ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 24
ตอนที่24 ไม่ได้พูด เพียงแค่ทำ…ก็เท่านั้นเอง
คู่ลั่วหานเดินขึ้นบันไดที่อยู่หน้าประตูใหญ่ หมอที่เดิน ผ่านไปมา เห็นเธอก็เริ่มกระซิบกระซาบเสียงเบา เดิน ผ่านประตูแผนก หมอแผนกผ่าตัดหัวใจสองสามคน กำลังก้มหน้าก้มตาปรึกษากัน
วันนี้ทุกคนในโรงพยาบาลดูแปลกไปหมด
เธอเพียงแต่เดินดูทางของตัวเอง สำหรับพวกคนที่ชี้นิ้ว มาอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ตอนที่ กำลังเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัว อยู่ๆจ้าวเหมียนเหมียนก็ เดินเข้ามาจากด้านหลังตบบ่าเธอเบาๆ “หมอฉู่ เธอว่ามั้ย ว่าบรรยากาศวันนี้ไม่ค่อยเหมือนเดิมสักเท่าไหร่”
คิ้วได้รูปของฉู่ลั่วหานขมวดเข้าหากันเบาๆ เป็นไปได้ มั้ยว่าความสัมพันธ์ของเธอกับหลงเซี่ยวถูกเปิดเผยแล้ว
“ไม่ค่อยเหมือนเดิมยังไง”
หลังจากเปลี่ยนชุดกาวน์เรียบร้อยแล้ว เสียบปากกา ไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ฉู่ลั่วหานถามออกไปอย่างสงสัย
จ้าวเหมียนเหมียนเบ้ปากเล็กน้อย”เธอไม่รู้จริงๆหรอ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ได้ยังไง”
“เรื่องอะไรหรอ”
ตั้งแต่เข้าประตูมาก็รู้สึกผิดปกติแล้ว หรือจะมีเรื่อง อะไรเกิดขึ้นจริงๆ
จ้าวเหมียนเหมียนเองก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว เสียบ ปากกาที่ปกเสื้อพลางทำท่าทางพูดอย่างพิศวง”หมอฉู่ เองก็อยากรู้อยากเห็นเป็นเหมือนกันหรอเนี่ย”
“ตอนนี้ฉันต้องรีบไปเข้าตรวจ เธอรอฉันกลับมาก่อน
ค่อยพูดละกัน”
ฉู่ล้วหานสาวเท้ายาวๆออกไปจากห้องแต่งตัว ไม่เหลือ แม้แต่ช่องว่างให้จ้าวเหมียนเหมียนได้พูดแทรก
“เดี๋ยว! หมอ ฉู่…”
เห้อ เดินไปไกลซะแล้ว
ฉู่ลั่วหานถือประวัติคนไข้อยู่ในมือกำลังเตรียมตัวเดิน ไปห้องคนไข้ อยู่ๆผู้บริหารโรงพยาบาลก็เดินเข้ามาหา เธออย่างเร่งรีบ”เสียวฉู่ ตามฉันมาเร็ว”
“ผ.อ. มีอะไรรึเปล่าคะ รอสักพักค่อยพูดได้มั้ยคะ ตอน นี้ดิฉันต้อง…” “ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนจริงๆ ฉันจะมาหาเธอด้วยตัวเอง
หรอ ตรวจคนไข้ฉันเรียกเสี่ยวจ้าวไปแทนแล้ว เธอมากับ
ฉัน”
ฉ่ลั่วหานรู้สึกตงิดใจแปลกๆ วันนี้เป็นอะไรกันไปหมด ทำไมทุกคนถึงทำตัวแปลกๆ
เห้อ..
เธอเดินตามผู้อำนวยการโรงพยาบาลจนไปถึงตึกผู้ป่วยนอกขนาดใหญ่ ฉู่ลั่วหานเห็นคนสิบกว่าคนยืนเรียง กันสี่ห้าแถว ทุกคนมีช่อดอกไม้สดในมือ และป้ายผ้า ขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนด้วยตัวหนังสือขนาดใหญ่สองแถว สีทองอร่าม “แพทย์หญิงนางฟ้า ช่วยคนแม้ตัวเองบาด เจ็บ”
คนพวกนี้ คือครอบครัวของผู้ป่วยที่ตั้งใจมาประท้วง ในวันนั้น
สิ่งที่ทำให้ฉู่ลั่วหานประหลาดใจมากกว่าเดิมก็คือ ใน ห้องโถงใหญ่มีนักข่าวหลายสิบคนยืนรออยู่!
