ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 247
ตอนที่ 247 ลั่วหานแสร้งร้องว่าจน ท่านเซียว พลิกแพลงเลิศล้ำ
งานประมูลการกุศลขนาดใหญ่ที่ครึกโครมฮือฮา ที่สุดในเมืองหลวงจะจัดงานในคืนนี้
นี่เป็นโอกาสที่คนดังลูกหลานที่มีชาติตระกูลได้ แสดงพลังทรัพย์กับความกล้าหาญที่ดีที่สุดของตนเอง ปีละครั้ง ไม่ว่าเป็นเวลาไหน อยู่สถานที่อะไร งาน ประมูลที่ยอดเยี่ยมที่สุดมีชื่อว่า”เซี่ยงซ่านรั่วส่วย” นี้ ล้วนจะดึงดูดคนดังลูกหลานที่มีชาติตระกูลที่มากมาย ในและนอกประเทศ
นักธุรกิจที่มีฐานะต่ำกว่าหมื่นล้านย่อมไม่มีสิทธิ์ เข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอน คนที่สามารถได้รับ การ์ดเรียนเชิญล้วนคือเศรษฐีที่สุดยอดที่สุด ดังนั้นเซี่ ยงซ่านรั่วส่วยแทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึง ฐานะอย่างหนึ่ง
ฉากใหญ่มาก แค่คิดก็รู้เลย
ลั่วหานมองดูการ์ดเชิญที่ประดับด้วยเส้นสี ทองในมือ มุมปากปรากฏรอยยิ้มเย็นชาเล็กน้อย ดู เหมือนถือการ์ดอันหนึ่งที่ตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่การ์ดเชิญ แต่ว่าเป็นกระดาษที่เกินธรรมดาๆใบหนึ่ง
“อันนี้ก็คือการ์ดเรียนเชิญที่ถูกคนเล่าลือจนกลาย เป็นมีมูลค่าเท่าฟ้าในทุกปีหรือ?” นิ้วเรียวยาวจับการ์ดที่ประดับด้วยเส้นสีทอง รอย ยิ้มของคู่ลั่วหานมีการประชดเล็กน้อย อยู่ภายใต้โคม ไฟระย้าคริสตัลที่แสงจ้า เธอจ้องมองหลงเซียวที่นั่งอยู่ บนโซฟาสบายๆ ดั่งกษัตริย์ในวัง ถามไปประโยคหนึ่ง
ตาทั้งคู่ของหลงเซียวล้วนอยู่ที่บนหนังสือ เสียง
กับน้ำเสียงที่แสดงออกมายิ่งดูถูกกว่าฉู่ลั่วหาน “ได้ยิน ว่าใช่ แต่ว่าทุกปีผมล้วนได้รับ ไม่รู้สึกว่ามีความสำคัญ อะไร”
ไม่เพียงทุกปีล้วนได้รับ อีกทั้งยังเป็นการ์ดเรียน เชิญที่ได้รับความเคารพอย่างมากจากผู้คน แต่ว่าท่าน เซียวไม่เคยไปแม้แต่ครั้งเดียว งานแบบนี้ ท่านเซียวไม่ สนใจที่จะไป และขี้เกียจไป
ผู้หญิงที่ไป ถ้าไม่ใช่จะอวดสามีของตนเอง ถ้าไม่ ก็ถือการ์ดเรียนเชิญที่มีมูลค่าสูงไปหาผู้ชายที่เข้าตา อยู่ข้างในค่อยๆพัฒนามาเป็นสามี
ผู้ชายไป พูดง่ายมากก็คือโอ้อวดพลังทรัพย์ของ ตนเองเท่านั้น
และทั้งสองรูปแบบนี้ ท่านเซียวล้วนไม่สนจะแสดง อยู่ต่อหน้าคน
หลายปีที่ผ่านไป เรื่องที่เขาแต่งงานอย่างเงียบๆ ไม่มีใครรู้ และเขาไม่ยินดีพาโม่หรูเฟยเข้าออก ส่วนที่
เป็นพลังทรัพย์ ท่านเซียวยิ้มเย็นชา
ลั่วหานทิ้งการ์ดเชิญไว้บนโต๊ะกระจก จากนั้นเอา ตาที่ปนด้วยแสงความฉลาดเฉลียวจ้องมองหลงเชียว มุมปากงอขึ้น ยิ้มจนทั้งสวยทั้งปากหวานกันเปรี้ยว “ดู แล้วแต่ก่อนคุณไม่ค่อยไว้หน้าให้แก่เจ้าภาพ ปีนี้ล่ะ? ไปหรือไม่?”
