ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 257
ตอนที่ 257 คุณควรจะเรียกพี่เขยสักค่า
“นายครับ สินค้าของพวกเราถูกคนปล้นไปแล้วครับ”
เสิ่นเหลียวที่การต่อสู้ที่ดุเดือดกำลังสนุกสนานอยู่ๆได้รับสายที่โทร มาจากท่าเรือทางนั้น ก็อ่อนลงภายในชั่วพริบตา
แขนที่เอาไว้เพียงครู่เดียวก็งอลงไป ร่างกายช่วงบนล้มลงไปบน ร่างกายของฉู่ซีหรานอย่างแรง “แกพูดอะไรนะ! ”
ฉูชีหรานที่ถูกกระแทกร้องอุทานออกมาเสียงหนึ่ง เจ็บจนขมวดคิ้ว เข้าหากันแน่น ทำได้เพียงกำหมัดแน่นอดทนเอาไว้
“ตอนที่คนของเราไปถึง ท่าเรือก็ว่างเปล่าแล้ว เรือบรรทุกสินค้าไม่รู้ ว่าไปที่ไหน พี่น้องที่แต่เดิมรับผิดชอบคุ้มกันการนำส่งสินค้าอยู่ที่นี่ต่าง ก็ถูกตีจนสลบไปกันหมด”
“แม่งเอ๊ย! ใครทำวะ!
เสิ่นเหลียวตวาดด้วยความโมโห ร่างกายกดทับลงไปที่ฉู่ซีหรานอ ย่างหนัก กำลังที่ป่าเถื่อนจี้เธอเอาไว้อย่างรุนแรง อาศัยแรงที่ใกล้เคียง กับความโหดเหี้ยมราวกับจะฉีกเธอให้ขาด
“ได้ยินมาว่า เป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าคนหนึ่ง แต่เห็นหน้าตรงๆไม่
ชัด…
“สวะ! ไอ้พวกสวะ! คนมากมายขนาดนี้ดูเรือลำเดียวเอาไว้ไม่ ได้! กูเลี้ยงพวกมึงไว้ทำอะไรวะ! ไสหัวกลับมา!
“ครับ นาย”
เสิ่นเหลียวโยนโทรศัพท์ทิ้ง ลงมาจากร่างกายของฉู่ซีหราน ดวงตา ที่โหดเหี่ยวดุดันจ้องมองเธอเอาไว้ “ลุกขึ้น!
ฉู่ซีหรานถูกเขากระทำซ้ำไปซ้ำมาจนทั่วทั้งร่างกายปวดเมื่อยอ่อน ปวกเปียกไปหมด นี่กลางดึกขนาดนี้ไม่ให้นอน ลุกขึ้นมาทำอะไร?
“ที่รัก เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?” ฉู่ซีหรานเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อน เสิ่นเหลียวอุทานออกมาอย่างหนักหน่วง “เฮอะ! มีคนลงมืออยู่บน หัวของกู! ลุกขึ้น ไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ฉัน”
ฉู่ซีหรานนวดคลึงบริเวณช่วงเอวและแผ่นหลังที่ปวดเมื่อยเล็กน้อย
“ค่ะ”
ดูแลเสิ่นเหลียวเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาได้เป็นตอนเที่ยงคืนสิบสอง นาฬิกาแล้ว เสิ่นเหลียวโทรศัพท์หาคนขับรถ แจ้งว่าตนเองจะออกไป
ข้างนอก
“ดึกขนาดนี้แล้ว คุณจะไปไหนคะ? เรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันไม่ได้ หรอ?”