“หมอฉู่ พวกเราตั้งใจมาขอโทษ เรื่องครั้งก่อน พวกเรา เป็นคนผิดเอง หมอฉู่เป็นหมอนางฟ้า มีความสามารถสูง พวกเราเข้าใจผิดหมอไป….”
“หมอชู โปรดรับคำขอโทษของพวกเราด้วย พวกเรา สัญญา จะไม่ทำให้คุณหมอเดือดร้อนอีก….
ฉู่ลั่วหานยังคงอึ้งอยู่ มองคนกี่สิบคนที่อยู่ด้านหน้า นิ่ง
ไปสักพัก
แสดงว่า ศาลแพทย์ตัดสินแล้วสินะ ทำไมเธอถึงไม่ได้ รับข่าวอะไรเลยล่ะ
ผู้อำนวยการหัวเราะขึ้นมา พลางพูดยิ้มๆ”เสี่ยวฉู่ ต้อง ขอบคุณเธอที่ตั้งหน้าตั้งตาทำการทดลอง ชั้นสูตรศพ ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว สำหรับโรงพยาบาล นับว่า เป็นข่าวดีๆจริง”
ต่อหน้าความมีน้ำใจของ ผ.อ.โรงพยาบาลกับความ จริงใจของทุกคน ริมฝีปากรูปกระจับของฉู่ลั่วหานยก ขึ้น”ผ.อ. คะ เรื่องกระจ่างก็ดีแล้วล่ะค่ะ แต่ว่า…..นี่มัน” คนมากมายรวมตัวกันในห้องโถงขนาดใหญ่แบบนี้
ทั้งคนไข้ทั้งหมอต้องมาเบียดเสียดกันแบบนี้ อาจจะไม่
สะดวกต่อการทำงานได้
“หมอฉู่ พวกเรามาขอโทษอย่างจริงใจและจริงจัง คุณ หมอช่วยรับคำขอโทษของพวกเราด้วย!
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าคณะยื่นดอกลิลลี่ช่อใหญ่ที่อยู่ใน มือให้เธอ ผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆก็ชูป้ายผ้าที่มีตัว หนังสือขนาดใหญ่เขียนไว้ ท่าทางจริงใจราวกับเป็น คนละคนกับวันนั้น
ฉ่ลั่วหานทนไม่ไหว ทำได้แต่รับดอกไม้ไว้”ในเมื่อพวก เธอก็เห็นผลของการตรวจสอบแล้ว ขอโทษแล้ว ฉันก็ไม่ ถือสาอะไรหรอก กลับกันได้แล้วล่ะ”
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเห็นได้ชัดว่าแทบไม่เชื่อสายตาตัว
เอง ที่ฉ่ลั่วหานจะยอมวางมือง่ายๆ กลืนน้ำลายดังเอื้อก
ก่อนจะถามอย่างกล้าๆกลัวๆ”หมอ….หมอฉู่ หมอตัดสิน
ใจจะไม่เอาเรื่องพวกเราแล้วจริงๆหรอ” ริมฝีปากอมชมพูของฉู่ลั่วหานยิ้มบางๆ “ทำไมล่ะ หรือ พวกเธออยากให้ฉันเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกัน”
“ไม่ใช่ๆ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น หมอฉู่ตัดสินใจไม่เอาเรื่องพวกเราเป็นเรื่องที่ดีที่สุดจริงๆ…ขอบคุณ หมอมาก ขอบคุณจริงๆ!
หลังจากผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าขอบอกขอบใจไม่หยุด คนอีกหลายๆคนที่อยู่ข้างหลังต่างก็ก้มหัวขอโทษสำนึก ผิดไปตามๆกัน ทำให้เสียงขอโทษขอโพยระงมไปทั่วทั้ง ห้องโถงใหญ่
สงครามครั้งนี้….มันจะเว่อร์ไปหน่อยล่ะมั้ง
เธอเคยเจอประท้วง ได้รับคำร้องเรียนเกี่ยวกับการ รักษา เคยได้รับคำขอโทษ แต่การมาขอขมาแบบนี้นับ ว่าเป็นครั้งแรกของเธอ
ไม่ต้องพูดถึงฉู่ ลั่วหาน แม้แต่คณบดีเก่าเองที่ผ่าน สนามรบมาเป็นร้อยๆครั้ง นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
นักข่าวต่างพากันเบียด กรูกันเข้ามาล้อมฉู่ลั่วหานเป็น วงกลม ยื่นไมก์เข้ามารุมสัมภาษณ์ ฉู่ลั่วหาน–
“หมู่ เมื่อกี้วันก่อนคุณมีปัญหาภายในระหว่าง ครอบครัวทำให้เกิดความยุ่งยาก ทำไมวันนี้คุณถึง ยอมรับคำขอโทษง่ายๆล่ะคะ”
“หมอฉู่ เกี่ยวกับการประท้วงและร้องเรียนเรื่องการ รักษาที่ไม่เหมาะสม คุณมีความคิดเห็นอะไรมั้ยคะ”
ฉ่ลั่วหานที่ถือช่อลิลลี่อยู่ สีหน้าไม่ได้มีการ เปลี่ยนแปลงอะไร พลางพูดเรียบๆ”ขอโทษนะคะ ที่นี่คือโรงพยาบาล เป็นที่รักษาและพักผ่อนของคนไข้ ไม่ใช่ที่ ทำข่าวของสื่อ”
“หมอฉู่ หมอฉู่ ตอบแค่คำถามเดียวก็ได้ค่ะ”
“หมอชู….”