หลงเซียวเปิดหนังสือไปหนึ่งหน้า “ปีนี้หรือ? ผมฟัง การวางแผนของภรรยาผม”
นึกไม่ถึงว่าหลงเซียวจะให้คำตอบเช่นนี้ ลั่วหาน เตรียมพร้อมที่จะโต้ตอบกลับได้พบเห็นว่าไร้ประโยชน์ เยาะเย้ยต่อเขาสองเสียง “ช่างไว้หน้าให้ภรรยาคุณ จริงๆล่ะ”
หลงเซียวก้มหัวอ่านหนังสือเหมือนเดิม แท้จริง แล้วไม่ต้องจ้องมองเธอก็จะคาดเดาได้ว่าคราวหน้า ภรรยาของเขามีสีหน้าอะไร “อยากจะไปไหม?”
ลั่วหานพิงลงไปยังโซฟา จ้องมองโดมที่สว่างไสว โคมไฟคริสตัลใช้สายตากวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง ของโดม “โรงแรมที่ฉู่ซีหรานกับเสิ่นเหลียวพวกเขาเข้า พักคุณรู้จักไหม?”
“คุณอยากไปเจอเธอที่โรงแรมหรือ?” ท่านเชียว ขมวดคิ้ว แท้จริงแล้วไม่ยินยอมให้เธอทำเช่นนี้
“เป็นไปได้ยังไงหรือ? ให้ฉันไปพบพวกเขาที่ โรงแรมหรือ? ฝันไปเถอะ ฉันคิดว่า ในเมื่อน้องสาวที่ดี ของฉันแต่งานกับเส้นเหลียวไปที่เมืองเจียงเฉิง ตอนนี้ ไม่ว่าพูดยังไงก็น่าจะเป็นกลับบ้านแม่ล่ะ? ฉันเป็นคน ของบ้านแม่เธอ น่าจะต้องส่งของขวัญเล็กน้อยให้พวก เขาก่อนที่จะเจอกัน แสดงน้ำใจเป็นเจ้าภาพ ใช่หรือ ไม่?”
หลงเซียวพยักหน้า ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ลั่วลั่วย่อม ต้องลงโทษฉู่ซีหรานสักหน่อยอย่างแน่นอน
“นี่เป็นที่อยู่กับเบอร์ห้องของพวกเขาในโรงแรม
แต่ว่า คืนนี้ก็จะเจอกันแล้ว คุณเก็บแรงความสามารถ
ไว้สักหน่อย”
ลั่วหานไม่ได้ขมวดคิ้ว รับกระดาษใบหนึ่งที่เขียน ตัวหนังสือจีนไว้จากในมือเขา “คุณเตรียมพร้อมมาตั้ง นานแล้วหรือ?”
หลงเซียววางหนังสือลง ดูแล้ววันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อยากจะอ่านหนังสือดีๆสักหน่อยคงจะเป็นไปไม่ได้ แล้ว
“ภรรยาของผมอยากจะเป็นผู้นำหน้า องครักษ์ อย่างผมนี้แน่นอนต้องเตรียมงานให้พร้อมแทนคุณ ก่อนแล้ว ผมไปตรวจสอบแล้ว พวกเขาอย่างน้อยจะ อยู่ในเมืองหลวงหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นคุณมีวิธีอะไรสามา รถค่อยๆใช้อย่าทำให้คนตื่นตกใจวิ่งหนีตั้งแต่ครั้งแรก เลย เปลี่ยนโรงแรมยังต้องตรวจสอบใหม่อีกเข้าใจ ไหม?”