เสิ่นเหลียวเหลือบมองไปยังฉู่ซีหรานอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง “พรุ่ง นี้? ยื้อไปถึงพรุ่งนี้ได้หรอ กูจะออกไปตอนนี้! ยัยโง่
ฉู่ซีหรานถูกด่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกได้รับความไม่เป็น ธรรมจนถึงที่สุด แต่ทำได้เพียงอดทนเอาไว้ ยิ้มขึ้นเล็กน้อยเอ่ยขึ้น เบาๆว่า “งั้นคุณก็ดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วยนะคะ ฉันรอคุณ กลับมา”
เสิ่นเหลียวอุทานอย่างไม่พึงพอใจออกมาคำหนึ่ง ค้ำไม้เท้าเอาไว้ เดินเข้าไปในลิฟต์
ฉู่ซีหรานกัดฟันนั่งลงบนโซฟา ชุดนอนผ้าไหมแท้ปิดคลุมร่างกาย อย่างไม่เป็นระเบียบ เผยผิวที่ขาวสะอาดออกมา ดวงตาทั้งสองข้าง มองไปทางๆหนึ่งอย่างโกรธแค้น
เสิ่นเหลียวเพิ่งจะถึงเมืองหลวงก็เกิดเรื่องนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่าง
แน่นอน
หลงเซียวเปิดโทรศัพท์มือถือ เห็นข้อความจากกู้เยนเซิน
เจ้าหนุ่มนี่เมื่อคืนนี้ตื่นเต้นดีใจขนาดไหนกัน? คิดไม่ถึงว่าจะส่ง ข้อความให้เขาสิบกว่าข้อความ
“สำเร็จแล้ว คืนนี้ ไอ้เสิ่นเหลียวนั่นนอนไม่หลับแน่! “ฉันเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาครึ่งค่อนคืน แกกลับหลบอยู่ใน รังรักที่อบอุ่นนอนหลับ แบบนี้เหมาะสมแล้วหรอ?”
“นอนแล้วจริงๆ ? โทรศัพท์ไม่รับ ข้อความไม่ตอบกลับ? แกเล่น หายตัวหรือหายตัวไปจริงๆ?”
“ก็ได้ ฉันไปนอนแล้ว”
เปิดดูข้อความของกู้เยนเซิน มุมริมฝีปากของท่านโค้งขึ้นเป็น รอยยิ้มบางๆ ดูเหมือนเรื่องของเสิ่นเหลียวเขาจะทำได้อย่างราบรื่น ดี มาก
นำโทรศัพท์มือถือวางลงบนโต๊ะ หันหลังกลับมาพบว่าลั่วหานได้ลุก ขึ้นจากเตียงแล้ว
“ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อย?”
ลั่วหานบิดขี้เกียจเล็กน้อย หยิบชุดออกกำลังกายออกมาจากในตู้ เสื้อผ้า “ฉันจะเก็บนิสัยที่ดีกลับคืนมา เริ่มตั้งแต่วันนี้วิ่งตอนเช้าค่ะ! ”
มือทั้งสองข้างของหลงเซียวสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของชุด
ลำลอง โค้งริมฝีปากขึ้นยิ้ม “ยังมีแรงวิ่งอีกหรอ?”
“พูดจาไร้สาระ ความแข็งแกร่งของร่างกายฉันดีมากค่ะ” ความ หมายของเธอคือ คุณสมบัติร่างกายของตนเองดีมากวิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ ได้อยู่ในหัวข้อสนทนา
ท่านเซียวกลับยิ้มจนหน้าเนื้อใจเสือมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ “อ่อ? ดู เหมือนคืนนี้ผมจะพยายามอีกสักหน่อยได้”
ลั่วหานได้สติกลับคืนมาอย่างกะทันหัน “คนอันธพาล! คืนนี้ฉันยื่น ขอกะดึกไม่กลับมาแล้วค่ะ”
ท่านเชียวพิงไปที่โซฟา ขาทั้งสองข้างไขว้เข้าหากัน “คุณยื่นกับ ใคร? ผมจะไล่เขาออกก่อนที่คุณจะยื่นไปถึง”
“คุณ!
“เป็นยังไงครับ?” “คุณชนะแล้วค่ะ !
