ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 214
ตอนที่ 214 ผมจีบเธอแค่ฝ่ายเดียว
ในที่สุดการประชุมคณะกรรมการที่น่าปวดหัวก็จบลง สักที
เฉียวหย่วนฟานนั่งทำงานอย่างเหนื่อยล้าในห้อง ทำงาน และคิดว่าจะจัดการกับราคาหุ้นที่พุ่งตกลงมา นี้อย่างไรดี
เห็นได้ชัดว่าราคาหุ้นของบริษัทเฉียวชื่อและบริษัท หลันเทียน มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดมานาน แล้วเมื่อความสัมพันธ์ของแอนน่าและเควินเปลี่ยนไป บริษัทเฉียวชื่อจะได้รับผลกระทบทันที
การควบคุมที่บริษัทหลันเทียนมีต่อบริษัทเฉียวซึ่อ นั้นร้ายแรงกว่าที่เขาคิด
เมื่อเป็นเช่นนี้ เฉียวหย่วนฟานรู้สึกถึงวิกฤตอย่าง
รุนแรง
โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขาดังขึ้นในขณะนี้ ตามคาด และแปลกใจเล็กน้อย คนที่โทรมาคือเค
วิน
เฉียวหย่วนฟานจิบน้ำอุ่นไปเพื่อให้ชุ่มคอ เขาปรับ การหายใจให้พร้อม และพูดว่า “เควิน”
ตู้หลิงเซวียนยืนอยู่หน้าหน้าต่างพาโนรามาของ ห้องงาน มองดูเมืองนิวยอร์กที่ผู้คนหนาแน่น เต็มไป ด้วยความหลงระเริง “ลุงเฉียว ผมเพิ่งเห็นราคาหุ้น ของบริษัทเฉียวชื่อ เป็นไปได้อย่างไร หุ้นของบริษัท เฉียวชื่อ คงที่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ? เกิดเหตุการณ์ เช่นนี้ขึ้นมา ผมตกใจมาก หรือว่ากองทุนที่ผมลงทุน ไปมันมีปัญหาเหรอครับ? ต้องการให้ผมลงทุนเพิ่ม ไหม?”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทหลันเทียนให้เงินทุน แก่บริษัทเฉียวชื่อไปไม่น้อย และทันเวลาทุกครั้ง ทำให้ บริษัทเฉียวชื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตต่างๆไป มากมาย แต่ด้วยเหตุนี้เช่นกัน บริษัทเฉียวชื่อพึ่งพา บริษัทหลันเทียนมากขึ้นทุกวัน
เฉียวหย่วนฟานขมวดคิ้วพยายามยิ้มออกมา ” ไม่ เป็นไรครับ มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สามารถ จัดการได้ครับ”
แปลกจัง เขาไม่เห็นข่าวเหรอ?
ตู้หลิงเซวียนยังคงถามอย่างสุภาพ “ลุงเฉียวครับ ตระกูลตู้และบริษัทเฉียวชื่อ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน หากบริษัทเฉียวชื่อ มีปัญหาใด ๆ ขึ้นมา ผมและตระกูล ตู้ ควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ คุณต้องไม่ต้อง เกรงใจผมนะครับ”
“ได้ยังไงล่ะ สิ่งที่ตระกูลตู้ทำกับบริษัทเฉียวชื่อใน ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผมรับรู้ครับ หี่ที”
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะเบา ๆ “ลุงเฉียวครับ ช่วงนี้แอน น่าอยู่ที่จีนเป็นอย่างไรบ้างครับ ผมโทรหาเธอ แต่ดู เหมือนว่าเธอจะยุ่งอยู่ตลอดเวลา ผมเป็นห่วงเธอมาก นะครับ”
เป็นอย่างที่คิดจริงด้วย หัวข้อที่คุยเปลี่ยนไปเป็น เรื่องเกี่ยวกับ แอนน่า
อย่าที่ทรายกัน ตู้หลิงเซวียนฉลาดมาก เขาไม่เปิด เผยเรื่องของ แอนน่าก่อน ความอดทนและความใจ กว้างของเขา ทำให้เฉียวหย่วนฟานรู้สึกประทับใจ มาก
ในขณะเดียวกัน การถอยโดยเจตนาของเขาก็ ทำให้เฉียวหย่วนฟานตระหนักได้ว่า ความคิดของคนคนนี้มันซับซ้อนจนไม่สามารถคาดเดาได้