– ปลายนิ้วที่อบอุ่นเรียวยาวของผู้ชายขูดปลายจมูก เธอ ท่าทางอย่างธรรมชาติท่าหนึ่ง รักใคร่โปรดปราน และอบอุ่น ลั่วหานอมยิ้ม หันหน้าหนีไม่ให้เขาลูบจมูกของ
ตนเองอีก “คุณโปรดวางใจเถอะ ผมให้พวกเขากินออ เดิร์ฟสักหน่อยก่อน คืนนี้ยังมีอาหารมื้อใหญ่ รอก่อน ฟังความหมายของคุณเมื่อกี้ คุณดูเหมือนรู้สึกว่าคืนนี้ ฉันจะไปงานการกุศลหรือ?”
ตาดำที่ลึกล้ำของหลงเชียวกวาดแสงที่มีกลิ่นอาย การวางแผนเล็กน้อย “หรือว่าคุณไม่ไปหรือ?”
ลั่วหานเบ้ปาก “ฉันอยากจะไปล่ะ แต่ว่าฉันไม่มีเงิน ตามที่พูดมา งานประมูลนี้ สินค้าชิ้นหนึ่งล้วนต้องใช้ เงินประมาณสิบล้าน แม้ว่าราคาเริ่มต้นเป็นแสนกว่าๆ ในที่สุดก็จะถูกประมูลกลายเป็นล้านกว่าๆอีกทั้งจนถึง สิบล้านกว่าๆ ฉันแค่หมอเล็กๆคนหนึ่ง ซื้อไม่ไหวล่ะ!”
หลงเซียวยื่นแขนยาวออกไป กอดผู้หญิงมาอยู่ที่ อ้อมอกของตนเองอย่างว่องไวช่ำชอง “ง่ายมากๆ พกตู้ กดเงินของคุณไปด้วย คืนนี้ไม่ว่าเห็นอะไร ล้วนประมูล มาให้ได้ ไม่ต้องดูราคา เพียงแค่เห็นสิ่งของเท่านั้น”
หัวของลั่วหานถูกเขากอดไว้ในอก เธอเลื่อนลงไป ข้างล่างตามทาง หลังสมองนอนอยู่บนตกของเขาเงย หน้าจ้องมองตาที่ดูไม่ออกจากต้นจนจบล้วนแฝงไว้ ด้วยความคิดที่ชั่วร้ายเล็กน้อยเช่นนั้นของเขาหนึ่งที่ “พาคุณไปด้วยหรือ?”
“ฉลาดมาก”
เห็นอะไร ล้วนสามารถประมูลได้หรือ?” “ใช่แล้ว”
“นั่นถ้าหากว่าฉันเห็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อ อยากจะ พาไปด้วยล่ะ? ก็สามารถประมูลได้ใช่หรือไม่?”
มุมปากของท่านเซียวงอขึ้น ยิ้มอย่างหล่องดงาม เหมือนเดิม แน่นอน ผมเตรียมทองหลายแท่งไว้ให้คุณ ทุ่มแรงไปประมูล”
ลั่วหาน ฮีๆ “คนบ้าพลัง ทองแท่งก็ประมูลจนคนจะ ตายแล้ว”
ท่านเซียวคิดว่า “ก็ใช่สิ ประมูลจนตายแล้วไม่ สะดวกที่จะพกพา ให้คุณพกมีดสั้นอีกด้ามหนึ่ง ตัด แยกชิ้นส่วนสิบกว่าชิ้นละก็ น่าจะไม่หนักแล้ว”
หมอฉ่ที่ถือมีดผ่าตัดผ่าอยู่บนกายของคนบ่อยๆ สำลักความรุนแรงของหลงเซียวแล้ว “ฮีๆ อย่างงั้นนั่นก็ ไม่ต้องแล้ว”
นิ้วของท่านเซียวม้วนเส้นผมของเธอเล่นอยู่ปลาย นิ้ว “คืนนี้คุณอยากจะไปยังไงหรือ? ไปเอง? หรือว่าไป กับผมด้วยกัน?”