ฉ่ลั่วหานหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือกับ ผ.อ. ไม่นาน ร.ป.ภ. ของโรงพยาบาลก็ถูกส่งมาเพื่อดึงพวก นักข่าวออกไป
ฉู่ลั่วหานสาวเท้ายาวๆไปทางลิฟต์ ไม่ได้หันไปมอง กลุ่มคนด้านหลังอีก
ขอโทษอย่างนั้นหรอ แถมยังมีป้ายอีก นักข่าวก็ด้วย นี่เป็นเรื่องปกติหลังจากการร้องเรียนเรื่องการรักษา หรือไง
ฉูลั่วหานยังคงสงสัย
“ว้าว! ดอกไม้ช่อเบ้อเริ่มเลย! หมอฉู่ คุณกลายเป็น คนดังของโรงพยาบาลเราแล้วรู้มั้ย! เรียกสั้นๆก็คือผู้ แทนของโรงพยาบาลกลางเมืองหลวง!
จี้ซื้อหยู่กอดช่อดอกไม้สดกับป้ายที่เธอเพิ่งถือเข้ามา อย่างโอเวอร์ พร้อมทำหน้าทำตาดีใจ
“ถ้าเธอชอบ ก็เอาไป”
“จริงหรอ จะว่าไป แต่ไหนแต่ไรก็มีแต่หมอที่ต้อง ขอโทษขอขมาญาติของคนไข้ แต่คราวนี้ญาติของคนไข้กลับมาขอโทษขอขมาหมอซะงั้น ฉันเพิ่งเห็นเป็น ครั้งแรกนะเนี่ย พวกเธอว่า หมอกำลังจะกลายเป็นคนผู้ สอนทุกอย่างใช่มั้ย”
จางได้จุนพูดขึ้น “ผู้ตัดสินหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
นะ”
“หมอจางอย่าขัดให้เสียอารมณ์จะได้มั้ย ไม่ง่ายเลย นะกว่าฉันจะได้พบได้เจอแสงสว่างในการทำงานแบบ นี้”จี้ซื้อหยู่กอดช่อดอกไม้ไม่วางมือ ดอกไม้ที่มาพร้อม เหตุการณ์สำคัญแบบนี้ ต้องเก็บไว้ชื่นชมถึงจะถูก
จ้าวเหมียนเหมียนที่เพิ่งออกเวรกลับมา เพราะว่าต้อง ตรวจคนไข้แทนฉู่ ลั่วหาน ทำให้ใช้เวลาไปไม่น้อย
“หมอฉู่ วันนี้คงต้องเลี้ยงข้าวพวกเราซะแล้วล่ะน้า” ลั่วหานพยักหน้าหงกๆ”ได้สิ กับข้าวโรงอาหาร กิน กันให้เต็มที่เลย”
“แหม เลี้ยงข้าวทั้งที เลี้ยงข้าวโรงอาหารเนี่ยนะ หมอฉู่ ดีกับคนไข้ซะขนาดนั้น กับพวกเราทำไมถึงไม่อ่อนโยน สักหน่อยบ้างเลยล่ะ”
ฉ่ลั่วหานรับเคสคนไข้จากมือจ้าวเหมียนเหมียนมา พลิกๆดู คนไข้ไม่ได้มีอาการอะไรร้ายแรงนัก”อยากให้ ฉันอ่อนโยนด้วยหรอ ง่ายมากเลย ลองป่วยดูสิจ๊ะ ทางที่ ดีที่สุดต้องเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ ฉันรับรอง เลยตลอดสองสามเดือนว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเชี่ยวล่ะ”
“หมอ! ไม่ต้องพูดขนาดนี้ก็ได้มั้ง!
