ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 271
ตอนที่ 271 ฆาตกรคดีลักพาตัวในปีนั้น
“โอ้ ไม่เลวนี่ นึกไม่ถึงเลยว่าเกาฉิ่งอานประธานคณะกรรมการ บริหารของบริษัทอีนเคอจะบริจาคให้โรงพยาบาลของพวกเราตั้งสิบ ล้าน มีน้ำใจมาก สมแล้วที่เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่
“สิบล้านยังเรียกว่ามีน้ำใจ? เจ้านายระดับเขาน่ะควรจะให้สักร้อย ล้านถึงจะสมฐานะของตัวเอง แคสิบล้านเขายังมีหน้ามาพูด”
“จะว่าไปอีก โรงพยาบาลของพวกเราต้องการเงินบริจาคอย่างนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่? ถ้าประธานหลงของพวกเราออกมือนะ อย่าว่าแต่ร้อย ล้านเลย หนึ่งหมื่นล้านแค่สะบัดมือสั่งก็ได้แล้ว!
“โรงพยาบาลของพวกเราขึ้นชื่อเรื่องความร่ำรวยมาตลอด เกาจิ่ง อานนี่มาประสมโรงอะไรด้วย? เรียกร้องความสนใจ?”
“ไม่ว่าจะพูดยังไง นี่ก็เป็นเรื่องดี เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ล้วนทำเลวเพื่อให้ตัว เองได้ดีไม่ใช่รึไง? อย่างน้อยเกาจิ่งอานก็ยังถือว่ามีความรับผิดชอบ ต่อสังคมอยู่บ้าง”
“นี่ก็ถูก”
ทางเดินโรงพยาบาลมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลอยมาไม่หยุด ทุกคน ล้วนพากันคุยกันเรื่องที่เกาจึงอานเอาเงินให้หวาเซีย มีทั้งคนชื่นชม ทั้งคนตีค่าต่ำ แล้วก็มีคนค่อนข้างยุติธรรม
ลั่วหานนั่งอยู่ในห้องทำงาน ในมือถือรายงานผู้ป่วยฉบับหนึ่ง ตอน ได้ยินข่าวนี้ ก็หลุดหัวเราะออกมา
หลงเซียวไปเพิ่มความกดดันให้เกาจิ่งอานไปขนาดไหนกันแน่ เขา ถึงเอาใจหลงเซียวทุกวิถีทางขนาดนี้ เป็นเรื่องเข้าใจยากจริงๆ เลย แต่พอคิดถึงวิธีที่หลงเซียวจัดการกับคนมาตลอด ในใจสั่วหานก็
รู้สึกวิตกกังวลแทนเกาจิ้งอานกับเกาหยิ่งคือ
“ผู้ช่วยหลิน คุณเข้ามาหน่อยสิ”
หลิน เหวินที่ถูกเรียกชื่อก้าวเดินเข้าห้องทำงานมาอย่างไว “มีเรื่อง อะไรเหรอหมอ”
ลั่วหานเงยหน้าไปมองหลินซีเหวินที่ทำหน้ายิ้ม มองเธออย่าง ละเอียดเล็กน้อยแล้วเอ่ยถาม “ดูอารมณ์ดีนะ ฝ่ายการเงินขึ้นเงินเดือน ให้เหรอ?”
หลินซีเหวินยักไหล่ “เปล่านี่ ฝ่ายการเงินไม่ให้ฉันควักเงินออกมา แทนก็ดีแค่ไหนแล้ว จะเพิ่มเงินเดือน? ฉันคงต้องหัวเราะจนตื่นจากฝัน” “หือ? งั้นผู้ช่วยหลินอารมณ์ดีขนาดนี้ เพราะมีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้น
หรือเปล่า?”
หลินซีเหวินเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วซุบซิบ พูดกดเสียงต่ำ ยิ้มตาหยีกล่าว “คุณไม่ได้ยินเหรอ? อาทิตย์หน้าโรงพยาบาลพวกเรา จะมีกิจกรรมประชุมสาธารณประโยชน์ ฮิฮิฮิ รับสมัครตามความสมัคร ใจ แล้วฉันก็ได้ยินมาว่าหมอถังจะร่วมกิจกรรมด้วย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เสียงหัวเราะอย่างกับตัวร้ายของหลินซีเหวินดังต่อเนื่องหลายสิบวิก ว่าจะเงียบลง ลั่วหานขมวดคิ้วมองเธอตั้งแต่ต้น มองจนหลินซีเหวินอุด ปากไอแค่กแค่ก “นั่นน่ะ ฉันชอบหมอถัง คุณเข้าใจดี เพราะงั้นครั้งนี้ ฉันจะต้องพยายามคว้าโอกาส! แล้วก็ ครั้งที่แล้วฉันซื้อกาแฟให้หมอ ถังตามที่คุณแนะนํา เขาก็บอกว่ารสชาติดีมากเลยด้วย”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “คุณซื้อที่โรงพยาบาลเหรอ?”