“เอ่อ …แอนน่าเข้าทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว คงยุ่ง มาก ผมที่เป็นพ่อก็ติดต่อเธอไม่ค่อยได้เช่นกัน”
“ลุงเฉียวครับ แอนน่าและผมกำลังจะแต่งงานกัน ผมทนไม่ได้ที่ปล่อยให้ภรรยาของผมทำงานหนัก ขนาดนี้ ให้เธอกลับมาที่สหรัฐอเมริกาให้ไวจะดีกว่า นะครับ เมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ทุกอย่างก็จะลงตัว ครับ”
ทุกอย่างจะลงตัว เขา เธอ แต่บริษัทเฉียวชื่อ
เขากุมขมับไว้เฉียวหย่วนฟานรู้สึกถึงแรงกดดัน และสถานการณ์ที่แย่ลงอย่ามาก เมื่อข่าวเชิงลบของ แอนน่าถูกแพร่กระจายออกมา มันจะส่งผลกระทบ อย่างมากต่ออาชีพการงานของเธอ และจะส่งผลกระ ทบอย่างมากให้กับบริษัทเฉียวชื่อและตระกูลตู้
แอนน่า… ทำไมเธอจะประมาทขนาดนี้?
“ลุงเฉียวครับ อายุของผมก็ถึงคราวที่จะพูดคุยเรื่อง การแต่งงานแล้ว และความรู้สึกของผมที่มีต่อแอนน่า คุณก็รู้ ผมจะทะนุถนอมเธอให้ดีที่สุด ผมจะพยายาม มอบทุกสิ่งที่เธอต้องการให้กับเธอ ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอแน่นอน”
บทสนทนาก่อนหน้านี้ ยังคงเกี่ยวข้องกับผลดีที่มี ต่อกัน แต่ประโยคนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ เขาไม่ สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
เมื่อวางสายโทรศัพท์ไปเฉียวหย่วนฟานนั่งอยู่บน เก้าอี้ รู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย
เมื่อแอนนาตื่นขึ้นมาก็เป็นเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว ไม่ คิดว่าเมื่อคืนเธอหลับนานขนาดนั้นเลยเหรอ?
ความทรงจำสุดท้ายคือเธออยู่ในรถของหลงเชียว จากนั้นเธอก็หลับไปและหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ เลย
แต่เธอกลับนอนอยู่บนเตียงของเธอเอง
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ รีบก้มหัวแล้วเปิดผ้าห่มมาดู เธอ หายใจออกยาวๆ เสื้อผ้ายังอยู่ครบ มีแค่รองเท้าที่ถูก ถอดออก แอนน่าลูบๆ ที่ผมของเธอ ตายจริงทำไม เดี๋ยวนี้ความระวังของเธอมันลดลงกันนะ?
หลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จ แอนน่าก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินลงบันไดมา ทันทีที่ไปถึงหน้าบันได เธอก็ได้ กลิ่นผมของข้าว
กลิ่นของอาหารจีนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอาหาร ตะวันตก อาหารจีนที่น่าทานทำให้คนอยากทาน อาหารในตอนเช้าเป็นอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะกลืน
น้ำลายลง เธอก็หิวขึ้นมา
หลงเชียวออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอาหารจาน สุดท้าย เขาถือจานด้วยมือข้างเดียว ในนั้นมีผักสี เขียวสดเต็มไปหมด ไอร้อนปกคลุมชายคนที่ใส่เสื้อ เชิตสีขาวและกางเกงสแลกขายาวสีดำไว้
หลงเชียวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองจ้องไปที่ผู้หญิงที่ ยืนอยู่ตรงบันได ริมฝีปากของเขาเปิดออกเบา ๆ ” สวัสดีตอนเช้า เมื่อคืนหลับสบายไหม?”
