ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 298
ตอนที่ 298 คุณกรุณาช่วยผมด้วย
หลินซีเหวินเข้าใกล้โต๊ะทำงานของลั่ วหาน มือสองข้างใส่ในกระเป๋าเสื้อคลุมสีขาว ลิ้นเลียริมฝีปากทําท่าครุ่นคิด จากนั้นก็พูดว่า “หมอจู่ ช่วงนี้โรงพยาบาลเรามีงานนอกสถาน ที่ไหม? ครั้งก่อนฉันไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันกับ หมอถัง ครั้งต่อไป ให้ฉันอยู่กลุ่มเดียวกันกับ หมอถังได้ไหม?”
นิ้วเรียวยาวของลั่วหานจิ้มที่หน้าของ หลินซีเหวินที่ยื่นมา “งานนอนสถานที่ช่วงนี้ยัง ไม่มี ตอนนี้ในโรงพยาบาลมีเรื่องของหัวหน้า เกา เรื่องยังไม่สงบเลย แต่ว่าถ้าเธอชอบหมอ ถังนะ ฉันขอเสนอให้เธอบอกเขาโดยตรง
หลินซีเหวินเงยหน้าขึ้น อ้าปากแล้วอ้า ปากอีก แต่ก็ก้มหน้าลงอย่างหมดแรง “ฉันก็ ไม่กล้าไง?” หมอถังดูอ่อนโยนใจดี คนก็ดีด้วย แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ แต่ถ้าไปพูดแล้วอีกหน่อยเป็น ไม่ได้แม้แต่เพื่อนจะทำยังไง ฉันไม่อยากให้ หมอถังหลบหน้าฉันในโรงพยาบาล
ล้วหานคิดถึงเรื่องราวที่พวกเขาผ่านมา ด้วยกัน ก็อมยิ้ม “งั้นก็รอไปก่อน แต่ว่าผู้ช่วย หลิน งานในมือเสร็จหมดแล้วเหรอ? ฉันให้ เธอเตรียมเอกสารการผ่าตัดของผู้ป่วยเดียง ที่22 เตรียมเสร็จแล้วรึยัง? เคสนี้จะผ่าตัดวัน มะรืน หมอผ่าตัดคือหมอถัง……
เธอบอกว่าหมอถังผ่าเหรอ? ไม่ใช่ เธอ?”
ตอบกลับมาด้วยสายตาชื่นมื่นของหลิน ซีเหวิน ลั่วหานทำหน้าบึ้ง “ฟังน้ำเสียงของผู้ ช่วยหลินแล้ว อยากให้เป็นใคร?”
“ไอดอล เธออย่าพูดกับฉันแบบนี้ซิ ได้ ค่ะ ฉันจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้ ขอบคุณค่ะหมอ
หลินซีเหวินพูดขอบคุณเสร็จก็หันหลัง เดินไปเปิดประตู ประตูเพิ่งเปิดออก ก็เห็นเงา ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงประตู ร่างสูงใหญ่ดู แข็งแกร่งทำให้หลินซีเหวินต้องเงยหน้าขึ้น มอง
ห่างกันเพียงนิดเดียว สายตาเธอเมื่อ เห็นใบหน้าคมและเย็นชาของหลงเซียว ทำให้เธอปากสั่นเล็กน้อย “คุณหลง คุณ……… แล้ว”
หลงเขียวพยักหน้า เบี่ยงตัวออกจาก หลินซีเหวินแล้วเดินเข้าไป
หลินซีเหวินเอามือวางกลางอกแล้วเดิน ออกไปจากออฟฟิศ ปิดประตูแล้วเธอถึงกล้า หายใจออกที่กลั้นไว้เมื่อครู ตกใจจนเกือบจะ เป็นลม
สายตานั้นมาเร็วเกินไป เธอไม่ทันตั้งตัว พอมองไปแล้วถึงกับเข่าอ่อน
สวรรค์ฟ้าดิน หลงเชียวไม่ใช่คนธรรมดา ที่ใครก็กล้าไปท้าทาย
“คุณมาได้ไงคะ? ตอนนี้มันเวลา ทํางาน?” ลั่วหานยกแขนที่มีนาฬิกาให้เขาดู
เวลา หลงเซียวนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเธอ “มา หาหมอ”
ล้วหานขมวดคิ้ว หน้าขาวนวลเต็มไป ด้วยความสงสัย จับมือเขามาจับชีพจร ไม่ สบายตรงไหน? ฉันขอดูหน่อย”