“ๆ! คุณก็ไม่เลวเช่นเดียวกันครับ”
ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ “คุณจะไปด้วยกันไหมคะ?”
ท่านเซียวมองดูเวลา “วันนี้ไม่ทันแล้ว ผมจะไปที่ๆนึ่ง”
ลั่วหานพยักหน้าด้วยความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เรื่องที่กู้เยนเซินพูด ในโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ คงจะสำเร็จแล้ว
หลงเซียวออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไปยังท่าเรือส่วนตัวของเขาก่อน ตอนที่เขาไปถึง จี้ตงหมิงได้รออยู่ที่ท่าเรือแล้ว
“บอสครับ สินค้าได้ตรวจเช็คเสร็จเรียบร้อย คนที่รับช่วงต่อก็เข้า ประจำตำแหน่งแล้วครับ ออกเดินทางได้ตลอดเวลา เพียงแต่ จะเอา สินค้ายกลงมาเปลี่ยนเป็นของพวกเราหรือเปล่าครับ?”
ถึงอย่างไรเรือลำนี้ก็เป็นของเสิ่นเหลียว หากออกทะเลไปแบบนี้ ถูก เสิ่นเหลียวเห็นเข้าดูเหมือนจะไม่ค่อยดี
ท่านเซียวยืนอยู่บนท่าเรือ ลมทะเลพัดลงบนเส้นผมของเขา เส้นผม ที่คลายตัวอ่อนนุ่มถูกลมทะเลพัดจนค่อนข้างที่จะยุ่งเหยิง แต่ความ รู้สึกที่อยู่บนใบหน้าของเขากลับไม่มีเปลี่ยนแม้แต่วินาทีเดียว หนักแน่น เยือกเย็น มั่นใจในตนเอง สไตล์ที่เป็นมาตลอดของหลงเซียว
“ไม่ต้อง ใช้เรือลำนี้นี่แหละ แจ้งผู้ซื้อให้มารับสินค้าด้วยตนเอง เรือ ลำนี้ ส่งให้เขาไปเลย”
ดวงตาของจี้ตงหมิงเบิกโพลง ถูกการกระทำที่ยิ่งใหญ่ของบอส ทำให้ตกใจจนตาค้าง บอส ราคาของเรือลำนี้ไม่ใช่ถูกๆเลยนะครับ จะ ส่งให้คนอื่นแบบนี้นะหรอ?”
หลงเซียวพยักหน้า “ไม่ส่งให้คนอื่น จะเก็บไว้ทำอะไร? ของๆ
เหลียว คุณยินดีที่จะเข้าไปมีส่วนร่วม? ถ้าคุณซอบส่งให้คุณก็ได้” จี้ตงหมิงกลืนน้ำลายอีกใหญ่ ส่ายศีรษะติดต่อกันในทันที “งั้นก็ช่าง เถอะครับ” อยู่ด้วยกันกับบอสมานาน บนร่างกายก็ถูกย้อมไปด้วยความสูงส่ง ถือตัวของเขา สำหรับคนบางกลุ่มสิ่งของบางอย่าง ก็ไม่แยแสที่จะไป สัมผัสเลยแม้แต่น้อย ให้ฟรีก็ยังไม่เอา
หลงเซียวมองออกไปยังท่าเรือ ที่สายตาสามารถมองเห็นได้ก็คือ อาณาเขตทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด ดวงตาที่ดำขลับล้ำลึกมองไป ยังทะเลสีฟ้าท้องฟ้าสีคราม มุมริมฝีปากเอียงขึ้นเล็กน้อย “เสิ่นเหลียว ทางนั้น เป็นยังไงบ้าง?”