ลั่วหานก็กำลังกลุ่มใจกับปัญหานี้อยู่ เธอกับหลง เชียวเป็นสามีกับภรรยากันก็ใช่อยู่ แต่ว่ารูปร่าง ลักษณะของเธอในตอนนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว อยู่ดีๆ เข้าออกพร้อมกันกับหลงเซียว ดูเหมือนไม่ค่อยเหมาะ สม พูดอีกอย่างว่า บทบาทที่สะดุดตาอย่างหลงเชียว เช่นนี้ อยู่ข้างตัวอยากจะทำอะไรก็ไม่สะดวก “ไปเองเถอะ การ์ดเรียนเชิญฉันเอาไว้ คุณ
ล่ะ….ผมรู้สึกว่าใช้ใบหน้าไปรูดเลยก็เข้าได้แล้ว” เธอล้อเล่นต่อรอยยิ้มของเขา คิดแล้วก็ใช่ ใบหน้านี้ คาดว่ายืนอยู่ห้องรับรองของธนาคารเลยก็สามารถ ปรากฏให้เห็น
“ดี ผมให้กู้เยนเซินส่งคุณไป เขาเป็นเพื่อนคุณผม ก็วางใจ”
ลั่วหานพยักหน้า “อิม งั้นคืนนี้เจอกัน”
รถลีมูซีน Maybach สีขาวจอดอยู่นอกประตูใหญ่ นานาชาติเมืองหลวง ปล่อยสายตามองไป ในลานจอด รถทั้งหมดล้วนเป็นรถสปอร์ตหรูระดับต้นๆ ส้มโบร์ก็นี รุ่นจำกัดในทั่วโลกก็เห็นสองคันแล้ว
คนที่มางานคืนนี้ เห็นเพียงเครื่องยนต์ที่ขับขี่ก็ สามารถเดาออกได้ครึ่งหนึ่ง
ขาข้างหนึ่งของลั่วหานก้าวออกจากประตูรถ รองเท้าส้นสูงสีเงิน ขาข้างหนึ่งขาวดั่งหิมะกระโปรง ยาวกลีบสีม่วงอ่อน พัดเบาๆอย่างงดงาม เนื้อผ้าไหม พรมบางเบา ปลิวไปที่บนผิว ไม่ต้องจับแค่มองก็รู้สึก เบาเหมือนดั่งเมฆมีสีแสงเรืองรองที่ย้อมสีม่วงสูงส่งผืน หนึ่ง
กู้เยนเซินยิ้ม “คุณฉู่ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม คุณชายหลงรักใครโปรดปรานคุณขนาดนี้แล้ว หน้าตางดงามก็เป็นข้อดี”
กระโปรงยาวโชว์ไหล่ ผมยาวหยิก เหมือน สาหร่ายใต้ทะเลที่ถูกหนึ่งไม้ตีเปิดการผูกมัดยาวปรก อยู่ข้างหลัง ปิดผิวที่ขาวสะอาดอยู่ข้างหลังไว้
หลังงดงามที่ผลุบๆโผล่ๆ เต็มไปด้วยพลังความ สามารถหนึ่งไม่มีสอง
ลั่วหานก็ยิ้มแล้วเช่นกัน “คุณชายกู้กับเขาสามารถ เป็นเพื่อนกันนานขนาดนี้ ฉันคิดว่าฉันก็รู้สาเหตุแล้ว”
“โอ๊ะ? อะไรหรือ?”