หลงเขียวก็ถูกท่าทางของเธออ้งไป แน่นอนเธอคือหมอฉี่ที่รับผู้ป่วยฉุกเฉินมาแล้ว นับไม่ถ้วน สําหรับผู้ป่วยแล้วเธอพิถีพิถัน มือ โดนเธอกดไว้บนโต๊ะ เธอใช้สองนิ้วจับชีพจร ให้เขา “ทําไมผมไม่รู้มาก่อนว่าคุณจับชีพจร เป็น? ผมจําได้ว่าคุณเรียนแพทย์แผนปัจจุบัน
ลั่วหานเห็นสายตาเขาแล้ว ก็เข้าใจทันที ผลักมือเขาออก “เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่น กัน? มีที่ไหนที่แข่งให้ตัวเองป่วย? คุณหลง โง่ใชไหม? คุณ ”
หลงเขียวนั่งตัวตรง “ผมป่วยจริง ป่วย โรคกังวล โรงพยาบาลหวาเซี่ยมีหมอทำเรื่อง อขายอวัยวะผิดกฎหมาย ผมเป็นผู้บังคับ บัญชากินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็เลยมาตรวจดู ล้วหานทําสีหน้าสงสัย “คุณหลงแสดง ละครเก่ง คําพูดพวกนี้คนอื่นเชื่อ ฉันไม่เชื่อ เกาหยิ่งจือมีจุดจบแบบนี้ ไม่ต้องคิดฉันก็รู้ว่า ใครทํา
จากการสนทนา การตอบสนองของลั่ วหานปกติดี ดูแล้วไม่มีผลกระทบอะไรแบบนี้ หลงเซียวก็วางใจแล้ว
“ช่วงนี้เกาหยิ่งจือจะไม่มาปรากฏตัวให้ คุณเห็น จากนี้ไปคุณทำงานที่โรงพยาบาลผม ก็วางใจแล้ว”
“คุณมาที่นี่ ก็เพราะจะพูดเรื่องนี้? พูดแค่ นี้ คุณโทรมาบอกฉันก็พอแล้ว ยุ่งขนาดนี้ ก็ไม่ ต้องมาด้วยตัวเองแล้ว
หลงเซียวดูเวลา ห่างจากเวลาประชุมอีก สามสิบนาที ลุกขึ้นพูด “เมียตัวเอง มาดูด้วยตัว เองถึงจะวางใจ ผมกลับบริษัทก่อน มีเรื่อง อะไรก็รีบโทรหาผมทันที
ล้วหานลุกขึ้นไปส่งเขา “เมื่อก่อนตอน ฉันอยู่โรงพยาบาลกลางถูกรังแกกลั่นแกล้งก็ ไม่เห็นเป็นไร ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะฉะนั้นคุณวางใจได้ฉันไม่เป็นไรหรอก
หลงเชียวยื่นมือไปดึงเธอมากอดเบาๆ ก้มลงไปจูบที่ปากของเธอ จูบที่อ่อนโยนและ เบา จากนั้นก็กอดเธอไว้กลางอก แล้วก้มลง จูบหัวเธอ
จากนั้น เขาก็กอดลั่วหานไว้แน่น สูด หายใจเข้าลึกๆ “เมื่อก่อนผมไม่ดีเอง ฉะนั้น ตอนนี้ผมไม่อยากให้คุณเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
สําหรับความรักความห่วงใยจากเขา เธอ ก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชายคนนี้รักและทะนุถนอม เธอเกินไป จนเหมือนเธอก็เด็กเล็กไปแล้ว “ค่ะ รีบกลับไปเถอะ อีกหน่อยโทรศัพท์ก็พอ ไม่ ต้องมาเองหรอก
เขาปล่อยเธอออก มองตาเธอแน่นิ่ง “โทรศัพท์กอดคุณได้ไหม? จูบคุณได้ไหม?” ลั่วหานอึ้งไป แล้วก็เปิดประตูผลักเขา ออกไป “รีบไปเถอะค่ะ เร็ว”
ร่างสูงของหลงเซียวเดินออกไปหน้า ลิฟต์ พยาบาลทั้งหลายมองเขาแล้วซุบซิบคุย กัน ท่าทางพวกนี้ลั่วหานมองอยู่ในสายตา หมด
ผู้ชายอย่างหลงเซียวเดินถึงไหนก็ดึงดูด สายตา ทําให้มีความกดดันไม่น้อย
เมื่อส่งหลงเซียวกลับ มือถือลั่วหานก็ดัง ขึ้น เบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก รับสายขึ้นมา ด้วยความสงสัย “สวัสดีค่ะ ใครพูดคะ?”