ปากของแอนน่ากระตุกเล็กน้อยและเธอก็งุนงงเล็ก น้อย “อืม … สวัสดีตอนเช้า เมื่อคืนขอบคุณนะ”
หลงเซียวจัดวางอาหารเสร็จ มันยังคงเป็นอาหารสี่ จานที่เป็นผักและเนื้อกับซุปาถ้วย อาหารที่ทำก็เปลี่ยน ไปอย่างสิ้นเชิง พระเจ้า .. อยากบอกนะว่าเขาตื่นมา นานแล้ว?
ซุปซี่โครงหมูฟักทอง ซี่โครงในซุปตุ้นจนเปื่อย แค่ ตุก็รู้ว่ามันเปื่อยมาก
“ผมไม่ชอบการขอบคุณด้วยวาจา ถ้าอยาก ขอบคุณผม ก็ทานอาหารพวกนี้ซะ”
ตะเกียบที่ฝังด้วยหยกขาววางอยู่บนที่ตั้งตะเกียบ เขาดึงเก้าอี้ออกและพูดว่า “เชิญนั่งครับ”
แอนน่า รู้สึกกระปรี้กระเปร่ากับความใส่ใจและ ความพิถีพิถันของเขา เธอนั่งลงพร้อมผ้าขนหนูที่พาด ไว้บนศีรษะ หัวเราะพร้อมพูดว่า “หลงเชียว คุณไม่ จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ อย่างที่ฉันเคยบอก เราสอง คนเป็นไปไม่ได้จริงๆ”
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวยื่นไปที่ริมฝีปากของเธอ อย่างไม่เกรงใจเธอ ” ผมก็เคยบอกว่า ตอนนี้ผมกำลัง จีบคุณ และไม่ว่าผมปฏิบัติต่อคุณยังไง มันเป็นความ หมายของผมแค่ฝ่ายเดียว”
แอนน่าปวดหัวเล็กน้อย “ฉันเป็นคนที่มีสัญญาการ
แต่งงาน”
” ดีเลย ผมก็เหมือนกัน”
สิ่งนี้ …สามารถเป็นเงื่อนไขสำหรับการจับคู่ได้หรือ?
เขาหยิบตะเกียบใส่ไว้ในมือของเธอ “อาหารพวกนี้ ผมท่าครั้งแรก รสชาติอาจจะไม่ดีนัก แต่มีสารอาหาร สูงและสามารถช่วยให้แผลของคุณหายได้ดี”
ที่ม?
“หลังจากหายดี ก็ทำอาหารให้คุณใช่ไหม?” เธอยัง ไม่ลืมเรื่องนี้
“ทำไม? ไม่สมควรเหรอ? ในเมื่อคุณแอนน่ารู้ตัว ก็ โปรดให้ความร่วมมือด้วย กินเยอะๆ”
แอนน่ารู้สึกได้ว่า ตอนนี้ในหัวของหลงเชียวต้องมี เส้นประสาทที่ต่อกันผิดปกติแน่นอน
เธอคืบผักขึ้นมาใส่ปาก ผ้าขนหนูบนศีรษะของเธอ ก็คลายออก โดยหลงเชียวกระชากไป
เขาจับผมยาวของเธอด้วยมือใหญ่ๆของเขา บิดไป มาสองสามรอบแล้วบิดเป็นเปียหลวม ๆ รวบไว้ด้าน หลังเธอ ” หมอแอนน่าผ้าขนหนูพันผมที่เปียกไว้ อาจ ทำให้ปวดหัวได้ ความรู้แค่นี้ คุณยังต้องให้คนไข้สอน อีกหรือ”
แอนน่า : “. ฉันเพิ่งสระผมมาและยังไม่ได้เป่า
แห้ง”
แต่หลงเชียว เธอจับผมของฉันได้รื่นมือขนาดนี้ ๆ มันจะดีเหรอ?
ท่านเซียวเอาผ้าขนหนูห่อผมเธอไว้และบีบให้น้ำ ข้างในออกมา “กินข้าวก่อน แล้วค่อยเป่าหลังกิน เสร็จ”
อาหารมื้อนี้ .. แอนน่ากินจนทำอะไรไม่ได้
“คุณหมอถัง! คุณหมอถังดีมากที่คุณกลับมา ตอนนี้ ผู้ป่วยได้รอดแล้ว ขอบคุณจริงๆ ผมขอขอบคุณใน นามของโรงพยาบาลและผู้ป่วย!”