“เมื่อคืนนี้คนของเขาทั้งหมดถูกโจมตีจนสลบ ได้ยินว่ากลางดึกเสิ่น เหลียวระเบิดอารมณ์รุนแรงมาก เกือบจะฉีกผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ เมื่อคืนออกเป็นชิ้นๆ ผมคาดเดาว่าสองสามวันนี้เขาคงจะไม่หยุด จะ ต้องตรวจหาสินค้าล็อตนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนอย่างแน่นอน บอสครับ เราจะต้องทำอะไรหน่อยใช่หรือเปล่า?”
หลงเซียวเดินขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ลมทะเลนำชุดสูทสีดำของเขา พัดจนส่งเสียง ลมพัดเปิดชายของชุดสูท ทำเอาเงาร่างสูงโปร่งของ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าซายฝั่งอันไร้ขอบเขต แสดงถึงความยโสโอหัง ที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“แน่นอน เสิ่นเหลียวสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ผมก็ต้อง ปลอบใจเขาหน่อยเป็นธรรมดา หลังจากที่เรือบรรทุกสินค้าขนส่งออก ไปแล้ว ติดต่อเสิ่นเหลียว ให้เขาไปหาผมที่บริษัทMBK”
“ครับ!
ออกคำสั่งเสร็จ ท่านเซียวหมุนตัวออกไปจากท่าเรือ เข้าไปนั่งในรถ โรลส์รอยซ์ โทรออกไปที่หมายเลขหนึ่ง
มองเห็นว่าเป็นพี่ใหญ่ที่โทรเข้ามา หลงจื่อนั่งตัวตรงขึ้นโดยกฎ ความเฉื่อย “พี่ใหญ่ ผมอยู่ที่ห้องทำงาน มีเรื่องอะไรไหมครับ? ผม รายงานตัวได้ตลอดเวลา”
หลงเซียวมองดูนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือ “ดีมาก ประมาณหลังจากนี้อีก หนึ่งชั่วโมง มีคนๆนึ่งจะไปหาฉันที่ห้องทำงาน ฉันอยู่ข้างนอกกลับไป ไม่ได้ แกช่วยฉันต้อนรับสักหน่อย ใช่แล้ว เขาชื่อเสิ่นเหลียว” หลงจือกรองชื่อนี้ภายในสมอง เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาโดยฉับพลัน “ที่ พี่ใหญ่พูดก็คือเสิ่นเหลียวที่เมืองเจียงเฉิง? สามีของฉู่ซีหราน? น้อง เขยของ..พี่สะใภ้ใหญ่ผม?”
“ใช่”
“WTF! คราวนี้สนุกแน่! พี่วางใจเถอะ ผมจะต้องช่วยพี่ต้อนรับเขา ให้ดีอย่างแน่นอน!
“แล้วก็ โปรเจกต์นั้นที่แกช่วยฝ่ายการตลาดทำการตรวจสอบวิจัย
ให้เขาไป”
“เพราะอะไรครับ?! ”
หลงเซียวยิ้มขึ้นบางๆ ยิ้มอย่างมีเลศนัย”เพราะว่านอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครยอมทำการค้าขายที่ขาดทุน”
หลงจื่อเจียรนัยคำพูดของพี่ใหญ่อยู่ครูหนึ่ง เข้าใจแล้ว
“อั้ยยะ! คุณชายเงิน! แขกผู้มีเกียรติ เชิญนั่งครับ! เชิญนั่ง!
หลงจื่อเชิญเสิ่นเหลียวนั่งลงอย่างเกรงอกเกรงใจ รินน้ำชาให้กับเขา ด้วยตนเอง
เสิ่นเหลียวอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “หลงเซียวละ? ให้เขา มาพบผม?”
หลงจื่อนั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของเขา หัวเราะเบาๆสองที่ “คุณชายเสิ่น คุณเรียกพี่ใหญ่ของผมแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีมั้งครับ? จะพูดยังไง พี่ใหญ่ของผมก็คือพี่เขยของคุณ คุณควรจะเรียกพี่เขยสักคำถึงจะถูก หรือเปล่า?”