รสชาติดีมาก? รสนิยมกาแฟของถังจิ้นเหยียนสูงมากเลยนี่ พูดได้ว่า ปกติ กาแฟทั่วไปน่ะไม่อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด ไม่คิดเลยว่าจะพูด มากออกมา
เพราะเกรงใจหลินซีเหวิน? หรือว่ามีความรู้สึกกับหลินซีเหวินอยู่
เล็กๆ?
ตอนนี้ไม่อยากจะรู้จริงๆ
“ในเมื่อเขาคิดว่ารสชาติดีมาก งั้นหลังจากนี้คุณก็ซื้อให้เขาบ่อยๆ ก็ได้ ส่วนกิจกรรมอาทิตย์หน้า ถ้าคุณจะเข้าร่วมด้วย ทางฉันก็จะหยุด งานให้ คุณก็ไปเตรียมตัวดีๆ
“จริงนะ! หมอฉู่ฉันรักคุณจริงๆ เลยฉันรับรองว่าจะทำให้ดี! อ้อ! ใช่ แล้ว คุณให้ฉันเข้ามาเพราะเรื่องอะไรเหรอ?” หลินซีเหวินมัวแต่พูด เรื่องของตัวเอง ลืมงานของหัวหน้าไปซะสนิท
ลั่วหานเอารายงานผู้ป่วยส่งให้เธอ ส่ายหัวอย่างจนปัญญาเอ่ย “นี้ เป็นข้อมูลของผู้ป่วยเตียงเบอร์สอง คุณเอาไปศึกษาดีๆ อาการป่วย กรณีพิเศษแบบนี้ไม่ได้เจอบ่อยๆ ช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ไม่น้อย
“เยี่ยมเลย! ฉันตามคนไม่ผิดจริงๆ” สองมือของหลินซีเหวินกอด รายงานไว้ แต่ก็ไม่ได้เดินออกไปทันที เม้มริมฝีปาก ก้มหน้ามองลั่วหา นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ “ฉันขอถามหน่อยได้ไหม หมอถังมีคนที่ชอบแล้ว หรือยัง หรือว่า มีใครชอบหมอถังอยู่หรือเปล่า?”
“มี”
มีด้วยเหรอ?!
หลินซีเหวินหน้าบึ้ง อาการระริกระรี้เมื่อครู่หายไปครึ่งหนึ่ง “ที่แท้ก็มี คนที่ชอบแล้ว…….เฮ้อ ฉันนึกว่าเทพบุตรสันโดษไม่มีผู้หญิงที่ถูกใจ”
ลั่วหานยิ้มส่ายหัว “เขาไม่มีคนที่ชอบ แต่มีคนที่ชอบเขา คุณก็รู้จัก ผู้อำนวยการเกาของภาควิชาอายุรศาสตร์หัวใจ ถ้าคุณอยากจีบหมอ ถัง เธอก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของคุณ”
หลินซีเหวินหรี่ตา “เกาหยิ่งจือ? โอเคฉันรู้แล้ว! ”
มองหลินซีเหวินเดินออกจากห้องทํางานไป ลั่วหานเล่นปากกาเซ็น เอกสารในมือของเขา มุมปากยกสูง
เกาหยิ่งจื้อ ดูท่าว่า จะรับมือกับคุณก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง
ถ้าเกิดหลินซีเหวินหันหน้ากลับมามอง จะต้องพบแน่ๆ ว่า ตัวเอง กลายเป็นเครื่องมือของหัวหน้าไปโดยไม่รู้ตัว ไม่แน่ก็อาจจะกระอัก เลือดออกมา แต่ว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือก็ไม่มีอะไรเสียหาย มิหนำซ้ำตัว เองก็ยังอยากยิงศัตรูทั้ง
ขณะนั้นโทรศัพท์ของลั่วหานก็ดังขึ้น ตอนที่ สว่างวาบบนหน้าจอ อารมณ์ของลั่วหานก็สดใสตาม ไปด้วย ยัยเด็กนี่น้า ไม่เจอกันนานจริงๆ
ช่วงนี้หนีหายไปที่ไหนอีกล่ะ?”