ตอนกลางวัน ฉ่ลั่วหานเลี้ยงข้าวจ้าวเหมียนเหมียน กับ จี้ซื้อหยู่ที่โรงอาหารตามที่พูดไว้ ตอนกินข้าว สองคน เลือกอาหารที่แพงที่สุด ที่ดีที่สุด ด้วยความโกรธเคือง แต่ก็ยังรู้สึกว่าถูกอยู่ดี
คนที่มากินข้าวที่โรงอาหาร พอเห็นฉู่ลั่วหานก็ซุบซิบ นินทากันไม่หยุด ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไรกัน ฉู่ลั่วหานรู้สึก ว่าโดนจ้องจนตัวแทบจะทะลุอยู่แล้ว แค่กินข้าวมื้อเดียว แต่กลับไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาซะเลย
ชื่อเสียงมักมาพร้อมกับปัญหา ยิ่งพูดอีกก็ถูกอีก!
จ้าวเหมียนเหมียนกัดตะเกียบในมือ พูดแซะเบาๆ “หมอ ฉู่ ถ้าอีกหน่อยไม่เป็นหมอแล้ว จะไปเป็นดาราก็ได้นะ ตอนหมอขึ้นกล้อง สวยไม่เบาเลยจริงๆ”
ลั่วหานตั้งใจกินข้าวตรงหน้า ไม่ได้ตั้งใจฟังที่หล่อน พูด จี้ซือหยู่เงยหน้าขึ้นมองจอทีวีของโรงอาหาร เนื้อชิ้น ใหญ่ชุ่มซอสที่กำลังจะเข้าปาก ร่วงเพาะกลับไปที่จาน เหมือนเดิม
“เห้ย! นี่เธอถูกสัมภาษณ์หรอเนี่ย!
ฉู่ลั่วหานมองเห็นตัวเองใส่ชุดกาวน์สีขาวอยู่ในหน้าจอ ก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน นักข่าวไร้จรรยาบรรณ!
“กินข้าวอิ่มแล้วสินะ”
“หมอฉู่ ทำไมถึงตอบได้เย็นชาไร้น้ำจิตน้ำใจแบบนี้! นางฟ้าของพวกเรา! ช่วยรับคำขอขมาของพวกเราไว้ ด้วยเถิด! “จ้าวเหมียนเหมียนมองภาพบนหน้าจอ โทรทัศน์ พร้อมสีหน้าเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาฉู่ลั่วหานที่ อยู่ในหน้าจอหมุนตัวเดินออกไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งภาพ ความเอะอะวุ่นวายไว้ด้านหลัง ท่าทางดูไม่ค่อยสบ อารมณ์เท่าไหร่นัก!
อีกด้านหนึ่ง ภาพเดียวกันนี้เองก็ถูกถ่ายทอดบนหน้า จอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องทำงานของหลงเซียว
จี้ตงหมิงพูดพลางปรบมือ”BOSS เป็นยังไงบ้างครับ เรื่องนี้ถือว่าผมจัดการได้ไม่เลวทีเดียวเลยใช่มั้ย” หลงเซียวมองไปทางเขาด้วยสายตาเรียบเฉย แสงที่
เยือกเย็นในแววตาของเขาทำให้จี้ตงหมิงรีบรูดซิป
หุบปากแน่น
“ไม่มีอะไรให้ทำแล้วหรือไง”
คำตอบกลับ คือการย้อนถามอย่างเย็นชาของหลง
เซียว
“มีครับๆ มีเรื่องให้ทำเยอะแยะเลยครับ BOSS งั้นผม
ขอตัวก่อน….”
จี้ตงหมิงเดินออกจากห้องทำงานไป หลงเซียวมองหน้า จอที่ถูกฟรีซ เบื้องหลังที่สวยงามของชุดกาวน์สีขาว เปรียบเหมือนแสงสว่างท่ามกลางทุ่งดอกไม้นับพัน
มุมริมฝีปากของชายหนุ่ม ยกขึ้นเล็กน้อยอย่างเหลือ
เชื่อ
หลังจากกินข้าว อายุรแพทย์ทั้งหมดถูกเรียกประชุม ด่วน เรื่องที่จะประชุมเห็นเพียงจะมีอยู่แค่เรื่องเดียว
“ทุกคนต่างก็รู้ดี ว่าแผนกอายุรแพทย์ของเราขาดคน มานานแล้ว และตอนนี้ ในที่สุดโรงพยาบาลก็พบผู้สมัคร ที่เหมาะสมที่สุด รองผู้อำนวยการคนใหม่จะมาถึงในอีก ไม่กี่วัน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม”
การประชุมจบลง หมอสิบกว่าคน คนต่างแสดงความ คิดเห็นกันเสียงดังให้แซ่ดไปหมด
“ได้ยินมาว่ารองผู้อำนวยการคนใหม่จบปริญญาเอก การแพทย์มาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้รับรางวัล ทางการแพทย์มากมาย แถมยังดูหล่อซะยิ่งกว่าพระเอก ละครเกาหลีอีก!