“หลงจือ ผมขอเตือนคุณว่าอย่ามาก่อกวนผม” ไม้เท้าที่อยู่ในมีอของ เสิ่นเหลียวกระทบลงบนพื้นอย่างแรง ส่งเสียงดังก้องออกมา
“คุณชายเส้นโมโหขนาดนี้ทำไมกันครับ? ที่ผมพูดน่ะเป็นความจริง ทุกประโยค? แต่ว่าคุณชายเส้นไม่เรียกก็ไม่เป็นไร พี่ใหญ่ของผมก็ไม่ อยู่พอดี เพียงแต่พี่ใหญ่ของผมบอกเอาไว้แล้วว่า ในเมื่อคุณคือน้อง เขยของเขา ก็คือญาติเช่นเดียวกัน”
เสิ่นเหลียวโมโหจนอุทานออกมาอย่างประชดประชันอีกครั้ง “หลง ชื่อ คุณพูดจาทางที่ดีที่สุดเกรงใจผมหน่อย! หากไม่มีธุระอะไร ผม ขอตัวไปก่อน! รอหลงเซียวกลับไปให้เขาไปหาผมด้วยตัวเอง! คุณ นับเป็นสิ่งของอะไรกัน!
หลงจื่อนั่งไขว่ห้าง ดื่มน้ำชาเข้าไปหนึ่งคำ “คุณชายเสิ่น ไม่ว่าจะเป็น พี่ใหญ่ของผมหรือว่าผม บนสนามธุรกิจ ที่สามารถหาเงินได้ก็คือลูกพี่ โปรเจกต์ที่ใช้ในการหาเงิน ก็คือเพื่อน คุณชายเสิ่นคงจะไม่มีความคิด เห็นคัดค้านต่อการหาเงินหรอกล่ะมั้งครับ?”
ดวงตาที่โหดเหี้ยมราวกับงูเห่าก็ไม่ปานของเหลียวหรี่ลงครึ่ง หนึ่ง ขาที่เพิ่งจะยืนขึ้นมาครึ่งหนึ่งลงไปอีกครั้ง “อ่อ? ธุรกิจ อะไร?”
หลงดึงเอาแบบร่างความร่วมมือในการทำโปรเจกต์ออกมาฉบับ นึงส่งให้กับเขา “อันนี้ เดิมทีพี่ใหญ่ของผมอยากจะลงทุนร่วมกับบริษัท อินเตอร์ ถึงอย่างไรการติดต่อคบค้าของตระกูลหลงกับตระกูลเกาก็ลึก ซึ้ง แต่ในเมื่อคุณชายเสิ่นคือคนกันเอง พี่ใหญ่ของผมตัดสินใจยกผล ประโยชน์ในการร่วมลงทุนกับคุณ”
เสิ่นเหลียวมองดูหลงจื้ออย่างไม่ค่อยที่จะเชื่อ พลิกดูแบบร่างความ ร่วมมือในการลงทุนอีกครั้ง สำหรับเสิ่นเหลียวที่เพิ่งจะเจ็บปวดจากการ สูญเสียสินค้าล็อตใหญ่ไปนั้น ความร่วมมือในการลงทุนที่มาส่งถึงหน้า ประตูบ้านแน่นอนว่ามีแรงดึงดูดเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ เขาพลิกไปพลิกมา ก็โยนแบบร่างนั้นลงไปบนโต๊ะ “เหลว ไหล! นี่ก็คือการซื้อขายที่ขาดทุน! เล่นลูกไม้กับกหรอ!
“คุณชายเสิ่นเข้าใจผิดแล้วครับ โปรเจกต์นี้ลงทุนระยะแรก ระยะ หลังเก็บคืนกลับมา คุณดูให้ชัดเจน การลงทุนและผลกำไร บริษัทMBKกับคุณแบ่งอย่างเท่าเทียมกัน คุณชดใช้เงิน พวกเราก็ ชดใช้เงินเช่นเดียวกัน นั่นมีความจำเป็นอะไรล่ะครับ?” เสิ่นเหลียวขมวดคิ้วขึ้น “การร่วมลงทุนแบบนี้ เหอะๆ หรือว่าหลง เซียวปัญญาอ่อนไปแล้ว?”