ซวง ปากหลายครั้ง “ลั่วลั่ว คุณทำให้ฉันเซอร์ไพรส์เก่งจริงๆ ไอ้ยา ฉันแทบจะอดไม่ได้บินจากฝรั่งเศสกลับไปกอดคุณสักครึ่ง ชั่วโมง สารภาพมาตรงๆ คุณตั้งใจเลือกปล่อยข่าวใหญ่ตอนที่ฉันไม่อยู่ ในประเทศหรือเปล่า? อีกทั้งกลับไม่ติดต่อฉันก่อนเลย! ชักเกินไป จริงๆ! งอนแล้วนะ ไม่ดีใจแล้วนะ! ฉันเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อกี้ วันนี้คุณ ต้องชดเชยให้ฉัน!”
จอมราชาลู่ซวงตะโกนดังจนฟ้าถล่มผ่านโทรศัพท์ถี่ยิบ เสียง เปรี๊ยะก็คือเสียงที่ระบายออกมา
“คุณถามฉันทีเดียวเยอะขนาดนี้ จะให้ฉันตอบคุณยังไง? ตอนเย็น เจอกันค่อยคุย อยากกินอะไรฉันเลี้ยงเอง”
ลู่ซวง ลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากสนามบิน มองท้องฟ้า ประเทศบ้านเกิดที่จากมานาน สูดหายใจเข้าลึก ฉันไปฝึกที่ฝรั่งเศส มานานขนาดนี้ อึดอัดจนขนขึ้นหมดแล้ว คืนนี้พวกเราไปดื่มกันสักแก้ว เถอะ! ฉันเลือกที่เอง คุณจ่ายนะ!”
“ไอ้ยาที่รัก ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณเยอะเลย! คืนนี้สองทุ่ม ไมเจอ ก็ไม่จาก! คืนนี้ฉันจะไต่สวนคุณ! หึ!
ลั่วหานได้ยินเสียงของลู่ซวงซวง ก็เหมือนจะถูกดึงเข้าไปในอดีตอัน แสนยาวนานด้วยความทรงจำ คิดถึงเรื่องต่างๆ ในอดีต หัวคิ้วก็คลาย ออก ตอบตรงไปตรงมา “ได้! ตามที่ต้องการเลย
ทาง วางสายของลู่ซวงซวง ลั่วหานเหลือบมองเวลา จากนั้นก็ส่ง ข้อความให้
ผู้อ่านวยการ ข้างต้นคือสรุปการงานของไตรมาสนี้ ด้านล่างนี้ คือแผนการทํางานสําหรับไตรมาสถัดไป แล้วก็หลังจากเปิดตัว โครงการในสหรัฐฯ รายละเอียดแผนบางอย่างจำเป็นต้องให้คุณตรวจ สอบ”
หลงเซียวพยักหน้า “พูดมา”
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ฝ่ายการขาย ฝ่ายการเงินสามแผนกนี้นั่ง รายงานอย่างสงบเสงี่ยม ทุกคนต่างกุมหัวใจ กลัวว่าถ้าพูดอย่างไม่ ระวังไปจะทำให้หัวหน้าใหญ่ฉุนเฉียว
ตารางความคืบหน้าต่างๆ งบประมาณและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ฉายอยู่ บนหน้าจออย่างต่อเนื่อง แม้แต่หลงจื่อที่ปกติมักจะหลับตอบประชุม แปดในสิบครั้ง ก็ต้องมีสมาธิในการวิเคราะห์
แม่ง นี่โคตรมืออาชีพเลย แค่ไม่ระวังนิดหน่อยก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไป ติดอยู่ตรงไหน
ขณะนั้นโทรศัพท์ของหลงเซียวก็สั่นขึ้น
หยิบโทรศัพท์ มุมปากหลงเซียวก็เอียงขึ้นเล็กน้อย “ฉันไปคุณ โทรศัพท์ก่อน”
ทุกคนมองหลงเซียว ยังไม่ได้ตอบรับอะไร ท่านเซียวก็หยิบ โทรศัพท์ออกไปจากห้องประชุมแล้ว หลงจื่อยกกาแฟดื่มไปหนึ่งอีก ประชุมอยู่พี่ใหญ่ก็รับโทรศัพท์การ
คัน หายากมาก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าโทรหาใคร
เฮ้อ มีภรรยา ดีจังเลย!