ในสายนั้นเสียงถอนหายใจ ผ่านไป หลายวินาทีถึงพูด “คุณจู่ มีเวลาไหมครับ? ผม อยากนัดเจอกับคุณ?
เสียงคุ้นหู แต่เบอร์โทรเธอไม่รู้จัก เธอถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “คุณเกา?”
เกา งอานนิ้วมือกดคิ้ว ใบหน้าแดงก่ำ ด้วยความโกรธ พยายามควบคุมอารมณ์ แต่ก็ ควบคุมความโกรธในใจไม่ได้ “ใช่ ผมเอง กลัว ว่าคุณจะไม่รับโทรศัพท์ผม ก็เลยเปลี่ยนเบอร์ โทรมาหาคุณ ผมอยู่หน้าโรงพยาบาล ออกมา ดื่มกาแฟกันครับ?”
เกาจึงอานโทรหาเธอ ในใจลั่วหานก็พอ เดาออก “ค่ะ”
“ผมรอคุณ”
วางสายแล้ว ลั่วหานคูเวลานักของคนไข้ ตอนนี้มีเวลาพอดี จึงถอดเสื้อคลุมแล้วเปลี่ยน เสื้อออกจากโรงพยาบาลไปร้านกาแฟตรง ข้ามโรงพยาบาล
เมื่อลั่วหานถึงเกาจึ่งอานได้นั่งอยู่ในร้าน แล้ว ในร้านกาแฟเงียบสงบมีแขกเพียงไม่กี่ คน เกาจึงอานนั่งอยู่ที่นั่งด้านในที่ค่อนข้าง เงียบ
“ขอโทษค่ะ ฉันมาช้า” ลั่วหานทักทาย เขาอย่างเกรงใจ คิดถึงพี่สาวเขาโดนจับเข้า คุก แน่นอนอารมณ์ของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก เกาจึงอานสีหน้าอ่อนเพลีย ตาเรียวยาว ก็แลดูอ่อนล้า แต่ก็ยิ้มทักลั่วหานอย่างมี มารยาท ไม่เป็นไร ผมก็เพิ่งถึงเหมือนกัน ผม สั่งบลูเมาน์เทนให้คุณ ผมจำได้ว่าคุณชอบดื่ม
“ขอบคุณค่ะ”
พอพูดจบ จากนั้นทั้งสองก็เงียบกันไป
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ยิ่งอยู่ ยิ่งอึดอัด ลั่วหานคนกาแฟไปเรื่อยๆ เสียงดัง จากซ้อนเคาะแก้วกาแฟ
และแล้ว เกาจิ่งอานก็อัดอั้นไม่ไหว พูด ขึ้นด้วยความเขินอาย “ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมจะ ขอร้องอาจจะเกินไปหน่อย แต่ผมหวังว่าคุณ จะฟังผมให้จบ”
ล้วหานเงยหน้ามองเขา สายตาคู่นั้นดูใจ เย็นและเฉยชา “ถ้าหากคุณเการู้ว่าสิ่งที่จะขอ มันเกินไป ทำไมต้องพูดคะ?”
เกาจึงอานโดนคำพูดของลั่วหานทำให้ พูดอะไรไม่ออก ทําใจอยู่สักพักจึงพูดต่อ “ถึง แม้จะไม่ใช่เรื่องดีอะไร แต่ผมก็อัดอั้นไม่ไหว ผมมาหาคุณเพราะพี่สาวผม ผมหวังว่าคุณจะ ช่วยพี่สาวผมได้”
แน่นอน วัตถุประสงค์ที่เกาจึงอานมาก็ เป็นอย่างที่คิด
ลั่วหานจิบกาแฟไปคำหนึ่ง เม้มปากแล้ว พูด “คำพูดของคุณเกาทำฉันงงไปหมดแล้ว พี่ สาวคุณใช้หน้าที่การงานของตัวเองทำการ ขายอวัยวะอย่างผิดกฎหมายในโรงพยาบาล ทำการค้าขายกับตลาดมืด โทษหนักแบบนี้ ฉัน จะช่วยเธอได้ยังไง?
