก กำลังกายเสร็จ ผิวอมชมพูดสุขภาพดี “ถ้าพรุ่งนี้ยังมีมาส่ง อีก ไม่ต้องเอาเข้ามา โยนทิ้งไว้ข้างนอกนั่นแหละ”
แอนน่ายักไหล่ “คุณหลง แม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของคุณ แต่ ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นที่นี่ก็เป็นบ้านของฉันด้วย และฉันมีสิทธิ์จะวางของส่วนตัวไปส่วนใดก็ตามที่เป็นพื้นที่ ว่างในบ้านหลังนี้ โดยที่คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
บ้าน?
เมื่อกี้เธอพูดว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอ?
แปลก ในใจของคุณชายเชียวราวกับมีเมล็ดพืชพันธุ์เจริญ เติบโตขึ้น อุดมสมบูรณ์ เบิกบานและสดชื่น
“บ้าน? เธออยากเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้มาก? ฉันควร เข้าใจแบบนี้หรือเปล่า?”