หลงเซียวโทรกลับไปหาลั่วหานทันที พอรับสายก็ถามขึ้น “คืนนี้ โมง? ที่ไหน? กับใคร?”
ลั่วหานไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เป็นสายจากหลงเซียว ถามเธอ ละเอียดเกินไปไหมเนี่ย? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเลยหรือไง?
นึกไม่ถึงเลยว่าจะตั้งใจโทรมาเค้นถามรายละเอียด?
“ผับแถวถนนจันทร์ กับลูซวงซวง เธอเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส น่าจะ ไม่มีคนอื่นแล้ว” ค่าตอบแบบนี้ ละเอียดพอแล้วใช่ไหม?
หลงเซียวขมวดคิ้ว ลู่ซวงซวง? ดื่มกับเธอแค่สองคน? ตรงนี้เขาไม่ เชื่อเด็ดขาด
“คุณเรียกรถไป ดื่มเครื่องดื่ม ดื่มเหล้าน้อยๆ หน่อย ก่อนจะดื่มเหล้า ก็กินอะไรรองก่อนด้วย ในกระเป๋ามีนมขวดหนึ่ง”
ลั่วหานมองโทรศัพท์ นี่คือหลงเซียวจริงเหรอ?!
“ได้ แต่ว่า เวลานี้ ทำไมคุณถึงมีเวลาออกมาคุยโทรศัพท์ได้? ไม่ได้ ประชุมอยู่เหรอ?”
เช้าวันจันทร์ มีการประชุมตามปกติ นี่เป็นข้อกำหนดที่จะไม่มีวัน
เปลี่ยน
“ประชุมสําคัญเท่าภรรยาด้วยเหรอ?” ยืนไขว้แขนไว้ด้านหลัง มอง ไปยังทัศนียภาพของเมืองนอกหน้าต่าง อารมณ์ของเขาราวกับ พระอาทิตย์เดือนมีนา
ได้คุยเรื่องต่างๆ กับภรรยาผ่านโทรศัพท์ ความสุขแบบนี้ เมื่อดื่มด่ กับมันทุกครั้งล้วนรู้สึกเหมือนฟ้าประทานโอกาสอันดีให้
“ขอบคุณความเมตตากรุณาและความสนับสนุนของคุณหลงมาก งั้นฉันไปทํางานกอน”
“อั้ม”
ผับถนนจันทร์ ธุรกิจที่นี่ได้รับความนิยมมากในช่วงกลางคืน ตอนที่ ลั่วหานไปถึงด้านในก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเจี๊ยวจ๊าวต่างๆ แล้ว
ไฟนีออนกะพริบระยิบระยับ แก้วเหล้าไหวไปมา ในเมืองหลวงที่แสน สรุ่ยสุร่าย ที่แบบนี้ตอนกลางคืนเป็นของกลุ่มคนที่ต้องการสนุกสนาน อย่างสุดเหวี่ยง
ลั่วหานสวมเสื้อเชิ้ตเรียบๆ ดูดีกับกางเกงขายาว ท่าทางงดงาม ละเอียดอ่อน สวยอย่างไม่ติดประเพณีนิยม ถึงจะไม่แต่งหน้าทาปากก็ สวยจนเอาชนะผู้หญิงพราวเสน่ห์ทั้งหลายได้ “ลั่วลั่ว! ทางนี้ทางนี้! เร็วส!”
ลั่วหานรั้งกระเป๋าที่ไหลไปอยู่ตรงข้อพับขึ้น เดินไปนั่งข้างๆ ลู่ซวงซ วง หายากนะเนี่ย บวงซวงคนสวยของเรา มาดื่มวันนี้ไม่นึกเลยว่าจะ มาคนเดียว เพื่อนเสเพลของคุณล่ะ?”
พูดอะไรน่ะ เดตของเราสองคนทําไมต้องเอาก้างขวางคอมามาก ขนาดนั้นด้วยเล่า! จะว่าไป คุณเทพธิดาเป็นคนจ่าย ฉันก็ต้องคิดอย่าง ละเอียดรอบคอบแทนคุณ
“โอ้โห ขอบเขตความคิดพัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยนี่ อยากดื่มอะไร เลือกได้เลย”
ลู่ซวงซวงหัวเราะเหอะๆๆ เธอขอบเขตความคิดพัฒนาขึ้นที่ไหนกัน โดนคนขู่มาต่างหาก หลงเซียวโทรมาหาเธอขนาดนี้แล้ว เธอยังจะกล้า ก่อเรื่องอะไรอีก?