ลั่วหานยักคิ้ว “ใจกล้า ปากหวาน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! งั้นคืนนี้ ก็ให้ผมที่ใจกล้าปากหวานให้ บริการคุณสักครั้ง”
“โชคดีอย่างยิ่ง”
ลงจากรถ รอบข้างล้วนเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยเป็น คู่ หรือว่าเป็นชายแก่สาวน้อยสวยๆ หรือว่าหนุ่มน้อย หล่อๆกับหญิงแก่ จับคู่เช่นนี้อยู่ที่วงการเศรษฐีมักเห็น บ่อยจนชิ้นตา
เหยียบพรมสีแดง ใต้เท้าเสียดสีกับกลีบกุหลาบสี แดงสดมากมายที่อยู่บนพรม ใต้รองเท้ายังติดกลีบ ดอกไม้ไปด้วย ในทันทีนั้น กลิ่นหอมของดอกไม้กลิ่น น้ำหอมอย่างเข้มข้นต่างๆจากบนกายของพวกผู้หญิง ทั้งหลายล้วนโชยขึ้นจมูก ในงานประมูลที่ยิ่งใหญ่มาก กลิ่นต่างๆหอมฟุ้งเข้มข้น ซับซ้อนไร้ระเบียบ ก้าวย่างของลั่วหานกำลังจะขึ้นบันได เตรียมตัวจะ หาที่นั่ง หรี่ตาลงพอดีมองเห็นเงากายที่เซ็กซี่สวยงาม เงาหนึ่ง
สวมใส่ชุดกระโปรงหางปลารูปตัวVสีน้ำเงินเข้ม พอดีตัว ส่วนโค้งยั่วยวน สวยงามมีเสน่ห์ แต่งหน้าอย่าง ละเอียดเข้ม กำลังคุยกับคุณนายหลายคนด้วยรอยยิ้ม เบิกบาน แต่ละการกระทำ ล้วนคุ้นเคยเหลือเกิน!
ฉู่ซีหราน!
ปัจจุบันนี้เห็นแล้วกลับช่างแต่งกายดีจริงๆ จรรยา มารยาทเห็นได้ชัดว่าได้ผ่านการชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ มา เห็นได้ทันทีว่าช่างมีบุคลิกคุณหญิงชั้นสูง
เพียงแค่.
ลั่วหานมองเห็นผู้ชายที่เกาะแขนของเธออีก กลืน ลมหายใจลงไปคำหนึ่งเกือบจะขับเลือดออกมาใน
ทันที
เสิ่นเหลียวหรือ?
อย่าบอกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างตัวฉู่ซีหรานก็คือเสิ่น เหลียวล่ะ?!
ผู้ชายดูแล้วประมาณอายุสี่สิบกว่าปี อันนี้กลับ ไม่ใช่เป็นจุดสำคัญ ปัจจุบันนี้ผู้หญิงที่ยังสาวงดงาม แต่งงานกับผู้ชายที่อายุมากกว่าพ่อแท้ๆล้วนเรียกว่า
ธรรมดา
แต่ว่าเสิ่นเหลียวคนนี้ คิดไม่ถึงว่ายังเป็นคนขาเป์ คนหนึ่ง!
แขนข้างหนึ่งถูกฉู่ซีหรานเกาะไว้ มืออีกข้างหนึ่ง จับไม้เท้าไว้ ตอนเวลาเดิน ขาข้างซ้ายเห็นได้ชัดว่าเป๋ ไปข้างนอก ไม่เพียงแค่นี้ หน้าตาของเสิ่นเหลียว ก็ไม่ ค่อยดีเท่าไหร่
สีหน้าไม่เป็นมิตร สายตาขึงเย็นชา ไม่ว่าใครพูด รอยยิ้มล้วนเย็นชามาก
คิดไม่ถึงว่าฉู่ซีหรานแต่งกับผู้ชายอย่างนี้ล่ะ?
กู้เยนเซินมุมปากงอขึ้น เยาะเย้ยพูดว่า “คนนั้นก็ คือน้องสาวของคุณหรือ? หน้าตาพอใช้ได้ มิน่าล่ะได้ แต่งกับ เสี่ยเหลียว”
“อ่อ? ผู้ชายอย่างเสิ่นเหลียวนี้ ได้แต่งกับสาวงาม อย่างคู่ซีหรานเช่นนี้ จึงจะเรียกว่าโชคดีล่ะ?”