เกาจิ่งอานถอนหายใจ “หมอ คนสวย คุณก็อย่าแกล้งโง่เลย พี่สาวฉันทำเรื่องนี้ เปล่าคุณจะไม่รู้เลยเหรอ?”
“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ฉันไม่รู้”
” เกา งอ่านพูดไม่ออก “ได้ ผม จะคิดว่าคุณไม่รู้ละกัน ตอนนี้ผมขอร้องให้คุณ ช่วยให้หลงเขียวไปคุยกับทางตำรวจหน่อย พี่ สาวผมเขาติดคุกไม่ได้ ถ้าเขาติดคุกสองสามปี นี่ออกมาไม่ได้แน่
ดวงตาที่สดใสของลั่วหานมีแววเย็นชา พูดขึ้นช้าๆ กับเกาจิ่งอาน “เรื่องที่คุณเกายังทำ ไม่ได้ กลัวแต่ว่าสามีของฉันก็ไม่มีปัญญา ดัง น้นคุณเกา คุณมาขอร้องฉันไม่มีประโยชน์ หรอกค่ะ”
เกาจิ้งอานเริ่มใจร้อน “ผมเพิ่งกลับมา จากโรงพัก ทางโน้นเขาไม่ยอม แม้แต่หน้าพี่ สาวผมก็ไม่ได้เจอ คุณฉู่คนสวย ผมกับสามีคุณ เทียบกันได้ที่ไหน? ในเมืองหลวงเขาอยู่ระดับ ไหน ผมระดับไหน? ฉะนั้นผมอยากให้คุณช่วย พี่สาวผมหน่อย ไม่ว่าเธอจะเคยทำอะไรผิด ผมขอโทษแทนเธอ ขอร้องคุณปล่อยเธอไป เถอะ”
ได้ยินคำว่า “ปล่อยเธอไป” จี้จุดที่ทำให้ ล้วหานโมโห เธอวางแล้วกาแฟลง สายตา เย็นชามองไปที่เกาจิ่งอาน “คุณเกา อะไรคือ ให้ฉันปล่อยเธอไป? เมื่อก่อนพี่สาวคุณทำ เรื่องให้ฉันปวดใจไปก็ไม่น้อย แต่นี่มันคนละ เรื่อง”
เกาจึงอานกลัวถ้าทำให้ลั่วหานโกรธ เรื่องจะหนักกว่าเดิม รีบขอโทษ “ครับๆ เป็น ความผิดของผม ผมขอโทษ แต่คุณช่วยบอก หลงเซียวหน่อยได้ไหม ผมขอพบหน้าพี่สาว ผมสักครั้ง?”
“คุณเกาจะให้สามีฉันช่วย สามารถไปที่ บริษัทได้ มาหาฉันทำไมคะ?
ตอนนี้เธอกลายเป็นสื่อกลางที่คนอื่นจะ ขอความช่วยเหลือจากหลงเชียวไปแล้ว นี่มัน อะไรกันเนี่ย
“ผม….. ดต่อกับคุณหลงแล้ว เลขาเขา บอกว่าเขาไม่มีเวลา คุณ ทั้งคุณทั้งผมเรา ต่างรู้กันดี หลงเขียวเขาไม่อยากพบผม ผมก็ ทําอะไรไม่ได้”
“คนอย่างคุณเกายังทำอะไรไม่ได้เลย ฉันจะทำอะไรได้คะ?” “ฉันเชื่อว่ากฎหมายให้ความเป็นธรรม แน่นอน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอกลับไป ทํางานก่อนนะคะ ขอบคุณกาแฟของคุณ แล้ว ก็ ถ้าเจอพี่สาวคุณก็ฝากทักทายด้วยนะคะ”
ทิ้งคำพูดนี้ไว้ ลั่วหานก็เดินออกจากร้าน กาแฟ
ในร้านกาแฟที่เงียบสงบ เหลือเพียงเกา จึ่งอานคนเดียว เขาหลับตา กำหมัดชกลงไป บนโต๊ะดัง บัง”