คณบดีเฉินและผู้อำนวยการช่าย ต้อนรับถังจิ้นเหยี ยนที่หน้าประตูโรงพยาบาลด้วยตัวของพวกเขาเอง
เมื่อเห็นเขาก็รู้สึกเหมือนเห็นพระเจ้าที่ช่วยชีวิต
ถังจิ้นเหยียนยิ้มและพยักหน้าอย่างสุภาพและอ่อน โยน ไม่มีการทักทายและไม่มีการพูดจา เขาเดินนำ หน้าแถวของกลุ่มเสื้อคลุมสีขาว เขาร่างใหญ่สูงยาวพร้อมชุดสูทสีดำ มันทำให้สะดุดตามากกว่าเดิม พา ฉันไปเจอคนไข้ เอาข้อมูลการวินิจฉัยทั้งหมดของ คนไข้มาให้ฉัน”
“ครับๆๆ คุณหมอถัง เชิญทางนี้เลยครับ” ถังจิ้นเหยียนเดินเข้าไปในล็อบบี้ชั้นหนึ่งของแผนก
ผู้ป่วยของโครงการ พยาบาลกดลิฟต์ให้
ถังจิ้นเหยียนรีบดูข้อมูลของผู้ป่วย แล้วใช้น้ำเสียงที่ อ่อนโยนของเขา แม้ตอนที่อยู่ในช่วงที่ชีวิตตกอยู่ใน วิกฤตก็ตาม “เตรียมผ่าตัดคืนนี้”
ผู้อำนวยการช่ายมองไปที่คณบดีเฉิน และถามถัง จิ้นเหยียนว่า “แล้ว คุณหมอถังต้องการทีมผ่าตัดแบบ ไหนครับ? คุณมีข้อกำหนดพิเศษสำหรับ …ผู้ช่วย และวิสัญญีแพทย์ใหมครับ”
ถังจิ้นเหยียนมองไปที่ผู้อำนวยการช่าย ซึ่งตัวเตี้ย กว่าตัวเองไปครึ่งหนึ่ง พูดโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “ผม เชื่อว่าทีมผ่าตัดของคุณหมอแอนน่าจะช่วยให้ผม สำเร็จการผ่าตัดนี้ได้อย่างดีครับ”
“โอเคครับ! ผมจะแจ้งทีมแพทย์ทันทีครับ!” กลุ่มคนจำนวนมากขึ้นมาในลิฟต์ พยาบาลข้างนอกก็เยอะจนล้น!
“เขาก็คือถังจิ้นเหยียนเหรอ! หล่อมาก! เขาดูมี อิทธิพลมาก นี่มันพระเอกในละครทีวีชัดๆ!”
” เมื่อก่อนเขาเคยเป็นรองประธานของโรงพยาบาล กลางด้วยนะ นั้นสถานะอะไร?พวกเธอก็ริมรสชะดีๆ”
การผ่าตัดจะเริ่มขึ้นในอีกสองชั่วโมงถัดไป ระยะ เวลาที่ผ่าตัดตามที่คาดการณ์ไว้คือแปดชั่วโมงหลัง จากที่ถังจิ้นเหยียนพบผู้ป่วยเสร็จ เขาก็ได้ประชุมกับ ทีมผ่าตัดเพื่อทำความเข้าใจพื้นฐานของทุกคน และ อธิบายนิสัยของเขาเองในระหว่างการผ่าตัดให้ ชัดเจน
Lisa และ Curret เป็นผู้ช่วยของแอนน่า มาเป็น เวลานานและเมื่อพวกเขาเจอกับถังจิ้นเหยียนก็ไม่รู้สึก กดดันเท่าไหร่
” ในเมื่อทุกคนเข้าใจแล้ว แปดชั่วโมงข้างหน้านี้ ก็ รบกวนทุกคนด้วยนะครับ”
หมอหน้าตาดี แน่นอนว่ามีผลกระตุ้นความ กระตือรือร้นในการทำงานให้กับแพทย์หญิง ยิ่งไป กว่านั้นคือเขาพูดจาอ่อนโยนมาก อีกอย่างความอ่อนโยนของเขาไม่ใช่ผู้ชายที่อบอุ่นปลอมๆ แต่เป็นความ อ่อนโยนและสุภาพที่ออกมาจากภายใน ถังจิ้นเหยียนใช้ภาษาอังกฤษเพื่อแสดงความ ขอบคุณกับแพทย์ต่างชาติทั้งสองคนเป็นพิเศษ มันยิ่ง
ทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเขามากขึ้น
” แอนน่า ยังยุ่งอยู่เหรอครับ?”