“อันนี้หรือ คุณก็คิดผิดแล้ว แม้ว่าหน้าตาเสิน เหลียวไม่ดี แต่ว่ามูลค่าของเขาทำให้คนตื่นตะลึง อีก ทั้ง ทั้งดำทั้งขาวเขากินเรียบหมด คำที่พูดออกมา ขาข้างนั้นของเขา ก็คือตอนที่ถูกคนในพวกมาเฟีย ลอบฆ่าขาดไปในตอนนั้น อิอิ”
โอ้ว?
ลั่วหานอดไม่ได้ขมวดคิ้ว ดูแล้วเสิ่นเหลียวน่าจะ จัดการยาก
ที่นั่งที่เป็นชั้นๆเหมือนบันไดล้อมรอบเวทีแสดงที่ อยู่ตรงกลาง แขกผู้มีเกียรติเข้าไปในงานต่อๆกัน ลั่ วหานกลับไม่เห็นเงากายของหลงเชียวเป็นเวลานาน
มือถือของฉู่ลั่วหานสั่นหนึ่งที
หลงเซียวส่งข้อความมา
“ที่ทั้งหมดนี้มีผมอยู่”
คำพูดง่ายๆกี่ตัวนี้ เหมือนจะให้ลั่วหานได้กินยา เสริมความมั่นใจ เม็ดหนึ่ง จิตสงบมาก
ผ่านไปสักพัก มือถือของกู้เยนเซินก็ดังขึ้นมา
“ตู้หลิงเซวียนอยู่ในงาน
กู้เยนเซินเงยหน้ามองหา อย่างที่พูดเลย พบเห็นตู้ หลิงเซวียนนั่งอยู่ที่สูงๆ
โอ้ว คึกคักจริงๆนะ
ยังเดินไม่ถึงที่นั่งของตนเอง ฉู่ซีหรานกับเสิ่น เหลียวก็เดินจากข้างล่างขึ้นมาแล้ว ทางเดินก็ไม่ได้ กว้างมากนัก สองคนเดินคู่กันก็เต็มช่องว่างแล้ว
“คนข้างหน้า เดินเร็วหน่อยได้ไหม? คนข้างหลัง จะเดินขึ้นไปยังไงล่ะ?”
เสียงที่คุ้นเคยที่ไม่คุ้นเคยมากกว่านี้อีกแล้ว ความ โอหังหยิ่งยโสที่อาศัยว่าตนเองเป็นคนโปรดจึงหยิ่ง ยโส ห่างไปเป็นเวลาสองปีกว่ากลับกลายเป็นรุนแรง มากขึ้นแล้ว
ลั่วหานหันหน้ามา สูงกว่าฉู่ซีหรานสองขึ้นบันได จ้องมองเธอ ยิ้มราบเรียบว่า “ขอโทษจริงๆ ขาของฉัน ไม่ดี เดินช้าไปหน่อย”
แก้มที่เหมือนดั่งดอกชบาใสดอกหนึ่งของเธอ เพียงแค่ยิ้มหนึ่งที่ก็สามารถเย้ายวนวิญญาณได้
ทั้งสองคนที่อยู่ข้างล่างอึ้งไปพร้อมกัน! คู่ชีหรานเหมือนดั่งถูกปืนจี้อยู่ที่ขมับ!
“คุณ…คุณคือใครหรือ?”
แต่เสิ่นเหลียวที่อยู่ข้างตัวเธอก็อดไม่ได้อึ้งไป รอย ยิ้มของลั่วหานเมื่อกี้ งดงามจนเกินไปแล้วจริงๆ เธอยิ้ม จนผู้หญิงที่อยู่รอบข้างล้วนหน้าซีดไปอย่างเงียบๆ
ผู้หญิงที่สวยเป็นพิเศษในโลก! ใจของผู้ชายจะไม่ สั่นไหวได้ยังไง!
ลั่วหานจ้องมองเธอ ถามตามว่า “ไม่รู้จักฉันแล้ว หรือ? น้องสาว”