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ!” ลู่ซวงซวงเรียกบริกร เลือกเหล้าที่ดีที่แพง ที่สุดมาโดยเฉพาะ “อย่าเจ็บปวดใจล่ะแม่คนรวย”
“ไม่แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้สำหรับฉันเป็นแค่ฝนปรอยๆ โอเคไหม? วันนี้บัตรของพี่สาวเอาไปรูดเล่นได้เลย นั่น นับเป็นการชดเชยให้” ลั่ วหานหยิบบัตรทองยัดใส่คอเสื้อของลูซวงซวง ยักคิ้วหลิ่วตาให้เธอ
“อือฮือฮือ นางฟ้า! ถ้าคุณเป็นผู้ชายก็ดีสิ! ฉันจะแต่งงานกับคุณแน่!”
น้ำเมาวางอยู่บนโต๊ะ ลู่ซวงซวงเทไปครึ่งแก้ว “มา! เพื่อฉู่คนงามที่ กลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง ชนแก้ว! ”
“ชนแก้ว! เพื่อให้ซวงซวงคนสวยได้เจอผู้ชายดีๆ เร็วๆ
“เยี่ยมเลยเยี่ยมเลย ฉันชอบอันนี้!”
แก้วเหล้าสัมผัสกับริมฝีปาก สายตากลับถูกตรึงไว้ที่เงาร่างสีแดง สวยงามตรงหน้าประตูทางเข้า
เป็นเธอ! “ป๋าบ” ลั่วหานวางแก้วเหล้ากลับไปที่โต๊ะ นัยน์ตาสีดำล้ำลึกราวสระ เหมันต์มองไปที่เงาร่างเซ็กซี่ร่างนั้นที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ นิ้วกรีดม้วน เข้าทีละนิ้วทีละนิ้ว สายตาสะท้อนแววตกตะลึงออกมา
ลู่ขวงซวงงงงัน ” วลั่ว คุณเป็นอะไรไป? ทําสีหน้าน่าตกใจเชียว”
ลั่วหารเอ่ยฮมฮัมเสียงเย็น “เจอคนคุ้นเคย ช่างบังเอิญมากจริงๆ! ลู่ซวง วงมองตามสายตาเธอไป ก็เห็นเพียงแต่เฉียวซีเดินอรชร อ้อนแอ้นบนรองเท้าส้นสูงไปที่บาร์ ข้างๆ ยังตามมาด้วยผู้ชายหน้าตา นับว่าใช้ได้อีกหนึ่งคน
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้ คุ้นๆ นิดหน่อย เดี๋ยวนะ ฉันนึกออกแล้ว! เฉียวซี! เธอคือเฉียวซีลั่วลั่ว เธอยังจำคนที่ลักพาตัวฉันไปเมื่อปีนั้นได้ไหม? แถมยังคุกคามเธอคนนั้นนะ! ก็คือเธอ! เฉียวซี! ไม่นึกเลยว่าจะกล้า กลับมา! ไม่นึกเลยว่าจะกลับมาจนได้! ”
ริมฝีปากของลั่วหานยกขึ้น รอยยิ้มเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ “ฉันรู้จักเธอ จำ ได้อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ เหอะ! นึกว่าไปหลบอยู่มุมไหนซักมุมไม่กล้า โผล่หน้าออกมา ไม่นึกเลยจริงๆ ว่า..
เฉียวซี ปีนั้นลักพาตัวเธอกับซวงซวง เกือบจะฆ่าเธออยู่แล้ว ผู้หญิง
คนนี้ ไม่นึกเลยว่ายังจะปรากฏตัวออกมาอีก!
ตอนนั้นเธอนึกว่าชีวิตตัวเองจะอยู่ได้ไม่นานเสียแล้ว เลยปล่อย เฉียวซีไป แต่ในเมื่อแม้แต่ฟ้ายังคิดว่าไม่เหมาะสม แล้วเธอยังจะลังเล อะไรล่ะ?
“พวกเราแจ้งความกัน! ไปจับเธอ! เฉียวซีผู้หญิงสารเลว! เธอควรอยู่ ในคุกจนตาย!”
นิ้วเรียวของลั่วหานหมุนแหวนในมือ “เธอต้องติดคุกแน่นอน แต่ก่อน จะติดคุก คุณอยากดูอะไรสนุกๆ ไหม?”
“อะไรสนุกๆ? แม่เทพธิดา เธอคิดจะทำยังไง?”