แอนน่าที่กำลังพักฟื้นนั้นอยู่สบาย ๆมากๆ เธอได้ รับสายจากเฉียวหย่วนฟาน เขาโทรมาเวลานี้?
“ตอนนี้ไม่ยุ่งเหรอคะ? แด็ดดี้มีอะไรรึเปล่าคะ?”
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนของสหรัฐอเมริกา ปกติพ่อ ของเธอเข้านอนตรงเวลาตลอด ทำไมอยู่ดีๆถึงโทรมา กะทันหันแบบนี้?
เฉียวหย่วนฟานยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น ท้องฟ้ายาม ค่ำคืนอันเงียบสงบนอกหน้าต่าง “แอนน่า หนูอยู่ใน ประเทศจีนมาก็นานแล้ว เรื่องแต่งงานหนูคิดได้ยัง”
แอนน่าวางหนังสือลง และตระหนักได้ว่าพ่อ พยายามข่มใจซ่อนคำพูดบางอย่างไว้ “แด๊ดดี้คะทำไมจู่ๆถึงถามเรื่องแบบนี้คะ? หลังจากจบโครงการ หนูก็กลับแล้วค่ะ แดดี้ไม่ต้องกังวล หนูจะกลับไป แน่ๆค่ะ”
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้าและยิ้มพร้อมพูด” ไม่มี อะไรหรอก แค่ฉันและหม่ามีของเธอ ช่วงเวลาที่หนูไป ประเทศจีนเราคิดถึงหนูมาก หนูไม่เคยอยู่ห่างเราสอง คน หนูอยู่คนเดียวข้างนอกเราเป็นห่วง”
ไม่เคยเหรอคะ?
ความสงสัยในใจของแอนน่ามีเยอะจนเหมือนหิมะ ก้อนใหญ่ๆ” แด็ดดี้คะ ที่ที่หนูเกิดอุบัติเหตุคือเทือก เขาแอลป์จริงๆเหรอคะ?”
สีหน้าของ เฉียวหย่วนฟาน เปลี่ยนไปอย่าง กะทันหัน ” แด็ดดี้บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? แด็ดดี้ช่วยหนู ลงมาจากภูเขาด้วยตัวของแด็ดดี้เอง แอนน่านี่แด็ดดี้ นะ หนูไม่เชื่อเหรอ?”
” ไม่ใช่ค่ะ หนูเชื่อใจแด็ดดี้มาก”
เฉียวหย่วนฟานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง” แอนน่ารีบแต่งงา นกับเควินโดยเร็วเถอะ อายุของหนูสองคนก็ได้เวลา แล้ว ติดอยู่อย่างนี้มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว”
แอนน่าบีบโทรศัพท์ไว้แน่น เธอพูดไม่ออก
“หนูบอกแต้ดื้มาว่า หนูอยากแต่งงานกับเควิน
ใหม?”
แอนน่าหายใจเข้าลึก ๆ “เควินเป็นผู้ชายที่ดี หนู ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา”
ยกเว้นว่าไม่มีความรู้สึกกับเขา
“แด็ดดี้อยากให้หนูมีความสุข เควินเป็นผู้ชายที่ เหมาะสมกับลูกที่สุด เชื่อสายตาของแด๊ดดี้สิ อย่าเสีย ผู้ชายที่รักลูกจริงๆไปเพราะความลังเลเลย”