“เป็นข่าวดีจริงๆ! ได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน การผ่าตัดซะด้วย! แต่ทำไมถึงย้ายมาแผนกอายุรกรรม ก็ไม่รู้
“ฮ่าๆๆ! งั้นแผนกอายุรกรรมของเราก็จะมีผู้รับผิด ชอบคนใหม่ที่หน้าตาดีระดับเทพบุตร! น่าตื่นเต้น จริงๆ!
ฉู่ลั่วหานไม่ได้พูดอะไร ปริญญาเอกการแพทย์มาจาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์งั้นหรอ อายุคงจะประมาณ 35ขึ้นไป แถมหล่อกว่าพระเอก งั้นคงจะเป็นพระเอกรุ่นพ่อ รุ่นลุงสินะ
แถมยังน่าดึงดูดใจอีก เหอะๆ ถ้ามีผู้ชายที่เพอร์เฟค ขนาดนั้นล่ะก็ คงจะดีไม่น้อยเลย
เพิ่งถึงเวลาพักตอนบ่ายฉู่ลั่วหานนึกได้ว่ายังมีคนไข้ อีกรายที่ต้องเพิ่มยาปฏิชีวนะ คิดได้ดังนั้นก็เดินออกไป มุ่งหน้าไปยังแผนกผู้ป่วย
“ฉู่ลั่วหาน! ”
ยังเดินไม่ทันถึงสองก้าว เสียงแหลมๆที่ตะโกนเรียก เธออย่างไม่เกรงใจดังสะท้อนมาจากทางเดิน ฉู่ลั่วหาน สองมือล้วงกระเป๋า เงยหน้ามองผู้หญิงที่กำลังเดินมา ตรงหน้า หน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง รองเท้าส้นสูง แหลมเป็ด ส่งเสียงกึกๆ สะโพกที่ส่ายไปมาตอนเดิน พร้อมผมยาวสลวยที่สะบัดไปมา โดยรวมแล้วดูดีไร้ที่ติ เซ็กซี่เย้ายวนใจ
ถึงบนหน้าหล่อนจะถูกบดบังด้วยแว่นกันแดด ฉู่ลั่วหา นก็ดูออกได้ทันที ว่าผู้หญิงที่มาพร้อมเจตนาไม่ดีคนนี้ก็ คือโม่หรูเฟย
“คุณโม่ มาทำอะไรที่นี่หรอคะ”ฉู่ลั่วหานตอบกลับอย่าง ทันที ด้วยน้ำเสียงเรียบๆไร้ความรู้สึก
ไม่หรูเฟยก้าวฉับๆเข้ามาหาฉู่ลั่วหาน พลางแสยะยิ้ม อย่างจองหอง “ฉู่ ลั่วหาน เธอนี่ฉลาดไม่เบาเลยนะ!
ทันทีที่โม่หรูเฟยพูดจบ แขนบางๆก็ยกขึ้น ง้างมือขึ้น มาจะตบเข้าที่แก้มของฉู่ลั่วหาน
“คุณโม่ ช่วยกรุณาควบคุมพฤติกรรมแย่ๆของตัวเอง ด้วย! ”
ฉู่ลั่วหานคว้าข้อมือของโม่หรูเฟยไว้ ท่าที่ตอบสนอง อย่างรวดเร็วของเธอทำให้โม่หรูเฟยช็อกไป
โม่หรูเฟยกัดฟันกรอด ออกแรงดึงมือตัวเองกลับ พูด อย่างเกรี้ยวกราด”แกมันก็แค่ผู้หญิงขายตัวหน้าไม่ อาย! แกไปพูดอะไรกับพี่เซียว! ”
ก็เพราะเขานี่เอง! ก็จริง นอกจากหลงเซียวแล้ว ระหว่างพวกเธอก็ไม่มีเรื่องอะไรที่คุ้มค่าพอจะให้ฟาดฟัน
ฉ่ลั่วหานจ้องหน้าที่เต็มไปด้วยกลิตเตอร์เครื่องสำอาง พลางหัวเราะเบาๆ “ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขา ก็เพียง แค่…ทำก็เท่านั้นเอง!