แม่ง! แกสิที่ปัญญาอ่อน! ทั้งครอบครัวของแกต่างก็ปัญญาอ่อน!
“วางสายเบ็ดให้ยาว ตกปลาตัวใหญ่! ในเมื่อคุณชายเสิ่นไม่ยินดี งั้นก็ช่างเถอะครับ หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง เกาจิงอานก็จะมาเซ็นชื่อ ขายเสิน โปรดให้อภัยที่ผมไม่สามารถส่งคุณได้ไกลกว่านี้” คุณ
หลงจือยื่นมือออกไปส่งแขก เสิ่นเหลียวกลับลังเลขึ้นมาแทน
หลังจากที่ลังเลไปหลายนาที เสิ่นเหลียวคิดว่า ด้วยหลงเซียวคนที่ ฉลาดแบบนี้ จะไม่ทำธุรกิจที่ขาดทุนอย่างแน่นอน อีกทั้งส่วนแบ่งครึ่ง ต่อครึ่ง ใครก็เอาเปรียบไม่ได้
“ได้”
เสิ่นเหลียวเซ็นชื่อของตนเองลงไป สัญญาหนึ่งชุดสองฉบับ
“ดีมาก! ถ้างั้นคุณชายเส้น หวังว่าความร่วมมือของเราจะผ่านไป
ด้วยดีนะครับ”
ส่งเสิ่นเหลียวกลับไปหลงจื่อมีความสุขเกลือกกลิ้งอยู่บนโซฟา! ไอ้ เจ้าเสิ่นเหลียว แกสิที่ปัญญาอ่อนไปแล้ว!
เจ้านี่หรือว่าดูรายละเอียดที่อยู่ในสัญญาไม่ออกหรือยังไง? สมอง
แม่งมีรู!
“พี่ใหญ่ เสิ่นเหลียวเซ็นชื่อแล้วครับ!
“ดี”
“พี่ใหญ่ พี่รู้ได้ยังไงว่าเสิ่นเหลียวจะต้องเซ็นชื่ออย่างแน่นอน?” “เพราะว่าเขาคือเสิ่นเหลียว เห็นเงินเป็นพระเจ้า อีกทั้งความอยาก อาหารมีมาก”
หลงจือดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว โอเค! ธุระผมทำสำเร็จแล้ว พี่ใหญ่พี่ อยู่ที่ไหน? ผมกลับไปที่ห้องทำงานของผมก่อนได้หรือเปล่า? ที่นี่ของ พี่อึดอัดจนรู้สึกกระสับกระส่ายไปหมด แรงกดดันมากจนเกินไป” “ฉันอยู่ที่หน้าประตู
“หา?”
หลงจื่อเพิ่งจะอ้าปากออกกว้าง ประตูห้องทำงานก็ถูกหลงเซียวผลัก เข้ามาจากด้านนอก หลงเซียววางโทรศัพท์มือถือลง “แกกลับไปได้
แล้ว”
หลงจือตกตะลึงไปชั่วขณะ “พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
“เมื่อครู่นี้ ตอนที่เสิ่นเหลียวออกไป”
“พวกพี่เจอกันแล้ว?”
“ใช่”
ปากของหลงจื้ออ้าออก “จากนั้นล่ะ? ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย?” “มี เขาเสนอข้อคิดเห็นกับฉันว่า แกทำธุรกิจไม่เป็น กำลังช่วยฉัน
ขาดทุน”
หลงจื่อ: “แม่งไอ้เสิ่นเหลียว! ให้มันขาดทุนตายไปเลย! ให้มัน ขาดทุนหมดเกลี้ยงไปเลย!